1162. คนที่ทำร้ายผู้อื่นจะถูกกระทำเสียเอง
สำนักห้าพิษระดับหกถือว่าเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งท่ามกลางสำนักระดับหกด้วยกันเอง พวกเขาเทียบเคียงกับสำนักดอกไม้กระจ่าง ทั้งสองมีความขัดแย้งกันมากและต่อสู้กันบ่อย
โจวไฮ่เป็นศิษย์หลักของสำนักห้าพิษ ระดับบ่มเพาะไม่ได้สูงเท่าหญิงชราพิษเพราะเป็นขั้นชำระสวรรค์ระดับต้นเท่านั้น แต่เขาเป็นสมาชิกที่ทรงพลังอำนาจในสำนัก ทางสำนักจึงมุ่งความสนใจมาที่เขา
ตอนนี้สีหน้าท่าทางมืดมัว ดวงตาขวามีแสงสีฟ้าแม้จะดูน่ารักแต่มันมาจากกรรมวิธีการฝึกพิษของสำนัก
“สหายโจวมืดมนตลอดเวลา หากใครมาเห็นและไม่รู้จักสถานะเจ้าก็คงสงสัย” น้ำเสียงคล้ายอิสตรีดังออกมาจากเซียนชุดดำข้างๆเขา เซียนคนนี้เป็นบุรุษแต่ทว่าตบแต่งใบหน้าให้ดูเหมือนเสียงที่เปล่งออกมา
แววตาโจวไฮ่กะพริบเย็นเยียบพลางจ้องมองเซียนชุดดำ “จ้าวยู่ ข้าอดทนกับเจ้ามาตลอดเวลา หากเจ้าพูดถากถางข้าอีกอย่าหาว่าข้าอดทนไม่ไหว!”
“สำนักห้าพิษทรงอำนาจจริงๆ ข้าอยากจะเห็นว่าสำนักห้าพิษของเจ้ากล้าต่อสู้กับสำนักรวมปีศาจของข้าได้ไหม!” เซียนชุดดำเผยรอยยิ้มแต่รอยยิ้มนี้กลับหนาวเย็นนัก
แสงสีฟ้าจากตาขวาโจวไฮ่ทวีความรุนแรงยิ่ง แต่วินาทีนั้นเสียงลมหายใจเย็นออกมาจากทั้งสองคน
“พอแล้ว! เราสามคนเป็นตัวแทนของสำนักเพื่อค้นหาคนทรยศของสำนักห้าพิษ เราไม่สามารถต่อสู้กันเองได้!” คนที่พูดขึ้นมาเป็นชายวัยกลางคนขั้นชำระสวรรค์ระดับกลาง หลังจากเอ่ยขึ้นมาโจวไฮ่และจ้าวยู่ก็มองหน้ากันด้วยความไม่เป็นมิตร จากนั้นพ่นลมหายใจและระงับพลังดั้งเดิมที่กำลังจะโจมตีเอาไว้
ชายวัยกลางคนเป็นศิษย์หลักของสำนักชั้นยอดระดับหกนามว่าสำนักวิชาเต๋า เนื่องด้วยหญิงชราพิษจึงทำให้สำนักห้าพิษอธิบายสถานการณ์ได้ยากมาก ท้ายที่สุดพวกเขาก็ใช้จ่ายไปมหาศาลเพื่อเก็บเรื่องนี้ไว้ ทั้งยังต้องส่งศิษย์หลักเป็นตัวประกันเพื่อค้นหาหญิงชราพิษด้วย อย่างไรก็ตามเหตุผลจริงๆก็คือการจับตาดูสมาชิกของสำนักห้าพิษ
ถ้าพวกเขาไม่สามารถค้นหาหญิงชราพิษในระยะเวลาอันสั้นได้ สำนักห้าพิษคงเผชิญกับวิกฤตใหญ่หลวง
มีศิษย์อีกหลายคนของแต่ละสำนักติดตามพวกเขาอยู่ด้านหลัง ทั้งหมดเปลี่ยนกลายเป็นลำแสงและมุ่งหน้าผ่านม่านพลังรอบแผ่นดินโม่หลัว
“โจวไฮ่ จ้าวยู่ ตามข้ามาที่สำนักต้นกำเนิด ศิษย์คนอื่นๆของเจ้ากระจายกำลังไปทั่วแผ่นดินโม่หลัวและค้นหาทุกตารางนิ้ว อย่าให้พลาดแม้เพียงจุดเดียว หากพบเจออะไรให้รีบรายงานทันที!” ชายวัยกลางคนเอ่ยน้ำเสียงสงบนิ่งแต่แฝงสัมผัสทรงอำนาจไม่อาจถามต่อได้
