Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1276

Cover Renegade Immortal 1

1276. ตอบโต้!

ตอนนี้ในแดนสวรรค์พิรุณ สายลมไร้ก้นบึ้งไหลผ่านแดนสวรรค์อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทั้งแดนสวรรค์เกิดความรู้สึกเปล่าเปลี่ยว สัมผัสนี้รุนแรงจนไม่อาจลบเลือนไปได้เลย

ฝูงอสูรยุงเคลื่อนไหวพร้อมกับสายลม เชี่ยวชาญอยู่ในแดนสวรรค์วายุ

ในส่วนลึกของแดนสวรรค์ มีแผ่นดินที่ลอยอยู่สามแห่งและหนึ่งในนั้นมีสีแดงเข้ม กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งในอากาศพร้อมกับเหล่าอสูรยุงมากมายลอยอยู่ในท้องฟ้าส่งเสียงหึ่งๆ

บนแผ่นดินสีแดงเข้มมีรูปปั้นหินรูปร่างมนุษย์ ตอนนี้ดวงตามันเริ่มขยับและเปิดออกมาเผยดวงตาเก่าแก่โบราณ

กลิ่นอายประหลาดค่อยๆแพร่กระจายออกมาจากเขา แต่น่าประหลาดที่มันไม่ทำให้เหล่าอสูรยุงสนใจ ราวกับรูปปั้นหินนี้ไม่มีตัวตนในสายตาพวกมัน

‘ฉุยต้าวจะฆ่าชิ้นส่วนที่ข้าใช้ความพยายามอย่างมากใส่ลงไปได้อย่างไร?’ ดวงตาของรูปปั้นส่องประกายและพ่นลมหายใจเย็น

‘อย่างไรก็ตามการยืมพลังเขา ข้าจึงเห็นได้ว่าเด็กนั่นเป็นนายแห่งดินแดนปิดผนึกกลับมาเกิดจริงหรือไม่ หรือลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าอยู่ในมือเด็กนั่นจริงหรือไม่!’

สายลมในแดนสวรรค์แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ก้อนสายลมลอยออกมาจากประตูแห่งแดนสวรรค์และหายวับไปท่ามกลางดวงดาว

วังวนตรงกลางหน้าผากของฉุยต้าวกลืนกินสามลำแสงเข้าไป จากนั้นเขาหลับตาชั่วขณะเพื่อดูดซับ พอลืมตาขึ้นมามีแสงสีแดง เหลืองและฟ้ากำลังหมุนอยู่ภายใน เป็นฉากที่น่าตกตะลึงยิ่ง

วิชายับยั้งของเขาแตกต่างจากของหวังหลิน ตอนนั้นเขาหยุดทั้งโลกและเขาเป็นสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ วิชาทั้งหมดหยุดไว้ในอากาศ แต่น่าประหลาดที่มันไม่หายไป ราวกับหากฉุยต้าวไม่ต้องการ พวกมันจะอ้อยอิ่งอยู่ที่นี่เป็นหมื่นปี

หอกจากวิชาเรียกขานสายลมลอยนิ่งอยู่ในอากาศแม้แต่สายลมทำลายล้างรอบๆมันก็ยังหยุด

กระบี่ผลึกน้ำแข็งที่เกิดขึ้นจากอัญเชิญสายฝนก็หยุดอยู่ในอากาศ พวกมันดูเหมือนเสาน้ำแข็งลอยอยู่ตรงนั้น

ยังมีวิญญาณรบนับไม่ถ้วนจากวิชาไสยเวทย์ รวมถึงจ้าวสายลมหวนและเทียนหยุน ทั้งหมดลอยนิ่งอย่างเงียบงัน

ภูเขาไฟมายาหลายแห่งที่ปรากฏขึ้นมาก่อนหน้านี้ซึ่งปล่อยควันสีดำและลาวาเริ่มไหลออกมา แต่ตอนนี้ควันสีดำยังอยู่และลาวาหยุดไป ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดลง รวมถึงหวังหลินที่กำลังก้าวผ่านอากาศเหนือควันสีดำ

หวังหลินยังถือตรีศูลไว้ในมืออยู่แน่นๆ!

