Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1174

Cover Renegade Immortal 1

1174. เจ้ามาสาย

เซียนทรงพลังเช่นหญิงชราต่างก็ตระหนักถึงการออกไปของหวู่ฉิงได้เป็นอย่างดี อีกทั้งแล้วชื่อเสียงของหวู่ฉิงก็เกี่ยวข้องกับตัวตนของเขาด้วย

เขาคือผู้อาวุโสของสำนักรวมปีศาจระดับหก

การออกไปของเขาจึงเป็นธรรมดาที่ทำให้เซียนเฒ่าหลายคนสนใจโดยเฉพาะคนที่เดาได้ว่าทำไมเขาถึงออกไป ในเมืองหลักของเพิ่งหลายทางส่วนตะวันออก ปรมาจารย์คังจงซื่อนั่งอยู่ในห้องแลกเปลี่ยนเมื่อครู่ เขาถือหินหยกในมือและเต็มไปด้วยความไม่มั่นใจ

‘หากข้าออกไปครั้งนี้อีกครั้งด้วยหินหยกสวรรค์จำนวนมาก ข้าจะต้องสำเร็จแน่นอน!’ เขาสูดหายใจลึกและกำลังจะทำตามแผนอีกครั้ง กระนั้นพลันเงยศีรษะขึ้น สายตาราวกับสามารถมองทะลุห้องออกไปและเห็นหวู่ฉิงกำลังเหาะออกไปนอกท้องฟ้า

‘แม้หวู่ฉิงตอนนี้จะเป็นขั้นทลายสวรรค์ ไม่เพียงแค่ความโลภจะไม่ลดลงมันยังเพิ่มขึ้นไปอีก ยิ่งคิดว่าตัวเองเจ้าเล่ห์มากกว่าใครก็ยิ่งเป็นคนยโสโอหังที่สุด ข้าเชิญชวนเขามาเข้าร่วมเพราะข้าได้ยินเรื่องความขัดแย้งของเขาระหว่างสำนักรวมปีศาจกับหลิวจื่อฮ่าว ข้าอยากจะเห็นว่าข้าสามารถทำให้เกิดความขัดแย้งได้ไหม ในเมื่อเขากำลังไล่ล่าหลิวจื่อฮ่าว หลิวจื่อฮ่าวนี่คงจะตายโดยไม่ต้องสงสัย ช่างมันเถอะ ในเมื่อข้าแลกเปลี่ยนกับเขา ข้าจะไม่ปล่อยให้ผลึกดั้งเดิมของเขาตกอยู่ในมือคนอื่น’ ปรมาจารย์คังจงซื่อเผยรอยยิ้มขนลุก ยิงสัมผัสวิญญาณออกไปและติดตามหวู่ฉิงไปติดๆ

ณ เหลาอาหารชั้นที่สี่ของเมืองหลักมีหนึ่งบุรุษและหนึ่งสตรีนั่งอยู่ บุรุษสวมชุดสีขาว สตรีนั่งตรงข้ามเป็นหญิงสาวคนสวย ชุดราตรีดอกไม้ของนางขับใบหน้าให้สวยยิ่งขึ้นไปอีก

ทั้งสองคนมองออกไปไกลในเวลาเดียวกัน สตรีคนสวยถอนหายใจและส่ายศีรษะ “เจ้าหนูนั่นไม่ได้บ่มเพาะมานานพอ เขาเผยสมบัติตัวเองง่ายๆและทำให้เกิดเรื่องร้ายกับตัวเอง ช่างน่าสงสาร”

ชายหนุ่มชุดขาวขบคิดเล็กน้อยและเผยสีหน้าประหลาดใจ จากนั้นยิ้มขึ้น “ข้าไม่คิดเช่นนั้น แม้ระดับบ่มเพาะของเจ้าหนูนั่นจะต่ำกว่าของหวู่ฉิง เห็นได้ชัดว่าเขารู้จักหวู่ฉิงเป็นอย่างดี อีกทั้งเขายังกล้าออกไปจากเมืองหลัก เขาต้องมีแผนอะไรบางอย่าง”

“งั้นรึ? ข้าไม่คิดเช่นนั้น ดูเหมือนเจ้าหนูน้อยนั่นจะหวาดกลัวและอยากออกไปเร็วๆ ข้าไม่คิดว่าหวู่ฉิงจะไม่สนใจสถานะของตัวเองและไล่ตามเขา” นางหัวเราะและมองบุรุษตรงข้ามกัน

