1235. รวบรวมอสูรยุงแดง
รอยแยกเข้าสู่แดนสวรรค์วายุดูเหมือนจะถูกใครสักคนเปิดออกมาด้วยกำลัง และมันจะกลืนกินสิ่งมีชีวิตทั้งหมดอย่างดุร้าย ตอนที่หมอกสีแดงถูกพ่นออกมาและมีอสูรยุงแดงปรากฏ หวังหลินอัญเชิญอสูรยุงของตัวเองออกมาโดยไม่ลังเล
ตามที่เขาคาดการณ์ อสูรยุงสีทองอ่อนของเขามีอำนาจเหนืออสูรยุงสีแดงนับร้อยพวกนี้โดยใช้กลิ่นอายและสัมผัสพิเศษได้ทันที ซึ่งทำให้อสูรยุงบินอยู่รอบๆเขา
ระดับระหว่างเหล่าอสูรยุงนั้นเข้มงวดมาก เพียงแค่หนึ่งระดับก็ถือว่ามีพลังเหนือกว่าระดับล่างแล้ว ดังเช่นหลี่หยวนเล่ยและพรรคพวกเห็น พวกอสูรยุงสีแดงกลุ่มนี้ทำท่าทีเหมือนกำลังทักทายราชาของพวกมัน
อย่างไรก็ตามพวกมันไม่ได้ทักทายหวังหลิน แต่เป็นราชาอสูรยุงด้านล่างเขา
หลังจากเข้ามาในรอยแยก สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าหวังหลินเป็นเหมือนกับสิ่งที่เขาเห็นด้วยสัมผัสวิญญาณ ทั้งโลกถูกปกคลุมด้วยแสงสีเหลือง แต่มันไม่ได้ปกคลุมไปทุกอย่าง มีหมอกสีแดงลอยอยู่ในอากาศด้วยความประหลาด มันกำลังเคลื่อนตัวด้วยความเร็วน่าตกตะลึงเนื่องมาจากสายลม
หลังจากเข้ามาในแดนสวรรค์วายุ หวังหลินสัมผัสถึงพลังปราณสวรรค์หนาแน่นในสายลมได้ทันที แม้มันจะตกอยู่ในซากปรักหักพังแต่ถูกรักษาไว้อย่างดี ยิ่งเข้าไปลึกก็ยิ่งเป็นความจริง
สิ่งที่หวังหลินสัมผัสได้มากที่สุดก็คือสายลม! สายลมไร้ที่สิ้นสุด สายลมไร้ขอบเขต!
ในแดนสวรรค์วายุมีสายลมอยู่ทุกที่ บนพื้นไม่มีฝุ่นเลยราวกับถูกสายลมพัดพาออกไปหมด เสื้อผ้าบนร่างเขาพัดกระพือจนเกิดเสียง เส้นผมสีขาวเต้นระบำอยู่ในอากาศ บางครั้งสายลมก็เบา บางครั้งก็รุนแรง ตอนเบามันราวกับมีมือขนาดเล็กมากมายเข้ามาปัดเป่าอย่างอ่อนโยน
แต่หากรุนแรงมันเหมือนกับค้อนทุบลงมาใส่ สามารถทำให้ร่างแตกสลายและวิญญาณดั้งเดิมเสียหายได้
แดนสวรรค์วายุคู่ควรกับชื่อของมันจริงๆเพราะมันเต็มไปด้วยสายลม! ราวกับมีรูหนึ่งเปิดขึ้นมาและมีสายลมที่รวบรวมไว้มานานหลายปีถูกปลดปล่อย!
