Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1432

Cover Renegade Immortal 1

1432. รักและกตัญญู

“ข้าไม่ได้โกหกเจ้า เมื่อพันสองร้อยปีก่อนข้าได้ยินชื่อเจ้าและรู้มาว่าเหตุผลเดียวที่เจ้าบ่มเพาะก็เพื่อนำภรรยาเจ้ากลับมา!” น้ำเสียงราชันย์แผ่วเบาราวกับล่องลอยอยู่ในดวงดาว แต่เหมือนค้อนหนักหน่วงกระแทกใส่จิตใจหวังหลิน

อย่างไรก็ตามแรงกระแทกได้เปลี่ยนกลายเป็นระลอกคลื่นเข้าไปในสมองหวังหลิน มีเพียงสี่คำสุดท้ายที่เหมือนสายฟ้าผ่าเข้าเปิดเลือดเนื้อและพุ่งเข้าไปในวิญญาณ!

“นำภรรยาเจ้ากลับมา!”

“ข้าเองรู้วิธีการพาภรรยาเจ้ากลับมาเช่นกัน เจ้าขอให้เซียนหลายคนช่วยเหลือแต่ท้ายที่สุดก็ไม่มีใครช่วยเจ้าได้! เจ้าอาจจะไม่เชื่อคำพูดข้า เจ้าเดาว่าในเมื่อข้าบาดเจ็บสาหัส ข้าจะทำได้อย่างไร?”

“เรื่องนี้ค่อนข้างยากยิ่ง แม้ข้าไม่บาดเจ็บ ข้าคงไม่มีความสามารถนำภรรยาเจ้ากลับมา แต่อาจารย์ของข้าเป็นคนระดับเดียวกับราชันย์สวรรค์โบราณ เขาเองก็มีชื่อเสียงในยุคโบราณ!”

“ข้าจะตามหาอาจารย์ให้เจ้าและเสาะหาดูในดินแดนแห่งชีวิต เจ้าสามารถเก็บเกี่ยวดวงวิญญาณมาเพื่อสร้างผนึกยืนยาว ไม่เพียงแต่เจ้าจะสามารถชุบชีวิตภรรยาได้ แม้กระทั่งลูกชายเจ้าก็ชุบชีวิตได้เช่นกัน!”

หวังหลินตัวแข็งค้าง ความคิดสั่นคลอนจนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ เขาบาดเจ็บสาหัสอยู่แล้วและประคองด้วยหนึ่งลมหายใจ ตอนนี้เขาไม่สามารถประคองลมหายใจได้อีกแล้ว ร่างกายสั่นเทาและกระอักโลหิต

“ตราบใดที่เจ้าตกลงเป็นทหารให้ข้า ข้าสามารถทำให้เจ้าได้หมด!” น้ำเสียงอ่อนแรงแต่มีบางอย่างพิเศษร่อนลงใส่ร่างหวังหลิน

แววตาหวังหลินเกิดความดิ้นรนอย่างไม่เคยรุนแรงเช่นนี้มาก่อน แม้แต่ข้อเสนอของปรมาจารย์เต๋าความฝันหรือคำพูดของวิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นแรกก็เทียบไม่ได้! ไม่มีใครตรงเข้าถึงจุดสำคัญในใจหวังหลินได้ขนาดนี้!

เมื่อมันร่อนลงบนจิตใจแห่งเต๋า ส่งผลเทียบได้กับวิชาตกจันทราในบ่อน้ำและตกวิญญาณหวังหลินออกมา!

การชุบชีวิตลี่มู่หวาน หวังหลินยอมทำทุกอย่าง! เสี่ยงทุกสิ่ง!

ตอนที่เขาไม่มีความหวัง เขาโหยหาความหวัง ตอนนี้มีความหวัง แม้จะเพียงริบหรี่แต่มันก็หนักแน่นในใจหวังหลินมากพอจะทำให้เขาดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง

“เป็นทหารของข้า เจ้าจะเป็นคนที่เหนือว่าปรมาจารย์ซือโม่ ฉิงชุ่ยและฉิงหลิน เจ้าจะเป็นทหารแห่งความตายที่ทรงพลังที่สุดที่ข้ามี!!”

“หากเจ้าตกลง ข้าจะมอบนามแห่งเต๋าให้ว่า ปรมาจารย์หลินซาง!”

“เจ้าไม่ได้ใช้ชีวิตเพื่อพยายามาชุบชีวิตภรรยาและลูกเจ้าอยู่หรือ? อาจารย์ข้าทำได้ หากเจ้าไม่เชื่อข้า ข้าจะให้อาจารย์ชุบชีวิตภรรยาเจ้าก่อน และเมื่อเจ้าสองคนกลับมาเจอกัน จะตกลงก็ยังไม่สาย!”

