Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1246

Cover Renegade Immortal 1

1246. อสูรยุงฝืนลิขิตฟ้า

หวังหลินยืนขึ้นมองดูเบื้องหน้าก่อนที่สายตาจะร่อนลงบนลี่หยวนเล่ยและพรรคพวก พวกเขาพึ่งฟื้นคืนจากสภาวะน่าหวาดกลัวนั่น และสายตาหวังหลินทำให้พวกเขาตกตะลึงทั้งเกิดความรู้สึกหวาดกลัวในใจ

อสูรยุงรอบด้านดูไม่น่ากลัวเลยเมื่อเทียบกับชายชุดขาวคนนี้ หากพวกเขามีตัวเลือกคงยอมสู้กับอสูรยุงจนตายดีกว่ามาเจอฉากเหตุการณ์ประหลาดนั่น

หลังจากผ่านไปสักพัก หวังหลินถอนสายตาและก้าวเข้าไปในอากาศ ราชายุงตามไปด้วยความรู้สึกว่าทำบางสิ่งผิดพลาดไป พวกอสูรยุงนับพันที่ล้อมรอบลี่หยวนเล่ยจึงค่อยๆตามกันไป

“พวกเจ้าไม่ควรอยู่ที่นี่ ไปซะ” จนเมื่อหวังหลินจากไปแล้ว คำพูดของเขาจึงดังกึกก้องในท้องฟ้า

ลี่หยวนเล่ยและพรรคพวกมองหน้ากันเอง หลังจากขบคิดอยู่สักพัก ความรู้สึกของการพึ่งผ่านพ้นหายนะจึงเข้าเกาะกุมจิตใจ พวกเขานึกย้อนไปถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและไม่วางแผนจะอยู่ต่อแล้ว ความเคารพต่อหวังหลินยิ่งเพิ่มพูน

ทั้งหมดโค้งคำนับไปทางที่หวังหลินไปและรีบออกไปจากที่นี่ แม้พวกเขาจะมาที่นี่ด้วยความสนใจแต่ก็ไม่ได้นำประตูหินมาใส่ใจหรือทำความเข้าใจแดนสวรรค์วายุ สิ่งที่พวกเขานำกลับไปด้วยคือร่างของหวังหลินและความรู้สึกหวาดกลัวไปพร้อมกัน

และคำสองคำใจความว่า “ห้วงเวลา”

“ห้วงเวลา…” หวังหลินพึมพำกับตัวเองพลางนั่งอยู่บนหลังราชายุง ในใจเขามีทะเลที่มาจากวิชาแยกราตรี และหลังจากแยกทะเลก็คือห้วงเวลา!

ทว่าหวังหลินไม่ได้เข้าใจวิชาที่สองนี้อย่างเต็มที่ เขาทำความเข้าใจต่อไปและทำการพิสูจน์มันก่อนที่จะสามารถสร้างมันขึ้นมาได้

‘เวลาที่มีตอนนี้สั้นเกินไป หากข้าอยู่ต่อไปอาจจะมีโอกาสคว้ากฎที่เก้ามาได้ แต่ตอนนี้สัญญาที่มีต่อสำนักต้นกำเนิดก็กระชั้นเข้ามาแล้ว…’ หวังหลินมองกลับไปยังโลกด้านหลัง เขาใช้เวลาทำความเข้าใจมาสิบวัน การแข่งขันระหว่างสำนักระดับแปดคงเริ่มมาได้พักใหญ่แล้ว

“ช่างมันเถอะ ข้าจะออกไปในอีกสามวัน ข้าจะทำตามสัญญาที่ให้กับสำนักต้นกำเนิด และค่อยกลับมาที่นี่อีกครั้ง” หวังหลินดวงตาส่องสว่างและส่งข้อความออกไป ราชายุงร้องคำราม บินเข้าไปในส่วนลึกของแดนสวรรค์วายุ

‘ข้าอยากจะเห็นว่าอสูรยุงในส่วนลึกของแดนสวรรค์มีมากมายแค่ไหน!’ ดวงตาหวังหลินเป็นประกายพลางพุ่งเข้าไปในส่วนลึกของแดนสวรรค์พร้อมกับเหล่ายุงนับพันที่ก่อตัวเป็นเมฆสีแดง

