Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1549

Cover Renegade Immortal 1

1549. ถามสวรรค์สิว่าใครกำหนดความเป็นความตายได้

แม้เทียนจ้าวจะฟังดูโอหังและเผยท่าทีดูถูก เขาเองก็เคร่งเครียดอยู่มาก ถึงไม่เคยเจอหวังหลินมาก่อน แต่ชื่อเสียงของจ้าวดินแดนปิดผนึกมักจะถูกกล่าวถึงบ่อยครั้งในอดีตที่ผ่านมาหลายสิบปี

โดยเฉพาะเรื่องที่บรรพชนเผ่านกกระจอกเพลิงถูกตัดขาดครึ่งได้ทำให้เขาตกตะลึง อย่างไรก็ตามหากแค่นั้นเขาคงไม่ใส่ใจเพราะบรรพชนเผ่านกกระจอกเพลิงเป็น แค่เซียนขั้นสวรรค์ดับสูญระดับต้นและไม่คู่ควรให้เขาใส่ใจ

สิ่งที่เขาตกตะลึงคือหนานจ้าว ระดับบ่มเพาะของหนานจ้าวพอๆ กับเขา แต่ท้ายที่สุดก็ยังถูกจ้าวดินแดนปิดผนึกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม

ตอนนี้พอได้มาเห็นหวังหลินเป็นครั้งแรก ทั้งยังเห็นอีกฝ่ายหยุดวังวนและ ฉีกกระชากมันที่หมุนอยู่มานานในอดีตจากข้างนอกกองบัญชาการพันธมิตรเซียน

แค่นี้ได้ทำให้ศีรษะของเขาถึงกับด้านชา

อย่างไรก็ตามในตอนนี้เขาต้องพูดเช่นนั้นออกไป ไม่เช่นนั้นถึงแม้จะเผยเจตนาล่าถอย จิตใจของเซียนหลายหมื่นคนคงพังทลายในทันที

‘ตอนนั้นเขาหยิบยืมจิตวิญญาณค่ายกล ไม่มีทางที่คนระดับบ่มเพาะนี้จะสังหารหนานจ้าวได้! วันนี้มันสามารถหยุดยั้งวังวนได้จากความรู้ด้านเขตอาคม ข้าไม่เชื่อว่ามันจะทำทุกอย่างได้โดยไม่มีขวานแยกสวรรค์!’ เทียนจ้าวสงบนิ่งหลังจากขบคิดถึง สิ่งที่อยู่ดินแดนเจ็ดสี ยามนี้เขาโบกสะบัดแขนเสื้อ ส่งมังกรทมิฬเพลิงนรกานต์พุ่งหาหวังหลิน

เซียนดินแดนชั้นนอกหลายหมื่นคนต่างก็ตกอยู่ในความเคร่งเครียด หวังหลินปรากฏตัวขึ้นเร็วเกินไป ก่อนที่พวกเขาจะสามารถจัดลำดับความคิดได้ พวกเขาก็หวาดกลัวกันไปแล้ว ไม่กล้าแม้แต่จะต่อต้าน

ตอนนั้นหวังหลินได้ทิ้งรอยช้ำลึกๆ เอาไว้ มันเป็นสัมผัสความบ้าคลั่งที่ทำให้วิญญาณแต่ละคนสั่นคลอน เป็นสัมผัสแห่งเกียรติยศและอำนาจที่ทำให้พวกเขาต้องสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว!

ก่อนการรบครั้งแรก ดาราจักรโบราณวางหวังหลินไว้เป็นผู้ที่ต้องสังหารหมายเลขหนึ่ง คนส่วนใหญ่ในดาราจักรโบราณรู้สึกดูถูก แต่หลังจากการรบครั้งแรก ไม่มีใครตั้งคำถาม!

หวังหลินเป็นคนที่เซียนดินแดนชั้นนอกหวาดกลัวอย่างมาก ความกลัวนี้มันเหมือนถูกฉีกกระชากร่างกายอย่างเจ็บปวด!