ศิษย์รอบด้านรีบพยักหน้าและกระจายกำลังเริ่มค้นหา พวกเขาทำแบบนี้ทุกครั้งที่เข้ามาในแผ่นดิน ดังนั้นมันจึงเป็นสิ่งคุ้นเคย
ส่วนทั้งสามคนปลดปล่อยระดับบ่มเพาะเต็มที่และมุ่งหน้าไปสำนักต้นกำเนิด สามลำแสงปลดปล่อยเสียงดังสนั่นออกมา
ใช้เวลาไม่นานทั้งสามคนก็มาถึงด้านบนสำนักต้นกำเนิดด้วยความโอหัง เหล่าเซียนในสำนักต่างก็เห็นพวกเขา หลิวหยานเฟย ลี่เซียงตงและผู้อาวุโสอีกสองคนลอยตัวขึ้นไปในอากาศเข้าทักทาย
ทั้งสี่คนได้ยินข่าวว่าสำนักระดับหกทำการบุกรุกเขตระดับห้าเพื่อค้นหาบางอย่าง อย่างไรก็ตามด้วยระดับบ่มเพาะและสถานะของพวกตน เหล่าผู้อาวุโสจึงไม่รู้ว่าสำนักระดับหกกำลังค้นหาอะไรอยู่กันแน่
ลี่เซียงตงสูดหายใจลึก เมื่อเข้าไปใกล้จึงคำนับฝ่ามือและเอ่ยออกมา “สำนักต้นกำเนิดขอคำนับสำนักเขตแดนสูงส่ง” สองผู้อาวุโสด้านหลังคำนับฝ่ามือด้วย
ชายวัยกลางคนคำนับฝ่ามือ “ข้าคือเฟิ่งเปยซานแห่งสำนักวิชาเต๋า!”
“ไม่คิดว่าข้าจะได้มาเห็นสาวงามที่นี่!” เซียนหน้าตาสะสวยสวมชุดสีดำมองหลิวหยานเฟยและยิ้มแย้ม “ข้าคือจ้าวยู่แห่งสำนักรวมปีศาจ”
“โจวไฮ่ สำนักห้าพิษ!” โจวไฮ่สีหน้ายังมืดมน ดวงตาขวาปลดปล่อยแสงสีฟ้ากวาดผ่านเซียนของสำนักต้นกำเนิด
ลี่เซียงตงสูดหายใจลึกและมองสองผู้อาวุโสด้านข้างเขา ทั้งหมดต่างมีสีหน้าเคร่งเครียด ต้องบอกว่าสามสำนักนี้ครอบครองพลังอำนาจในเขตระดับหกถึงเกือบสี่ในสิบดังนั้นจึงแข็งแกร่งมาก เพียงแค่คิดก็กวาดล้างสำนักต้นกำเนิดได้แล้ว
หากแค่สามคนก็เป็นแบบนี้คงไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึงศิษย์แต่ละคน ทั้งหมดจึงก้มศีรษะและไม่กล้ามอง มีเพียงหลิวหยานเฟยท่าทางนิ่งเฉยและไม่ได้เอ่ยอันใด
ลี่เซียงตงระงับความคิดตนเองเอาไว้และยิ้มอย่างไม่เต็มใจ “ไม่รู้ว่าสำนักเบื้องบนมาที่นี่ด้วยเหตุใด หากท่านต้องการให้สำนักต้นกำเนิดช่วยเหลือ เราจะทำให้ดีที่สุด”
โจวไฮ่พ่นลมหายใจพลางก้าวไปข้างหน้าและมาถึงหน้าศิษย์สำนักต้นกำเนิดคนนึง ฝ่ามือเคลื่อนไหวดุจสายฟ้าตีเข้าใส่ศิษย์คนนั้น ร่างอีกฝ่ายสั่นเทา กระอักโลหิตก่อนจะถูกโยนออกไปไกล
ฉากเหตุการณ์ฉับพลันนี้ทำให้สีหน้าท่าทางของศิษย์สำนักต้นกำเนิดต้องเปลี่ยนไปมหาศาล ซิ่วหยุนโกรธเขม็งพลางพุ่งเข้าหาศิษย์คนนั้นและประคองร่างขึ้นมา
ศิษย์สำนักต้นกำเนิดใบหน้าซีด ร่างกายสั่นเทา ใบหน้าเรืองแสงสีฟ้าจางๆและทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดมหาศาลแต่ก็ไม่สามารถกรีดร้องออกมาได้
หลิวหยานเฟยส่งสายตาเย็นเยียบเอ่ยถามออกไป “เหตุผลที่สำนักเบื้องบนมาที่นี่เพียงเพื่อทำร้ายศิษย์สำนักต้นกำเนิดน่ะหรือ?”
