1436. เปิดสุสานบัญชาโบราณ!
วังวนหมุนเคว้งคว้างเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายซึ่งพรั่งพรูออกมาจากสุสานบัญชาโบราณ เศษความแค้นรุนแรงโผล่ออกมาจากศีรษะเหล่าเทพโบราณ ปีศาจโบราณและมารโบราณซึ่งถูกวางไว้บนแท่นหินข้างใน!
พวกมันรวมเข้าด้วยกันทำให้เกิดเป็นพายุพุ่งออกมาพยายามฉีกกระชากหมอกด้านนอกให้ขาดวิ่น!
หมอกหนาแน่นในระยะหนึ่งล้านลี้รอบรอยแยกถูกพายุนี้ผลักออกไป คราแรกเป็นเสียงแผ่วเบาแต่มันยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆและสั่นสะเทือนไปทั้งพื้นที่ดวงดาว!
สายหมอกเริ่มปั่นป่วนราวกับมีจิตวิญญาณอยู่ข้างในและกวาดผ่านดวงดาวด้วยความโกรธเกรี้ยว
หมอกหมุนวนอย่างรุนแรงและแพร่กระจายออกไปทุกทิศทางอย่างบ้าคลั่ง เดิมทีมีเซียนอยู่รอบๆชายขอบของสายหมอกคอยเฝ้าสังเกตการณ์ บางครั้งเซียนทรงพลังบางคนก็เข้าไปตรวจสอบข้างใน แต่สีหน้าเซียนทั้งหมดก็เปลี่ยนไปและรีบล่าถอย
การเปิดสุสานบัญชาโบราณได้ทำให้เซียนทรงพลังทั้งหมดในดาราจักรโบราณเกิดความสนใจ พวกเขาละทิ้งทุกอย่างและเร่งรีบมาที่นี่
อย่างไรก็ตามตอนนี้ คนที่เร่งรีบมาที่นี่ต่างก็ตกตะลึงและต้องถอย!
การเคลื่อนไหวของสายหมอกราวกับการพังทลายจากเบื้องบน มันเปลี่ยนกลายเป็นพายุขนาดยักษ์และขยายออกไปอย่างรวดเร็ว
ชายชราขั้นทะลวงสวรรค์ระดับที่สี่ผู้หนึ่งล่าถอยไม่เร็วพอและโดนสายหมอกไล่ทัน เขากรีดร้องอย่างโหยหวน ร่างกายสั่นเทา จากนั้นเลือดเนื้อกัดกร่อนจนกลายเป็นโครงกระดูก!
วิญญาณดั้งเดิมแตกดับไปด้วยกัน!
ฉากเหตุการณ์คล้ายกันนี้เกิดขึ้นทุกที่ที่สายหมอกขยายออกไป!
สายหมอกขยายออกไปอย่างรุนแรงทีละแสนลี้ สามแสนลี้ ห้าแสนลี้ หนึ่งล้านลี้…สายหมอกขยายต่อไปอย่างไม่มีหยุด!
กลายเป็นวงกว้างสองล้านลี้ สามล้านลี้ ห้าล้านลี้…จนกระทั่งมากกว่าสิบล้าน มากกว่าร้อยล้าน!
ขณะที่พายุแพร่กระจายออกไป เซียนมากมายเปลี่ยนกลายเป็นกระดูกและ เถ้าถ่าน…เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในพริบตาและถือว่าเป็นหายนะ!
อย่างไรก็ตามไม่ใช่เซียนทุกคนจะโดนสายหมอกไล่ทันแล้วสิ้นชีพ ส่วนใหญ่เซียนที่โดนสายหมอกกลืนกินสักสิบคนจะมีสักคนที่ไม่เพียงจะไม่บาดเจ็บแต่ยังได้รับพลังชีวิตมหาศาลเติมเต็มเข้าไปราวกับอ่อนเยาว์ลงไปหลายพันปี มีอักขระประหลาดเกิดขึ้นมานอกเหนือจากอักขระเผ่าของตนเองด้วย!
