1411. การตื่นครั้งที่สี่!
‘ก้านธูปมนุษย์มอดดับ นี่…ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แม้กระทั่งบททดสอบของข้าและรุ่นที่สี่ ก้านธูปไม่เคยมอดดับ!! ก้านธูปจะมอดทั้งหมดเสมอ!’ ความคิดของ วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองสั่นเทาพลางมองก้านธูปมนุษย์ที่ดับไปและเกิดสายตาหวาดกลัว
“ก้านธูปดับไปแล้ว เขาคงอยู่ในบททดสอบได้นานแค่ไหน? เจ็ดลมหายใจหรือ…ไม่มีวันจบสิ้น…”
“เกิดอะไรขึ้นระหว่างการทดสอบของจักรพรรดิน้อยคนที่สามจนทำให้ก้านธูปมอดดับไป?”
“เรื่องนี้น่ากลัวเกินไป มันเกินจินตนาการ…”
ขณะที่เซียนทั้งหมดตกอยู่ในความโกลาหล สิ่งที่น่าตกตะลึงยิ่งกว่าก็อุบัติขึ้น! ก้านธูปดอกที่สองซึ่งเป็นตัวแทนของก้านธูปปฐพีพลันจุดขึ้นมา!
ไม่มีใครไปสัมผัสมัน แต่ควันกลับปรากฏขึ้นบนยอดก้านธูปอย่างรวดเร็ว!
หวังหลินทำลายท้องฟ้าของบททดสอบมนุษย์และปรากฏตัวขึ้นในดินแดน ไร้ขอบเขต ดินแดนแห่งนี้ปกคลุมอยู่ในรอยแตกร้าวและมีหลุมลึกนำทางสู่บททดสอบมนุษย์!
ขณะที่หวังหลินพุ่งออกจากหลุมนี้ไป เปลวเพลิงแพร่กระจายออกไปจากร่าง ทั้งผืนแผ่นดินส่องสว่างขึ้นมาด้วยเปลวเพลิง
ณ ชายขอบของดินแดน มีภูเขาแห้งแล้งแห่งหนึ่ง บนยอดเขามีคนผู้หนึ่งยืนอยู่ รูปลักษณ์เป็นชายวัยกลางคนและมีอักขระวิหคศักดิ์สิทธิ์อยู่กลางหน้าผาก
เดิมทีเขากำลังบ่มเพาะฝึกฝนไม่ได้เคลื่อนไหวมาหลายหมื่นปี แต่ตอนนี้พลันลืมตาขึ้นมาและมีแสงประหลาดแวบผ่าน
‘กลิ่นอายของคนในเผ่า…’
ขณะที่หวังหลินปรากฏตัวขึ้นในบททดสอบปฐพี เปลวเพลิงไร้ขอบเขตปรากฏขึ้นมาพร้อมกับเขา แสงสีครามพรั่งพรูออกมาและโลกก็ปกคลุมอยู่ในทะเลแห่งเพลิงสีคราม
ต่อจากเพลิงสีครามก็เป็นสีน้ำเงิน สองเปลวเพลิงพรั่งพรูเข้าหาหวังหลิน
สีครามเดิมทีมาจากสีน้ำเงิน ดังนั้นเปลวเพลิงทั้งสองจึงหลอมรวมเข้าด้วยกัน ต่อจากนั้นก็เป็นเพลิงสีม่วงที่ปกคลุมท้องฟ้าดุจเพลิงมารที่ยืดยาวทอดผ่านเส้นขอบฟ้า
เพลิงสีคราม ฟ้าและม่วงต่างพุ่งหาหวังหลินพร้อมกัน หวังหลินใบหน้าบิดเบี้ยว ดวงวิญญาณกำลังแตกสลาย เพลิงทั้งสี่เผาไหม้ในร่างกายทำให้ดวงตาขุ่นมัว
เพียงเสี้ยวพริบตา เปลวเพลิงในร่างก็ทะลุออกมาและระเบิดออกด้านนอก เพลิงสีแดง แสด เหลืองและเขียวฉีกกระชากร่างกาย แม้กระทั่งวิหคศักดิ์สิทธิ์ในร่างก็ถูกเผาไหม้จนตาย
ดวงวิญญาณหวังหลินแตกสลาย
ขณะเดียวกันเพลิงสีคราม ฟ้าและม่วงได้เข้าไปใกล้วิญญาณที่แตกสลายของหวังหลิน เมื่อแสงทั้งเจ็ดรวมกันดูราวกับสายรุ้งที่กำลังเผาไหม้ท้องฟ้า
