Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1504

Cover Renegade Immortal 1

1504. ไล่ล่าอสูรโลกันตร์ 4

คำพูดของหวังหลินแฝงพลังที่มิอาจโต้แย้งได้ ชั่วจังหวะที่เอ่ยออกมา ดวงดาวเจ็ดดวงร่อนไปบนปากของเจ้าอสูรโลกันตร์

ดาวดวงแรกส่องประกายเจิดจ้า จากนั้นดวงที่สอง สามและสี่ก็ส่องประกายเช่นกัน!

พลังวิญญาณโบราณโผล่ออกมาจากดวงดาวและเข้าสู่จิตใจหวังหลิน

เมื่อดาวทั้งหมดเจ็ดดวงส่องประกายขึ้น ผนึกวิญญาณจะเสร็จสมบูรณ์!

ทว่าในวินาทีนั้นขณะที่เวลาผ่านไป หลิงตงและโจวจินถูกกลืนกินไปแล้วและไม่ได้มีเวลามากพอ พลังดึงดูดผุดขึ้นมาอีกครั้ง ร่างหวังหลินจึงเริ่มจะถูกสูดเข้าไป!

พอเผชิญหน้ากับอันตราย หวังหลินร้องคำราม สะบัดใส่ดินแดนลึกลับในตัว อสูรโลกันตร์อย่างรุนแรง

ใบไม้โบราณทั้งหมดพุ่งเข้าหาหลุมดำในปากของมัน!

เสียงดังสนั่นกึกก้องขึ้น เมื่อพลังดึงดูดอ่อนลง ดาวดวงที่ห้าจึงส่องประกาย!

อย่างไรก็ตามในจังหวะนั้น ใบไม้โบราณถูกหลุมดำดูดเข้าไปแล้วและพลังดึงดูดเพิ่มขึ้นอีกครั้ง หวังหลินแววตาเย็นเยียบ เขาลงทุนไปมหาศาลแล้ว หากสำเร็จขึ้นมา หลิงตงและโจวจินคงอยู่ดี แต่หากเขาล้มเหลว มูลค่าคงหนักหนาสาหัสเป็นอย่างยิ่ง!

แต่หวังหลินวิเคราะห์ทุกอย่างด้วยความละเอียดก่อนจะเริ่มลงมือ ทุกอย่างยังอยู่ภายในแผนของเขา!

เขามั่นใจในแสงของดาวสองดวงสุดท้าย!

เมื่อพลังดึงดูดเพิ่มขึ้นอีกครั้ง หวังหลินสะบัดแขนเสื้อ ปรากฏอสรพิษพิฆาตจันทร์ขึ้นด้านหลังและลอยเข้าหาหลุมดำ!

เจ้าอสรพิษพิฆาตจันทร์ขัดขวางหลุมดำในทันที ขณะที่มันถูกดูดเข้าไปจึงพอจะยื้อเวลาให้หวังหลินได้!

ดาวดวงที่หกส่องประกาย!

ดาวดวงที่เจ็ดเปล่งประกายเจิดจ้า!!

ดาวเจ็ดดวงในปากของวิญญาณอสูรโลกันตร์กำลังส่องประกายเจิดจ้า พวกมันหมุนวนและในที่สุดผนึกวิญญาณก็สมบูรณ์!

ผนึกชั้นนอก ผนึกวิญญาณและผนึกชั้นใน หวังหลินเสร็จสิ้นไปแล้วสองอย่างและเหลือเพียงอย่างสุดท้าย! หลังจากดวงดาวเทพโบราณผนึกได้เสร็จสั้น พวกมันจึงกลับมาหาหวังหลิน

แต่ในจังหวะนั้นเองเกิดการเปลี่ยนแปลงน่าตกตะลึงขึ้น!

ลำแสงเจ็ดสีโผล่ออกมาจากวิญญาณที่ปิดผนึกของอสูรโลกันตร์ แสงเจ็ดสีนี้ช่างรุนแรงและห่อหุ้มพื้นที่รอบๆ ในเวลาไม่นาน!

เมื่อหวังหลินเห็นแสงเจ็ดสี แม้แต่เขายังตกตะลึงไปชั่วขณะ!

‘เจ็ดสี!!’

