Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1390

Cover Renegade Immortal 1

1390. ตัวตนและต้นกำเนิดของรูปแกะสลัก 2

“นอกจากรูปแกะสลักและจิตวิญญาณไม้โบราณ ข้ายังได้สมบัติทั้งหมดจากศีรษะเหล่านั้น แต่ในช่วงร้อยปีที่ข้าอยู่ที่นั่น ข้าเคลื่อนไหวอยู่แถวชายขอบด้วยความระมัดระวัง ข้าไม่กล้าเข้าไปเขตชั้นในดังนั้นจึงไม่รู้ว่ามันมีอะไร”

“จนกระทั่งวันหนึ่งข้าเคลื่อนตัวอยู่ระหว่างช่องหิน ข้าเจอกับรอยแยกจำนวนมากมาย ด้วยระดับบ่มเพาะของข้าคงตายแน่นอน ดังนั้นข้าจึงทำได้แค่ถอยและเข้าสู่ส่วนลึก”

“ตอนที่ข้ามาถึงชายขอบดินแดนชั้นใน ข้าได้ยินเสียงคำรามดังออกมาจากทุกทิศทาง ร่างกายข้าสั่นเทาไปถึงดวงวิญญาณ”

“ข้าไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม จนไม่กี่ปีถัดมาข้ากัดฟันเคลื่อนร่างเพราะต้องการจะออกไปและกลับสู่ชายขอบด้านนอก ข้ารู้สึกว่าพื้นที่ด้านในไม่ใช่สิ่งที่ข้าจะเข้าไปได้ ข้าจึงต้องถอย!”

“แต่ขณะที่กำลังจะถอย ข้าถูกพายุพัดเข้าใส่จนบาดเจ็บสาหัสและสลบไป เมื่อข้าตื่นขึ้นมาก็อยู่ในป่าแห้งเหี่ยวกว้างใหญ่แล้ว”

“ป่าแห่งนี้กว้างใหญ่จนข้ามองไม่เห็นปลายทาง แม้กระทั่งสัมผัสวิญญาณก็ไม่อาจปกคลุมพื้นที่ได้หมด ต้นไม้ทุกต้นเหี่ยวเฉาและตายไปไม่เหลือแม้แต่ใบไม้สักต้น”

“ข้าเคลื่อนร่างด้วยความระมัดระวังและหวาดกลัว ผ่านไปไม่รู้นานแค่ไหนข้าเห็นต้นไม้ต้นหนึ่งที่ยังไม่เหี่ยวเฉาทั้งหมดและมีใบไม้สีเหลืองอยู่หนึ่งใบ นี่เป็นใบไม้แรกที่ข้าเจอ! ถัดมาข้าก็เด็ดมันไป…รวมถึงเก็บต้นไม้ที่ยังไม่แห้งเหี่ยวไว้ในกระเป๋า”

“ข้าไม่รู้ว่าป่าแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ไหนในสถานที่ลึกลับ ข้าทำได้แค่เดินทางไปข้างหน้า รู้สึกเหมือนผ่านกาลเวลาเนิ่นนานหลายแสนปี ยิ่งเดินไปก็ยิ่งแห้งเหี่ยวหนักขึ้นไปอีก ท้ายที่สุดต้นไม้เปลี่ยนกลายเป็นเถ้าถ่านตอนที่ข้าเข้าไปสัมผัส…วันหนึ่งข้าก็มาถึงใจกลางป่า ข้าเชื่อว่ามันน่าจะเป็นใจกลางเพราะข้าเห็นรูปแกะสลัก ตรงนั้นข้าสัมผัสถึงกลิ่นอายที่เป็นสาเหตุแห่งการเหี่ยวเฉาของป่าแห่งนี้ได้”

“ข้ารู้สึกว่ารูปแกะสลักคือสมบัติ ตอนที่ข้าหยิบมันขึ้นมาพลันเกิดวังวน เป็นวังวนเดียวกับที่นำทางข้ามาที่นี่ ข้ายินดีและพุ่งเข้าไปในวังวน”

“เมื่อข้าโผล่ออกมา ข้าอยู่ในดาราจักรต่างแดน ซึ่งต่อมาข้ารู้ว่าได้ออกมาสู่ดินแดนชั้นนอกแล้ว…” หลังจากทันหลางกล่าวจบ เขามองดูหวังหลิน

