Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1396

Cover Renegade Immortal 1

1396. คลื่นรุนแรง

ดาวเคราะห์แมงป่องทมิฬยังคงล้อมรอบด้วยพลังมารหนึ่งชั้น มองไกลๆ มันดูแปลกประหลาดยิ่ง แม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตบนดาวเคราะห์ยังได้รับผลกระทบไปด้วย

ตอนนี้เหลืออีกหกวันจนกว่าจะถึงการคัดเลือกผู้อาวุโสตกสวรรค์ พลังมารที่ห่อหุ้มดาวเคราะห์เริ่มเปลี่ยนแปลง มันส่งเสียงดังลั่นและเริ่มควบแน่นเข้าหาสถานที่แห่งหนึ่ง!

การเปลี่ยนแปลงฉับพลันนี้ทำให้เผ่าแมงป่องทมิฬและเผ่าเมฆาคลาดถึงกับสนใจ ขณะที่พวกเขาแพร่กระจายสัมผัสวิญญาณเข้าสังเกต พวกเขารับรู้ว่าพลังมารหนาแน่นพวกนั้นกำลังรวมกันเข้าหาถ้ำของหวังหลิน!

ราวกับมีวังวนอยู่ในถ้ำและดึงดูดพลังมารทั้งหมด!

เสี้ยวพริบตาพลังมารทั้งหมดก็หายไปในถ้ำของหวังหลิน มองไกลๆ ราวกับปรากฏวังวนยักษ์ขึ้นมา ใจกลางวังวนคือถ้ำของหวังหลิน

วังวนหมุนอย่างรวดเร็วและหดตัวลงไปพร้อมกันจนหายวับไปในพริบตา รวดเร็วเกินกว่าจะมีใครตามทัน!

พลังมารรวมกันอยู่ในถ้ำของหวังหลินเกิดเป็นหมอกหนาแน่นที่สัมผัสวิญญาณไม่สามารถเจาะทะลุเข้ามาได้ หมอกยังคงควบแน่นโดยมีหวังหลินนั่งอยู่ภายใน เบื้องหน้าเป็นคนตัวเล็กๆ ร่างแดงฉานกำลังลอยอยู่

คนตัวเล็กๆ ผู้นี้พร่ามัวและดูเหมือนวิญญาณดั้งเดิม มันดูเหมือนวิญญาณธรรมดามากกว่าและรูปร่างหน้าตาคล้ายกับหวังหลินยิ่ง ยกเว้นก็แต่กลิ่นอายบ้าคลั่งและดุร้ายที่ไม่เหมือนกัน

คนตัวเล็กอ้าปากเริ่มกลืนกินหมอกมารเข้าไป! หลังจากนั้นครู่ต่อมาหมอกทั้งหมดก็โดนกลืนกิน

ร่างกายเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเล็กน้อยแต่ดูเหมือนมันยังไม่พอใจ มันจ้องมองหวังหลินด้วยท่าทีดุร้าย ส่งเสียงคำรามออกมาก่อนจะกระโจนเข้าใส่ ดูเหมือนมันก็ต้องการกลืนกินหวังหลินไปด้วย

ทว่าหวังหลินพลันลืมตาขึ้นมาเผยสายตาอันเยือกเย็นดุจประกายสายฟ้า ปะทะกับสายตาของร่างเล็กตนนั้น

“ไปซะ!” ร่างเล็กกรีดร้องโหยหวนแต่หวังหลินไม่ได้ใช้วิชาอันใดจึงกระเด็นกลับไปตกอยู่บนพื้น

“ข้าสร้างเจ้า ดังนั้นข้าสามารถทำลายเจ้าได้ง่ายๆ !” หวังหลินยืนขึ้นและยื่นมือเข้าหาร่างเล็กตนนั้น

มันเผยความหวาดกลัวออกมา เมื่อมือขวาหวังหลินยื่นเข้าใส่ มันตัวสั่นก่อนจะแตกสลายกลายเป็นหมอก สายหมอกมากมายหลบหนีออกไปทุกทิศทาง หลังจากหนีจากเงื้อมมือหวังหลินออกมาได้มันก่อร่างขึ้นมาใหม่ด้านนอกถ้ำ