“เราจะรู้ผลลัพธ์เองเมื่อเราตามดู” ชายหนุ่มยิ้มขึ้นพลางแพร่สัมผัสวิญญาณออกไปหาหวู่ฉิง

ส่วนทางชายชราใบหน้ารอยแผลเป็นค่อยๆเดินผ่านถนนพร้อมกับเอามือไพล่หลัง เขากำลังไปทางสิ่งก่อสร้างรอบๆและรำลึกถึง

‘ถ้าไม่ใช่เพราะปรมาจารย์คังจงซื่อเชิญชวนข้าอย่างต่อเนื่อง ข้ากลัวว่าข้าจะไม่ก้าวมาที่เพิ่งหลายอีกครั้งแล้ว…’ เขาถอนหายใจพลางมองออกไปและดวงตาส่องสว่าง

“ตัวอย่างที่ดีในการใช้ความแข็งแกร่งเข้าข่มเหงและความแข็งแกร่งกำลังไล่ล่าคนอ่อนแอ เขาทำการสังหารคนอื่นเพื่อหวังสมบัติอย่างโจ่งแจ้งซะขนาดนั้น!” ชายชราหัวเราะพลางปรากฏตัวอยู่บนหลังคาและนั่งลง ส่งสัมผัสวิญญาณออกไปและดูมีชีวิตชีวา

ในโรงเตี๊ยมของเมืองเล็กๆแห่งหนึ่งห่างออกไปจากเมืองหลักมีชายชราชุดดำร่างผอมพร้อมกับก้อนทรงกลมสองก้อนในมือ เขายืนอยู่ถัดกับหน้าต่างมองออกไปยังท้องฟ้าสว่าง ส่งสัมผัสวิญญาณแพร่กระจายออกไปไกล

‘ข้าปล่อยให้หวู่ฉิงนำไปก่อน…น่าเสียดาย…’

เซียนเฒ่าทั้งหมดที่เข้าร่วมการประมูลของปรมาจารย์คังจงซื่อทั้งหมดคิดว่าหวังหลินคงจะตายแน่นอน ยกเว้นชายชุดขาว! แม้เขาจะสงสัยเล็กน้อยแต่ในใจรู้ว่าเซียนขั้นทลายสวรรค์ไม่มีโอกาสรอดเมื่อสู้กับเซียนขั้นทลายสวรรค์แน่นอน!

ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้น แต่เซียนขั้นทลายสวรรค์คนอื่นๆในเมืองต่างก็ตื่นตัวกับการออกไปของหวู่ฉิง แต่ละคนแพร่กระจายสัมผัสวิญญาณออกไป หนึ่งในนั้นคือถังลี่ไห่

ถังลี่ไห่นั่งอยู่ในห้องตัวเองและพลันลืมตาขึ้นจากการฝึกฝน เขาขมวดคิ้วลังเลเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจแต่ไม่ได้พยายามจะไปหยุดหวู่ฉิง

‘นายท่านบอกแล้วว่าไม่ให้ไปล่วงเกินคนผู้นั้น หวู่ฉิงนะหวู่ฉิง ทำไมเจ้าต้องเป็นแบบนี้…’

ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งนั่งกับโต๊ะในห้องข้างถังลี่ไห่ เขาถือจอกเหล้าในมือและกลืนไปแค่คำเดียว อย่างไรก็ตามพลันเงยศีรษะขึ้นและมองออกไปไกลอย่างเย็นเยียบ

“หวู่ฉิง เจ้าวู่วามไปแล้ว!” หลังจากลังเลเพียงเล็กน้อย ชายวัยกลางคนพุ่งออกไปไกล

มีเซียนที่แข็งแกร่งหลายคนที่ไม่ได้แพร่กระจายสัมผัสวิญญาณออกไป อย่างไรก็ตามหลังจากสังเกตได้ว่าเหล่าเซียนเฒ่าแพร่กระจายสัมผัสวิญญาณ พวกเขาจึงประหลาดใจและเริ่มสังเกตเช่นกัน

ณ ตอนนี้เริ่มเกิดคลื่นใต้น้ำขึ้นมาเพราะการโผล่ออกไปของหวู่ฉิง! ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถัดไป ทั้งหมดตกตะลึงและชื่อของหวังหลินคงจะกลายเป็นสิ่งที่จะไม่มีวันลืม พวกเขาจะปีนสูงขึ้นและสูงขึ้น การต่อสู้ในเพิ่งหลายจะเป็นที่ที่เขาแสดงพลังอำนาจให้แก่ทะเลเมฆาได้เห็น!