หวังหลินไม่รั้งความเร็วของราชายุงเอาไว้ แต่ฝ่ามือสร้างผนึกขึ้นอย่างต่อเนื่องและชี้ใส่ร่างตนเอง วางเขตอาคมจำนวนมากและผนึกกลิ่นอายไว้อย่างสมบูรณ์ ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาหลายชั่วโมง ฝ่ามือหวังหลินไม่หยุดชะงักและมีเขตอาคมปรากฏออกมามากยิ่งขึ้น ท้ายที่สุดเขาก็ปกคลุมอยู่ในเขตอาคมอย่างสมบูรณ์

นี่คือเหตุผลที่ทำให้เขาสบายใจจนพุ่งเข้าไปในส่วนลึกของแดนสวรรค์ได้พร้อมกับราชายุง

ยามที่เหล่าอสูรยุงร้องคำราม มันส่งเสียงราวกับสายลมหวน หวังหลินค่อยๆพุ่งเข้าไปพื้นที่ชั้นในของแดนสวรรค์ต่อจากนั้น

ผ่านไปหนึ่งวัน ชิ้นส่วนของแดนสวรรค์ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าหวังหลิน พวกมันมีหลากหลายขนาดแต่เผยความโดดเดี่ยวอ้างว่าง แทบจะไม่มีเซียนคนใดมาที่นี่เลย

ขณะที่เดินทางไปข้างหน้า สายลมยิ่งรุนแรงมากขึ้น หวังหลินเห็นกลุ่มอสูรยุงกำลังบินผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นสีแดงแต่ยังมีอสูรยุงสีฟ้าเกือบพันตัวในกลุ่มและมีตัวสีขาวด้วย หวังหลินไม่ยอมใช้ราชายุงเรียกพวกมันเข้ามา อีกทั้งการมีอสูรยุงสีขาวถือได้ว่าประสบความสำเร็จได้ยาก

อีกทั้งพวกอสูรยุงที่นี่เป็นกลุ่มก้อนหนาแน่น ดังนั้นก่อนที่เขาจะทำให้กลุ่มเดียวอ่อนแอลงได้สำเร็จ อีกกลุ่มคงมาถึงแล้ว

พอเพ่งสมาธิตัวเอง หวังหลินจึงสัมผัสการสั่นสะเทือนและสายตาเย็นเยียบของราชายุงได้ แขนขวาจึงตบศีรษะมันเบาๆ เจ้าราชายุงร้องคำราม บินออกไปพร้อมกับฝูงยุง

หวังหลินเห็นเหล่าอสูรยุงมากขึ้นและมากขึ้น พวกมันไม่ได้หลักพันตัวแล้วแต่เป็นหลักหมื่นตัว มีอสูรยุงสีฟ้ามากมายและมีอสูรยุงสีขาวหลักร้อยตัว

พอเห็นเช่นนี้หวังหลินสูดหายใจลึกและศีรษะด้านชา โชคดีที่อสูรยุงพวกนี้ไม่ได้หยุดชะงัก พวกมันเคลื่อนไปพร้อมกับสายลมราวกับกำลังเดินเล่น อย่างไรก็ตามเสียงคำรามที่โผล่ออกมาจากพวกมันก็ทำให้ใครต่อใครจิตใจสั่นสะท้าน

นี่ยังไม่ใช่ส่วนที่ลึกที่สุดของแดนสวรรค์วายุ มันเป็นแค่ขอบๆของเขตชั้นใน อย่างไรก็ตามแค่นี้ก็มีอสูรยุงมากกว่าแสนตัวแล้ว

‘หากข้าสามารถควบคุมยุงพวกนี้ได้หมด…’ หวังหลินเผยแววตาเป็นประกายลึกลับพลางเหาะเหินเข้าสู่ส่วนลึกไปพร้อมกับราชายุง

วินาทีนั้นเองราชายุงเกิดร่างสั่นเทาและชะลอตัวลง มันเผยสายตาดุดันและจ้องมองข้างหน้าอย่างดุร้าย เหนือเส้นขอบฟ้ามีอสูรยุงสีม่วงสองตัวกำลังบินเข้ามา พวกมันมีสถานะประหลาดราวกับใกล้ชิดกันมาก หากไม่มองดีๆคงบอกไม่ได้ว่ามันคือยุงสองตัว