แสงเจ็ดสีข้ามผ่านอาณาเขตดวงดาว แพร่กระจายออกจากวิญญาณอสูรโลกันตร์ ปกคลุมร่างเจ้าอสูรโลกันตร์ทั้งยังมีพลังอันน่าเหลือเชื่อออกมาจากภายในอีกด้วย

ในเวลาเดียวกัน ผนึกของหวังหลินบนร่างเจ้าอสูรโลกันตร์กลับเริ่มเสียหาย ด้วยผลกระทบของแสงเจ็ดสีนี้ผนึกส่วนใหญ่จึงถูกกวาดล้างไปเหลือไว้แต่เพียง เศษเสี้ยว และกำลังจะหายไป

ผนึกวิญญาณเจ็ดดาวที่วางเอาไว้บนปากจึงเริ่มหม่นหมองทันที ราวกับเทียนไขเจ็ดเล่มกำลังดิ้นรนอยู่ในสายลมและดับได้ทุกเมื่อ!

พริบตาเดียวผนึกมอดดับไปสามดวง!

การเปลี่ยนแปลงฉับพลันนี้อยู่นอกเหนือการคาดการณ์ของหวังหลิน เขาไม่คิดว่าเจ้าอสูรโลกันตร์จะมีพลังของแสงเจ็ดสี!

เจ็ดสี! เจ็ดสี!!

แสงเจ็ดสีพริบวูบวาบและรุนแรงยิ่งขึ้น ร่างเงาเริ่มลอยออกมาจากปากเจ้า อสูรโลกันตร์!

‘ผู้ตื่นรู้ ผู้จองจำแห่งเต๋าสวรรค์ สรรพสัตว์ทั้งหมดต้องทุกข์ทรมานกับภัยพิบัติที่ไม่อาจวัดได้ คิดแค่เพียงออกไปสถานจองจำส่วนลึก เฝ้าคอยแต่เส้นทางแห่งการฝึกฝน… ’ เสียงพึมพำดังออกมาจากร่างเงาที่ลอยออกมา

‘ผู้ตื่นรู้ สิ่งมีชีวิตทั้งหมดต้องเดินต่อไปข้างหน้าตลอดกาลและแก้ปัญหาใหม่ในยุคใหม่ หลีกพ้นอำนาจแห่งสวรรค์และได้รับเส้นทางแห่งชีวิต เฝ้าคอยแต่เส้นทางแห่งการฝึกฝน…’

‘ผู้ตื่นรู้ ผนึกอำนาจแห่งสรวงสวรรค์ สลักวันคืนอันมืดมิด ทุกชีวิตไม่รู้จักเต๋าที่แท้จริง นรกอันขมขื่นบิดเบือนเต๋าที่แท้จริงไปตลอดกาล เฝ้ารอคอยแต่เส้นทางแห่งการฝึกฝน…’ ร่างหลายร่างปรากฏขึ้นรอบๆอสูรโลกันตร์และไม่นานก็ล้อมรอบพื้นที่แห่งนี้!

“ผู้รู้แจ้ง!!!” หวังหลินดวงตาส่องสว่างและเข้าใจบางอย่าง

เข้าใจแล้วว่าทำไมเจ้าอสูรโลกันตร์ถึงไม่หนีและทำไมนิสัยของมันถึงเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือขนาดนี้!

เข้าใจแล้วว่าทำไมเจ้าอสูรโลกันตร์ถึงได้ทิ้งสิ่งปฏิกูลเอาไว้ในสายหมอก!

เข้าใจแล้วว่าทำไมเจ้าอสูรโลกันตร์ถึงได้เจ้าเล่ห์และมีแววตาภูมิปัญญาเช่นนี้!

เข้าใจแล้วว่าทำไมแสงเจ็ดสีถึงระเบิดออกมาจากวิญญาณของมันหลังจากเขาเกือบผนึกมันได้!