หลี่เฉียนเหมยไม่ได้อยู่ในโรงเตี๊ยมในเมืองทางทิศตะวันออกของเพิ่งหลาย แต่นางอยู่บนยอดหอคอยสูงแทน ขณะที่นางนั่งอยู่ที่นี่ สายลมรุนแรงพัดโบกทำให้เส้นผมพลิ้วไหว ดวงตาส่องประกายเจิดจ้ามองออกไปทางทิศตะวันตกอย่างเงียบๆ

หวังหลินเคลื่อนไหวดุจสายฟ้า หลังออกมาจากเมืองเขาก็พุ่งตรงมาพื้นที่ราบทางทิศตะวันตก เงาอีกร่างติดตามด้านหลังมาอย่างกระชั้นชิดด้วยความเร็วที่มากกว่า

ทั้งสองเหาะเหินตามหลังกันและกันและยิ่งใกล้กันมากขึ้น

ตอนนี้พวกเขามาถึงเขตแดนระหว่างส่วนทิศตะวันตกและตะวันออกของเพิ่งหลาย มันเต็มไปด้วยหินและเป็นสถานที่สังหารอย่างดี

ไม่เพียงแต่หวังหลินต้องการชนะ เขายังต้องการชนะการต่อสู้นี้อย่างชัดเจน ขาวสะอาดและรวดเร็ว! เพียงเท่านี้ถึงจะยับยั้งเซียนคนอื่นๆของเพิ่งหลายและทำให้พวกเขาต้องระวังหวังหลินว่าไม่ควรจะไปล่วงเกิน!

หากแค่นี้มันคงไม่อาจแสดงเจตนารมณ์ของหวังหลินได้ ไม่เพียงแค่เขากำลังจะฆ่าหวู่ฉิง เขากำลังจะทำให้คนของสำนักรวมปีศาจไม่กล้าโจมตีหรือแก้แค้นด้วย! เขาต้องทำให้พวกมันหวาดกลัวและต้องวิตกกังวล! ก่อนที่เขาจะเรียนรู้เรื่องเขตระดับเก้าได้เขาก็กังวลเล็กน้อย แต่หลังจากเรียนรู้มาจากหลี่เฉียนเหมย ความกังวลทั้งหมดล้วนหายไป

หวังหลินหยุดชะงักฝีเท้าและหันกลับมาช้าๆ มองร่างหวู่ฉิงที่กำลังพุ่งหาเขาดุจสายลมกรรโชกรุนแรง! หวู่ฉิงเต็มไปด้วยจิตสังหาร เขาไม่ได้พยายามซ่อนมันเอาไว้ พอเห็นว่าหวังหลินไม่หนีอีกจึงสะบัดแขน โจมตีด้วยพลังทั้งหมดโดยไม่ยั้งมือ

เขากระตุ้นพลังขั้นทลายสวรรค์ระดับต้น ปรากฏภูเขายักษ์เบื้องหน้า เพียงสะบัดแขนออกมา ภูเขาลูกนี้ก็กระแทกเข้าใส่หวังหลิน!

“เจ้าหนู อย่าหาว่าข้าทำตัวโหดร้าย เจ้าทำร้ายผู้น้อยของสำนักรวมปีศาจข้า ดังนั้นเจ้าต้องเตรียมการถูกสังหารไว้ด้วย! วันนี้ข้าจะทำลายร่างเจ้าและใช้วิญญาณดั้งเดิมของเจ้ามาหลอมยา!”

หวังหลินจ้องมองภูเขาที่กำลังเข้ามาใกล้ด้วยสีหน้าเยือกเย็น ยามที่มันเข้ามาในระยะห้าฟุต หวังหลินยกแขนขวาขึ้นมาและส่งกำปั้นออกไป กำปั้นกระแทกเข้าใส่ภูเขาส่งเสียงดังปังสั่นสะเทือนสวรรค์

เกิดเสียงพื้นดินแตกร้าวดังกึกก้อง ภูเขาแตกสลายอย่างไม่คาดคิด หวังหลินถอนแขนขวากลับมาและส่ายศีรษะ “อ่อนแอเกินไป”

หวู่ฉิงตกตะลึงและสีหน้าเปลี่ยนไป ใช้ฝ่ามือสร้างผนึกและปรากฏสายลมสีดำและสีขาวขึ้นมารอบตัวเอง สองสายลมพุ่งเข้าหาท้องฟ้า ปะทะกันกลายเป็นวังวนสีเทา