หวังหลินใบหน้าขาวซีด ความคิดดิ้นรนถึงขีดสุด มีเสียงร่ำร้องอยู่ในใจจนร่างกายสั่นไหว!

‘รับข้อเสนอเขา กลายเป็นทหารของราชันย์แล้วหวานเอ๋อร์จะได้กลับมามีชีวิต หวังหลิน ไม่ใช่ว่าเจ้าบ่มเพาะทั้งหมดของชีวิตเพื่อนางหรอกหรือ?’

‘รับข้อเสนอเขา พันห้าร้อยปีที่แยกกันมาในที่สุดก็จะจบสิ้นลง หวังผิงก็จะกลับมาด้วย ไม่ใช่ว่าการพบหน้าครอบครัวของเจ้าคือความฝันยิ่งใหญ่ที่สุดไม่ใช่หรือ?’

‘ยอมรับข้อเสนอเขา เจ้าจะไม่ได้กลายเป็นทาสของราชันย์ เจ้าแค่ต้องฟังคำสั่งเขาทุกอย่าง เทียบชีวิตอิสระของเจ้ากับชีวิตของหวานเอ๋อร์แล้ว อันไหนสำคัญกว่ากัน?’

‘ยอมรับข้อเสนอเขา กลายเป็นปรมาจารย์ซือโม่คนที่สองและกลายเป็นทาสรับใช้ให้กับราชันย์ ทรยศดินแดนชั้นใน ทิ้งซือถูหนาน ฉิงชุ่ยและทุกคนที่เจ้ารู้จักในดินแดนชั้นใน จากวันนี้ต่อไป พวกเขาคือศัตรูเจ้า!’

น้ำเสียงยิ่งดังขึ้นและดังขึ้นจนกลายเป็นเสียงคำรามสั่นสะเทือนสวรรค์ในใจหวังหลิน ใบหน้าขาวซีดและถอยกลับโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้ดวงตาแดงฉาน ร่างกายสั่นเทาและความคิดตกอยู่บนปากเหวแห่งการพังทลาย การดิ้นรนเพื่อสร้างตัวเลือกกำลังทำให้เขาจมดิ่ง

‘หากวันหนึ่งราชันย์ขอให้ข้าสังหารซือถู…ข้าควรจะทำเช่นไร…หากวันหนึ่งราชันย์ขอให้ข้าสังหารฉิงชุ่ย…ข้าควรจะทำเช่นไร…หากวันหนึ่งราชันย์ขอให้กวาดล้างดินแดนชั้นใน ข้าจะเผชิญใบหน้าคุ้นเคยเหล่านั้นได้อย่างไร…โจวยี่ โจวลี่ จงต้าหง ทุกคน…หากวันหนึ่งราชันย์ขอให้ข้าทำร้ายวิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สอง…ข้าจะทำมันได้หรือไม่…’

บนใบหน้าหวังหลินมีรอยยิ้มสังเวช โลหิตไหลลงมุมปาก จิตใจของเขากำลัง ฉีกขาดไปครึ่งเนื่องจากการตัดสินใจครั้งนี้ เป็นความเจ็บปวดที่มิอาจอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้เลย!

หวานเอ๋อร์คือทุกสิ่งของเขาและเป็นจุดอ่อนด้วย เขาไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายนาง การชุบชีวิตหวานเอ๋อร์ หวังหลินสามารถมอบให้ได้ทุกอย่าง การชุบชีวิตหวานเอ๋อร์ หวังหลินสามารถมอบให้แม้แต่ชีวิตตัวเอง ตอนนี้เขากำลังจะมอบชีวิตตัวเองให้!

อย่างไรก็ตามมีสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าชีวิตของตัวเอง! เพียงแต่ในชีวิตนั้นมีอารมณ์ความรู้สึกหลายอย่างนอกจากความรักที่เขาไม่สามารถตัดขาดได้!

“ตั้งแต่วันนี้ต่อไป ข้าจะขอส่งมอบสำนักหลอมวิญญาณให้เจ้า…” บนดาวซูซาคุ ตุ้นเทียนซึ่งเป็นจ้าวสำนักหลอมวิญญาณได้ฝากฝังสมบัติของสำนักไว้ในมือเขา หลังจากฝากการสืบทอดสำนักหลอมวิญญาณไว้บนไหล่เขาแล้ว ตุ้นเทียนหลับตาด้วยรอยยิ้ม…ซือถูหนานยกโอกาสจะเอาลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าคืนและอยู่หวังหลินมาหลาย ร้อยปี เขาสอนหวังหลินบ่มเพาะตั้งแต่ยังเยาว์วัย เป็นอาจารย์ เป็นพ่อ เป็นพี่และ ยังเป็นสหาย…หากไม่มีซือถูหนานคงไม่มีหวังหลิน! ครั้งหนึ่งหวังหลินกล่าวถึงซือถูไว้ว่าคือตัวแทนของความกตัญญูทั้งหมดที่เขารู้สึก!

