1193. การต่อสู้นองเลือดของคังจงซื่อ!
มันสามารถกลืนกินวิชาทั้งหมดในโลกนี้เพื่อให้ตัวมันเองใช้งานได้ มันคือสมบัติเทพโบราณที่ตู่ซือหลอมเอาไว้ ตู่ซือพึงพอใจกับสมบัติชิ้นนี้มากแต่มันก็ขาดจิตวิญญาณดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนมันให้กลายเป็นภูเขาและโยนไว้บนดาวเคราะห์ดวงนึง เขาหวังว่าเวลาจะควบแน่นจิตวิญญาณให้มัน หลังจากเสร็จสิ้นเคล็ดวิชานี้มันจะกลายเป็นสมบัติที่เทียบเคียงกับหอกสังหารเทพเจ้าของเขา!
อย่างไรก็ตามน่าเสียดายที่ตู่ซือล้มเหลวและตรีศูลเล่มนี้จึงหายไปตามกาลเวลา
พอเทียนหยุนได้มาเขาสามารถใช้พลังอำนาจของมันได้แต่ไม่สามารถเรียกใช้ความสามารถเฉพาะได้ เนื่องจากมีเพียงเทพโบราณที่สามารถใช้ได้เท่านั้น!
แม้ระดับบ่มเพาะของหวังหลินต่ำกว่าของเทียนหยุน แต่เขาเป็นถึงเทพโบราณ หลังจากผ่านบททดสอบแรกสองหายนะมาแล้ว ตอนนี้จึงเป็นเทพโบราณที่แท้จริง ด้วยตรีศูลในมือเขาสามารถแสดงความสามารถกลืนกินวิชาได้อย่างเต็มที่!
มังกรสามตัวกลืนกินเหล่ามังกร เขตอาคมแห่งชีวิตและความตายถูกกลืนกินและกลายเป็นวิชาของตรีศูล เขตอาคมลอยออกมาผสานเข้ากับมังกรดำพร้อมกับพุ่งเข้าหากระบี่ผลึก
กระบี่ผลึกเล่มนี้ทรงพลังยิ่งในสมบัติที่คังจงซื่อมี เหตุผลที่เขานำมันออกมาก็เพื่อรีบสังหารหวังหลิน ขณะที่โยนขึ้นไปบนฟ้า ดูเหมือนมันสามารถแบ่งโลกออกเป็นสองส่วนได้เลยทีเดียว
มังกรดำเข้าไปใกล้กระบี่ผลึกในทันที เสียงดังสนั่นหวั่นไหว สามมังกรอ้าปากและกลืนกระบี่ผลึกเข้าไป
ขณะเดียวกันร่างมังกรทั้งสามสั่นสะท้าน เสียงคำรามออกมาจากหนึ่งในมังกรสามตัวแต่มันไม่ได้ระเบิด มันดิ้นรนพยายามกลับไปหาหวังหลินพร้อมมังกรอีกสองตัวและเปลี่ยนกลับเป็นตรีศูล
บนด้ามตรีศูลมีแสงผลึกส่องออกมาเจือจาง จากนั้นตราประทับกระบี่ผลึกค่อยๆปรากฏบนอาวุธ
คังจงซื่อสีหน้าเปลี่ยนไปแต่ก็รีบพุ่งเข้ามา แขนขวาสร้างผนึกชี้ใส่ข้างหน้า ปรากฏแสงกะพริบและเปลี่ยนกลายเป็นปราณกระบี่ไร้ขอบเขต ปราณกระบี่เต็มไปทั่วท้องฟ้าและพุ่งใส่หวังหลิน
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ยื่นแขนออกไปเปิดมิติเก็บของ โยนลูกปัดสามเม็ดออกมาและร้องตะโกน “อัญเชิญ ผู้ฝืนลิขิต!”