“ขจัดสิ้นทำลายสวรรค์!” หวู่ฉิงร้องตะโกน จากนั้นผลักฝ่ามือไปข้างหน้า วังวนเริ่มขยายออก พลังดั้งเดิมทั้งหมดภายในรัศมีห้าพันลี้เริ่มถูกดูดเข้าไปข้างใน วังวนดูเหมือนปกคลุมท้องฟ้าพร้อมกับตกลงมาใส่หวังหลิน

จิตใจหวู่ฉิงสั่นเทารุนแรง ฉากเหตุการณ์ที่หวังหลินสลายภูเขาด้วยกำปั้นยังคงดังสะท้อนอยู่ในหัว แขนขวายื่นออกมาเปิดมิติเก็บของและกำลังจะนำสมบัติออกมา

เสี้ยวพริบตานั้นหวังหลินพลันลืมตาขึ้น แววตาเต็มไปด้วยจิตสังหารเย็นเยียบมหึมา เขากำลังรอคอยจังหวะนี้!

“หวู่ฉิง การตายของเจ้ามาถึงแล้ว!” น้ำเสียงหวังหลินดุจสายลมหนาวเย็นดังสะท้อนไปทั่วพื้นที่ เมื่อมันดังเข้าไปในหูหวู่ฉิงจึงทำให้เขารู้สึกหนาวเหน็บ

ชั่วขณะนั้นหวังหลินก้าวเท้า ส่งฝ่ามือขวาผลักออกไปกระแทกใส่พลังดั้งเดิมทั้งหมดภายในระยะห้าพันลี้ให้เกิดความโกลาหล ขณะเดียวกันหวังหลินก็รีบใช้สองนิ้วจากแขนซ้ายชี้ตรงหลังฝ่ามือขวา!

พลังดั้งเดิมทั้งหมดภายในระยะหมื่นลี้พลันรวบรวมกันอยู่ภายใต้อำนาจหวังหลิน! พลังดั้งเดิมอันสูงส่งนี้รวมกันที่ปลายนิ้วและเข้าสู่แขนขวา เปลี่ยนกลายเป็นพลังเหนือจินตนาการพุ่งเข้าหาวังวน

สองวิชาเข้าไปใกล้และปะทะกันอย่างรวดเร็วทำให้เกิดเสียงสั่นสะเทือนสวรรค์ดังสะท้อนส่วนหนึ่งของเพิ่งหลาย! แขนซ้ายหวังหลินไม่หยุดแค่นั้นและชี้ใส่หลังฝ่ามือขวาอีกครั้ง

พอครั้งที่สองร่อนลงไป พลังดั้งเดิมทั้งหมดภายในระยะห้าหมื่นลี้พุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่งและเข้าไปในวิชาวังวนที่หวู่ฉิงสร้างขึ้นมา

ไม่จบแค่นี้ หวังหลินค่อยๆถอนแขนซ้าย จากนั้นยื่นแขนหาท้องฟ้าราวกับสร้างดัชนีที่สาม!

คราวนี้พลังดั้งเดิมทั้งหมดจากแผ่นดินเพิ่งหลายดูเหมือนจะเริ่มเดือดและรวมกันในแขนขวาหวังหลิน ก่อตัวเป็นกลิ่นอายทำลายล้างพุ่งเข้าหาวังวน

วังวนสั่นสะท้านและแตกสลายในพริบตา คลื่นกระแทกทรงพลังแพร่กระจายออกไปทุกทิศทาง เตะฝุ่นผงขึ้นมาทั้งหมด ก้อนหินนับไม่ถ้วนปลิวว่อนและระเบิดกลายเป็นฝุ่นผงปกคลุมโลกจนลับสาสยตา

แม้จะไม่มีร่างดั้งเดิม หวังหลินก็สามารถฆ่าเซียนขั้นทลายสวรรค์ระดับต้นได้ ตอนนี้เขามีร่างดั้งเดิมและแข็งแกร่งยิ่งกว่าก่อนมากนัก พลังอำนาจของร่างดั้งเดิมนับว่าเหนือจินตนาการ เมื่อมีพลังอำนาจของเทพโบราณร่วมด้วย ควาสามารถในการเข่นฆ่าจึงเพิ่มขึ้นมหาศาล!

