1523. เส้นทาง
การเข่นฆ่าบนสนามรบไม่ควรเป็นเรื่องเงียบ ตอนนี้ขอบเขตการสู้รบกว้างขวางมากขึ้น จำนวนผู้เสียชีวิตเป็นสิ่งที่ไม่ได้เห็นมาหลายหมื่นปี
แม้แต่การต่อสู้ระหว่างดาราจักรทุกชั้นฟ้าและดาราจักรพันธมิตรเซียนก็ไม่ได้ถึงจุดเดือดขนาดนี้ในช่วงเวลาอันสั้น!
ทว่าในยามที่หวังหลินเอ่ยออกไป สนามรบรอบตัวเขาพลันเงียบสงัด!
ความแข็งแกร่งด้านร่างกายของหวังหลินได้ทำให้เหล่าเซียนนับหมื่นที่กำลังโจมตีถึงกับสติหลุดลอย ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเหลือล้น!
พวกเขาหวาดกลัว!
ไม่เข้าใจว่าหวังหลินเป็นตัวอะไรกันถึงมีร่างกายแข็งแกร่งขนาดนี้ พลังด้านร่างกายช่างน่าหวาดหวั่น! ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ หวังหลินเอาชีวิตรอดจากการโจมตีรุนแรงได้นับไม่ถ้วน!
โดยเฉพาะชายชราที่แขนแตกหักเขาเกิดความหวาดกลัวถึงขีดสุด ตอนนี้เขาล่าถอยโดยไม่ลังเล เป็นเหตุให้เซียนนับหมื่นล่าถอยด้วยเช่นกัน!
การล่าถอยครั้งนี้ทำให้เซียนทะเลเมฆาถึงกับส่งเสียงตะโกนโห่ร้อง! เหตุการณ์นี้เสมือนการเติมความตื่นเต้นเข้าไปในร่าง!
“เพื่อเกียรติแห่งทะเลเมฆา! เพื่อเกียรติต่อจ้าวดินแดนปิดผนึก!!”
“เพื่อเกียรติแห่งทะเลเมฆา! เพื่อเกียรติต่อจ้าวดินแดนปิดผนึก!!” เสียงเรียกร้องดังกึกก้อง ในยามนี้ทุกคนต่างจ้องมองมาที่หวังหลินผู้ก้าวออกมาจากพายุและสังหารอย่างต่อเนื่อง!
หวังหลินก้าวออกมาด้วยแววตาเต็มไปด้วยจิตสังหารเข้มข้น เขาสะบัดแขนขวาให้พายุพังทลายไป มันถูกส่งออกไปทุกทิศทางในทันที!
วินาทีที่หวังหลินก้าวออกมานั้น เพลิงไร้ลักษณ์และสายฟ้าพุ่งออกไปใส่เซียนรอบด้าน!
เสียงกรีดร้องโหยหวนดังระงมอีกครั้ง สงครามดำเนินต่อไป!
ด้วยการสังหารอย่างต่อเนื่อง หวังหลินเกิดความเหน็ดเหนื่อย อาการบาดเจ็บของเขาย่ำแย่กว่าที่เห็นภายนอก เขาบาดเจ็บสาหัสจากการโจมตีของเซียนนับหมื่นคนอยู่แล้ว แม้จะมีการฟื้นฟูของเทพโบราณเจ็ดดาว แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ทันการในสงครามอันรุนแรงครั้งนี้
ดวงตาหวังหลินแดงฉานจากการสังหาร เขารู้ว่าการต่อสู้มาไกลเกินไปแล้ว แต่เขาก็ไม่สามารถล่าถอยได้!
เพราะหวังหลินได้ก้าวออกมา ขวัญกำลังใจของเหล่าเซียนทะเลเมฆาจึงเพิ่มพูนขึ้นในทันที แม้จะประสบความเสียหายอย่างหนัก แต่ในตอนนี้พวกเขาเริ่มโจมตี ตอบโต้อย่างบ้าคลั่ง ค่ายกลที่ปรมาจารย์หงซานส่งต่อมาให้ได้ถูกสลักไว้ในใจ
เวลานี้เหล่าเซียนที่เหลือสามหมื่นคนจึงเริ่มตั้งค่ายกล!
ขณะที่กำลังจะเสร็จสิ้น เหล่าเซียนดินแดนชั้นนอกดูเหมือนจะรู้ว่าควรมุ่งหน้าเข้ามาหยุดยั้งไม่ให้ค่ายกลเสร็จสมบูรณ์!
หนึ่งครั้งนับว่าเป็นความบังเอิญได้ สองครั้งก็นับเป็นความบังเอิญได้ แต่ครั้งที่สาม สี่ ห้าและหกถือว่าไม่ใช่ความบังเอิญแล้ว!