‘มันกลืนดินแดนเจ็ดสีเข้าไปในช่วงหลายพันปีที่ผ่านมา!!!’ หวังหลินตกตะลึงและแทบไม่อยากจะเชื่อ

การคาดเดาของเขาไม่ผิดนัก ความจริงหลังจากหวังหลินปรากฏตัวครั้งแรก เจ้าอสูรโลกันตร์เร่ร่อนไปในสายหมอก มันมีนิสัยขี้ขลาด แม้จะทรงพลังมากจนอสูร ดุร้ายตัวไหนก็คงต้องวิ่งหนี

อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่ามันปลดปล่อยแรงกดดันออกมาจากร่างกายจนอสูรหรือเซียนคนใดไม่กล้าเข้าใกล้ ขณะที่มันเคลื่อนผ่านไป เหล่าอสูรทั้งหมดจึงแตกกระเจิง

ขณะที่มันเร่ร่อน เจ้าอสูรโลกันตร์อยู่ในสภาวะไร้ตัวตน มันไม่มีสติปัญญามากนักและแทบใช้ชีวิตส่วนใหญ่ไปกับการหลับ กระทั่งตอนตื่นมันก็มักจะงุนงง

แต่หลังจากหวังหลินออกไปพร้อมเผ่าอมตะที่ถูกเลือก อสูรโลกันตร์ได้ตื่นขึ้น มันรู้สึกหิวแต่กลัวจะออกไปจากสายหมอก ดังนั้นจึงทำได้แค่เร่ร่อนไปอย่างช้าๆข้างในสายหมอก

ผ่านไปไม่รู้นานแค่ไหนกลับมีรอยแยกอวกาศขนาดใหญ่ขึ้นเบื้องหน้ามัน มีแสงเจ็ดสีระเบิดออกมาจากรอยแยกและส่องประกายในแววตามันด้วย

ในจังหวะนี้เองร่างขัดเขินผู้หนึ่งก้าวออกมาจากรอยแยก เสื้อผ้าขาดแว่น เริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่งก่อนจะมอบรอบๆ

“ในที่สุดข้าก็ออกมาได้ ในที่สุดข้าก็ออกมาจากที่บัดซบนั่นได้ ในที่สุดข้าก็เป็นอิสระ…” อย่างไรก็ตามเขาพลันหยุดกึกก่อนที่จะได้พูดจนจบ ร่างนั้นเห็นอสูรโลกันตร์ ตัวใหญ่ยักษ์เบื้องหน้าและสัมผัสแรงกดดันน่ากลัวได้ชัดเจน

การปรากฏตัวของเขาทำให้เจ้าอสูรโลกันตร์ตกตะลึงไปเช่นกัน หนึ่งชายและหนึ่งอสูรจ้องหน้ากันอยู่ชั่วครู่ก่อนจะมีเหงื่อเย็นเฉียบเต็มหน้าผากชายคนนั้น ใบหน้าพลันซีดเผือดและกรีดร้องตกตะลึง!

ตอนที่เจ้าอสูรได้ยินเสียงกรีดร้อง ในที่สุดมันก็ตอบสนองและเกิดเสียงดังลั่นออกมาจากร่างกาย!

เสียงคำรามนี้เป็นสิ่งน่าหวาดกลัวต่อทุกคนที่ได้ยิน แต่ความจริงแล้วมันเป็นเสียงคำรามของความหวาดกลัวร่างผู้นั้นต่างหาก

ชายผู้นั้นตัวสั่นและกลับเข้าไปในรอยแยกเจ็ดสีโดยไม่ลังเล หนีกลับเข้าไปในดินแดนเจ็ดสี เหลือเพียงแต่เสียงกรีดร้องดังกึกก้องท่ามกลางสายหมอก

อสูรโลกันตร์ล่าถอยไปเช่นกันพร้อมกับส่งเสียงคำรามตื่นตระหนก มันถอยไปไกลมากและจ้องรอยแยกเจ็ดสีด้วยแววตาหวาดกลัว มันขวัญอ่อนอย่างเห็นได้ชัด…อันดับแรกคือรอยแยกเจ็ดสีโผล่ออกมา จากนั้นก็เป็นคนที่โผล่ขึ้นฉับพลัน และท้ายที่สุดจึงเป็นเสียงกรีดร้องแหลมก่อนที่จะตอบสนองทันจนเสียจังหวะ…ผ่านไปสักพักเจ้าอสูรโลกันตร์เห็นว่าไม่มีใครไล่ล่ามันและเริ่มจะลังเล ความกล้าหาญที่มีอยู่เล็กน้อยของมันเริ่มกลับมาและคิดไปคิดมาอยู่พักใหญ่ มันกลับมาจ้องรอยแยกเจ็ดสีอย่างละเอียดด้วยความงุนงง