ไม่นานนักมันก็ปรากฏตัวเปลี่ยนกลายเป็นเมฆหมอกและหนีไป เคลื่อนร่างรวดเร็วยิ่งและกำลังจะหายตัว

หวังหลินมีสีหน้าสงบนิ่งและเผยท่าทีเยาะเย้ย แขนขวาสร้างผนึกและส่งออกไปในอึดใจเดียว พริบตานั้นเกิดเสียงกรีดร้องดังขึ้นจากเส้นขอบฟ้า

หลังจากนั้นไม่นานร่างเล็กจึงทะยานกลับมาเองและคุกเข่าด้านหน้า ร่างกายสั่นเทาและดูพร่ามัวราวกับสามารถสลายไปได้ทุกเมื่อ

หวังหลินเอ่ยขึ้นด้วยสายตาเย็นชา “ข้าใช้หนึ่งลมหายใจก็ทำลายเจ้าได้แล้ว!”

วิญญาณมารตัวน้อยร่างสั่นเทาและรีบหมอบคลานราวกับกำลังขอความเมตตา

หวังหลินยกมือขวาขึ้นมายื่นออกไป ปรากฏหอกสายหมอกชี้ใส่วิญญาณมาร วิญญาณมารและความคิดหวังหลินเชื่อมต่อกันและมันเผยความลังเล

หวังหลินพ่นลมหายใจเย็น

วิญญาณมารตัวสั่นและเปลี่ยนกลายเป็นลำแสงสีดำ พุ่งเข้าหาหอกมารสายหมอกและผสานเข้าไป ตัวหอกดูเหมือนได้รับวิญญาณและเปล่งกลิ่นอายน่าหวาดกลัวออกมา มันเปลี่ยนกลายเป็นอสรพิษสีดำและออกไปจากถ้ำ ยืดร่างตัวเองในท้องฟ้าและส่งเสียงคำรามกู่ก้องสะเทือนสวรรค์!

สมาชิกเผ่าแมงป่องทมิฬทั้งหมดถึงกับประหลาดใจพลางจ้องมองอสรพิษสีดำที่กำลังปลดปล่อยแรงกดดันไร้ก้นบึ้ง พวกเขาสั่นไหวอย่างสิ้นเชิง

สมาชิกเผ่าเมฆาคลาดก็เช่นเดียวกัน พวกเขาจ้องมองอสรพิษในท้องฟ้าด้วยความหวาดกลัวถึงก้นบึ้งจิตใจ

อสรพิษสีดำมีแรงกดดันและบ้าคลั่งเกินจินตนาการ ความกระหายเลือดของมันทำให้รู้สึกเหมือนสิ่งมีชีวิตทุกชนิดในโลกคือศัตรู!

จงต้าหงกลืนน้ำลายและตื่นเต้น เขาแตกต่างกับฉวี่ลี่กั๋ว ยิ่งหวังหลินแข็งแกร่งขึ้น เขายิ่งรู้สึกเชิดชู พลันคุกเข่าลงและร้องคำราม “สมบัติของนายท่านยอดเยี่ยมนัก มันไร้เทียมทาน!!”

ขณะที่เจ้าอสรพิษสีดำในท้องฟ้าหายไป ร่างกายมันค่อยๆ หายและเปลี่ยนกลายเป็นลำแสงสีดำเข้าสู่ร่างหวังหลิน

วิญญาณมารอีกดวงปรากฏขึ้นถัดกับวิญญาณดั้งเดิมหวังหลิน มันหลับตาและถูกวิญญาณดั้งเดิมหวังหลินระงับเอาไว้อย่างสิ้นเชิง มันไม่สามารถต่อต้านหรือดิ้นรนได้เลยแม้แต่น้อย

หวังหลินใบหน้านิ่งเฉยแต่ในใจเปี่ยมสุข ร่างอวตารวิญญาณมารไม่สมบูรณ์แต่มันก็มีรูปร่างแล้ว หลังจากหล่อหลอมไปหลายครั้งมันสามารถกลายเป็นร่างอวตารของจริงได้!

