12. ยันต์เซียน
TL note : ขอเปลี่ยนจากศิษย์ลับเป็นศิษย์สายนอกนะครับ
ในเดือนนี้ ศิษย์สายนอกส่วนใหญ่เข้ามารู้จักหวังหลิน ทุกคนมีใบหน้าแห่งการหยิ่งและพูดคุยกับเขาอย่างเยาะเย้ย
หวังหลินทำท่าทีไม่สนใจ เขารู้ว่าความคิดพวกศิษย์สายนอกได้เปลี่ยนไปแล้ว ก่อนที่เขามาที่นี่ พวกศิษย์สายนอกทุกคนอยู่ชั้นต่ำสุด ไม่มีที่ไหนจะระบายความโกรธและความขัดข้องที่นี่ แต่ตอนนี้มันเป็นเขา คนที่เข้าสำนักมาเพียงเพราะว่าพยายามจะฆ่าตัวตายอยู่ที่นี่ พวกเขามองหาใครสักคนที่ต่ำกว่าตัวเองและระบายมันออกมาโดยการกลั่นแกล้งหวังหลิน
หวังหลินหัวเราะอย่างหนาวเหน็บกับตัวเอง เขารู้ว่าไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้ในตอนนี้ สำนักเซียน ความแข็งแกร่งถูกต้องเสมอ ศิษย์สายนอกบางคนได้อยู่ที่นี่มานานและร่างกายเขาได้แข็งแกร่งอย่างมาก บางคนแม้กระทั่งได้รับทักษะเซียนมาบ้าง ถ้าหวังหลินต่อสู้กลับ เขาคงพ่ายแพ้
ถึงอย่างนั้นหวังหลินก็ไม่ได้โต้กลับอะไรนัก เขาจดจำใบหน้าของศิษย์ทุกคนที่มองต่ำมาที่เขาและวางแผนแก้แค้นเมื่อหวังหลินแข็งแกร่งเพียงพอ
ด้วยการคิดแบบนี้เขาจึงทำเป็นหูหนวกตาบอดและเริ่มตักน้ำต่อเนื่องทุกๆวันขณะเดียวกันก็ศึกษาหินลูกปัดไปด้วย
หวังหลินได้ทดลองจุ่มลูกปัดกับของเหลวชนิดอื่น เขาพยายามจุ่มลงบนหยดน้ำค้าง น้ำพุ เงื่อ และกระทั่งเลือด ในตอนท้ายเขาก็พบวิธีที่ดีที่สุดคือการใช้น้ำค้าง
แต่น้ำค้างมีหลายชนิดที่นี่ น้ำค้างที่หยดลงบนหินลูกปัดในตอนเช้าจะดีที่สุด ตามด้วยน้ำค้างที่หยดออกมาในตอนกลางคืน ถ้าเก็บน้ำค้างจากที่อื่นนอกจากนี้มันจะไม่ค่อยมีผลนัก
นอกจากที่ดีที่สุดก็ยังมีตอนที่เขาผสมมันกับน้ำพุ เลือด และเหงื่อจะแย่ที่สุด ซึ่งไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เพื่อไม่ให้ดึงดูดความสนใจของคนอื่นๆ เขาพบน้ำเต้าขนาดเล็กในป่าและทำมันให้เป็นโพรงเพื่อเก็บหยดน้ำค้างเอาไว้
เขาไม่ได้นำน้ำเต้านี้ไปด้วยกัน แต่เขาได้ซ่อนมันไว้ในสถานที่ห่างไกล เขาจะนำมันออกมาเมื่อออกมาตักน้ำและไม่เคยนำกลับไปที่สำนัก
เขาหยิบน้ำเต้ามาตอนที่เขาทำงานเท่านั้น เมื่อเขาเหนื่อยเขาจะดื่มมันอึกนึงและรู้สึกสดชื่นขึ้นอย่างรวดเร็ว
นอกจากนั้นหวังหลินยังพบปรากฎการณ์อันแปลกประหลาด เมื่อตอนดึกหรือตอนเช้าที่น้ำค้างปรากฎบนลูกปัดหิน มันดูเหมือนจะมีหยดน้ำจำนวนมากบนนั้นแต่เมื่อเขากำลังจะเก็บมันไป เขาเก็บได้เพียงหนึ่งในสิบเท่านั้นแล้วมันก็หายไปหมด