ชายวัยกลางคนในเส้นขอบฟ้าถึงกับสีหน้าเปลี่ยนไป เขาสะบัดแขนให้อักขระกลางหน้าผากลอยออกมา มันพุ่งเข้าหาเพลิงเจ็ดสีด้วยความเร็วเต็มที่
ขณะเดียวกันร่างกายหวังหลินบนดาวมหาจักรพรรดิถูกปกคลุมด้วยแสงเจ็ดสี บนร่างกายเกิดรอยแตกร้าวละเอียดและมีโลหิตเริ่มไหลนองออกมา เป็นฉากเหตุการณ์ที่น่าตกตะลึง
วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองมาถึงก้านธูปดอกที่สองโดยไม่ลังเล เขาไม่สนว่ามันกำลังเผาไหม้เร็วแค่ไหนและวางมือขวาลงไป ส่งสัมผัสวิญญาณอันทรงพลังเข้าไปข้างใน
ปรมาจารย์เต๋าความฝันก้าวออกมาด้วยและมาถึงก้านธูปดอกที่สอง แสงสีฟ้าปกคลุมร่างกาย ดัชนีร่อนลงบนก้านธูปดอกที่สอง
ในบททดสอบปฐพี เพลิงเจ็ดสีโหมกระหน่ำเกรี้ยวกราด แม้กระทั่งวิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นแรกก็ไม่สามารถผ่านบททดสอบนี้ได้โดยไม่มีการป้องกันของจักรพรรดิเทพ วิบากกรรมได้เผาไหม้วิญญาณหวังหลิน
ขณะที่วิญญาณเขากำลังแตกดับ สามพลังงานโผล่เข้ามาช่วยเหลือ แต่ขณะที่กลิ่นอายทั้งสามเข้ามาใกล้ พลังประหลาดสายหนึ่งปะทุออกมาจากภายในเพลิงเจ็ดสี
พลังประหลาดนี้เผยกลิ่นอายโบราณและให้ความรู้สึกราวกับเป็นบรรพชนของทุกสิ่ง
ชั่วจังหวะที่อักขระวิหคศักดิ์สิทธิ์ของชายวัยกลางคนเข้าแตะต้องพลังประหลาดนี้ มันก็กระเด็นกลับไปหลายพันลี้
ราวกับพลังที่ตื่นขึ้นมาไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ได้ หรือกล่าวให้ถูกก็คือไม่มีใครมีคุณสมบัติพอจะแตะต้องมันได้!
ชายวัยกลางคนหรี่ตาและลุกขึ้นยืนทันที สายตารวมเป็นความหวาดหวั่น
‘นี่…นี่มันอะไร!?’
สัมผัสวิญญาณของวิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองเข้ามาถึง แต่เมื่อแตะต้องพลังลึกลับนี้ เขาก็กระเด็นออกไปจากบททดสอบปฐพี
สัมผัสวิญญาณของปรมาจารย์เต๋าความฝันติดตามเข้ามา แต่เมื่อสัมผัสกับพลังประหลาดกลับมีแสงสีฟ้ากะพริบและเขาก็ถูกผลักออกจากบททดสอบปฐพีเช่นกัน
บนดาวมหาจักรพรรดิ แขนขวาของวิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองถูกกระแทกขึ้นไป บนอากาศ ดวงตาไม่เชื่อและก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว
‘นั่นมันพลังอะไรกัน!?!’
ปรมาจารย์เต๋าความฝันรู้สึกนิ้วชาและถอยด้วยความตกใจ เขารู้เรื่องหวังหลินเยอะมากและจำพลังที่ทำให้เขาหวาดกลัวนั้นได้ มันคือ…ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า…ปรมาจารย์เต๋าความฝันไม่พูดและกลับไปข้างหลี่เฉียนเหมยอย่างเงียบๆ
“เขาจะสบายดี!”