หลังจากสามดัชนีร่อนลงไป แขนขวาหวังหลินก็กระแทกลงทำให้พลังดั้งเดิมของเขากระแทกใส่หวู่ฉิงหวู่ฉิงหดตาแคบ ตอนนี้เป็นช่วงวิกฤตความเป็นความตาย เขาไม่มีเวลารู้สึกเสียใจ สมบัติหลายชิ้นลอยออกมาจากมิติเก็บของของหวู่ฉิงเพื่อหยุดยั้งพลังสายนี้

อย่างไรก็ตามหวังหลินเรียนรู้วิชานี้มาจากปรมาจารย์ลั่วฟู่ ถึงแม้จะไม่ได้เรียนรู้ถึงแก่นแท้ ด้วยระดับบ่มเพาะของปรมาจารย์ลั่วฟู่ พลังอำนาจของวิชานี้ยังเป็นสิ่งที่แม้แต่อดีตจักรพรรดิเทพต้องระมัดระวัง แล้ววิชาระดับนี้จะถูกสมบัติของหวู่ฉิงหยุดได้อย่างไร?

หวู่ฉิงไม่มีคุณสมบัติพอที่จะหยุดยั้งวิชานี้ได้! เขาไม่มีค่ามากขนาดนั้น!

เสียงดังสนั่นกึกก้องและสมบัติทั้งหมดของหวู่ฉิงระเบิดเป็นจุล จากนั้นฝ่ามือสีดำประทับลงบนหน้าอก เสื้อผ้าฉีกกระชากพลางกระอักโลหิต เขาถอยร่นพร้อมกับหน้าซีด ตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง

“เจ้าไม่ใช่เซียนขั้นชำระสวรรค์!” หวู่ฉิงเอ่ยน้ำเสียงไม่เป็นจังหวะ

“หวู่ฉิง อย่าหวังว่าจะหนีรอด!” หวังหลินหลับตาและยกแขนขวาขึ้นมาอีกรั้ง ประทับฝ่ามือยักษ์จากแดนสวรรค์พิรุณปรากฏขึ้นในใจหวังหลิน ประทับนั้นค่อยๆขยายขึ้นจนกระทั่งแทนที่ทุกสิ่งอย่าง!

คราแรกเขาเข้าใจเคล็ดนี้ตอนที่อยู่ในแดนสวรรค์พิรุณ เขาใช้มันโดยไม่ได้เข้าใจจริงๆและบังคับให้ผีเสื้อสีแดงต้องล่าถอย!

ในดินแดนวิญญาณปีศาจ เขาทำความเข้าใจเคล็ดนี้อีกครั้งและเผยมันออกมาจนทำให้แม่ทัพปีศาจหยุนหลี่ไฮ่ถึงกับตกตะลึง!

พอเข้าไปดินแดนวิญญาณปีศาจครั้งที่สอง ประทับฝ่ามือสั่นสะเทือนสวรรค์และทำลายถ้ำเทพชั้นที่แปดซึ่งทำให้หลิงเทียนโฮวตกตะลึงมหาศาล!

ในพันธมิตรเซียน เพื่อจะหยุดสมาชิกของสำนักเต๋าม่วงไม่ให้หนีมาดาราจักรทะเลเมฆา เขาจึงใช้เคล็ดนี้อีกครั้งและฆ่าทุกคนในสายตา! ตอนนั้นหวังหลินจึงได้เรียนรู้ชื่อของวิชานี้!

ประทับวิญญาณสงคราม!

ประทับวิญญาณสงครามแห่งสำนักเทพเจ้าในเขตระดับเก้า!

ความคิดทั้งหมดนี้ปรากฏขึ้นทันทีหลังจากปรากฏขึ้นมาต่อเนื่องในใจ จากความเข้าใจที่เขาใช้มันถึงสี่ครั้ง สิ่งทั้งหมดนี้หมุนวนในใจจนกระทั่งแตกสลายไปหมดทิ้งไว้แต่เพียงประทับฝ่ามือ

ประทับฝ่ามือนี้เต็มไปด้วยพลังอำนาจเหนือจินตนาการที่เปลี่ยนมันกลายเป็นพลังอำนาจเข้าสู่แขนขวาและยิงออกไปข้างหน้า

ประทับฝ่ามือนี้ทำให้โลกเปลี่ยนสีและส่งเสียงดังสนั่นกึกก้อง ฝุ่นผงทั้งหมดในบริเวณถูกผลักออกไปด้านข้างราวกับถูกพายุกวาดไป

พลังอำนาจที่แฝงอยู่ในฝ่ามือนี้คือกลิ่นอายของคนที่ยืนอยู่เหนือกระทั่งสรวงสวรรค์ ประทับฝ่ามือยักษ์ที่ปกคลุมฟ้าดินปรากฏขึ้นเบื้องหน้าหวังหลินและประทับลงด้วยแรงกดดันเหนือจินตนาการ

ประทับฝ่ามือดุจสวรรค์! เบื้องล่างมัน หวู่ฉิงเป็นแค่มดปลวก! จังหวะที่ฝ่ามือนี้ปรากฏ สัมผัสวิญญาณของเซียนเฒ่าทั้งหมดถึงกับสั่นเทาและเพิ่งหลายต่างก็หวาดกลัว!