ความอ้างว้างและโดดเดี่ยวเป็นสิ่งแรกที่หวังหลินรู้สึกเมื่อเข้ามาในแดนสวรรค์วายุ เขาหลับตาลงพร้อมกับสายลมพัดผ่านบนใบหน้า
หวังหลินเดินทางไปข้างหน้าโดยมีอสูรยุงเกือบร้อยตัวล้อมรอบ พวกมันร้องคำรามดังกึกก้อง ราชาอสูรยุงใต้หวังหลินเผยท่าทางตื่นเต้น มันส่งเสียงซี่ๆสั่นสะเทือนพื้นดินดังก้องไปทั่วดินแดน
ก้อนเมฆสีแดงถูกสายลมผลักไปไกลพลันแตกสลาย ลำแสงสีแดงอีกร้อยจุดลอยออกมาเปลี่ยนเป็นอสูรยุงดุร้าย
สายตาอสูรยุงเหล่านี้ต่างก็จับจ้องไปที่ราชายุงด้านล่างหวังหลิน พวกมันเริ่มร้องคำราม ทว่าเสียงคำรามเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและมีเจตนายอมจำนน
หวังหลินดวงตาส่องสว่าง เขาค้นพบว่ามีบางอย่างประหลาดเกี่ยวกับอสูรยุงในแดนสวรรค์วายุ แม้พวกมันจะดุร้ายแต่มีพลังปราณสวรรค์ในร่างน้อยนิด ซึ่งอธิบายได้ง่ายๆว่าพวกมันอาศัยอยู่ในแดนสวรรค์มานานมากจนพลังปราณสวรรค์รวบรวมในร่างอย่างเป็นธรมชาติ
แต่สิ่งที่ทำให้หวังหลินสนใจจริงๆก็คือความแข็งแกร่งของอสูรยุงสีแดง เขาเคยเห็นอสูรยุงสีแดงมาก่อนในดินแดนวิญญาณปีศาจ แต่ด้วยถิ่นที่อยู่พวกมันจึงไม่ได้แข็งแกร่งนัก อย่างไรก็ตามอสูรยุงเพียงตัวเดียวที่นี่กลับมีความแข็งแกร่งเทียบเท่าเซียนขั้นส่องสวรรค์
อสูรยุงสีแดงเข้มบางตัวเทียบเท่ากับเซียนขั้นส่องสวรรค์ระดับปลาย!
การค้นพบนี้ทำให้หวังหลินตื่นเต้น! แม้จะมีอสูรยุงเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นที่มีระดับเท่ากับเซียนขั้นส่องสวรรค์ระดับปลาย หวังหลินสังเกตว่านี่มันแค่เขตชั้นนอกของแดนสวรรค์วายุเท่านั้น!
อสูรยุงสีแดงเป็นระดับชั้นล่างสุดของกลุ่มอสูรยุง! หวังหลินเข้าใจว่าเหล่าเซียนด้านนอกรอยแยกคงไม่ต้องกังวลเรื่องอสูรยุงนักหากไม่ได้อยู่ใกล้รอยแยก เพราะพวกอสูรยุงนี้ไม่ได้แข็งแกร่งมาก อย่างไรก็ตามเพราะพวกเขาอยู่นอกรอยแยกจึงต้องถอยร่น หากสิ่งที่รอพวกเขาอยู่ในแดนสวรรค์คงจะเป็นอสูรยุงอีกนับไม่ถ้วนที่ไล่ล่า
เพียงแค่เสียงซี่ๆจากยุงเพียงตัวเดียวก็ทำให้อสูรยุงนับหมื่นตัวพุ่งออกมาจากแดนสวรรค์ได้แล้ว
ความจริงนั้นอสูรยุงเป็นสัตว์ที่มีสายพันธุ์ที่ประหลาดมาก ราชาอสูรยุงบางแห่งไม่ได้แข็งแกร่งที่สุด แต่เป็นองครักษ์เสียเองที่แข็งแกร่งกว่าราชายุง
อย่างไรก็ตามราชายุงมีความสามารถที่เป็นเอกลักษณ์และนั่นก็คือการปรับเปลี่ยนโครงสร้าง! อสูรยุงแทบทุกตัวถือกำเนิดขึ้นมาด้วยขีดจำกัดที่ไม่สามารถทะลวงต่อได้ หากพวกมันเกิดเป็นสีแดงก็จะเป็นจนตาย ส่วนใหญ่พวกมันแค่เพิ่มไปได้แค่สีแดงเข้มเท่านั้น
เมื่อพวกมันผ่านการปรับเปลี่ยนโครงสร้าง อสูรยุงก็จะได้รับสิทธิ์ในการกลายเป็นราชาเผ่า แม้อาจจะไม่แข็งแกร่งในตอนเริ่มต้น สุดท้ายแล้วมันจะเป็นตัวที่แข็งแกร่งที่สุด!