อักขระนี้ดูเหมือนอักขระตัวเลข!
หรือกล่าวให้ชัดก็คือมันเป็นตัวเลข!
ใครก็ตามที่มีตัวเลขบนหน้าผากจะถูกดูดเข้าไปใจกลางรอยแยกโดยมิอาจต่อต้าน ที่นั่นคือทางเข้าสู่สุสานบัญชาโบราณ!
ร่างอวตารของปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินกำลังถอยอย่างรวดเร็ว สีหน้าท่าทางมืดครึ้ม เขาถอยมาแล้วสิบล้านลี้แต่ก็ยังไม่ยอมจากไปไหน
‘สุสานบัญชาโบราณ นี่ต้องเป็นสุสานบัญชาโบราณ ลือกันว่าสุสานนี้ไม่เคยเปิดขึ้นสักครั้งนับตั้งแต่ยุคแรกเริ่มกาลเวลา! ใครที่สามารถเข้าไปได้จะได้รับโชคลาภที่ไม่อาจจินตนาการถึง!’
‘ไม่ว่าจะเป็นสมบัติ วิชา เม็ดยาและกระทั่งกลวิธีเข้าสู่ขอบเขตย่ำสวรรค์ของเซียนขั้นที่สาม!!’
ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินมีสีหน้าไม่แน่ใจ เขากัดฟันแน่นและสะบัดแขน ไม่มีใครเห็นเขาเปิดดินแดนเพลิงนรกานต์ แต่วิญญาณเพลิงนรกานต์ล้อมรอบร่างเขา!
เขาล้อมรอบด้วยวิญญาณเพลิงนรกานต์ แค่ชำเลืองสายตามอง เหล่าวิญญาณทั้งหมดนี้ต่างก็เป็นชายและหญิงหน้าตาสวยงาม พวกเขามีมากกว่าหมื่นล้านตน! ขณะที่เขาสัมผัสกับสายหมอก วิญญาณเพลิงนรกานต์นับหมื่นล้านรอบตัวส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน
“ไป!” สีหน้าปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินเกิดการบิดเบี้ยว เขาล้มเลิกการล่าถอยและพุ่งไปข้างหน้า
พลังเหนือจินตนาการโผล่ออกมาจากในสายหมอก มันเป็นพลังที่ไม่มีใครต้านทานได้ ขณะที่พลังอันแข็งแกร่งพุ่งเข้าหาปรมาจารย์เต๋าเมียวหยิน ดวงวิญญาณนรกานต์มากกว่าสี่ในสิบส่วนถูกทำลาย!
ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินมีท่าทีซีดเซียวดุจคนตาย ตอนนี้เขาก้าวไปข้างหน้าได้เพียงสามก้าวเท่านั้น!
เขากัดฟันแน่น ส่งเสียงคำรามและก้าวไปอีกครั้ง สองฝ่ามือสร้างผนึกเรียกใช้วิชาเต๋าขึ้นรอบร่างกาย! ทว่าขณะที่ก้าวเท้าที่สี่ สายหมอกพุ่งตรงเข้าหาเขา ดวงวิญญาณเพลิงนรกานต์ที่เหลือหกในสิบส่วนทั้งหมด…ถูกทำลายในพริบตา!
ปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินกระอักโลหิตและล่าถอย
‘ข้าไม่สามารถเข้าไปด้วยกำลังได้! ข้าควรเสี่ยงดีหรือไม่?!’ ขณะที่ถอยร่น การตัดสินใจยากลำบากผุดขึ้นในใจ
‘แม้ข้าจะเสียร่างอวตารไป ข้าต้องเสี่ยงสักครั้ง!’ ใบหน้าหล่อเหลาของปรมาจารย์เต๋าเมียวหยินยิ่งบิดเบี้ยว เขาหยุดลงและไม่ได้ใช้เวลาอันใดพลางปะทะกับสายหมอก
ร่างกายเขาถูกสายหมอกพุ่งผ่านและสั่นเทาอย่างรวดเร็ว ร่างอวตารนี้อยู่ใน ขั้นวิญญาณดับสูญระดับกลาง แต่ขณะที่สายหมอกท่วมท้นเข้าใส่เขา ระดับบ่มเพาะตกลงอย่างรวดเร็ว!