ค่ายกลของทะเลเมฆาไม่ควรถูกวางได้สำเร็จ ไม่ว่าพวกเขาจะต้องสูญเสียมากแค่ไหนก็ตาม!
เหล่าเซียนดินแดนชั้นนอกเต็มไปด้วยจิตสังหาร แม้จะหวาดกลัวหวังหลินแต่ ส่วนใหญ่ยังมีจิตสังหารเต็มเปี่ยม พวกเขาพุ่งเข้าไปราวกับไม่มีอะไรยับยั้งได้!
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะคนเพียงคนเดียว!
ยอดปรมาจารย์หยุนลั่ว!
ยอดปรมาจารย์หยุนลั่วฝังรากลึกในจิตใจเซียนจำนวนมากของดินแดนชั้นนอก นางใช้ฝ่ามือเรียวงามดุจหินหยกเพื่อสร้างผนึกและทำการทำนาย นางยกฝ่ามือขึ้นมาและชี้ไปข้างหน้า
ส่งคำสั่งออกไปหลายอย่าง กองทัพถูกแบ่งออกเป็นสี่กลุ่ม มุ่งหน้าเข้าไปในดินแดนชั้นใน ด้วยการควบคุมของนาง เหล่ากองทัพดูเหมือนมีวิญญาณไปด้วย!
ยอดปรมาจารย์หยุนลั่วใช้วิชาทำนายอย่างต่อเนื่องจนเห็นอันตรายที่เป็นไปได้ทั้งหมด ออกคำสั่งให้เซียนดินแดนชั้นนอกที่อยู่ในทะเลเมฆาพุ่งเข้าสังหารศัตรู!
ทุกครั้งที่ค่ายกลกำลังก่อตั้งขึ้น นางจะชี้จุดและมีเซียนจำนวนมากพุ่งเข้าหยุดยั้งไม่ให้ค่ายกลสร้างขึ้นมาได้สำเร็จ!
หวังหลินมองยอดปรมาจารย์หยุนลั่วด้วยสายตาเป็นประกายแสง แววตาผุดจิตสังหารขึ้นมา!
ปรมาจารย์หงซานกำลังต่อสู้กับเซียนขั้นที่สามจำนวนห้าคนและยังมองขึ้นไปพร้อมกับหวังหลินด้วย! ปรมาจารย์หงซานเป็นเซียนในขั้นแก่นแท้ดับสูญระดับกลางและห่างจากระดับปลายเพียงขั้นเดียวเท่านั้น ขณะต่อสู้กับเซียนขั้นที่สามจำนวนห้าคนยังกุมความได้เปรียบได้อย่างสิ้นเชิง แต่เขาก็ยังถูกจำกัดขอบเขตไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง
กล่าวได้ว่าปรมาจารย์หงซานเป็นหน้าที่ที่สำคัญมากในการต่อสู้ครั้งนี้ เขารั้ง เซียนขั้นที่สามทั้งหมดเอาไว้ เว้นแต่เพียงตำหนักทัณฑ์สวรรค์ที่ถูกหินหยกจาก จ้าวดินแดนปิดผนึกกักขังอยู่!
ซึ่งทำให้ไม่มีเซียนขั้นที่สามคนไหนเข้าแทรกแซงหวังหลินหรือหยุดจ้าวเมฆาใต้ไม่ให้ซ่อมแซมค่ายกลดินแดนปิดผนึกได้!
ปรมาจารย์หงซานมองขึ้นไปด้วยแววตากะพริบจิตสังหาร เขาสะบัดแขนปรากฏเมฆสีแดงล้อมรอบร่างกายพร้อมกับเหล่าเซียนขั้นที่สามจำนวนห้าคนซึ่งต่อสู้กับเขาอย่างกระอักกระอ่วน จากนั้นจึงพุ่งหายอดปรมาจารย์หยุนลั่วไปด้วยกัน!
“หากนางไม่ตาย การสู้รบจะดำเนินไปนานกว่านี้!”
ปรมาจารย์หงซานร้องคำราม พุ่งออกไปโดยที่ทั้งห้าคนกำลังสู้กับเขา เขาทะลวงผ่านอากาศและปรากฏตัวถัดจากค่ายกลดินแดนปิดผนึก พุ่งเข้าไปและเข้าหา ยอดปรมาจารย์หยุนลั่ว!