สิ่งสำคัญยิ่งก็คือ เมื่ออสูรยุงผ่านการปรับเปลี่ยนโครงสร้างไปแล้วครั้งนึง มันจะปลดปล่อยแรงกดดันที่ส่งผลกระทบต่อวิญญาณไปตามธรรมชาติ หากมีอสูรยุงอีกตัวแข็งแกร่งกว่า ตราบใดที่ความแตกต่างไม่มากเกินไป พวกมันจะต้องเชื่อฟังภายใต้แรงกดดันนี้
เมื่อแรงกดดันของราชาอสูรยุงสองตัวมาเจอกัน จะเกิดการเปลี่ยนแปลงรุนแรงขึ้นซึ่งอาจจะเข้ากันได้หรือไม่ก็เริ่มต่อสู้เป็นตายเลยก็มี ผู้ชนะได้กลืนกินผู้แพ้และเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นมหาศาล!
อสูรยุงที่เหลือจะไม่เข้าร่วมการต่อสู้ระหว่างสองราชา ฝ่ายอสูรยุงที่เป็นของผู้แพ้จะมาอยู่ใต้อำนาจผู้ชนะ
หวังหลินเตรียมการไว้จำนวนมากและค้นคว้าเรื่องอสูรยุงมาก่อนที่จะเข้าแดนสวรรค์วายุ เมื่อราชาอสูรยุงร้องออกมา เหล่าอสูรยุงสีแดงหลายร้อยตัวบินเข้ามาหาทันที
รอบๆหวังหลินมีอสูรยุงเกือบสองร้อยตัว และมีอยู่สิบตัวเป็นสีแดงเข้ม
แค่นี้ยังห่างไกลกับที่ต้องการ เป้าหมายของหวังหลินคือรวบรวมอสูรยุงทรงพลังให้มากขึ้นลึกเข้าไปในแดนสวรรค์! เขานึกถึงอสูรยุงตัวสีม่วงเข้มที่โผล่ออกมาจากดาวลึกลับในความทรงจำของตู่ซือ อสูรยุงพวกนั้นสามารถทำให้คนทรงพลังเช่นตู่ซือต้องหลบหนี แค่คิดก็ทำให้หวังหลินตื่นเต้นแล้ว
นี่คือเหตุผลหลักที่เขาบังคับให้ราชายุงผ่านการปรับเปลี่ยนโครงสร้าง!
พอมองอสูรยุงสีแดงเข้มทั้งสิบตัว หวังหลินดวงตาส่องสว่าง ขบคิดเล็กน้อย ไม่ได้เข้าไปลึกกว่านี้แต่วนอยู่รอบๆขอบนอกของแดนสวรรค์
ผ่านไปอีกหลายชั่วโมง หวังหลินเดินทางไปรอบๆพร้อมกับมีอสูรยุงสองร้อยตัวและเห็นกลุ่มเมฆหมอกสีแดงอีกหนึ่งกลุ่มอยู่ไกลๆ พอเห็นหมอกสีแดง หวังหลินดวงตาส่องสว่าง ราชายุงข้างใต้เขาพุ่งออกไปและส่งเสียงร้องคำรามใส่หมอกสีแดง
ภายใต้อำนาจเสียงคำราม หมอกสีแดงขนาดใหญ่หยุดลงทันทีแตกพังทลายกลายเป็นอสูรยุงสีแดงเกือบร้อยตัว พวกมันมุ่งหน้ามาหาราชายุง หลังจากดิ้นรนเพียงชั่วครู่ก็ยอมจำนนทันที
หวังหลินกวาดสายตาผ่านพวกมันไป เขาพบอสูรยุงสีแดงเข้มอยู่หกตัวและจึงตื่นเต้นไปอีก หวังหลินรู้สึกว่าขณะที่ราชายุงรวบรวมฝูงให้มากขึ้น ความแข็งแกร่งโดยรวมของเขาก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ตอนนี้เขามีอสูรยุงเกือบสามร้อยตัวที่มีระดับเท่ากับเซียนขั้นส่องสวรรค์ และมีสิบหกตัวที่มีระดับเท่ากับเซียนขั้นส่องสวรรค์ระดับปลาย ด้วยกองกำลังนี้หวังหลินไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวก็สามารถฆ่าเซียนขั้นชำระสวรรค์ได้ทันที!