“สงคราม…ประทับวิญญาณสงคราม!!! ประทับวิญญาณสงครามแห่งสำนักเทพเจ้าเขตระดับเก้า!!” หวู่ฉิงตกตะลึงงันอย่างสิ้นเชิง สัมผัสสิ้นหวังเต็มไปทั่วร่างอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แม้จะคิดว่าตัวเองเป็นเซียนขั้นทลายสวรรค์ แต่แรงกดดันจากประทับฝ่ามือยังทำให้เขารู้สึกเหมือนโลกกำลังล่มสลาย สิ่งที่ตกตะลึงยิ่งกว่าก็คือประทับจิตวิญญาณสงครามในตำนานจากสำนักเทพเจ้าได้ปรากฏขึ้นเบื้องหน้า

ในความคิด มันไม่ใช่เพียงประทับจิตวิญญาณสงคราม แต่เป็นทั้งสำนักเทพเจ้า!

เขากรีดร้องและเริ่มถอยอย่างหวาดกลัว ตอนนี้ไม่สนว่าจะบาดเจ็บสาหัสแค่ไหน ร่างกายจะแตกสลายหรือไม่ เขาเพียงต้องการหนีเท่านั้น อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถหนีฝ่ามือที่กำลังขยายออกจนเต็มทัศนวิสัยไปได้

เพียงกะพริบตา ฝ่ามือปะทะใส่หวู่ฉิง พื้นปฐพีสั่นเทา ร่างหวู่ฉิงระเบิดกลายเป็นหมอกโลหิต!

วิญญาณดั้งเดิมที่หนีออกมาถูกฝ่ามือกวาดไปก่อนจะหนีได้เสียอีก ดุจเรือใบที่ล่องอยู่ในทะเลโหมกระหน่ำ วิญญาณเขาแตกดับ ผู้อาวุโสของสำนักรวมปีศาจ หวู่ฉิงสิ้นชีพ! แม้แต่ตอนตาย เขายังเต็มไปด้วยความสับสนและหวาดกลัวพร้อมๆกับเสียใจอยู่ลึกๆ

ชั่วขณะหวู่ฉิงตาย หวังหลินก้าวเท้าออกมาตรงจุดที่หวู่ฉิงเปิดมิติเก็บของ ตั้งแต่ที่หวู่ฉิงมาถึงพึ่งผ่านไปเพียงชั่วเวลาสั้นๆและถูกสังหารไม่เพียงแค่พริบตา มันยังขาวสะอาดหมดจด

มิติเก็บของของหวู่ฉิงไม่มีแม้แต่เวลาปิด ตอนนี้เขาตายไปแล้วอักขระบนมิติเก็บของได้หายไปและกำลังปิดลงอย่างรวดเร็ว ก่อนที่มันจะปิด หวังหลินยื่นแขนเข้าไปเก็บทุกอย่างมาทันที นี่คือวิธีที่เขาคิดได้ในการแย่งชิงของมาจากมิติเก็บของสำหรับเซียนที่เหนือกว่าขั้นชำระสวรรค์ขึ้นไป!

สังหารอีกฝ่ายในจังหวะที่เปิดมิติเก็บของ มันคือโอกาสในการแย่งชิง!

ตอนนี้ฝ่ามือไม่ได้สลายไป มันเคลื่อนไหวไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่งยิ่งขึ้น เคลื่อนไปโดยไม่มีแรงใดต้านทานได้และทำให้พื้นปฐพีดังสนั่นพร้อมกับแตกระแหง เพิ่งหลายทั้งหมดสั่นเทาราวกับกำลังแตกสลายด้วยฝ่ามือที่กวาดไปบนพื้นดิน

ขณะที่ฝ่ามือเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง พลังดั้งเดิมไร้ที่สิ้นสุดรวบรวมเข้ามา ฝ่ามือแทงใส่ท้องฟ้าทำให้ก้อนเมฆทั้งหมดแตกกระจาย เกิดรอยร้าวไปทั่วท้องฟ้า

เสียงดังสนั่นกึกก้องไปทั่วเพิ่งหลาย คล้ายกับยินดีต้อนรับการกลับมาอีกครั้งของประทับวิญญาณสงคราม!