‘วิชาสามเทพจากหกเทพของเทพสายฟ้าป๋ายฟ่าน หากหลิวจื่อฮ่าวเรียนรู้ได้ทั้งหมด การฆ่าเขาอาจจะยากขึ้นอีกเล็กน้อย ถึงแม้เขาจะพึ่งเรียนรู้จันทรามืด ฟ้ากระจ่าง นี่มันก็อาจจะยากขึ้นอีกเล็กน้อย เทียบกับจันทรามืด และฟ้ากระจ่าง วิชาอื่นเป็นแค่เคล็ดเท่านั้น!’ ฉุยต้าวส่ายศีรษะและไม่ให้ความสนใจหวังหลินอีก เขาให้ความสนใจราชรถสังหารเทพที่สร้างขึ้นมาจากอสูรสายฟ้าแทน

สายตากวาดไปยังราชรถและพ่นลมหายใจเย็น ยกแขนขวาขึ้นมาและสับลงไปทำให้ราชรถพังทลาย อสูรสายฟ้าถูกทำลายยังแข็งค้างอยู่เลย

‘สมบัตินี้มีข้อผิดพลาดมากเกินไป เมื่อข้าไม่ต้องการมัน ข้าก็จะทำลายมัน!’ ฉุยต้าวโอหังยิ่งและมีนิสัยค่อนข้างแปลกประหลาด เขาชอบทำลายสิ่งที่เป็นสมบัติของคนอื่น ทำให้อีกฝ่ายไร้ประโยชน์

ในฐานะของเซียนขั้นที่สามในระดับสวรรค์ดับสูญชั้นต้น ฉุยต้าวมีคุณสมบัติจะทำเช่นนี้ได้จริงๆ!

ตอนที่ราชรถสังหารเทพที่สร้างขึ้นจากอสูรสายฟ้าถูกทำลาย หวังหลินเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ความเจ็บปวดในใจเปลี่ยนกลายเป็นเพลิงที่มองไม่เห็นอันไร้ขอบเขตลุกเผาไหม้อยู่ในร่าง แต่อย่างไรมันก็ถูกขังไว้ในร่าง ความเศร้าทำให้น้ำตาไหลออกมาเป็นสายเลือด!

ราชรถสังหารเทพอยู่กับเขามานาน ตอนนี้มันถูกทำลาย

การร้องไห้ในใจทำให้เกิดพายุขึ้นมาพร้อมกับจ้องฉุยต้าวด้วยสายตามืดมน

‘หากข้าหวังหลิน ไม่ตายจากหายนะครั้งนี้ ข้าสาบานว่าข้าจะฆ่ามัน! ข้าต้องฆ่ามัน! ข้าต้องทำให้มันอดทนต่อความทรมานทั้งหมดก่อนตาย หากข้าไม่ทำตามคำสาบานนี้ ขอให้ข้าโดนทำลายบนเส้นทางแห่งการฝืนลิขิตฟ้า!’

สายตาของฉุยต้าวกวาดมาหาหวังหลิน สิ่งที่เขาชอบคือการมองดูคนที่โดนสมบัติของตัวเองถูกทำลายไป ยิ่งเห็นความโกรธเกรี้ยวยิ่งทำให้เขารู้สึกฮึกเหิม ทำให้เขารู้สึกมีเกียรติที่หายไปหลายปีก่อน

พอเห็นสายตาของหวังหลิน ฉุยต้าวรู้สึกยินดียิ่งขึ้นเมื่อคิดว่าหวังหลินเป็นเจ้าของลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าและเป็นลูกหลานของอาจารย์เขา

ฉุยต้าวเดินไปข้างๆราชรถสังหารเทพเจ็ดสี ดวงตาเผยแสงประหลาดใจพลางสะบัดแขนเพื่อนำมันกลับไป ทว่ามีแสงกะพริบและมีผีเสื้อเจ็ดสีปรากฏขึ้นมา ผีเสื้อกระพือปีกของมันและหายไปเป็นละอองแสง

พอมันหายไป ราชรถสังหารเทพเจ็ดสีกลายเป็นของธรรมดาทั่วไป

‘วิญญาณสมบัติน่าจะเลือกทำลายตัวเองแทนที่จะโดนข้าชิงมา…’ ฉุยต้าวมีแววตากะพริบเย็นเยียบพลางยกแขนและทุบลง ราชรถสังหารเทพพร้อมกับจิตวิญญาณสมบัติกลายเป็นเศษซาก