หวังหลินขมวดคิ้วและเริ่มขบคิด

แววตาทันหลางกะพริบวาบ ตลอดครึ่งเรื่องเขาพบว่าร่างกายไม่แข็งค้างอีกแล้ว วิชายับยั้งดูเหมือนจะหมดฤทธิ์

ตอนนี้พอเห็นหวังหลินกำลังคิด ทันหลางจึงกังวลยิ่ง ถอยหลังมาช้าๆ ก่อนจะเร่งความเร็วขึ้น ขณะที่กำลังจะหนีไป หวังหลินยกแขนและคว้าอย่างลวกๆ

พริบตานั้นทันหลางส่งเสียงกรีดร้องพร้อมกับถูกมือล่องหนจับเอาไว้และดึงเข้าหาหวังหลิน ฝ่ามือแตะสัมผัสใกล้หน้าผากทันหลางพลังดึงดูดลึกลับโผล่ออกมาจากฝ่ามือและเข้าไปในศีรษะทันหลางอย่างชัดเจน

ความหวาดกลัวท่วมท้นไปทั้งตัวและส่งเสียงกรีดร้อง “เจ้าสัญญาว่าจะไม่ฆ่าข้า!!!”

ขณะที่ส่งเสียงกรีดร้อง มือขวาหวังหลินร่อนลงบนหน้าผากทันหลาง ส่งสัมผัสวิญญาณเข้าไปในวิญญาณดั้งเดิมและกวาดล้างความทรงจำ!

ขณะเดียวกันเนื่องด้วยสัมผัสวิญญาณทรงพลังของหวังหลิน สายฟ้าสั่นไหวรวมกันในมือขวา พุ่งเข้าไปในวิญญาณดั้งเดิมของทันหลางและชำระวิญญาณไปด้วย

ร่างทันหลางสั่นสะท้าน ครู่ต่อมาหยาดเหงื่อเต็มไปทั่วร่าง ใช้เวลาเพียงชั่วพริบตาหวังหลินก็สะบัดแขนโยนทันหลางออกไปไกล

“ข้าจะไม่เอาสมบัติเจ้าไปโดยไม่ให้อะไรตอบแทน เจ้าไปได้!”

ทันหลางหน้าซีดพลางกัดปลายลิ้นพ่นโลหิตออกมา เพิ่มความเร็วขึ้นมหาศาลและเหาะเหินออกไป พริบตาเดียวไม่เหลือร่องรอยเขาอยู่เลย

ทันหลางยังคงมีสายตาหวาดกลัวเหมือนหนีตายและรู้สึกว่ามีอะไรผิดพลาด

‘นี่เป็นครั้งที่สองที่ข้าโดนมันเอาสมบัติไปหมด ข้าสาบานว่าข้าจะไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สาม!! สมบัติส่วนใหญ่ของข้าถูกเอาไปหมด ดังนั้นการอยู่ในดินแดนตกสวรรค์ถือเป็นสถานที่อันตรายเกินไป ข้าต้องรีบกลับไปที่ถ้ำดูว่าเหลืออะไรอยู่และรีบจากไป!’ หลังจากเคลื่อนที่พริบตาหลายครั้งจนแน่ใจว่าหวังหลินไม่ติดตามมา เขาจึงหายตัวไป

ทันหลางปรากฏตัวอีกครั้งบนดาวเคราะห์เซียน วินาทีนั้นเขาพุ่งเข้าหาภูเขา สะบัดแขนจนภูเขาส่งเสียงและมีรอยแตกบางๆ เปิดขึ้น

ทันหลางเข้าไปโดยไม่ลังเล แต่เมื่อเข้าไปแล้ว ร่างกายสั่นเทา กลิ่นเหม็นคลุ้งโผล่ออกมาจากรอยแยกและพุ่งเข้าสู่ใบหน้า มันแย่จนเขาแทบสลบ

‘ทำไมมันถึงเหม็นขนาดนี้…’ ทันหลางสาปแช่ง ร่างกายสั่นสะท้านทันที เขาแข็งค้างไปชั่วขณะก่อนจะบีบจมูก สูดกลิ่นเหม็นอีกครั้งโดยไม่เชื่อสายตา

‘กลิ่นเหม็นจากร่างข้าหายไปแล้ว!! แม้กระทั่งสัมผัสการรับกลิ่นก็ฟื้นฟูมาด้วย ข้าไม่เคยได้กลิ่นเหม็นของถ้ำแห่งนี้มาก่อน!!’