แสงเจ็ดสีทั้งหมดในโลกรวมตัวกันอีกครั้งและพรั่งพรูเข้าไปในลูกปัดสามเม็ด พร้อมกันนั้นลูกปัดเม็ดนึงพลันแตกสลายอย่างรวดเร็ว
เปลี่ยนกลายเป็นร่างเงาเลือนลางในท้องฟ้า มองไม่ชัดว่าเงานั้นคืออะไรแต่มีอำนาจกระบี่ห่อหุ้มโลกเอาไว้
เงานั้นยกแขนขวาขึ้นและชี้ใส่หวังหลิน! เพียงหนึ่งดัชนี แสงเจ็ดสีทั้งหมดรวมตัวกันกลายเป็นปราณกระบี่เจ็ดสีพุ่งหาหวังหลิน
หลังจากนั้นไม่นานลูกปัดอีกเม็ดก็แตกสลาย พื้นดินสั่นไหว เทือกเขาคล้ายกำแพงพังทลายไปส่วนใหญ่ ยักษ์หินตัวหนึ่งเดินออกมาจากภูเขา แต่ละก้าวทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน มันพาดลำตัวอยู่ในแสงเจ็ดสีและพุ่งหาหวังหลิน
วินาทีนั้นลูกปัดที่สามก็ระเบิด แสงเจ็ดสีรวมกันอย่างบ้าคลั่งเปลี่ยนกลายเป็นเข็มทิศยักษ์หมุนอย่างรวดเร็วก่อเกิดแรงกดดันทรงพลัง
ตอนที่เขาเริ่มโจมตีจึงใช้ไพ่ตายสังหารทั้งหมด เห็นได้ชัดว่าต้องการฆ่าหวังหลินให้รวดเร็ว แขนขวาสร้างผนึกและชี้ใส่กลางหน้าผาก จากนั้นใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดง แสงโลหิตหนึ่งสายลอยออกไป
ข้างในแสงโลหิตมีสิ่งที่คล้ายวิญญาณแรกกำเนิด มันเหมือนกับสิ่งที่เคยโจมตีหญิงชราชุดเขียว!
วิญญาณแรกกำเนิดดวงนี้ปลดปล่อยเสียงกรีดร้องดุร้ายและพุ่งหาหวังหลินด้วยลำแสงสีแดงโลหิต บนใบหน้าแฝงความดุร้ายไม่อาจบรรยายได้
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในพริบตา วินาทีที่ตรีศูลกลับมาหาหวังหลิน การโจมตีสังหารของปรมาจารย์คังจงซื่อก็มาถึง เขาเป็นถึงเซียนขั้นทลายสวรรค์ระดับกลางดังนั้นพลังดั้งเดิมมีมากมายทำให้วิชาและสมบัติมีพลังอันน่าตื่นตะลึง
หวังหลินสีหน้าท่าทางสงบนิ่ง ดวงตาเต็มไปด้วยเจตจำนงการต่อสู้ คว้าตรีศูลและโยนขึ้นไปในท้องฟ้าเข้าหาเข็มทิศ จากมุมมองของหวังหลินแล้วมันคือของที่อันตรายที่สุด!
หลังจากนั้นไม่นานแขนขวาสร้างผนึกและชี้ออกไป ท้องฟ้าเจ็ดสีถูกปกคลุมด้วยสายลมทมิฬคำราม ก่อเกิดมังกรดำขึ้นมาจำนวนหนึ่งแต่ไม่ได้กระจายไป พวกมันทั้งหมดพุ่งเข้าหาร่างเจ็ดสีพร่ามัวในท้องฟ้า
หลังจากเรียกขานสายลมก็เป็นอัญเชิญสายฝน หวังหลินสะบัดแขนเสื้อปรากฏหยกผลึกน้ำขึ้นมาหลายพัน พุ่งเข้าใส่ปราณกระบี่ของคังจงซื่ออย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งพุ่งหายักษ์หินด้วย
หวังหลินก้าวไปข้างหน้าพร้อมเสียงดังปะทุดังสนั่น แขนขวากำหมัดโยนกำปั้นเข้าหาปราณกระบี่เจ็ดสีที่กำลังเข้ามา
ท้องฟ้าดังสนั่นหวั่นไหว ปราณกระบี่เจ็ดสีสั่นเทา หกสีแตกสลายเหลือเพียงสีฟ้าพุ่งออกมาเจาะเข้าไปในแขนขวาหวังหลิน
ร่างหวังหลินสั่นเทาพร้อมกับเกิดความรู้สึกถึงกลิ่นอายอาละวาดเข้าไปในร่างกายซึ่งทำให้เขาต้องร้องคร่ำครวญ แขนซ้ายสร้างผนึกชี้ใส่ความว่างเปล่า อ้าปากปล่อยให้ตราประทับผนึกเทพลอยอกไป เหล่าวิญญาณรบโผล่ออกไปทีละดวง!