‘ตอนนี้มาดูว่าเจ้ามีลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าหรือไม่!’ ฉุยต้าวพ่นลมหายใจเย็นและหันกลับมามองหวังหลิน ตอนนี้มันรู้สึกเหมือนโลกกำลังสั่นเทาและดวงดาวทั้งหมดหายไป เหลือเพียงหวังหลินและฉุยต้าวอยู่สองคน สายตาแฝงพลังเจาะทะลวงแข็งแกร่งร่อนตรงไปหาหวังหลิน

วินาทีนี้ร่างหวังหลินพลันสั่นเทา รู้สึกเหมือนกำลังโดนฉีกกระชาก แม้กระทั่งวิญญาณดั้งเดิมและวิญญาณตนเองยังเหมือนกำลังโดนทิ่มแทง ความลับทั้งหมดในร่างกายกำลังเผยเบื้องหน้าสายตานี้ชัดเจน

ความเจ็บปวดรุนแรงทำให้ใบหน้าหวังหลินปูดโปน ร่างกายตึงเครียด เม็ดเหงื่อไหลเป็นสายฝน อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่มีเสียง ราวกับทั้งหมดถูกกักไว้ในร่าง

ฉุยต้าวกวาดสายตาบนร่างหวังหลินทีละนิ้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิญญาณดั้งเดิมของหวังหลินที่สำรวจอย่างละเอียดและค่อยๆขมวดคิ้ว

‘ไม่มีอะไรอยู่ในนั้น? อาจารย์บอกว่าลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าจะผสานเข้ากับวิญญาณดั้งเดิม แต่วิญญาณเขาไม่มีลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า…เขาไม่ใช่อาจารย์กลับมาเกิดใหม่ หรือไม่ก็ไม่มีลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า…นี่ข้าผิดคนหรือ?!’ ฉุยต้าวขมวดคิ้วพลางมาถึงข้างๆหวังหลิน ยกแขนขึ้นและตวัดลงไป

เสียงคำรามดังสนั่นกึกก้องและเปิดรอยแยกขึ้นมา มันคือมิติเก็บของของหวังหลิน! ฉุยต้าวใช้ระดับบ่มเพาะของตัวเองเปิดมิติเก็บของหวังหลินได้ง่ายๆ กวาดสัมผัสวิญญาณเข้าไปข้างใน

‘หากมิติเก็บของไม่มีลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า ข้าจะค้นวิญญาณมัน!’ ในแววตาฉุยต้าวกะพริบเย็นเยียบพลางค้นมิติเก็บของไปด้วย

‘มีของระดับต่ำเยอะไป ทั้งหมดต่างก็เป็นขยะ พังทลายไปซะ!’

เสียงดังสนั่นกึกก้องในมิติเก็บของหวังหลิน สมบัติทั้งหมดที่โดนฉุยต้าวค้นเจอพังทลายกลายเป็นขี้เถ้า

ขณะที่กวาดผ่านไป แววตาขมวดเข้าด้วยกันเมื่อเห็นฉวี่ลี่กั๋วอยู่ในมิติเก็บของของหวังหลิน

‘นี่เป็นจิตวิญญาณกระบี่ที่น่าสนใจ! แต่มันก็ยังเป็นขยะ!’ ภายใต้สายตาเขา ร่างฉวี่ลี่กั๋วสั่นเทาและกำลังจะใช้ทักษะประจบสอพลอ แต่ก่อนจะได้ทำเช่นนั้น ความต้องการทำลายล้างของฉุยต้าวก็ตกลงมา

ขณะที่กำลังจะทำลายฉวี่ลี่กั๋ว ฉุยต้าวพลันตกตะลึงและเคลื่อนไปหาฉวี่ลี่กั๋ว เขาจับจ้องไปยังสิ่งที่ตัวเองเห็นซึ่งก็คือกลุ่มอสูรยุงมากมายนับไม่ถ้วน แม้พวกมันจะอยู่ในมิติเก็บของอีกที่แต่มันก็เชื่อมกับที่นี่ ดังนั้นฉุยต้าวจึงมองเห็นพวกมันได้ทันที

‘นี่…มีอสูรยุงยักษ์มากมายขนาดนี้!!’ ฉุยต้าวประหลาดใจ สัมผัสวิญญาณกวาดผ่านอีกครั้ง คราวนี้เขาเห็นโลงศพกำลังเรืองแสงสีเงิน