แววตาทันหลางเต็มไปด้วยความสุข ช่วงระยะหลายร้อยปีมานี้เขาใช้ความพยายามไปอย่างมากเพื่อแก้ไขกลิ่นเหม็นบนร่างกาย หลังจากไปเจอหวังหลินและสูญเสียโอกาสการได้ร่างแมงป่องโบราณมา เขาสิ้นหวังไปแล้ว แต่ตอนนี้กลิ่นเหม็นกลับหายไปเองโดยไม่คาดคิด!

“ข้าจะไม่เอาสมบัติเจ้าไปโดยไม่ให้อะไรตอบแทน เจ้าไปได้…” ทันหลางจำคำพูดของหวังหลินก่อนที่จะจากมาได้ จึงเผยท่าทางอธิบายไม่ถูก

หลังจากหวังหลินปล่อยทันหลางไปจึงหันตัวและกลับสู่เผ่าแมงป่องทมิฬ ทันหลางออกมาจากดินแดนชั้นในก่อนหน้าเขาและเก็บรวบรวมสมบัติทั้งหมดนี้มาให้ หลังจากได้รับสมบัติที่ทันหลางได้มาอย่างยากลำบากแล้ว เพิ่มด้วยความสุขจากการเจอคนแหล่งกำเนิดเดียวกัน หวังหลินจะไปฆ่าเขาได้อย่างไร?

‘ทันหลางเป็นดาวนำโชคของข้าจริงๆ ข้าฆ่าเขาไม่ได้ ข้าต้องปล่อยไป อนาคตเมื่อเจอกันครั้งที่สาม เขาอาจจะมีสมบัติอีกมากมาให้ข้าแน่!’ หวังหลินยิ้มพลางปรากฏตัวเหนือดาวเคราะห์ของเผ่าแมงป่องทมิฬ

เหล่าเซียนเกือบพันคนจากเผ่าเมฆาคลาดต่างก็ไม่กล้าจากไปไหนและกำลังรออยู่ที่นี่ จงต้าหงยิ่งฮึกเหิมและเลือกเซียนระดับสูงกว่าไม่กี่คนมาฟื้นฟูตนเอง เขาสั่งการและพ่นลมหายใจเย็นต่อไป

ทุกครั้งที่พ่นลมหายใจ เซียนรอบด้านจะสั่นเทา

พวกเขามองจงต้าหงด้วยความเคารพ และไม่ได้หวาดกลัวจงต้าหงแต่เป็นเจ้านายที่อยู่ด้านหลัง! สีหน้าของหัวหน้าเผ่าหลังจากเห็นหยกแล้วจึงตระหนักได้ว่าไปล่วงเกินคนที่ไม่ควรล่วงเกินและหายนะนั้นกำลังเข้ามาหา

สมาชิกเผ่าแมงป่องทมิฬซึ่งกระจายกันออกไปต่างก็กลับมากันทีละคน เม็ดยาถูกนำออกมาช่วยฟื้นกำลัง แม้กระทั่งเซียนจางก็กลับมาด้วย

เซียนสตรีสาวจากเผ่าเมฆาคลาดกำลังลูบไหล่จงต้าหงอยู่สองคน เขารู้สึกสบายยิ่งและกล่าวอย่างโอหัง “ข้าบอกพวกเจ้าไว้นานแล้ว! ข้าบอกพวกเจ้าชัดเจนยิ่งแต่พวกเจ้าก็ไม่ฟังข้า!”

“ไม่ใช่ว่าข้ามองเจ้าต่ำต้อยหรอกนะ แต่ด้วยระดับบ่มเพาะพวกเจ้าแล้ว คงไม่ต้องกล่าวถึงเจ้านายข้าหรอก แม้กระทั่งข้าก็ไม่ถือว่าพวกเจ้าเป็นภัยคุกคามเลยด้วยซ้ำ เพียงแค่ตบทีเดียวก็บดขยี้พวกเจ้าเหมือนมดได้แล้ว!” จงต้าหงเชิดคางขึ้นและดุด่าด้วยความดูถูก

เซียนเผ่าเมฆาคลาดทั้งหมดพยักหน้าในเชิงเห็นด้วย แม้แต่พวกที่ทำตัวโอหังยังไม่กล้าปฏิเสธเมื่อทั้งเผ่ากำลังเผชิญกับหายนะใหญ่หลวง