จ้าวสายลมหวน เทียนหยุน หวู่ฉิง ทั้งหมดพุ่งเข้าหาวิญญาณแรกกำเนิดโลหิตท่าทางดุร้าย
นอกจากนี้ยังมีวิญญาณรบจำนวนมากเดินออกมาจากตราประทับผนึกเทพ มีทั้งเหล่าเทพ เซียนดาราจักรทุกชั้นฟ้าและพันธมิตรเซียน ซึ่งทำให้กลิ่นอายรุนแรงครอบคลุมไปทั่วพื้นที่
ฉากเหตุการณ์นี้ทำให้ปรมาจารย์คังจงซื่อต้องสูดลมหายใจหนาวเหน็บ เขาคิดว่าเขาประเมินหวังหลินต่ำไป แค่สมบัติสองสามอย่างของหวังหลินก็ทำให้เซียนทั่วไปหวาดกลัวได้บ้างแล้ว
ดินแดนเจ็ดสีเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ตรีศูลพุ่งเข้าใส่เข็มทิศในท้องฟ้าแต่เมื่อมันอยู่ห่างเพียงระยะเจ็ดนิ้วกลับถูกม่านแสงเจ็ดสีหยุดเอาไว้
มังกรสามตัวของตรีศูลเข้ากลืนกินม่านแสงอย่างบ้าคลั่งและเข้าไปใกล้เรื่อยๆ
ร่างพร่ามัวที่ลอยอยู่ในท้องฟ้าค่อยๆสลายไปภายใต้ผลกระทบของมังกรดำจากวิชาเรียกขานสายลม
ส่วนยักษ์หินที่อยู่ห่างออกไปถูกปกคลุมไปด้วยม่านน้ำแข็งสังหารจากหยาดฝนนับไม่ถ้วน ก่อนที่มันจะเข้าใกล้ได้มากกว่านี้มันได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นรูปปั้นยักษ์หินเสียแล้ว
ส่วนเจ้าวิญญาณโลหิตแรกกำเนิดนั้นกรีดร้องจากการโจมตีของเหล่าวิญญาณเซียนเฒ่า มันพยายามหนีแต่ก็ไม่อาจทำได้ สิ่งที่คุ้มค่าต่อความสนใจของหวังหลินคือวิญญาณของเทียนหยุน พอมันปรากฏตัว ดวงตาเต็มไปด้วยความงุนงง มันไม่ยอมทำตามคำสั่งโจมตีของไสยเวทย์แต่กลับจ้องมองบนท้องฟ้าแทน
หวังหลินไม่ได้มีเวลาให้ความสนใจวิญญาณของเทียนหยุน เขาพุ่งออกไปยื่นแขนขวาปรากฏประกายสายฟ้านับไม่ถ้วน คล้ายหวังหลินกำลังจับสายฟ้า
สายฟ้าไร้ขอบเขตควบแน่นกลายเป็นหอกไร้ตัวตนเล่มหนึ่ง มันคือภาพเสมือนของหอกสังหารเทพเจ้า เขาโยนออกไปอย่างรุนแรง พุ่งเข้าใส่เข็มทิศยักษ์ในท้องฟ้าทำลายอุปสรรคทั้งหมดระหว่างทาง
หวังหลินไม่หยุดแค่นี้ เขาพุ่งออกไปและกดแขนขวาลงอย่างรุนแรง ประทับฝ่ามือยักษ์ตกลงมาจากฟากฟ้าพร้อมกับสองดัชนีจากแขนซ้ายประทับลงด้านหลังแขนขวา
พลังดั้งเดิมพรั่งพรูออกมาจากโลกเจ็ดสีและพุ่งเข้าไปในแขนขวา ประทับฝ่ามือยักษ์ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าแขนขวาและตกลงใส่ปรมาจารย์คังจงซื่อ
คังจงซื่อดวงตาแดงฉานและแฝงอาการบ้าคลั่ง เขากัดปลายลิ้นพ่นโลหิตออกมา สะบัดแขนขวาด้วยท่าทางดุดัน ปรากฏวิญญาณแรกกำเนิดเจ็ดดวงส่งเสียงร้องไห้โหยหวน พริบตาเดียวจึงเกิดอักขระแสงขึ้นด้านหน้า
โลกทั้งใบมืดลงราวกับแสงในโลกถูกอักขระแสงดูดซับไป