‘สามร้อยตัวยังน้อยเกินไป ข้าจำเป็นต้องได้มากกว่านี้! หากข้ามีอสูรยุงสีแดงสักพันตัวที่เทียบเท่าขั้นส่องสวรรค์ เมื่อนั้นแม้แต่เซียนขั้นทลายสวรรค์ก็คงไม่สามารถหนีไปจากข้าได้! หากข้ารวบรวมได้สักหมื่นตัว…แม้แต่ขั้นทลายสวรรค์ระดับปลายจะหนีไปไหนได้อีก!’
‘หากข้ามีสักแสนตัว เซียนขั้นทะลวงสวรรค์จะเป็นไงเล่า ถ้าข้ามีหนึ่งล้านตัว สิบล้านตัว…’ หวังหลินต้องรออีกนานกว่าให้ถึงวันนั้น
เขาสูดหายใจลึกพลางเหาะเหินออกไปไกลพร้อมกับอสูรยุงสามร้อยตัว ปีกพวกยุงทำให้เกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วดินแดนและปลดปล่อยแรงกดดันทรงพลัง
ดวงตาหวังหลินเป็นประกาย เคลื่อนตัวไปรอบๆเขตนอกของแดนสวรรค์ ใช้เวลาไม่นานเขาก็เจอหมอกสีแดงอีกหนึ่งกลุ่มถูกสายลมพัดมา แรงกดดันของราชายุงแพร่กระจายออกไปทำให้หมอกสีแดงหยุดชะงักทันที วินาทีต่อมาสายหมอกแตกสลายกลายเป็นฝูงยุงจำนวนมาก คราวนี้มีลำแสงสีแดงสองสายพุ่งออกไป พวกมันไม่ได้พุ่งไปหาหวังหลินแต่รีบถอยพร้อมกับสายตาดิ้นรน
หวังหลินดวงตาส่องสว่าง ราชายุงข้างใต้เขาพุ่งเข้าหาอสูรยุงสีน้ำตาลแดงสองตัวที่กำลังถอย มันส่งเสียงร้องคำราม แรงกดดันของราชายุงกวาดผ่านพื้นที่ไป
เมื่อแรงกดดันตกลงไป อสูรยุงสีน้ำตาลแดงสั่นสะท้านและเริ่มส่งเสียงซี่ๆ วินาทีต่อมาอาการดิ้นรนหายไปและยอมจำนน พวกมันบินมาอยู่ข้างๆราชายุง
สัมผัสวิญญาณหวังหลินกวาดผ่านใส่อสูรยุงสีน้ำตาลแดงทั้งสองตัว ใบหน้าเขาส่องสว่างขึ้น ทั้งสองตัวนี้แทบจะมีระดับเกือบเท่าเซียนขั้นส่องสวรรค์สูงสุด กลิ่นอายดุร้ายของพวกมันทำให้ดุร้ายยิ่งขึ้นและดูน่าหวาดกลัว
‘ตอนนี้สี่ร้อยตัวแล้ว!’ หวังหลินมองฝูงอสูรยุงหนาแน่นรอบๆตัว อารมณ์ของเขาดีขึ้นเรื่อยๆพลางมองอสูรยุงสีน้ำตาลแดงสองตัวและอสูรยุงสีแดงเข้มเกือบยี่สิบตัว
เขาไม่ได้เร่งรีบเข้าส่วนลึกของแดนสวรรค์วายุ ดังนั้นจึงวนเป็นวงกลมอยู่เขตชั้นนอก ระหว่างทางหวังหลินเจอเมฆหมอกสีแดงพร้อมกับมีอสูรยุงจำนวนมากข้างใน เมื่อพวกมันเจอราชายุงของหวังหลิน พวกมันเกิดอาการสั่นเทาและล้อมรอบหวังหลิน สองวันถัดมาหวังหลินได้รับอสูรยุงเกือบพันตัว พวกอสูรยุงดุจก้อนเมฆสีแดงที่กำลังปกคลุมน่านฟ้า