ปรมาจารย์ซือโม่มองทุกอย่างที่เกิดขึ้นด้วยความตกตะลึง สังเกตได้ว่าสองคนนั้นลงไปช่วยหวังหลินแต่ไม่เคยคิดว่าผู้ทรงอำนาจเช่นนี้จะกระเด็นกลับมา!
ยอดปรมาจารย์หยุนลั่วมีสีหน้ามืดมนยิ่งกว่าเดิม สองฝ่ามือขยับเร็วขึ้น นางรู้สึกราวกับว่ากำลังจะรู้ความลับทั้งหมดที่เกิดขึ้นข้างใน
ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินยืนขึ้นบนก้อนเมฆ ดวงตากะพริบ
‘ฉุยต้าวพูดถูก!’
ในบททดสอบปฐพี วินาทีที่วิญญาณหวังหลินเผาไหม้ ปรากฏลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าขึ้น! นับตั้งแต่จ้าวแห่งดินแดนปิดผนึกหายไป ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าก็ไม่ปรากฏขึ้นเลย ไม่ว่าหวังหลินจะค้นหามันอย่างไรก็ไม่พบ ราวกับมันหายไปเฉยๆ
แต่เวลานี้ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้ากลับปรากฏอีกครั้ง!
เพลิงเจ็ดสีสั่นเทาและเริ่มหมุนวน มันถูกพลังประหลาดในลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าดูดเข้าไปและก่อเกิดเมล็ดเพลิงนิรันดร์ขึ้นเจ็ดเมล็ด!
ลูกปัดขนาดเท่ากำปั้นลอยอยู่โดยมีเมล็ดเพลิงทั้งเจ็ดลอยอยู่รอบๆ ภาพอันเลือนลางค่อยๆก่อตัวและปรากฏขึ้นในโลก
เมล็ดเพลิงทั้งเจ็ดอยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างกันในร่างกายจนเป็นรูปร่าง!
วินาทีที่ลืมตา เพลิงเจ็ดสีระเบิดขึ้นกระจายไปทั่ว หวังหลินมองดูท้องฟ้าห่างไกลด้วยสีหน้าท่าทางสงบนิ่ง
ทั้งโลกดูเหมือนไร้สีสันนอกจากเจ็ดสีรอบหวังหลิน ทุกอย่างได้เปลี่ยนกลายเป็น สีขาวและดำ!
ราวกับภาพวาดจิตรกรรมฝาผนัง สีขาวและดำเปล่งสัมผัสความเปล่าเปลี่ยวไร้ที่สิ้นสุด
วิบากกรรมสุดท้ายของเก้าวิบากกรรมกำลังตกลงมา!
สีขาวคือท้องฟ้า สีดำคือผืนดิน ก่อเกิดเพลิงสุดขั้วเข้ามาใกล้หวังหลิน ราวกับฟ้าดินกำลังบดขยี้เข้าทำลายพายุเพลิงเจ็ดสีและหวังหลินที่อยู่ภายใน
มันรวดเร็วยิ่งและเข้าใกล้ในพริบตา เพลิงสีขาวร้อนแรงและเริ่มเผาไหม้พายุเจ็ดสี ขณะที่สีขาวแทรกเข้าไปในพายุเพลิง อีกสีได้เพิ่มเข้าไป
ขณะที่เพลิงแปดสีล้อมรอบเขา สีหน้าหวังหลินยังคงสงบนิ่ง เฝ้าดูเพลิงสีดำใกล้ๆ
วิบากกรรมทั้งเก้าเริ่มด้วยเพลิงสีดำและจบลงด้วยเพลิงสีดำ ก่อเกิดเป็นวัฏจักรขึ้น
หวังหลินค่อยๆหลับตา เพลิงสีดำพุ่งเข้ามาภายในพร้อมกับเสียงดังสนั่นกึกก้องซึ่งทำให้เพลิงแปดสีเปลี่ยนเป็นเพลิงเก้าสี!