มันไม่รู้ว่าทำไม แต่ดันชอบเจ็ดสีเข้าอย่างจัง ไม่เช่นนั้นด้วยความขี้ขลาดของมันคงไม่กลับมาแล้ว

มันงุนงงสับสนไปร้อยปี เจ้าอสูรโลกันตร์จ้องมองรอยแยกเจ็ดสีด้วยความงุนงงไปร้อยปีราวกับกำลังครุ่นคิด!

ผ่านไปร้อยปีมันยังไม่เข้าใจว่าทำไมรอยแยกถึงปรากฏออกมาและมันคืออะไรกันแน่ แต่แสงเจ็ดสีทำให้มันรู้สึกมีความสุข มันจึงไม่ยอมจากไปไหนและอยู่ในสภาวะแบบนี้

อย่างไรก็ตามหลังจากตกอยู่ในความงุนงงไปอีกหลายสิบปี เกิดเหตุการณ์ขึ้น…ดวงตาของเจ้าอสูรโลกันตร์มีขนาดกว้างหลายพันฟุต หนึ่งในนั้นอยู่ห่างจากรอยแยกอวกาศไปน้อยกว่าสิบฟุต…ราวกับมันต้องการดูว่าข้างในรอยแยกมีอะไร

คนที่โผล่ออกมาจากรอยแยกดูเหมือนดิ้นรนเอาชีวิตรอดไปอีกร้อยปีและในที่สุดก็กล้าชะโงกหัวออกมา

เส้นผมกระเซอะกระเซิง ร่างกายผอมบาง เขาดูน่าเวทนาเป็นอย่างยิ่ง เพราะ เจ้าอสูรโลกันตร์อยู่ใกล้เกินไป ภาพทัศนวิสัยจึงพร่ามัวแต่เมื่อกระจ่างชัดเจน ใบหน้าจึงซีดเผือดและกรีดร้องโหยหวนออกมาอีกครั้ง!

“เจ้า…เจ้ายังอยู่ที่นี่!! เจ้ารอที่นี่มาเป็นร้อยปี!!” คนคนเดิมกรีดร้องพลางถอยกลับเข้าไปในดินแดนเจ็ดสี

การเปลี่ยนแปลงฉับพลันนี้ทำให้เจ้าอสูรโลกันตร์หวาดกลัวอีกครั้ง ทว่าในความทรงจำของมันดูเหมือนจะลึกซึ้งยิ่งขึ้นจึงได้ถอยไปแสนฟุตเท่านั้น มันรออยู่นานแต่กลับไม่มีอะไรออกมา มันไม่สามารถอดทนต่อความรักที่มีต่อแสงเจ็ดสีได้อีกแล้ว มันเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆและจ้องมองรอยแยกเจ็ดสีด้วยความงุนงงต่อไป

วันเวลาผ่านไปอย่างช้าๆ สองร้อยปี สามร้อยปี…ห้าร้อยปี…จนกระทั่งวันหนึ่ง เจ้าอสูรโลกันตร์รู้สึกตัวแต่มันไม่ยอมจากไปไหน พอขบคิดเพียงเล็กน้อย มันจึงอ้าปากและกลืนกินรอยแยกเจ็ดสีเข้าไป!

พลังดึงดูดผุดขึ้นมา อวกาศตรงจุดที่ดินแดนเจ็ดสีอยู่ได้ถูกกลืนกินเข้าไปในดินแดนข้างในอสูรโลกันตร์

แม้หวังหลินจะไม่รู้กระบวนการทั้งหมด เขาก็พอจะเดาผลลัพธ์ได้ ขณะที่เสียงพึมพำของเหล่าผู้รู้แจ้งดังออกมาจากในอสูรโลกันตร์ เสียงอึกทึกดังออกมาจากปากมันและมีแผ่นจารึกหินขนาดยักษ์ปรากฏด้วย!

บนแผ่นจารึกหินมีคราบโลหิตสีแดงถูกสลักเป็นสัญลักษณ์เต๋า!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!