“ข้าหวังหลิน ไม่เคยคุกเข่าให้แก่สวรรค์ มีเพียงซือถูที่ข้าเคารพเท่านั้น!”

โจวยี่ใช้ทั้งชีวิตเพื่อตกหลุมรัก ไม่มีสิ่งใดจะทำลายความหลงใหลที่เขามีตลอดหลายพันปีได้ เขามอบโอกาสให้หวังหลินรอดพ้นความตาย! โจวยี่หลงใหลฉิงซวง หากหวังหลินเลือกติดตามราชันย์ คงต้องเผชิญกับการต่อสู้อันโศกเศร้าแน่!

“ข้าโจวยี่ ต้องการเพียงสิ่งเดียวในชีวิต คืออยู่เคียงข้างฉิงซวงจวบจนวันสุดท้าย…”

ศิษย์พี่ฉิงชุ่ยใบหน้าเย็นชาแต่หัวใจอบอุ่น ครั้งหนึ่งเขาตัดสินว่าหวังหลินเป็น ศิษย์ข้ามรุ่นของป๋ายฟ่าน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ใครทำร้ายหวังหลิน!

“ในเมื่อเขาคือศิษย์น้องของข้า ไม่มีใครสามารถทำร้ายเขาได้ หากเจ้าทำร้ายเขาเพียงเล็บก้อย ข้าจะไล่ล่าเจ้าทั้งชีวิต!”

เพราะความบ้าคลั่งของฉิงชุ่ยทำให้เขาสังหารภรรยาตัวเอง เกิดความเศร้าและความไม่พอใจเพราะเป็นแผนการของดินแดนชั้นนอก หากเขาพบว่าศิษย์น้องที่ครั้งหนึ่งเขาเคยปกป้องได้กลายเป็นทาสรับใช้ เขาจะรู้สึกอย่างไร…ยังมีวิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่ห้าอีก เห็นได้ชัดว่าเขาอยู่ในช่วงอายุขัยสุดท้ายแต่ก็ยังช่วยให้หวังหลินฟื้นคืนพลัง เขากระทั่งส่งต่อสำนักวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์ให้แก่หวังหลิน ความเมตตาของเขาเป็นสิ่งที่คงอยู่ในใจตลอดกาล

“ข้าลั่วหยุนใช้ทั้งชีวิตเพื่อสำนักวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์…แม้ข้าจะตายในอีกไม่นาน ข้าก็สามารถตายทั้งรอยยิ้มได้แล้ว…เจ้าเก่งกาจ จงดูแลสำนักวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์ให้ ข้าด้วย”

ความปรารถนาก่อนตายของจักรพรรดิวิหคศักดิ์สิทธิ์คือให้หวังหลินดูแลสำนัก ด้วยความเมตตาที่หวังหลินได้รับมา เขาไม่อาจเผชิญหน้าจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์และสายตาผิดหวังได้

วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองรู้จักหวังหลินเพียงแค่ไม่กี่วัน เสียงหัวเราะจากใจ ท่าทีพอใจ ดูชื่นชมและความเมตตาได้เข้าหาหวังหลินจากใจ เขาตกมังกรขึ้นมามอบโลหิตให้หวังหลินและช่วยหวังหลินหลายครั้งจากอันตรายในการทดสอบ เขากระทั่งคำรามใส่วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นแรกในบททดสอบสวรรค์!

วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองมอบวิธีการควบคุมมังกรและเขตอาคมวิญญาณโบราณให้ อีกทั้งก่อนที่หวังหลินจะไปเขายังขัดคำสั่งของรุ่นแรกและสอนวิชาที่มิอาจประเมินค่าได้ให้แก่หวังหลิน เป็นวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าวิหคศักดิ์สิทธิ์ ร่มบรรพกาล เผาดินแดน!