มังกรทมิฬทั้งสามส่งเสียงคำรามสั่นสะเทือนสวรรค์และพุ่งหาหวังหลิน ก่อนที่พวกมันจะเข้ามาใกล้ได้ สายลมโชยทำเอาเรือนผมยาวของหวังหลินล่องลอยไปตามลม เสื้อผ้าสีขาวพลิ้วโบกสะบัด

แม้กระทั่งอวกาศรอบตัวหวังหลินดูเหมือนจะพังทลายไปภายใต้สายลมนี้ เสียงแตกร้าวดังกึกก้องขึ้นมาและปรากฏรอยแยกอวกาศจำนวนมาก

ปรมาจารย์จงเฉินอยู่ด้านหลัง รูม่านตาหดลงและเส้นผมทั้งหมดตั้งชูชัน เขาสัมผัสได้ชัดเจนถึงพลังอันน่ากลัวที่อยู่ในสายลมจากเจ้ามังกรทมิฬเหล่านี้

พลังนี้สามารถทำให้อวกาศพังทลาย หากเศษเสี้ยวของมันร่อนลงใส่เขา ทั้งร่างและวิญญาณคงถูกทำลาย เขารู้สึกว่าถึงแม้จะมีปรมาจารย์ลั่วฟู่อยู่ ปรมาจารย์ลั่วฟู่คงต้องรีบถอยหนี แค่ไม่ระมัดระวังเล็กน้อยก็ทำให้ปรมาจารย์ลั่วฟู่บาดเจ็บสาหัสแล้ว

อย่างไรก็ตามสายลมนี้ไม่ใช่สิ่งที่ปรมาจารย์ลั่วฟู่หวาดกลัว สิ่งที่เขาหวาดกลัวคือหวังหลิน! หวังหลินสงบนิ่งขณะที่เสื้อผ้าและเส้นผมพลิ้วสะบัดอยู่ในสายลม สายลมจากไปโดยที่ใบหน้ายังคงเดิม

ราวกับสายลมทำลายล้างนี้เป็นแค่สายลมอ่อนๆ พัดมาใส่เขา

‘มังกรทมิฬเพลิงนรกานต์สามตัว…’ หวังหลินมองมังกรทั้งสาม แววตากะพริบเย็นเยียบ เขาสามารถใช้พลังได้แค่สองในสิบส่วนเพื่อไม่ให้พลังต่อต้านกระตุ้นขึ้นมา หากเป็นเซียนขั้นสวรรค์ดับสูญ หวังหลินสามารถสังหารได้ทันที แต่พลังแค่สองในสิบส่วนไม่มากพอจะสังหารเซียนขั้นสวรรค์ดับสูญได้ทันที

ทว่ามีหลายสิ่งที่เขาต้องทำวันนี้ ช่วยฉิงชุ่ยและการเอาผลไม้เต๋ามาเป็นสิ่งที่เขาต้องทำแน่นอน หวังหลินตัดสินใจแล้ว

‘ตอนนี้ข้าจะไม่สนพลังต่อต้านไปก่อน แม้มันจะทำให้ข้าระงับมันได้สั้นลง ครั้งนี้ข้าต้องทุ่มสุดตัว!’ หลังจากตัดสินใจ หวังหลินไม่ได้ใช้วิชาอันใด เมื่อมังกรทั้งสามเข้ามาใกล้ หวังหลินเปล่งแววตาเป็นประกายสีทอง!

แสงสีทองกะพริบวาบทั่วบริเวณ ร่างหวังหลินพร่ามัวภายใต้แสงสีทอง กลิ่นอายสั่นสะเทือนสวรรค์กระจายออกมาจากร่าง!

กลิ่นอายทำให้โลกสั่นเทาพร้อมกับห่อหุ้มพื้นที่โดยรอบเป็นแสงสีทอง!

มังกรทมิฬเพลิงนรกานต์ทั้งสามตัวส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน หลังจากถูกแสงสีทองกวาดเข้าไป ร่างกายแต่ละตัวสั่นเทา พวกมันไม่กล้าเข้าใกล้และต้องการถอยหนีแทน

กระนั้นในขณะที่แสงสีทองแพร่กระจาย มังกรทั้งสามตัวทำได้เพียงล่าถอยไปไม่กี่ฟุตเท่านั้นและไม่กล้าไปต่อ! พวกมันมองหวังหลินด้วยความหวาดกลัว ร่างกายใหญ่ยักษ์ดูเล็กน้อยยิ่ง แววตาหวาดกลัวท่วมท้นไปจนหมด!