ฝ่ามือเคลื่อนที่เร็วขึ้น ดูดซับพลังดั้งเดิมมากขึ้น ในไม่นานมันก็เป็นอิสระจากการควบคุมของหวังหลิน หวังหลินถอนสัมผัสวิญญาณออกมาอย่างว่าง่ายและยอมให้มันเคลื่อนไปตามต้องการ

พื้นดินสั่นสะท้อนหนักยิ่งกว่าเดิม ฝ่ามือเพิ่มความเร็วขึ้นถึงขีดสุด มันไม่ช้าไปกว่าเซียนขั้นทลายสวรรค์เลย พริบตาเดียวมันก็ลอยเข้าหาเมืองลอยฟ้าบนฝั่งตะวันออกของเพิ่งหลาย

ฉากเหตุการณ์นี้ช่างน่าตกตะลึง เซียนทั้งหมดบนเพิ่งหลายตกตะลึงยิ่ง พอเห็นฝ่ามือกำลังเข้ามาจากระยะไกล ทั้งหมดจึงเหาะเหินออกมาจากเมือง

เพียงกะพริบตา ฝ่ามือก็เข้าประชิดและปะทะกับก้อนหินลอยฟ้าก้อนหนึ่ง ก้อนหินแตกสลาย เมืองด้านบนพังกระจายอย่างสิ้นเชิง มันไม่หยุดแค่นั้นและเคลื่อนที่ต่อไปอีก

ขณะที่ฝ่ามือผ่านไป เสียงกึกก้องดังสะท้อนไปทั่ว มีก้อนหินมากกว่าสิบก้อนด้านขวาแตกสลาย ฝ่ามือผ่านด้านขวาของเมืองหลักที่อยู่ตรงกลางไปทำให้ทั้งก้อนหินโดนผลักไปทางซ้ายเล็กน้อย

เสียงแผ่นดินไหวกลายเป็นเสียงที่แทนที่ทุกเสียงในโลก ฝ่ามือทะลุไปส่วนทิศตะวันออกของเมืองหลักและพุ่งเข้าหาความว่างเปล่า ราวกับมันกำลังต่อสู้กับสวรรค์!

หนึ่งฝ่ามือแทงใส่สวรรค์! ทะลวงผ่านม่านป้องกันของเพิ่งหลายเข้าไปในอวกาศ หมอกจำนวนมากเข้าไปในฝ่ามือทำให้พลังของมันเพิ่มพูนขึ้นมหาศาล

บนเพิ่งหลายมีแผ่นดินป่าแห่งหนึ่งห่างออกไปไม่ไกล มันคือพื้นที่ต้องห้ามของสำนักหยกสมบัติและไม่ยอมให้คนนอกคนใดก้าวเข้าไป ฝ่ามือตรงเข้าหาทิศทางนั้น

เพียงชั่วขณะหนึ่ง ฝ่ามือดูดซับหมอกและเปลี่ยนกลายเป็นฝ่ามือยักษ์สุดลูกหูลูกตา ดุจฝ่ามือจากเทพโบราณยามที่มันร่อนลงบนแผ่นดินป่า

ตึงตัง ตึงตัง ตึงตัง ตึงตัง!

ความผันผวนมากเกินจินตนาการผุดออกมาจากท้องฟ้าเต็มหมู่ดาว แผ่นดินป่าสั่นสะเทือนรุนแรงพร้อมกับมีเศษหลุดลอยกลายเป็นเศษขนาดใหญ่มากมายและแตกสลาย!

ฝ่ามือสูญสลายไป!