วิญญาณดับสูญระดับต้น สวรรค์ดับสูญสูงสุด ระดับปลาย ระดับกลาง ระดับต้น! พริบตาเดียวระดับบ่มเพาะอ่อนแอลงไปถึงเก้าในสิบส่วน เขากระอักโลหิตออกมาและร่างกายแห้งเหี่ยว รูปลักษณ์ไม่สง่างามอีกแล้ว
ทว่าในขณะนั้นกลางหน้าผากเกิดเป็นอักขระตัวเลข! พลังดึงดูดได้ดึงเขาเข้าไปใจกลางรอยแยก!
‘ข้าเข้าใจแล้ว เซียนขั้นที่สามสามารถต้านทานพลังนี้ได้ แต่การจะเข้าไปใน สุสานบัญชาโบราณได้นั้นจำกัดระดับบ่มเพาะสูงสุดคือขั้นสวรรค์ดับสูญระดับต้น!’
ฉากเหตุการณ์คล้ายกันนี้เกิดขึ้นในสายหมอกที่แพร่กระจายออกไปในระยะหลายร้อยล้านลี้!
ในพื้นที่ทางทิศตะวันตกของสายหมอก มีอสูรขนาดเท่าดาวเคราะห์เซียนอยู่! มันคืออสรพิษพิฆาตจันทร์! บนหลังเป็นชายชราที่มีรอยสักหยินหยาง เขามองดูสายหมอก ดวงตาส่องสว่างราวกับมองทะลุสายมองได้ สองฝ่ามือสร้างผนึกอย่างรวดเร็วและชี้ใส่กลางหน้าผาก มีวิญญาณดั้งเดิมลอยออกมาสามดวง!
ทั้งสามพุ่งเข้าสู่หวู่ตงชาน จวี่เฉียนเทียนและอสรพิษพิฆาตจันทร์
หลังเสร็จสิ้น ชายชราใบหน้าซีดและรีบล่าถอย ส่งเสียงคำราม
“หวู่ตงชาน จวี่เฉียนเทียนและอสรพิษพิฆาตจันทร์ พวกเจ้าทั้งสามจงเข้าไปในสุสานบัญชาโบราณ”
สายหมอกพลันมาถึงและเกิดอักขระตัวเลขขึ้นกลางหน้าผากของอสรพิษและ อีกสองคน จากนั้นถูกดูดเข้าไปในสายหมอก ชายชรารีบถอยออกจากระยะของ สายหมอก ปรากฏตัวบนดาวเคราะห์เซียนแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างไกลและเริ่มบ่มเพาะ
ทางด้านชายชราสวมเสื้อผ้าหนังสัตว์ที่วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองเรียกว่าจ้าวแห่งความโดดเดี่ยว เขามองสายหมอกด้วยแววตาเปล่งประกาย เขาไม่ได้มีร่างอวตารดังนั้นจึงไม่กล้าเสี่ยงตายเข้าไปด้วยระดับบ่มเพาะอ่อนแอ ขณะที่ถอยร่น ฝ่ามือยื่นออกไปตลอดเวลา ไม่ว่าจะใกล้ไกลแค่ไหนเขามักจะคว้าเซียนได้เสมอและโยนเข้าไปในสายหมอก
เหล่าเซียนทั้งหมดร้องอย่างโหยหวนและเปลี่ยนกลายเป็นโครงกระดูก ทว่าคนที่แปดกลับสั่นเทาแต่ไม่ได้ตาย มีอักขระตัวเลขปรากฏขึ้นกลางหน้าผาก!