จากปรากฎการณ์แปลกประหลาดนี้ หวังหลินจึงพูดได้เพียงว่าหินลูกปัดได้ดูดซับน้ำค้างไป แม้ว่าคำอธิบายเช่นนี้จะไร้สาระไปหน่อย แต่เขาก็คิดอะไรอื่นไม่ออก
วันนี้ในเวลาค่ำ หวังหลินได้เติมถังน้ำสามถังที่เหลือและพูดกับศิษย์ชุดเหลืองขณะที่กำลังทำสมาธิว่า “พี่ลิ่ว ข้าจะกลับบ้านสักหน่อยเพราะงั้นพรุ่งนี้คงมาไม่ได้”
หนุ่มลิ่วเปิดเปลือกตาขึ้นและมองไปที่หวังหลินก่อนจะถอนหายใจ
หวังหลินไม่สน เขาเรียนรู้มาจากจางอู่ว่าศิษย์สายนอกสามารถกลับบ้านได้สามครั้งต่อปี ทั้งหมดที่เขาต้องทำคือขออนุญาตผู้อาวุโสซุน
หวังหลินจำได้ว่าวันเกิดพ่อของเขากำลังมาถึง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเขาต้องกลับไปให้ได้ หลังจากทำงานน่าเบื่อนี่เสร็จ เขาเดินไปที่ผู้อาวุโสผู้รับผิดชอบศิษย์สายนอก
สำนักเหิงยั่วแบ่งออกเป็น 6 สำนักแต่ละสำนักแบ่งย่อยเป็น 5 เขตการปกครอง มีธาตุ เงิน ไม้ น้ำ ไฟและดิน แต่ละธาตุมีศิษย์สายนอกของตัวเอง ศิษย์สายในและผู้อาวุโสจะอาศัยในลานหลัก ตอนที่เขาผ่านเพื่อไปตักน้ำ หวังหลินมองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉา หลังจากหวังหลินมาถึงที่ลานหลัก เขามองไปรอบๆจากนั้นตะโกนขึ้น “ศิษย์สายนอกหวังหลินขอเข้าพบผู้อาวุโสซุน”
ชายหนุ่มสวมชุดขาวเดินออกมา เขามองไปที่หวังหลินครู่นึงและพูดอย่างจองหอง “เจ้าคือหวังหลิน?”
ชายชุดขาวมองไปหยังเด็กหนุ่ม หัวใจของหวังหลินบีบรัดเมื่อเขาพยักหน้า
หวังหลินรู้มาว่าที่สำนักเหิงยั่วจะแบ่งระดับของศิษย์ตามสีต่างๆจากชุดที่สวมใส่ ศิษย์สายนอกได้แบ่งเป็นสีเทาและเหลือง สีเหลืองคือสามารถเริ่มต้นฝึกทักษะเซียนได้ ศิษย์สายในแบ่งระดับจากความแข็งแกร่งจากสูงไปต่ำคือ ม่วง ดำ ขาว และแดง
ชายหนุ่มมองที่หวังหลินอย่างใจเย็นก่อนจะมองไปรอบๆและเดินกลับเข้าลานกลาง หวังหลินเดินพยายามเดินก้าวตามเขาให้ทัน
หลังจากเดินผ่านเข้ามาในลานกลางชั่วครู่ เขาก็มาถึงบ้านหลังหนึ่งที่เต็มไปด้วยดอกไม้ ชายหนุ่มชุดขาวพูดอย่างขี้เกียจ “อาจารย์ซุน ศิษย์ลับคนหนึ่งมาที่นี่เพื่อขอเข้าพบท่าน”
หลังจากพูดจบเขาก็เดินออกไปยืนด้านข้าง
เสียงแหบแห้งดังออกมาทางสวน “เจ้าไปได้แล้ว ศิษย์สายนอกเข้ามานี่”
หนุ่มชุดขาวหัวเราะและเดินจากไป
หวังหลินกังวลภายในใจ เขาผลักประตูเพื่อเปิดเข้าไปใ ขณะนั้นเขาได้เข้าไปในสวนที่ถูกตีกันด้วยกลิ่นสมุนไพรหลากหลายชนิด เมื่อหันไปรอบๆและมองไปที่ประตูก็งุนงงว่าทำไมไม่ได้กลิ่นออกไปข้างนอกสักนิด