‘สงสัยเหลือเกินว่าเมื่อร่างอวตารทั้งสามแบบ เทพโบราณ มารและปีศาจของข้าผสานเข้าด้วยกันจะกลับเป็นร่างที่แท้จริงของบัญชาโบราณได้หรือไม่!’ หวังหลินเลียริมฝีปากและสะบัดแขน สมบัติทั้งสองปรากฏขึ้นเบื้องหน้าทันที

ใบไม้เหลืองและมนุษย์ไม้ที่ปิดผนึก!

ในดินแดนตกสวรรค์ การคัดเลือกผู้อาวุโสตกสวรรค์ถือเป็นงานศักดิ์สิทธิ์ เผ่าเล็กๆ ทั้งหมดที่มีคุณสมบัติครบถ้วนกำลังเตรียมการ!

ตำแหน่งที่จัดงานคือดาวเคราะห์ลึกลับที่สุดในดินแดนตกสวรรค์ ดาวเคราะห์มหาจักรพรรดิ!

ดาวเคราะห์แห่งนี้มีชื่อเสียงยิ่งในดาราจักรโบราณและถูกจับตามองจากสภาราชันย์ ข่าวลือของดาวเคราะห์นี้แพร่กระจายออกไปทั่วดาราจักรโบราณ

ใครก็ตามที่ได้เห็นดาวเคราะห์มหาจักรพรรดิจะไม่มีวันลืมภาพอันน่าตกตะลึง!

ต้องกล่าวว่าดาวเคราะห์ส่วนใหญ่ในดาราจักรโบราณเป็นทรงกลม แม้บางส่วนจะมีรูปร่างบิดเบี้ยวไปบ้างแต่ส่วนใหญ่จะเป็นรอบวง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ประหลาดและเซียนทรงพลังจำนวนมากพยายามค้นคว้าว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น

อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดแล้วพวกเขาพบเพียงแค่เบาะแสบางอย่างและไม่สามารถค้นหาความจริงอะไรได้ จนกระทั่งสภาราชันย์ได้ประกาศผลการค้นคว้าออกมา มันถูกเรียกด้วยชื่อว่า “กฎแห่งการโคจร”

พวกเขาเชื่อว่าดาวเคราะห์ทั้งหมดกำลังโคจรหมุนไปอย่างต่อเนื่อง และด้วยการหมุนนี้ดาวเคราะห์ที่ผิดรูปแบบไปทั้งหมดจะกลายเป็นทรงกลมหลังจากผ่านกาลเวลาไปอีกเนิ่นนาน

อย่างไรก็ตามกฎนี้ได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเมื่ออยู่ที่ดาวเคราะห์มหาจักรพรรดิ ดาวเคราะห์แห่งนี้ยืดยาวออกไปไกลราวกับเข็มบนเข็มทิศที่กำลังหมุนอย่างช้าๆ

ไม่มีใครรู้ว่าทำไมดาวเคราะห์ถึงเป็นเช่นนี้ ที่นี่เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของแดนตกสวรรค์และเป็นที่ตั้งของถ้ำมหาจักรพรรดิ

ปกติแล้วจะมีพลังดึงดูดและฉีกกระชากอยู่รอบๆ ดาวเคราะห์ เหล่าเซียนค้นพบว่าสมบัติของตัวเองไร้ประโยชน์ที่นี่ แม้กระทั่งการบ่มเพาะยังถูกห้ามเอาไว้

มีเพียงช่วงการคัดเลือกผู้อาวุโสตกสวรรค์เท่านั้นที่จะมีพลังอ่อนแอลงมหาศาลจนเกิดเป็นอุโมงค์เข้าสู่ดาวเคราะห์ขึ้นมาหลายแห่ง

นอกจากเผ่ามากกว่าสามร้อยที่เข้าร่วมการคัดเลือกผู้อาวุโสตกสวรรค์แล้ว ยังมีคนจากดาราจักรโบราณด้วย ส่วนใหญ่ถูกเผ่าพวกนี้เชิญชวนเข้ามาและบางครั้งก็ช่วยในการต่อสู้

มหาจักรพรรดิไม่สนใจเรื่องพวกนี้และค่อยๆ กลายเป็นกฎที่ไม่ต้องพูดกัน อย่างไรก็ตามใครที่ไม่ได้มาจากหนึ่งในเผ่าของดินแดนตกสวรรค์จะไม่สามารถกลายเป็นผู้อาวุโสได้ ไม่เช่นนั้นก็คงต้องตาย!