เซียนคนนี้เป็นชายชรา ใบหน้าซีดเซียวราวกับป่วยไข้มานาน วินาทีที่มีอักขระตัวเลขปรากฏ ในแววตาจ้าวแห่งความโดดเดี่ยวเกิดแสงกะพริบเย็นเยียบ วิญญาณดั้งเดิมส่วนหนึ่งของเขาไล่ตามชายชราที่กำลังโดนดูดเข้าไป เขาพุ่งไปในร่างชายชราและเริ่มครอบครองร่าง
ร่างชายชราสั่นเทา จากนั้นหายวับไปกับสายหมอกพร้อมเสียงกรีดร้องโหยหวน
จ้าวแห่งความโดดเดี่ยวใบหน้าซีดและออกมาห่างสายหมอก
เซียนขั้นที่สามทั้งหมดใช้วิชาของตนเองแต่กลับไร้ผล สายหมอกแพร่กระจายออกไปไกลจนสุดสายตา!
ตอนนี้หวังหลินก้าวเดินออกจากอวกาศบิดเบือน พุ่งไปข้างหน้าโดยไม่ลังเล แต่หลังจากเดินทางไปได้พันฟุต พลันหรี่ตาแคบ เขาเห็นหมอกกำลังเดินทางมาไกลดุจคลื่นมหึมากำลังถาโถม!
‘นี่มันอะไร!?’ หวังหลินตกตะลึง ขณะที่กำลังหนี เขาแบ่งวิญญาณส่วนหนึ่งไปผสานกับเทียนหยุนและเริ่มการทำนาย เขาคำนวณแล้วว่าการหนีมาทางนี้จะทำให้ได้รับประโยชน์มหาศาล!
ขณะนั้นอวกาศด้านหลังบิดเบือนและพังทลาย หลุมดำยักษ์ปรากฏขึ้น ชายร่างกำยำก้าวเดินออกมาแต่เด็กหญิงที่ไม่ตายกลับไม่อยู่!
อย่างไรก็ตามมีอักขระสีเทาซ่อนอยู่บนไหล่ชายร่างกำยำ ยากยิ่งที่จะตรวจสอบเว้นแต่จะตรวจอย่างละเอียด!
ชายร่างกำยำเห็นพายุหมอกเบื้องหน้าทันทีและสีหน้าท่าทางเปลี่ยนไป เขาดูเหมือนลังเลแต่ในไม่นานจึงพุ่งหาหวังหลิน แขนขวาสร้างผนึกและปรากฏเสียงหมาป่าเห่าหอนขึ้นรอบร่าง
“เต๋าหมาป่าแปดทิศ!” ชายร่างกำยำร้องคำราม อวกาศส่งเสียงสั่นพ้องและปรากฏหมาป่าขนาดหมื่นฟุตจำนวนแปดตัวพุ่งใส่หวังหลิน
หวังหลินดวงตาส่องสว่างแต่ก็พุ่งไปข้างหน้าดุจดาวตก เขาเร็วมากแต่หมอกเร็วกว่า มันมาถึงในพริบตา พุ่งเข้ามาดุจคลื่นโหมกระหน่ำ มันกลืนกินหวังหลินก่อนจะปะทะหมาป่าทั้งแปดเสียอีก
ตึงตัง ตึงตัง ตึงตัง! เสียงพังทลายกลบด้วยเสียงหมอกดังลั่น หมาป่าแปดตัว แตกสลาย พายุเข้ากลืนกินชายร่างกำยำทำให้สีหน้าเขาเปลี่ยนแปลง
ชายร่างกำยำไม่รู้ว่าหมอกประหลาดนี้คืออะไร แต่ตระหนักได้ว่ามีพลังแข็งแกร่งอยู่ข้างในจึงรีบถอย กระนั้นก็ยังช้าเกินไปเมื่อเทียบกับสายหมอก แม้เขาจะเป็น ขั้นสวรรค์ดับสูญระดับต้นแต่ก็ไม่อ่อนแอ วินาทีนี้พลันมีอักขระกลางหน้าผาก!
ทว่ามีเสียงกรีดร้องโหยหวนดังออกมาจากไหล่ขวา!
…………………………………