วิบากกรรมทั้งหมดเก้าสีปรากฏขึ้นมาก่อเกิดเป็นพายุสลายปฐพี หวังหลินอยู่ใจกลางพายุ เส้นผมสะบัดพลิ้วไร้แรงลม นอกจากเพลิงเจ็ดสีในร่างแล้ว เพลิงสีดำและ สีขาวกำลังควบแน่นอย่างรวดเร็ว
เพลิงสีขาวอยู่ในจุดตันเถียน เพลิงสีดำอยู่ตรงกลางคิ้ว
ยามที่เพลิงทั้งสองสร้างขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ หวังหลินจึงลืมตา!
โลกส่งเสียงดังสนั่น!
“จุดเพลิงวัฏจักรเวรกรรม!” หวังหลินเอ่ยน้ำเสียงดังกึกก้อง เพลิงเก้าสีรอบร่างควบแน่นเข้าตรงกลางหน้าผากและผสานสู่ข้างใน
เปลี่ยนกลายเป็นดอกบัวเพลิงเก้าสี!
ดอกบัวเพลิงมีเก้ากลีบที่มีสีสันแตกต่างกันเก้าสี! วินาทีนั้นวิหคศักดิ์สิทธิ์เก้าสีพุ่งออกมาจากดอกบัว!
ดูเหมือนเจ้าวิหคศักดิ์สิทธิ์ถือกำเนิดใหม่ขึ้นในดอกบัว มันทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าและส่งเสียงร้อง!
เสียงร้องของการตื่นครั้งที่สี่!
เสียงร้องของวิหคศักดิ์สิทธิ์ดังกึกก้องบนดาวมหาจักรพรรดิ ก้านธูปปฐพีที่ เผาไหม้ได้ครึ่งทางพลันหยุดชะงักและเรืองแสงสว่างเก้าสีขึ้นทั่วทั้งดวงดาว
วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองตกตะลึงก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดัง แววตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
‘เขาผ่านวิบากกรรมทั้งเก้าไปได้จริงๆทั้งยังจุดเพลิงวัฏจักรเวรกรรมจน วิหคศักดิ์สิทธิ์ผ่านการตื่นครั้งที่สี่ไปได้อีก การตื่นครั้งที่สี่จำเป็นต้องใช้เพลิงจำนวนมาก เขาจะกระตุ้นได้สมบูรณ์และบรรลุขอบเขตเพลิงไร้ลักษณ์ได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเพลิงพวกนี้! ในฐานะผู้อาวุโส แม้ข้าจะต้องโกง ข้าก็จะยื่นมือช่วย!’ วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่น ที่สองกระโจนขึ้นไปในอากาศและหายตัวไปต่อหน้าทุกคน
เพียงครู่เดียวเสียงมังกรคำรามดังกึกก้องออกไปไกล เสียงคำรามเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวและขุ่นเคือง ผู้คนสามารถมองเห็นมังกรยาวแสนฟุตที่ถูกวิหคศักดิ์สิทธิ์ รุ่นที่สองพามาได้
เซียนรอบด้านทั้งหมดต่างประหลาดใจที่จักรพรรดิน้อยพามังกรขึ้นมาอยู่เหนือก้านธูป เขาสะบัดแขนขวาทำให้เกิดรอยแผลบนสะเก็ดบนหัวมังกร โลหิตไหลลงมาบนก้านธูปราวกับน้ำตก
ภายใต้ความเจ็บปวดรุนแรงนี้ มีน้ำรวมกันอยู่ในดวงตามังกร มันเต็มไปด้วยความเจ็บใจและไม่ยินยอม มันเริ่มดิ้นรนรุนแรงขึ้น
เสียงดังปัง วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองร่อนลงบนมังกร เพลิงพรั่งพรูเข้าไปในร่างมังกรทำให้โลหิตของมันไหลออกมามากขึ้น
“บัดซบ เจ้ามังกรน้อย อย่าดิ้นสิ ถ้าเจ้าเด็กนี่ตื่นขึ้นมาสำเร็จ ข้าจะปล่อยเจ้าเป็นอิสระ!”
เมื่อเจ้ามังกรเพลิงได้ยินเช่นนี้ มันเผยท่าทีลังเล แต่ในไม่นานก็กัดฟันแน่นและ บีบเค้นโลหิตมากขึ้นอย่างดีที่สุด
………………………………………………….