เฟิ่งเปยซานเผยรอยยิ้มและส่ายศีรษะ “สหายเซียนสำนักต้นกำเนิดไม่ต้องกังวล เรื่องนี้สำคัญมากและสำนักระดับหกทั้งหมดได้ส่งคนออกมาค้นหาคนผู้หนึ่ง คนผู้นี้ซ่อนตัวได้เยี่ยมนัก เบาะแสคือพิษที่อยู่บนคนผู้นั้น เหตุผลที่สหายเซียนโจวโจมตีไปก็เพราะเจ้าหนูนั่นมีร่องรอยพิษอยู่บนตัว”
หลิวหยานเฟยสายตาเย็นยะเยือกมากขึ้น นางสะบัดแขนไปทางศิษย์ที่ได้รับบาดเจ็บ ร่างกายสั่นเทาและปรากฏวังวน หลังจากนั้นไม่นานวิญญาณแรกกำเนิดของเขาก็ลอยออกมา มันมีอสรพิษสีแดงตัวเล็กอยู่ข้างในซึ่งก็คืออสูรวิญญาณชีวิต
อย่างไรก็ตามอสรพิษตัวน้อยอ่อนแอมากและกำลังจะตาย แม้แต่วิญญาณดั้งเดิมของศิษย์ก็แทบจะโปร่งใส
โจวไฮ่สีหน้ายังมืดมน หลังจากมองวิญญาณดวงนั้นเขาก็ไม่รังควานอีก ดวงตาส่องประกายสีฟ้าอีกครั้งมองไปยังศิษย์สำนักต้นกำเนิดที่เหลือ วินาทีต่อมาก้าวเท้าและมุ่งตรงไปหาซิ่วหยุนที่กำลังประคองศิษย์คนนั้นเอาไว้!
ซิ่วหยุนใบหน้าเปลี่ยนไป ด้วยระดับบ่มเพาะของนางเป็นไปไม่ได้ที่จะต่อต้าน วินาทีนั้นในแววตาหลิวหยานเฟยปรากฏจิตสังหาร นางพุ่งออกไป แขนขวาสร้างผนึกและโบกสะบัดจู่โจมสายลมกรรโชกเข้าหาโจวไฮ่
โจวไฮ่เยาะเย้ย ดวงตาขวากะพริบสีฟ้า อักขระสีฟ้าเจ็ดรูปปรากฏขึ้นรอบตัว เขาไม่สนใจสายลมและเดินเข้าหาโดยไม่ลังเล
สายลมปะทะเข้าใกล้โจวไฮ่จนเกิดเสียงสนั่นคับฟ้า มันไม่สามารถหยุดเขาได้เลย พริบตานั้นโจวไฮ่ก็ยืนอยู่เบื้องหน้าซิ่วหยุน
หลิวหยานเฟยยิ่งมีจิตสังหารรุนแรงขึ้น ซิ่วหยุนคือศิษย์ของนางและนางไม่ยอมยืนอยู่เฉยๆมองดูคนอื่นได้รับบาดเจ็บแน่ นางไม่สามารถอดทนต่อไปได้และกำลังจะโจมตี แม้กระทั่งสองผู้อาวุโสและลี่เซียงตงยังมีท่าทีมืดมน ซิ่วหยุนไม่เหมือนศิษย์ทั่วไปก่อนหน้านี้ นางคือศิษย์หลักของสำนักต้นกำเนิด
ชั่วขณะนั้นแววตาของเฟิ่งเปยซานแห่งสำนักวิชาเต๋าก็ส่องประกายเจิดจ้าและร้องตะโกน!
“หากคนของสำนักต้นกำเนิดแทรกแซงการค้นหาของเรา พวกเจ้าจะต้องรับผลกระทบที่ตามมา!”