หวังหลินตกตะลึง ไม่คิดว่าฝ่ามือจะมีพลังอำนาจขนาดนั้นเมื่อมันหลุดจากการควบคุม เขาพอจะเดาได้อย่างเลือนลางว่าประทับฝ่ามือในแดนสวรรค์พิรุณปรากฏขึ้นแบบนั้นได้อย่างไร

ห่างออกไปไกล ชายวัยกลางคนจากสำนักรวมปีศาจจ้องมองทั้งหมดนี้และอ้าปากค้างไม่เชื่อสายตาตัวเอง หวังหลินทำให้เกิดพายุน่าหวาดกลัวขึ้นในใจเขา

‘นี่…นี่มันประทับวิญญาณสงคราม!! ตัวตนของเขา…’ ใบหน้าซีดเผือดและตกอยู่ในอาการตะลึง ความหวาดกลัวในใจเขานี้ไม่แม้แต่จะคิดถึงการแก้แค้นหวู่ฉิง

ขณะเดียวกัน เซียนทั้งหมดบนเพิ่งหลายก็ตกตะลึงไปด้วยโดยเฉพาะเหล่าเซียนเฒ่าที่ส่งสัมผัสวิญญาณออกมาและเห็นเหตุการณ์ ทั้งหมดต่างก็ตะลึงงัน

ปรมาจารย์คังจงซื่อเบิกตากว้างและบดขยี้หินหยกในมือพลางจ้องมองตรงหน้า ความคิดสั่นเทา ใบหน้าซีดเผือดพร้อมกับเลียริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว

‘ไอ้…ไอ้…ไอ้บัดซบนี่เป็นใคร…’

ชายชุดขาวและหญิงสาวคนสวยออกไปจากเหลาอาหารแล้วตอนที่ฝ่ามือยักษ์กวาดผ่านมา ครึ่งเมืองถูกทำลายย่อยยับ

สตรีคนสวยหน้าซีดอย่างสิ้นเชิง ความคิดสั่นไหวและพูดอะไรไม่ออก นางพึ่งเรียกหวังหลินว่า “ไอ้หนูนั่น” แต่ในใจนางเต็มไปด้วยความไม่เชื่อและหนาวเหน็บสุดขั้ว

‘ฆ่าหวู่ฉิงและใช้ประทับวิญญาณสงคราม คนผู้นี้…ไม่อาจไปล่วงเกินได้!’

ชายหนุ่มชุดขาวอ้าปากค้างแต่ดวงตาเปล่งประกายเจิดจ้า อย่างไรก็ตามความสว่างของมันก็ไม่สามารถปกคลุมความตกตะลึงในใจไว้ได้หมด

ห่างออกไปไม่ไกลนัก ชายชราเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นถึงกับชะงักอยู่กับที่ ยังไม่เชื่อกับสิ่งที่พึ่งเกิดขึ้น

‘ไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนจากสำนักเทพเจ้า…ประทับจิตวิญญาณสงครามช่างน่าหวาดกลัวเกินไป!’

ผู้อาวุโสร่างผอมชุดดำนั้นโชคดีที่สุด ตอนนี้ก้อนทั้งสองในมือหยุดหมุน ใบหน้าซีดเผือด หยดเหงื่อเย็นไหลจากหน้าผากและสูดหายใจลึก

‘โชคดีที่หวู่ฉิงโจมตีก่อน ไม่เช่นนั้นข้าคงโดนสังหารเสียแทน! สำนักรวมปีศาจจะถูกกวาดล้างออกไปในเร็ววันเนื่องจากกล้าไปล่วงเกินคนจากสำนักเทพเจ้า!’

ยังมีหญิงชราชุดเขียวที่ขายแผ่นที่ดวงดาวให้หวังหลิน นางดวงตาส่องสว่างและขมวดคิ้วพร้อมระงับความตกตะลึงในใจ นางมองซากปรักหักพังที่เหลือทิ้งไว้ ไม่มีใครรู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่

คนที่ตกตะลึงที่สุดคือถังลี่ไห่ ริมฝีปากแห้งผากและหวาดกลัวอย่างสิ้นเชิง หากเขาเผชิญหน้ากับหวังหลินอีกครั้งคงไม่สามารถสงบนิ่งได้เหมือนก่อน เซียนขั้นทลายสวรรค์ระดับต้นทุกคนคงรู้สึกหวาดกลัวจับใจต่อคนที่สามารถฆ่าเซียนขั้นทลายสวรรค์ได้รวดเร็วเพียงนี้

นอกจากพวกเขาแล้วยังมีเซียนจากหลายสำนักและเซียนเฒ่าที่อยู่ที่นี่ในการประมูล โดยเฉพาะคนที่เห็นการต่อสู้ ทั้งหมดมองไปทางทิศตะวันตกด้วยสายตาอันซับซ้อน

หวังหลินปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้าด้วยท่าทีสงบนิ่ง เขาเดินออกมาหาชายวัยกลางคนที่ยังหน้าซีดเผือดอยู่ไม่ไกล

“เจ้ามาสาย”

…………………………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!