หัวหน้าเผ่าเมฆาคลาดและเหล่าผู้อาวุโสยืนอยู่ข้างๆ จงต้าหงอย่างเคารพ ทั้งหมดเผยรอยยิ้มประจบและพยักหน้าต่อเนื่อง

“นายท่าน โปรดยกโทษให้เราด้วยเถิด ข้าไม่รู้จักตัวตนของท่านจริงๆ ข้าหวังว่าท่านจะพูดเรื่องเราในด้านดี หลังจากนั้นข้าจะมอบสินน้ำใจให้ท่าน” หัวหน้าเผ่ารู้สึกขมขื่นในใจ เห็นได้ชัดว่าระดับบ่มเพาะของเขาสูงส่งกว่ามาก เขาสามารถฆ่าจงต้าหงได้ในนิ้วเดียวแต่ตอนนี้ต้องบริการอีกฝ่ายเป็นอย่างดี

จงต้าหงรู้สึกสบายยิ่งจากเซียนสตรีสองคนกำลังนวดร่าง เขาพ่นลมหายใจและกล่าวอย่างภูมิใจ “ในเมื่อเจ้าตระหนักถึงข้อผิดพลาดของตัวเอง ข้าจะให้โอกาสสำนึกผิด แต่…”

หัวหน้าเผ่าเมฆาคลาดรีบก้าวไปข้างหน้า สะบัดแขนขวานำขวดหยกออกมา หัวใจปวดร้าวแต่ก็กัดฟันแน่นยื่นมันขึ้นมา

“แค่ของขวัญเล็กน้อย ข้าหวังว่าท่านจะรับเอาไว้”

จงต้าหงรีบหยิบขึ้นมามองดู แววตาเผยความปิติยินดีพลางเก็บไปและกระแอม “ข้าจะลองดูแล้วกัน”

ขณะนั้นในท้องฟ้าปรากฏระลอกคลื่นแพร่กระจาย หวังหลินก้าวเดินออกมา จงต้าหงสีหน้าเปลี่ยนไปและยืนขึ้นทันที เขากลัวว่าจะช้าเกินไปจึงผลักสตรีสาวด้านข้างให้ห่างออกไป จากนั้นเผยสีหน้าประจบทันที

“ยินดีต้อนรับนายท่าน เพื่อขอให้ท่านได้ชัยชนะกลับมา ข้าไม่เจอท่านนานจนข้ารู้สึกเศร้าใจ แม้แต่ตอนที่ข้าฝึกฝนก็ไม่อาจสงบจิตใจลงได้ ข้าเอ่ยนามท่านเป็นร้อยครั้ง กระนั้นก็บอกไม่ได้เลยว่าข้าคิดถึงนายท่านแค่ไหน”

“หลังจากได้เห็นนายท่านและได้ยินเสียงท่าน ข้าน้อยจึงรู้สึกสงบจิตใจลงได้” จงต้าหงรีบเคลื่อนตัวไปข้างหน้าและใช้วาทศิลป์อันเชียวชาญ ขณะเดียวกันก็ระมัดระวังว่าจะไม่พูดเกินจริงมากเกินไปเพื่อไม่ให้หวังหลินรำคาญ

ตอนนี้ความโอหังที่เขาแสดงให้แก่เผ่าเมฆาคลาดก่อนหน้านี้หายไปแล้ว ตอนนี้เขากลับมาประจบเสียอย่างนั้น

นี่เป็นครั้งแรกที่เหล่าเซียนเผ่าเมฆาคลาดได้เผชิญหน้ากับคนแบบนี้และต่างก็ตกตะลึง แม้กระทั่งหัวหน้าเผ่าที่เพิ่งให้ของขวัญไปต่างก็ตะลึงงัน เขานึกไม่ออกว่าคนตรงหน้าเปลี่ยนอารมณ์ได้พริบตาขนาดนี้ได้อย่างไร ราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ

“รีบหลีกทางเร็ว ทำไมยังยืนบื้ออยู่อีก? ห้ามขวางเจ้านายข้า!” จงต้าหงรีบพุ่งหาหวังหลินและผลักเหล่าเซียนเผ่าเมฆาคลาดให้ออกห่างรวมถึงหัวหน้าเผ่าด้วย ราวกับเขาลืมเลือนเรื่องความสุขหลังจากได้รับของขวัญไปจนหมดสิ้น

……………………………………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!