พวกมันจดจำแสงสีทองนี้ได้!

ลึกเข้าไปภายในความทรงจำ สีทองนี้เหมือนกับสิ่งที่ไม่อาจลบเลือนไปได้!

แม้จะถูกเทียนจ้าวจับเอาไว้ตอนที่ยังเยาว์วัยและค่อยๆ ถูกหล่อหลอมจนกลายเป็นวิญญาณเพลิงนรกานต์ ความทรงจำเรื่องแสงสีทองจากการสืบทอดก็มิอาจลบเลือนไปได้

พวกมันจำได้ชัดเจนว่าเมื่อนาน นานมากแล้วมีคนที่มีแสงสีทองนี้ยืนอยู่ตรงจุดสูงสุดของโลก แม้กระทั่งเผ่าพันธุ์ของมันยังต้องสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวต่อแสงสีทอง

แม้แต่เผ่ามังกรทมิฬทั้งหมดก็คงต้องถูกกวาดล้างหากพวกมันกล้าต่อต้านแสงสีทอง!

ทว่าแสงสีทองในคราวนี้กลับบริสุทธิ์ยิ่งกว่าในความทรงจำ มันเป็นเอกลักษณ์ของพลังปราณสวรรค์!

เมื่อพวกมันสั่นเทา มีตัวหนึ่งทนไม่ไหวและกรีดร้องโหยหวน ร่างกายสั่นสะเทือน โลหิตสีดำพวยพุ่งออกมาจากช่องว่างระหว่างเกล็ด

มังกรทมิฬที่เหลืออีกสองตัวก็ส่งเสียงกรีดร้องและมีโลหิตพุ่งออกมาด้วย พวกมันม้วนตัวและเริ่มเคารพหวังหลินอย่างสั่นเทา

เซียนหลายหมื่นคนที่ถูกแสงสีทองกระทบใส่ถึงกับสั่นไหวและรู้สึกหวาดกลัวอย่างที่สุด กลิ่นอายจากหวังหลินทำให้ทั้งหมดตัวสั่น พวกเขาเหมือนคนธรรมดาที่เพิ่งพบเจอกับเทพ!

อำนาจบารมีอันไร้เทียมทานโผล่ออกมาจากแสงสีทอง เซียนหนึ่งในหลายหมื่นคนไม่สามารถทนไหวอีกต่อไป เขากระอักโลหิต แข้งขาอ่อนยวบ ราวกับพลังอันแข็งแกร่งกำลังกดเขาลงไปจนต้องคุกเข่า หากไม่คุกเข่าและเคารพ ความคิดจิตใจจะพังทลาย

เขาจึงได้คุกเข่าลงพร้อมกระอักโลหิต

เซียนดินแดนชั้นนอกจำนวนมากด้านข้างเขาทำตามไปด้วย ทั้งหมดกระอักโลหิตและคุกเข่า จากนั้นเซียนหลายหมื่นคนก็คุกเข่าลง ไม่มีใครที่แข็งแกร่งพอจะยืนทนได้สักคนเดียว!

ราวกับในร่างหวังหลินมีสายโลหิตของชนชั้นสูง เหล่าเซียนทั้งหมดในโลกต้องเคารพเขา!

ตราบใดที่เป็นเซียน พวกเขามิอาจต่อต้านความน่ากลัวจากวิญญาณได้ ตอนนี้ ดูเหมือนจะลืมเรื่องดินแดนชั้นนอกและดินแดนชั้นในไปแล้ว ทั้งหมดมองเห็นเพียงแค่หวังหลินที่ยืนอยู่เหนือพวกเขาเสมือนเป็นราชา!

เซียนหลายหมื่นคนกำลังคุกเข่าลง มังกรทมิฬพ่ายแพ้! ขอให้สวรรค์กำหนดความเป็นความตาย!