“สหายน้อย อย่าลืมว่าครั้งต่อไปที่เราเจอกัน เจ้าต้องเลือกรุ่นที่เจ็ดมาให้ข้า จงเลือกเด็กที่มีความมุ่งมั่น! เจ้าดูค่อนข้างเย็นชาแต่เจ้าก็มีจุดน่ารักนะ น่าเสียดาย น่าเสียดาย อาา การบ่มเพาะเป็นคู่มันดีอย่างไร ข้าไม่เข้าใจจริงๆ…”

ยังมีคนอีกจำนวนมาก จำนวนมากมาย…หวังหลินจะสามารถตัดขาดทั้งหมดเพียงตัวเลือกเดียวได้อย่างไร…ความทรงจำของปรมาจารย์ซือโม่เต็มไปทั่วจิตใจ หวังหลิน ตอนที่เขาเห็นชีวิตของปรมาจารย์ซือโม่ เขารู้สึกเหมือนกำลังมองดูความทรงจำของตัวเอง

ปรมาจารย์ซือโม่ในวันนี้คืออนาคตของหวังหลิน!

เพื่อชุบชีวิตน้องสาวของตนเอง ปรมาจารย์ซือโม่ละทิ้งสำนักทะลวงสวรรค์และศิษย์พี่ในสำนักทั้งหมด มอบวิญญาณตนเองให้กลายเป็นสุนัขรับใช้ของราชันย์ สังหารเพื่อราชันย์ เพียงราชันย์ชี้นิ้ว แม้จะเป็นอาจารย์ของปรมาจารย์ซือโม่เอง เขาคงต้องยกกระบี่ฟันเข้าใส่พร้อมคราบน้ำตา!

แม้จะไม่ได้เห็นความทรงจำของปรมาจารย์ซือโม่ ตัวเลือกของหวังหลินก็ยังยากอยู่ดี

หากเขาไม่ได้เจอข้อเสนอของปรมาจารย์เต๋าความฝันหรือข้อเสนอของวิหครุ่นแรก หวังหลินอาจจะไม่ต้องตัดสินใจยากที่สุดในชีวิตเช่นนี้!

เป็นการตัดสินใจที่เจ็บปวด แต่ก็ต้องเลือก!

หลังจากเห็นความทรงจำของปรมาจารย์ซือโม่ หวังหลินจึงถามตัวเองว่าเขาควรจะเลือกอย่างไรถ้าหากวันนั้นมาถึง…แต่เขาไม่คาดคิดว่าวันนั้นจะมาถึงเร็วขนาดนี้!

วันนี้เสมือนเป็นหายนะ!!

โชคดีที่ความทรงจำของปรมาจารย์ซือโม่ได้มอบเส้นทางให้กับหวังหลิน… “ข้าไม่ต้องการกลายเป็นปรมาจารย์ซือโม่…” หวังหลินพึมพำน้ำเสียงต่ำ แววตาดิ้นรนถูกแทนที่ด้วยความเจ็บปวด แต่เป็นความเจ็บปวดที่มีแต่ความมุ่งมั่น!

“ข้าไม่ต้องการกลายเป็นทาสรับใช้เจ้า!”

“ข้าไม่ต้องการทรยศความกตัญญูของทุกคนเพราะการเลือกของข้า ความรักคือความเจ็บปวดที่ข้าไม่สามารถละทิ้งได้ ข้าใช้เวลาบ่มเพาะฝึกฝนไปเพื่ออะไร…แต่ความรักไม่ใช่สิ่งเดียวในชีวิตข้า!”

“ข้าชื่นชมคนเช่นปรมาจารย์ซือโม่ที่สามารถละทิ้งทุกอย่างและมีสำนึกเพื่อคนคนเดียว! แต่ข้ากลัวที่ต้องเลือก ข้ากลัวจะเผชิญหน้าทุกคนที่เมตตากับข้า…แม้ภรรยาและลูกข้าจะฟื้นคืน เราคงกลายเป็นหุ่นเชิด…ข้าจะไม่เลือกทางนี้…”

“บางทีอาจารย์เจ้าสามารถปลุกภรรยาและลูกข้าให้ตื่นได้ก็จริง แต่หากเขาทำมันได้ ข้าหวังหลินก็ทำได้เช่นกัน!”

“ภรรยาและลูกข้า ข้าจะชุบชีวิตด้วยตัวเอง!” หวังหลินเงยศีรษะจ้องมองไปยังราชันย์ที่ตกตะลึง เขาหันตัวกลับและหายไปท่ามกลางดวงดาวมากมาย

ไม่มีใครเห็นหยาดน้ำตาใสๆสองสายกำลังไหลรินจากดวงตาหวังหลิน และมันก็สลายไปท่ามกลางดาราจักรที่กว้างใหญ่

‘หวานเอ๋อร์…ผิงเอ๋อร์…พวกเจ้าทั้งสองอยากตำหนิข้าหรือไม่…’

…………………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!