ทุกการคัดเลือกผู้อาวุโสตกสวรรค์ ทางสภาราชันย์จะส่งคนเข้ามาสังเกตการณ์ในฐานะแขก สิ่งนี้แสดงถึงการยอมรับสภาตกสวรรค์และให้ความเคารพต่อมหาจักรพรรดิ อีกทั้งการได้มาสังเกตการณ์ที่นี่ยังได้ช่วยเหลือเผ่าอื่นๆ ได้ด้วย

นอกจากสภาราชันย์แล้ว ทางสภาตกสวรรค์ยังได้ส่งสาส์นเชิญชวนออกไปเชิญชวนผู้คนทรงพลังในดาราจักรโบราณ

มหาจักรพรรดิไม่สนใจเรื่องเหล่านี้ ราวกับการคัดเลือกผู้อาวุโสตกสวรรค์เป็นแค่งานเทศกาล

หวังหลินเดินทางไปดาวเคราะห์มหาจักรพรรดิพร้อมกับเผ่าแมงป่องทมิฬและเผ่าเมฆาคลาด

สตรีผมยาวกำลังยืนอยู่บนเข็มทิศแปดเหลี่ยมด้านนอกดินแดนตกสวรรค์ นางกำลังขมวดคิ้วและไม่มีใครรู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

ด้านข้างนางเป็นชายวัยกลางคน เขามองออกไปข้างหน้าเช่นกัน สีหน้าท่าทางมืดมน

“ยอดปรมาจารย์หยุนลั่ว มหาจักรพรรดินั่นสังหารร่างอวตารของข้า ทางสภาราชันย์มีท่าทีเช่นไร?”

“จะมีการชดเชยให้ทีหลัง” สตรีผมยาวเอ่ยกระซิบพลางมองไปที่ดินแดนตกสวรรค์ นางคิดขึ้นในใจ ‘อยู่ใต้เงาของมหาจักรพรรดิ…ข้าอยากเห็นคนผู้นี้ด้วยตาตัวเองจริงๆ …ไม่รู้ว่าเขาจะใช่คนที่ท่านบรรพชนทำนายไว้หรือไม่…’

อีกด้านหนึ่งของดาราจักรโบราณ ปรมาจารย์เต๋าความฝันกำลังเดินเอามือไพล่หลังอยู่ในแสงสีฟ้าอ่อน

หลี่เฉียนเหมยค่อยๆ ติดตามด้านหลังไปอย่างเงียบๆ

แม้กระทั่งสถานที่ไกลออกไปในพื้นที่ดวงดาวที่แทบไม่มีใครเข้าไป มีอสูรขนาดเท่าดาวเคราะห์เซียนกำลังหมุนอย่างช้าๆ อสูรตัวนี้รูปทรงวงรีคล้ายไข่ มีหนวดยื่นยาวหลายหมื่นฟุตจำนวนมากมายกำลังส่ายไปมารอบร่าง

อสรพิษพิฆาตจันทร์!

มีชายชราสวมชุดคลุมสีขาว รูปร่างหน้าตาแปลกประหลาดยิ่งนัก ครึ่งใบหน้าเป็นสีดำเหมือนสัญลักษณ์หยินหยาง

ด้านหลังเขามีคนอีกสามคนเหมือนทาสรับใช้ หากหวังหลินได้เห็นทั้งสามคงพบว่าพวกเขาช่างคุ้นเคยยิ่งนัก!

ยี่มู่จื่อ หวู่ต้าวซาน…และที่ตายไปแล้ว…จี่เฉียนเทียน!

……………………………………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!