มีสตรีนางหนึ่งกำลังหลับใหลอยู่ในโลงศพ

‘ไม่ใช่ทุกอย่างในมิติเก็บของจะเป็นขยะ เขามีแม้แต่กระทั่งโลงศพเลี่ยงสวรรค์ของจักรพรรดิเทพแห่งแสง! โลงศพเลี่ยงสวรรค์เป็นสมบัติที่ดีและเป็นประโยชน์กับข้า!’ ฉุยต้าวแบ่งสัมผัสวิญญาณของตนเองเข้าหาโลงศพและกำลังจะเอาไปพร้อมกับสตรีด้านใน

ขณะนั้นเอง ร่างหวังหลินสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ดวงตาเผยแววบ้าคลั่งอย่างไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน จุดเดือดของเขาไม่ใช่ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า ไม่ใช่ร่างเทพโบราณหรือความลับในวิญญาณ แต่เป็นโลงศพนี้ สตรีที่อยู่ในโลงศพ!

“เอ๋?” ฉุยต้าวหยุดชะงักและสังเกตความผิดปกติของหวังหลินได้ ในแววตากะพริบเยาะเย้ย

“ดูเหมือนเจ้าจะหลงรัก สตรีนางนี้ต้องสำคัญมากสำหรับเจ้า เดิมทีข้าจะเอาร่างนางออกไปทีหลัง แต่ตอนนี้ข้าจะเอานางออกมาต่อหน้าเจ้า ลือกันว่าร่างที่ไม่ได้เอาออกมาจากโลงศพได้อย่างถูกต้องจะแตกดับสมบูรณ์ มาดูกันว่าข่าวลือนั้นเป็นจริงหรือไม่!”

สัมผัสวิญญาณของฉุยต้าวเคลื่อนไหวล้อมรอบโลงศพเพื่อเปิดมัน สัมผัสวิญญาณของเขาแบ่งออกเป็นหลายส่วนเพื่อค้นหาลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า

ขณะที่เขากำลังจะเปิดโลงศพเลี่ยงสวรรค์ หนึ่งในสัมผัสวิญญาณของเขาสั่นเทาเนื่องจากเห็นร่างศพเงินในมิติเก็บของ

พอสัมผัสวิญญาณของเขามาถึง สตรีร่างศพเงินลืมตาขึ้นมา สายตาปะทะกับสัมผัสวิญญาณของฉุยต้าว

“เจ้า…เจ้า…เจ้าคือ…” แม้ฉุยต้าวจะมีจิตใจแข็งแกร่งและเป็นถึงเซียนขั้นที่สาม สีหน้าท่าทางเปลี่ยนไปอย่างไม่คาดคิด ความคิดยุ่งเหยิงและตื่นตระหนก

ขณะที่ความคิดยุ่งเหยิง พลังรุนแรงสายหนึ่งระเบิดออกมาจากร่างหวังหลิน ดวงตาเต็มไปด้วยจิตสังหารอันแรงกล้า ตอนที่ฉุยต้าวกำลังจะเปิดโลงศพ เขากลืนโลหิตที่หลอมจากกระบี่เหล็กด้วยเหตุผลบางอย่างซึ่งฉุยต้าวไม่ได้ค้นพบ!

ด้วยกลิ่นอายอันตรายนี้เองร่างกายจึงส่งเสียงดังกึกก้อง ด้วยแรงระเบิดนี้ร่างที่ถูกจองจำจึงเคลื่อนไหวได้บางส่วน

“ลิ่มเจ็ดสี!!” หวังหลินส่งเสียงคำรามสะเทือนสวรรค์ แสงเจ็ดสีโผล่ออกมาจากพื้นที่แห่งหนึ่งในมิติเก็บของที่ฉุยต้าวยังไม่ได้ค้น ลิ่มเจ็ดสีพุ่งออกมาเข้าหาสัมผัสวิญญาณของฉุยต้าว

เสียงดังกึกก้องสั่นสะเทือน สีหน้าฉุยต้าวเปลี่ยนไปมหาศาล ลิ่มเจ็ดสีเร็วเกินไปทั้งยังแทงทะลุผ่านสัมผัสวิญญาณและพุ่งเข้าหาตรงกลางหน้าผาก!

ฉุยต้าวอยู่ใกล้หวังหลินมาก พอเขาเห็นลิ่มเจ็ดสีจึงหรี่ตาแคบทันที

“ลิ่มเทพเจ็ดสีของราชันย์!! เจ้ามีมัน!!”

…………………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version