อสูรยุงสีม่วงสองตัวมีกลิ่นอายของเซียนขั้นทลายสวรรค์ระดับปลายซึ่งใกล้เคียงกับทลายสวรรค์ขั้นแรก อสูรยุงทั้งหมดในเส้นทางทั้งสองตัวต่างก็ล่าถอย

มีอสูรยุงกว่าหมื่นตัวที่กำลังเคลื่อนไปตามลม แต่ขณะที่ยุงสีม่วงสองตัวผ่านเข้ามา ส่งเสียงซี่ๆทำให้ฝูงยุงกระจายตัวเป็นทางให้มันผ่านทันที

มียุงสีแดงตัวหนึ่งที่เคลื่อนตัวออกจากเส้นทางช้าเกินไป อสูรยุงสีม่วงสองตัวดูเหมือนจะกระแทกใส่มันไปพร้อมกัน

ปัง

อสูรยุงสีแดงระเบิดกลายเป็นกองโลหิตจนเกิดเสียงดังปัง สองอสูรยุงสีม่วงไม่หยุดแค่นั้น พวกมันผ่านฝูงยุงของหวังหลินด้วย

หวังหลินดวงตาส่องสว่าง เขาหันกลับไปมองอสูรยุงสีม่วงสองตัวที่กำลังบินเข้ามาจากระยะไกล หลังจากนั้นสักพักหันตัวกลับมาและสั่งการให้ราชายุงบินเข้าไปในส่วนลึกยิ่งขึ้นของแดนสวรรค์วายุ

ยิ่งเดินทางต่อไปก็ยิ่งใกล้กับส่วนลึกของแดนสวรรค์ หวังหลินคาดคำนวณว่ามีพวกมันอย่างน้อยแสนตัว จากนั้นเขาก็เห็นแผ่นดินสามแห่งในส่วนลึกของแดนสวรรค์!

ด้านนอกแผ่นดินทั้งสามคือแผ่นดินอีกเก้าแห่งที่กำลังลอยอยู่รอบๆราวกับพวกมันกำลังคุ้มกันพื้นที่ชั้นใน แผ่นดินทั้งเก้านี้แปลกประหลาดยิ่ง พวกมันมีสีสันที่แตกต่างกันเริ่มตั้งแต่ชั้นนอกสุดคือสีแดง จากนั้นสีฟ้า สีขาว ม่วง และท้ายที่สุดซึ่งไม่คาดคิดคือมีสีทองอยู่ตรงใจกลาง!

พวกมันเป็นแค่แผ่นดินชั้นนอกสุดทั้งเก้า ส่วนแผ่นดินชั้นในอีกสามแห่งถูกห่อหุ้มด้วยพลังลึกลับบางอย่าง หวังหลินมองเห็นอย่างพร่าเลือนจึงไม่อาจเห็นสิ่งที่อยู่ข้างในได้

อย่างไรก็ตามขณะที่เขามองเข้าไป เสียงคำรามหนึ่งดังกึกก้องไปทั่วผืนฟ้า หนึ่งในแผ่นดินทั้งเก้าที่ใกล้หวังหลินที่สุดเริ่มสั่นสะเทือนและมีกลิ่นอายคลุมเครือระเบิดออกมา

ขณะเดียวกันแผ่นดินก็สั่นเทา แผ่นดินนี้มีขนาดใหญ่มากกว่าโม่หลัว ปลายขอบพลันแตกหัก มีอสูรยุงสีแดงนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นและกระจายตัวออกมา

หลังจากนั้นไม่นานก็มีอสูรยุงสีฟ้ามากมายกระจายตัว จากนั้นเป็นสีขาวและสีม่วง ท้ายสุดเป็นอสูรยุงสีทองหลายสิบตัว

ฉากเหตุการณ์นี้ทำให้ศีรษะหวังหลินด้านชาอย่างแท้จริง เขากระทั่งลืมหายใจ!

แผ่นดินนี่มันอะไร? เห็นได้ชัดว่าแผ่นดินไร้ขอบเขตนี้เกิดขึ้นมาจากอสูรยุงนับแสน สามแสนหรือกระทั่งห้าแสนตัวเลยด้วยซ้ำ!

แผ่นดินไม่ได้แตกสลายหรือกำลัวสั่นเทา แต่เป็นอสูรยุงข้างในกำลังเคลื่อนไหว กระจัดกระจายตัวปกคลุมท้องฟ้า!