เซียนรอบๆ ยอดปรมาจารย์หยุนลั่วมีสีหน้าเปลี่ยนไปมหาศาล มีแต่ยอดปรมาจารย์หยุนลั่วที่มีท่าทีสงบนิ่งและมีแววตาเยาะเย้ย
นางมักจะหยิ่งผยองและโอหังอยู่เสมอ ในดินแดนชั้นนอกและดินแดนชั้นใน มีแค่สามคนที่คู่ควรให้นางปรายตามอง แม้กระทั่งปรมาจารย์หงซานก็ไม่คู่ควร!
นางกำลังรอให้ปรมาจารย์หงซานหรือจ้าวเมฆาใต้มาถึง! วินาทีนั้นน้ำแข็งเริ่มพุ่งออกมาและล้อมรอบดินแดนชั้นใน
ดาวเคราะห์แช่แข็งทั้งเก้าลูกในดาราจักรโบราณเกิดการสั่นเทา เด็กหนุ่มข้างในน้ำแข็งเผยรอยยิ้มและเคลื่อนไปข้างหน้า!
สิ่งที่เคลื่อนไหวไม่ใช่ร่างของเขาแต่เป็นเศษน้ำแข็งยักษ์!
เศษน้ำแข็งสั่นเทาและหายวับไปอย่างไร้ร่องรอย มันปรากฏตัวอีกครั้งด้านนอกค่ายกลดินแดนปิดผนึกและพุ่งเข้าหาช่องว่าง!
ขณะที่ปรมาจารย์หงซานกำลังจะสังหารยอดปรมาจารย์หยุนลั่ว พลังงานเย็นผุดออกมาจากช่องว่างในค่ายกล น้ำแข็งยักษ์ไม่เพียงทะลวงค่ายกลมาเท่านั้น มันยังทำให้ช่องว่างใหญ่ขึ้นและเข้าไปในดินแดนชั้นใน!
น้ำแข็งยักษ์พุ่งเข้าไปและแตกสลายเป็นเศษน้ำแข็งนับไม่ถ้วน เศษพวกนั้นเปลี่ยนกลายเป็นพายุน้ำแข็งพุ่งเข้าใส่เซียนสามหมื่นคนของทะเลเมฆา!
ขณะเดียวกันเด็กหนุ่มในน้ำแข็งเผยสายตาดุดันและเข้าประชิดปรมาจารย์หงซาน!
“เด็กเสื้อแดง ตอนนั้นเจ้าและข้าต่างก็เป็นเด็กกันทั้งคู่ เราต่อสู้กันหลายครั้งแต่ ไม่สาแก่ใจ วันนี้เราจะสู้กันอีก!! กลับเข้าร่างดั้งเดิมของเจ้าซะ แค่ร่างอวตารไม่พอ จะต่อสู้กับข้าหรอก!!” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่แยแส เข้าประชิดกับปรมาจารย์หงซานไปแล้ว
ปรมาจารย์หงซานมีท่าทีเคร่งขรึมแต่ไม่เอ่ยคำพูดอันใด เขาก้าวถอยหลังและปรากฏตัวเบื้องหน้าพายุน้ำแข็งที่กำลังพุ่งใส่ทะเลเมฆา สะบัดแขนเสื้อให้พายุแตกกระจาย
ทว่าในขณะที่พายุแตกกระจาย ปรมาจารย์หงซานสีหน้าเปลี่ยนไปมหาศาล!
เงาสีแดงผุดขึ้นในพายุ ร่างสีแดงกะพริบวาบและอยู่ห่างจากปรมาจารย์หงซานไม่ถึงร้อยฟุต มันปะทะเข้ากับปรมาจารย์หงซานด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ!
หลังจากปะทะเข้าใส่ เงาสีแดงจึงล่าถอยให้เห็นเป็นสตรีชุดแดงนางหนึ่ง นางเป็นคนที่ใช้แก่นโลหิตสามหยดเพื่ออัญเผชิญภูตผี นางคือหนึ่งในนางสนมจักรพรรดิเทพ!
ปรมาจารย์หงซานหน้าซีดและถอยไปหลายก้าว บนหน้าอกผุดอักขระโลหิตเป็นรูปศีรษะภูตผีและมันแผ่กระจายอย่างรวดเร็ว
“เจ้ามันน่ารังเกียจเหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยน!” ปรมาจารย์หงซานจ้องมองเด็กชายท่าทีเย็นชาและสตรีชุดแดง
ด้วยการปรากฏตัวของสตรีชุดแดง พายุน้ำแข็งจึงไม่กระจายออกไปอย่างสมบูรณ์ พายุส่วนที่เหลือห่อหุ้มเหล่าเซียนทะเลเมฆาเอาไว้ เกิดเสียงแตกร้าวดังสนั่น
เหล่าเซียนทะเลเมฆาถูกแช่แข็งเป็นรูปปั้น พริบตาเดียวเหล่าเซียนก็ตายไปเกือบหมื่นคน!