เสียงตะโกนสั่นสะเทือนผืนปฐพี ราวกับเสียงนี้บรรจุกฎและวิชาอันลึกลับไปด้วย
แม้แต่พื้นดินยังสั่นเทาเล็กน้อย ก้อนเมฆถูกผลักให้ถอยกลับไป
ขณะที่ตะโกน ศิษย์สำนักต้นกำเนิดทั้งหมดสั่นเทา โลหิตไหลออกมาจากรูขุมขน แม้แต่สี่ผู้อาวุโสยังอดสั่นเทาไม่ได้และเต็มไปด้วยความตกใจ!
“กฎแห่งวาจา!” ลี่เซียงตงอ้าปากค้าง
โจวหยุนมองสำนักต้นกำเนิดด้วยท่าทีดูถูก สายตากวาดผ่านไปก่อนจะขมวดคิ้วมองลานทิศใต้ของสำนัก
นาทีนั้นโจวไฮ่จ้องมองซิ่วหยุนที่ซีดเผือดและเอ่ยขึ้น “สาวน้อย เจ้ามีกลิ่นหญ้าพิษปลาบนตัว หญ้านี้เติบโตในรังของอสูรระดับหกเท่านั้น เป็นไปไม่ได้ที่คนของสำนักต้นกำเนิดจะได้มา ทั้งกลิ่นยังคงสดใหม่ เจ้าไปได้มันมาจากไหน?”
ซิ่วหยุนหน้าซีด สายตาสีฟ้าของโจวไฮ่ส่งแรงกดดันจนความคิดซิ่วหยุนสั่นสะเทือน นางกัดริมฝีปากและมองอาจารย์ที่อยู่ห่างไปไม่ไกล
โจวไฮ่เผยรอยยิ้มมืดมนและหันกลับมามองหลิวหยานเฟย
“สหายเซียนหลิว ข้าอยากฟังคำอธิบายของเจ้า!”
หลิวหยานเฟยเอ่ยขึ้นอย่างสงบ “เราเป็นรุ่นเยาว์ที่ไม่มีพลังอำนาจพอจะได้สมุนไพรจากรังอสูรระดับหกหรอก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผู้อาวุโสของสำนักจะทำไม่ได้ หญ้าพิษปลาได้รับมาจากอาจารย์ลุงของข้า!”
“อาจารย์ลุง?” โจวไฮ่ดวงตาส่องสว่าง แพร่กระจายสัมผัสวิญญาณแฝงการดูถูกเอาไว้ เขาลดศีรษะมองไปทางลานทิศใต้ของสำนักต้นกำเนิด พุ่งตัวตรงเข้าไปทางนั้น
พลันเข้าใกล้ลานทิศใต้อย่างรวดเร็วซึ่งเป็นพื้นที่ต้องห้ามของสำนักต้นกำเนิด จังหวะที่เข้ามา ร่างกายสั่นเทาและเต็มไปด้วยแววตาตกตะลึงทันที ลานทิศใต้ดุจโลกที่แตกต่างจากข้างนอก เขาสัมผัสถึงกลิ่นอายที่ทำให้จิตใจสั่นเทาถึงแม้จะดูเป็นลานธรรมดา
ราวกับอสูรทรงพลังอาศัยอยู่ในลานแห่งนี้ กลิ่นอายของมันเพียงพอให้เลือดโจวไฮ่หนาวเย็นจับใจ!
“คนที่ทำร้ายผู้อื่นจะถูกกระทำเสียเอง!” น้ำเสียงเย็นและมืดมัวไม่บ่งบอกความรู้สึกพลันลอยเข้ามาดุจสายลม ยามที่เข้าไปถึงหูของโจวไฮ่ สีหน้าอาการเปลี่ยนไปมหาศาลและซีดเผือดทันที สัมผัสอันตรายรุนแรงเข้าล้อมร่างกายและเขาถอยหนีโดยไม่ลังเล เขาต้องการหนีจากลานทิศใต้น่าสะพรึงแห่งนี้
ทว่าในเสี้ยววินาทีนั้น โจวไฮ่รู้สึกถึงพลังเหนือจินตนาการตีเข้าหน้าอกเหมือนภูเขากระแทกลงมา พลันกระอักโลหิตพร้อมกับถูกโยนออกไป เสียงปะทุดังออกมาจากร่างกาย เสื้อผ้าบนหน้าอกขาดวิ่นเผยให้เห็นประทับฝ่ามือสีดำบนหน้าอก!
………………………………………