“ขอใช้โลหิตของร้อยต้นกำเนิดเพื่อแลกเปลี่ยนจิตวิญญาณดวงที่เจ็ดของดินแดนปิดผนึก!” ปรมาจารย์คังจงซื่อร้องคำราม อักขระแสงกะพริบวาบ วินาทีนั้นฝ่ามือของหวังหลินก็ตกลงบนอักขระแสง
ฝ่ามือแตกสลายเกิดเสียงดังสนั่นกึกก้อง เมื่อหายไปลำแสงสายหนึ่งพุ่งหาหวังหลิน รวดเร็วจนหวังหลินไม่มีเวลาหลบเลี่ยงและร่อนลงบนหน้าอก
ร่างหวังหลินสั่นสะท้านและกระเด็นกลับไปหลายก้าว เป็นครั้งแรกที่โลหิตเทพโบราณไหลออกมาจากมุมปากแต่ดวงตาเขาดุร้ายยิ่งขึ้น
หวังหลินยื่นแขนขวาออกไปปรากฏกระบี่เหล็ก หมุนฝ่ามือคราเดียวราวกับกำลังจับเป้าหมายและพุ่งหาปรมาจารย์คังจงซื่อ
ปรมาจารย์คังจงซื่อสะบัดแขนซ้ายใส่มิติเก็บของและปรากฏลิ่มเจ็ดสี! มันคือของชิ้นเดียวที่ใช้แทงโครงกระดูกที่มีคัมภีร์เต๋าแกะสลักไว้!
“ตายซะ!” คังจงซื่อสะบัดแขน ลิ่มเจ็ดสีพุ่งใส่กระบี่เหล็ก ลิ่มนี้แฝงแรงกดดันเหนือจินตนาการเอาไว้มันจึงแข็งแกร่งมากกว่าสมบัติเทียมสวรรค์ดับสูญ!
พริบตาเดียวลิ่มก็ปะทะกับกระบี่เหล็ก ส่งเสียงแตกร้าวดังสะท้อน กระบี่เหล็กหักกลางและแบ่งเป็นสองส่วน!
ลิ่มเจ็ดสีทำลายกระบี่เหล็กและตรงเข้าฝังตัวเองไว้ในไหล่ขวาหวังหลิน!
ความเจ็บปวดรุนแรงแทรกผ่านเข้าไปในร่างกายทำให้เขาต้องสั่นสะท้าน ขณะเดียวกันแม้กระบี่จะหักไปแล้ว ปลายกระบี่แทงเข้าใส่หน้าอกปรมาจารย์คังจงซื่อและฝังตัวเองไว้บนพื้น
คังจงซื่อกระอักโลหิต หันตัวกลับเนื่องจากบาดเจ็บสาหัสและพุ่งเข้าหาภูเขาคล้ายกำแพง! หวังหลินร่างกายสั่นสะท้าน ลิ่มเจ็ดสีดูเหมือนจะสามารถบดขยี้วิญญาณดั้งเดิมได้ ดวงตาหวังหลินขุ่นมัวและร่างกายหดลง เขากำลังกลับเป็นขนาดเท่าคนปกติ
หวังหลินกัดฟันแน่นจ้องมองปรมาจารย์คังจงซื่อที่กำลังหนีไปพร้อมกระอักโลหิตอย่างต่อเนื่อง ประทับวิญญาณสงครามปรากฏขึ้นในใจและผลักฝ่ามือไปข้างหน้าอย่างเหี้ยมโหด!
ประทับวิญญาณสงครามปรากฏ โลกปั่นป่วน พอมันเข้าไปใกล้ปรมาจารย์คังจงซื่อ เขาใช้วิชาบางอย่างทำให้ร่างแตกสลายกลายเป็นหมอกเจ็ดสี เขาสามารถหนีความตายพ้นไปได้ด้วยการให้หมอกเจ็ดสีห่อหุ้มวิญญาณและหายตัวไปอีกด้านหนึ่งของภูเขา
หวังหลินกระอักโลหิต ร่างกายกลับคืนสู่ปกติ รับสมบัติทั้งหมดมาและไม่มองหญิงชราที่ถูกขังในเขตอาคมเลย เขารีบจากไปพร้อมกับใบหน้าซีดเผือดและโลหิตจำนวนมากไหลออกจากไหล่ การต่อสู้กับปรมาจารย์คังจงซื่อนั้นเป็นผลให้ทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บสาหัส!
เข็มทิศยักษ์ในท้องฟ้าเคลื่อนตัวช้าๆและไล่ตามหลังหวังหลิน