หากไม่เคยเห็นอสูรยุงหลายแสนตัวปรากฏ คงไม่เข้าใจความตกตะลึงครั้งนี้! พวกอสูรยุงเหล่านี้อยู่ไม่ได้ตัวเล็กอยู่แล้ว ตอนนี้มีหลายแสนตัวปกคลุมทั้งท้องฟ้า หวังหลินรู้สึกว่าทั่วทั้งแดนสวรรค์คงไม่อาจบรรจุอสูรยุงมากมายขนาดนี้ได้!

ไกลสุดลูกหูลูกตาจนเขามองไม่เห็นปลายขอบ ทั้งหมดมีแต่พวกอสูรยุง!

ตอนนี้แม้กระทั่งราชายุงยังสั่นเทาเล็กน้อย ทั้งโลกถูกห้อมล้อมด้วยอสูรยุงมากมายไม่รู้จบ หวังหลินคำนวณไม่ได้ว่าพวกมันมีมากแค่ไหน ก่อนหน้านี้หลักแสนตัวก็ยังพอประมาณได้

แต่ไม่ว่าจะเป็นใครที่เห็นอสูรยุงเหล่านี้ ความคิดคงสั่นสะท้านและศีรษะด้านชา แม้กระทั่งเซียนขั้นที่สามเองก็ตาม!

วินาทีนั้นฝูงอสูรยุงส่วนหนึ่งที่ปกคลุมท้องฟ้าเกิดการเคลื่อนไหวเผยให้เห็นแผ่นดินทั้งสามข้างใน พลังอันลึกลับที่คุ้มครองแผ่นดินทั้งสามด้านในดูเหมือนจะอ่อนลงเล็กน้อยทำให้มันชัดเจนยิ่งขึ้น

หวังหลินเห็นสิ่งที่เขาจะไม่มีวันลืม ใบหน้าเปลี่ยนเป็นขาวซีด สั่งการให้ราชายุงล่าถอยกลับพร้อมกับฝูงโดยไม่มีอาการลังเล

มีรอยร้าวขนาดใหญ่อยู่เหนือแผ่นดินทั้งสาม ราวกับท้องฟ้าฉีกขาดและมีรอยแยกมิอาจบรรยายได้ปรากฏขึ้นมา! แรงกดดันสั่นสะเทือนสวรรค์โผล่ออกมาจากรอยร้าวพร้อมกับอสูรยุงตัวใหญ่ยักษ์มากกว่าแสนฟุตค่อยๆโผล่ออกมาครึ่งตัวราวกับมันพยายามจะออกมา

ปากอันน่าหวาดกลัวของมันดูเหมือนจะแทงเข้าไปในดาวเคราะห์เซียนได้และดูดจนแห้งเหี่ยว!

ขณะที่มันพยายามดิ้นรน เสียงคำรามหนึ่งสะท้อนไปทั่วทั้งแดนสวรรค์วายุได้แพร่กระจาย วินาทีนี้ทั้งแดนสวรรค์สั่นเทาราวกับกำลังล่มสลายอีกครั้ง อสูรยุงทั้งหมดสั่นสะท้านราวกับพวกมันกำลังเคารพบูชา!

แม้กระทั่งราชายุงขอวหวังหลินเองยังเริ่มดิ้นรนพร้อมกับล่าถอย แต่มันอยู่กับหวังหลินมาหลายปี หวังหลินเป็นเซียนฝืนลิขิตฟ้า ดังนั้นแม้มันจะเป็นราชายุง มันก็คืออสูรยุงฝืนลิขิตสวรรค์ไปด้วย!

ในตอนนี้ ภายใต้แรงกดดันและเสียงคำรามสั่นสะเทือนสวรรค์ ราชายุงของหวังหลินส่องแสงเป็นประกาย มันหันตัวกลับมาหาอสูรยุงตัวยักษ์ที่อยู่ในรอยแตกร้าวและร้องคำรามออกมา!

เสียงคำรามแฝงความบ้าดีเดือด แข็งข้อและเกียรติแห่งราชายุงด้วย! แม้เสียงคำรามของราชายุงหวังหลินจะอ่อนแอ มันก็ยังสั่นสะเทือนสวรรค์!

……………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version