หวังหลินผู้มีสีหน้าสงบนิ่ง ก้าวเดินเข้าหาเทียนจ้าว

ปรมาจารย์จงเฉินลำคอแห้งผากโดยไม่รู้ตัว ความคิดขาวโพลนพลางจ้องมองเหตุการณ์ทั้งหมด เขาไม่กล้าเชื่อกับสิ่งที่กำลังเห็น

วินาทีที่เทียนจ้าวเห็นแสงสีทอง ดวงตาท่วมท้นด้วยความหวาดกลัวขั้นสุดและ กรีดร้องออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ เขาดูเหมือนจะจำอะไรบางอย่างได้ตอนที่เห็นแสง สีทอง สีหน้าท่าทางเปลี่ยนไปพลางล่าถอยอย่างบ้าคลั่ง

การรบระหว่างดินแดนชั้นนอกและดินแดนชั้นใน ชื่อเสียงส่วนตัว คำสั่งจาก สภาราชันย์หรือ? เขาลืมทั้งหมดนั้นไปแล้วและกรีดร้องพลางถอยหนีอย่างหวาดกลัว

‘นี่มันเป็นไปไม่ได้ นี่…นี่…แสงสีทองนี่…’

ร่างหวังหลินสงบนิ่งเป็นอย่างมาก เขากลิ่นอายปรมาจารย์จนมองเห็นได้ทุกคน เขาก้าวเข้าหาเทียนจ้าวที่กำลังถอยหนีและโยนกำปั้นออกไป

เกิดเสียงดังลั่นเป็นปรากฏพายุสีทองและกลายเป็นกำปั้นสีทองขนาดยักษ์ มันทะลุผ่านอวกาศและปรากฏตัวเบื้องหน้าร่างของเทียนจ้าว

เสียงดังปังอึกทึกและเทียนจ้าวกระอักโลหิตก่อนที่ร่างกายจะฉีกขาด เพลิงนรกานต์จำนวนมากปรากฏขึ้นมาพยายามสร้างเป็นร่างกายใหม่

หลังจากกำปั้น หวังหลินสะบัดแขนเสื้อ สายฟ้าสีทองโผล่ออกมาจากตาขวา กองบัญชาการพันธมิตรเซียนจึงเต็มไปด้วยสายฟ้าสีทอง ประกายสายฟ้าตกลงใส่วิญญาณดั้งเดิมของเทียนจ้าว

เกิดเป็นเสียงดังสนั่นคับฟ้า วิญญาณเพลิงนรกานต์จำนวนมากที่อยู่ล้อมรอบเทียนจ้าวจึงส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน พวกมันแตกสลายและตายทันที

‘สายฟ้าเทพ!! นี่มันสายฟ้าเทพ!!’ เทียนจ้าวกระอักแก่นพลังดั้งเดิมออกมา สายตาหวาดกลัวเกินอธิบายพร้อมกับถอยหนีอย่างจนตรอก

“เทพ! เจ้าเป็นเทพ!!” เทียนจ้าวแทบสิ้นความคิดและล้มเลิกการต่อต้าน เขาไม่กล้าต่อต้านอีกแล้ว ตอนนั้นที่เขาจับมังกรสามตัว เขาเห็นแสงสีทองจากเทพมาก่อน ในตอนนั้นเพียงแค่จ้องมองก็ทำให้เขาตกอยู่ในสภาวะย่ำแย่ไปสิบปี!

หวังหลินรู้สึกว่าร่างกายเจ็บปวดรุนแรง พลังต่อต้านแสดงอาการปะทุขึ้นมา เขาตัดสินใจไม่สนใจมันและสะบัดแขนซ้าย ชี้ใส่เทียนจ้าวที่กำลังถอยหนี เปลวเพลิง สีทองในตาซ้ายลอยออกมา ทะเลเพลิงกวาดผ่านเข้าไปเขมือบเทียนจ้าวทันที จากนั้นปรากฏเตาหลอมจักรพรรดิและทุกอย่างก็เลือนหาย!

วิญญาณดั้งเดิมของเทียนจ้าวถูกเก็บเรียบร้อย

ตลอดเวลานี้หวังหลินไม่เอ่ยอะไรออกมาสักคำเดียว ทว่าตอนที่เขาสังหาร เทียนจ้าวได้ง่ายๆ เขากลับเอ่ยคำพูดขึ้นมาอย่างเงียบๆ!

ถามสวรรค์สิว่าใครกำหนดความเป็นความตายได้!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!