การตายของเซียนเกือบหมื่นคนทำให้เกิดความหวาดกลัวเข้าท่วมท้นเหล่า เซียนทะเลเมฆา การเผชิญหน้ากับความตายน่าหวาดกลัวระดับนี้ แม้กระทั่งเกียรติที่กล่าวขานกันมายังต้องสั่นเทาและเกิดการสะดุด!
เป็นเพราะสิ่งที่สตรีชุดแดงกล่าวต่อไปซึ่งทำให้เกียรติยศเหล่านั้นเริ่มพังทลาย!
“สาวน้อยหยุนลั่วนั่นคำนวณทุกอย่างไว้แล้ว เป้าหมายของการต่อสู้นี้เพื่อฆ่าเจ้าและจ้าวเมฆาใต้! เด็กหนุ่มเย็นชาเดาว่าเจ้าคงจะไปช่วยเหล่ามดเซียนทะเลเมฆาจากการหยุดยั้งพายุ หยุนลั่วรู้ว่าเจ้าคงไม่สังเกตเห็นข้าในชั่วนาทีวิกฤต ดังนั้นข้าจึงซ่อนอยู่ข้างในเพื่อโจมตีด้วยกระบวนท่ารุนแรง!”
ประโยคนี้ทำให้เซียนทะเลเมฆาที่เหลืออยู่เกิดความสิ้นหวัง ทุกอย่างอยู่ในแผนของศัตรู เกียรติยศของพวกเขานับเป็นอะไรได้เล่า?
แม้กระทั่งปรมาจารย์หงซานก็ยังตกอยู่ในแผนการศัตรู พวกเขาจะประคองเกียรติยศของตนไปได้อย่างไร? ต้องทำสิ่งใดถึงจะช่วยให้การต่อสู้ดำเนินไปได้เล่า?
นาทีที่เกียรติยศพังทลาย ยอดปรมาจารย์หยุนลั่วเผยแววตาเยาะเย้ยรุนแรงยิ่งขึ้น นางยกเรียวแขนสวยดุจหยกขึ้นมาและเริ่มการโจมตีรุนแรง!
เหล่าเซียนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าหาเซียนฝ่ายทะเลเมฆาที่สูญเสียขวัญกำลังใจ!
จำนวนผู้เสียชีวิตถือว่ามากมายยิ่ง!
สตรีชุดแดงไม่ให้ความสนใจปรมาจารย์หงซานอีกแต่พุ่งตรงเข้าหาจ้าวเมฆาใต้ ผู้กำลังซ่อมแซมค่ายกลดินแดนปิดผนึก!
นางเข้าประชิดในพริบตา จ้าวเมฆาใต้ถอนหายใจและล้มเลิกการซ่อมแซมค่ายกล เขาหันกลับมาและเตรียมการต่อสู้กับนางสนมจักรพรรดิเทพร่วมกับหลิงตงและ โจวจิน!
เด็กหนุ่มเย็นชาไม่ยอมให้ปรมาจารย์หงซานมีโอกาสฟื้นตัว เขาพุ่งเข้าหาปรมาจารย์หงซานเสมือนเศษน้ำแข็งที่ไม่มีวันละลาย! เข้าร่วมกับเซียนขั้นที่สามอีก ห้าคนเข้าต่อสู้กับปรมาจารย์หงซาน!
เหตุการณ์กลับตาลปัตรอย่างฉับพลันได้เขย่าไปทั่วทั้งดาราจักร หากทะเลเมฆาไม่ได้รับกำลังหนุน พวกเขาคงพ่ายแพ้ในการรบเป็นแน่!
กองกำลังที่สามของดินแดนชั้นนอกมีเซียนจากสิบเผ่ามากกว่าหกหมื่นคน พวกเขาพุ่งเข้าหาค่ายกลดินแดนปิดผนึก!
หวังหลินเฝ้าดูเหตุการณ์ทั้งหมด และขบคิดอยู่เงียบๆ เขาล่าถอยไปจนกระทั่งอยู่ด้านหน้าเหล่าเซียนทะเลเมฆา ดวงตาเต็มไปด้วยจิตสังหารอันแรงกล้า ในขณะที่ เซียนทะเลเมฆารู้สึกสิ้นหวัง เขาจึงร่ำร้องเสียงคำรามสั่นสะเทือนสวรรค์ออกมา!
“เซียนเช่นเราไม่เคยหวาดกลัวการต่อสู้!! อย่างมากก็แค่ตายเท่านั้น!!”