หวังหลินรู้สึกหลอน เขาเปิดประตูสวนดอกไม้เข้าไปและรู้สึกถึงกลิ่นหอมเข้าจมูก เมื่อมองกลับหลังไปที่ประตูก็งุนงงว่าทำไมกลิ่นถึงไม่ออกไปนอกไปข้างนอก
เสียงหนึ่งดังออกมาจากห้องมุมหนึ่งในสวนพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ “เจ้ามายืนทำอะไรตรงนี้? รีบเข้าและพูดชื่อเจ้าซะ”
หวังหลินรีบพูดขึ้นทันที “ศิษย์หวังหลินมาที่นี่เพื่อพบผู้อาวุโสซุน พรุ่งนี้เป็นวันเกิดพ่อข้า ศิษย์คนนี้สัญญาไว้ว่าจะกลับบ้านเพื่อไปเยี่ยม”
น้ำเสียงดุดังขึ้น “เจ้าคือหวังหลิน? มันเป็นเจ้านี่เอง ฮึ่ม ผู้ที่ฝึกฝนเพื่อจะเป็นเซียนได้นั้นต้องละทางโลกให้ได้ ไม่เช่นนั้นในชั่วชีวิต เจ้าจะไม่ได้เป็นเซียนอีกเลย!”
หวังหลินคิ้วขมวดอย่างช่วยไม่ได้แต่เขาพูดขึ้น “ศิษย์ยังไม่ได้ฝึกทักษะเซียนใดๆเลย แล้วศิษย์จะเดินบนเส้นทางเซียนได้อย่างไร?”
ผู้อาวุโสหยุดชั่วครู่และพูดอย่างใจร้อน “เจ้ามีเวลาสามวันแล้วรีบกลับมาให้ไวหละ นี่เป็นยันต์เซียนพันลี้สามารถใช้ได้สองครั้ง มันจะเพิ่มความเร็วให้เจ้าอย่างมาก” จากนั้นได้มีกระดาษเหลืองโง่ๆบินออกมาจากหน้าต่างและตกลงใกล้กับหวังหลิน
หวังหลินหยิบยันต์เซียนขึ้นมา เขารู้มาจากจางอู่ว่าเหล่าศิษย์สามารถกลับไปเยี่ยมบ้านได้โดยรับยันต์นี้ไป เป้าหมายของสำนักง่ายมากคือแสดงให้เห็นถึงทักษะเซียนและสมบัติที่เหล่าผู้เยาว์ได้รับ
ยันต์เซียนนี้ความจริงมีคุณภาพต่ำมากถึงมากที่สุด แต่กลับกันที่มันก็ใช้ง่ายที่สุดด้วยเช่นกัน แค่เอามันไปแปะไว้ที่ขา คนธรรมดาก็เพิ่มความรวดเร็วได้แล้ว
ถึงอย่างนั้นพวกศิษย์สายนอกหลายคนต่างเก็บมันไว้เพราะว่าได้ยินมาว่าสามารถใช้แลกเปลี่ยนสิ่งของในโลกข้างนอกได้ ศิษย์หลายคนใช้ข้ออ้างกลับบ้านก็เพื่อสะสมยันต์เซียน
หลังจากเดินออกจากลานกลาง หวังหลินตรงกลับไปที่ห้องของตัวเอง หลังจากกล่าวลาจางอู่เขาก็ลงจากเขาทันที
เวลานี้ดวงดาวฉายแสงอยู่เต็มท้องฟ้า หวังหลินต้องการถึงบ้านในวันพรุ่งนี้แต่เขาไม่ต้องการใช้ยันต์เซียนและกลัวว่าจะพลาดงานวันเกิดบิดา ดังนั้นเขาจึงออกจากที่นี่ในตอนกลางคืน
ไม่นานหลังจากที่หวังหลินออกไป ผู้อาวุโสซุนออกมาจากห้องของตัวเองเพื่อเก็บสมุนไพรแต่เขาก็ต้องตกใจในทันที จ้องมองไปที่ประตูทางเข้า เหล่าสมุนไพรสีน้ำเงินที่ปลูกไว้ที่นี่ได้แห้งเหี่ยวทั้งหมด