1585. พลังอำนาจของเกาทัณฑ์
สายตาหวังหลินเย็นเยียบดุจน้ำแข็ง มองดูคนทั้งสี่ที่กำลังถอยร่นซึ่งรวมถึง ชายหนุ่มชุดขาวที่โอหังยิ่งและแช่แข็งร่มบรรพกาล สีหน้าแต่ละคนเปลี่ยนไปอย่างมากและพยายามหลบหนีอย่างหมดท่า
ทั้งหมดคือเซียนทรงพลังที่มีระดับบ่มเพาะสูงกว่าหวังหลินมาก แต่ตอนนี้พวกเขามาด้วยร่างแยก ดังนั้นระดับบ่มเพาะจึงถูกบังคับให้อยู่ที่ขั้นวิญญาณดับสูญระดับกลาง เป็นระดับที่จะไม่ถูกเซียนดินแดนชั้นในตรวจพบ
อย่างไรก็ตามคนทั้งสี่ได้บังคับให้หวังหลินเผชิญกับวิกฤตความเป็นความตายอยู่หลายครั้ง หากหวังหลินไม่ได้เรียนรู้วิชาร่มบรรพกาลเผาดินแดนในดินแดนตกสวรรค์ เขาคงตายไปแล้วตอนที่โดนรุมโจมตีครั้งแรก!
หากหวังหลินไม่ได้รับโชควาสนามาจากเหลียนต้าวเฟย เขาคงตายด้วยน้ำมือ นางสนมจักรพรรดิเทพทั้งสองคนแล้ว!
เช่นเดียวกัน หากเขาไม่มีคันศรและเกาทัณฑ์ดอกนี้ แม้จะทุ่มสุดตัว เขาก็คงไม่อาจรอดชีวิตได้!
หวังหลินจ้องมองทั้งสี่คน ดวงตาเต็มไปด้วยจิตสังหารเต็มเปี่ยม เขามีพลังพอ จะยิงเกาทัณฑ์นี้ได้แค่ครั้งเดียว ตอนที่เรียกใช้เกาทัณฑ์ เขาต้องสังเวยพลังชีวิตเพื่อใช้คันศรนี้และจะไม่เหลือพลังชีวิตมากนัก
เขาเตรียมเกาทัณฑ์นี้ไว้เพื่อใช้กับราชันย์ ผู้แข็งแกร่งที่สุดยังไม่ปรากฏตัว เขาตั้งใจรอจนกระทั่งทุกคนที่ต้องการสังหารเขาได้ปรากฏตัวจนหมด แล้วจึงใช้เกาทัณฑ์เพื่อสิ้นสุดหายนะครั้งนี้
ทว่าทุกอย่างไม่อาจเป็นไปตามที่หวังหลินต้องการ เขาไม่ใช่ฟ้าดิน ดังนั้นจึงไม่สามารถเปลี่ยนการกระทำหรือควบคุมความคิดของคนอื่นได้
ขณะที่สี่คนเข้ามาใกล้ หวังหลินรู้ว่าหากไม่นำคันศรและเกาทัณฑ์ออกมา เขาคงตายก่อนที่ราชันย์จะมาถึงเป็นแน่!
ร่างเทพอมตะของเขาไม่สมบูรณ์ แม้จะช่วยได้เล็กน้อยแต่หวังหลินได้รับความเสียหายมากเกินไป หวังหลินรู้ว่าหากเขาเจอการแตกสลายมากกว่านี้ วิญญาณเขาอาจจะแตกสลายไปจริงๆและคงตายไปก่อนที่อีกฝ่ายจะได้สังหาร
สิ่งเดียวที่เหลืออยู่คงเป็นแค่ร่างเทพอมตะ!
สิ่งที่เป็นอมตะคือร่างเขา ไม่ใช่วิญญาณ!
“ฆ่า!” หวังหลินคลายมือขวาที่ดึงคันศรจนโค้งงอเหมือนจันทราเต็มดวง แขนขวาสั่นเทา สายคันศรดีดผึงดังกึกก้องไปทั่วโลก พลังทั้งหมดจากสายคันศรถูกถ่ายโอนไปที่เกาทัณฑ์!
เกาทัณฑ์เคลื่อนไปพร้อมสายคันศร เมื่อพลังมหึมาจากสายคันศรส่งผ่านเข้ามา เกาทัณฑ์จึงพุ่งออกไป!
โลกเปลี่ยนนับตั้งแต่นั้น!
เสียงหวีดหวิวดังกึกก้องไปทั่วโลก! เกาทัณฑ์ดุจเส้นสายแห่งความตายพุ่งออกไปอย่างบ้าคลั่ง!
สิ่งที่พุ่งออกไปพร้อมกับมันคือวิญญาณของหวังหลิน วิญญาณดั้งเดิมและ พลังทั้งหมดในร่างเขา พลังโบราณ พลังสายโลหิตเทพและทุกอย่าง!
วินาทีที่เกาทัณฑ์ทะยานออกไป ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนกลายเป็นหมอกควันที่มองไม่เห็นและถูกเกาทัณฑ์ดูดซับ
เขามีพลังพอให้ยิงเพียงแค่ดอกเดียวเท่านั้น!
ร่างหวังหลินสั่นเทาจากคันศรและเผยอาการแตกสลาย เขาถอยไปหลายร้อยฟุตแต่ก็ยังไม่สามารถชดเชยพลังดีดของคันศรได้ โลหิตไหลรินและกระเด็นกลับเข้าไปในน้ำ
ทว่าเขาจ้องมองไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้มกว้าง จ้องมองเกาทัณฑ์ที่ยิงออกไปดอกนั้น!
ยามที่เกาทัณฑ์ยิงออกไป ลำห้วยลึกผุดขึ้นมาในแม่น้ำนิ่ง เกาทัณฑ์ยืดทะยานออกไปเทียบกับลำห้วย ดุจฝ่ามือยักษ์หนึ่งคู่แยกแม่น้ำออกจากกัน
แม้แต่ในท้องฟ้ายังผุดรอยแตกร้าวขนาดใหญ่ รอยแตกแผ่กระจายอย่างต่อเนื่องและดูเหมือนจะทะลวงค่ายกลสังหารอันแข็งแกร่งที่วางเอาไว้สังหารหวังหลินได้ด้วย!
คนทั้งสี่ถอยหนีด้วยความหวาดกลัว ปรมาจารย์เทพซูเฉินเป็นคนที่เร็วที่สุดและห่างออกไปไกลที่สุด นางสนมจักรพรรดิเทพทั้งสองคนติดตามไปอย่างใกล้ชิด สีหน้าแต่ละคนเผยความเจ็บปวดและมีแววตาสิ้นหวัง
ชายหนุ่มชุดขาวมีระดับบ่มเพาะและสถานะต่ำที่สุด เขาตามไม่ทันและรั้งท้ายจนส่งผลให้เขากลายเป็นคนที่อยู่ใกล้เกาทัณฑ์มากที่สุด
เกาทัณฑ์ทะลวงฟ้าดินเข้ามาใกล้ ก่อเกิดระลอกคลื่นแผ่กระจายไปทุกทิศทาง จิตสังหารเต็มเปี่ยมโผล่ออกมาจากเกาทัณฑ์ ผสมผสานกับอักขระเวทย์บนด้ามเกาทัณฑ์ที่กำลังวูบวาบ
ราวกับเวลานี้ไม่มีใครหรือสิ่งใดในโลกจะหยุดยั้งเกาทัณฑ์ดอกนี้ได้ พริบตาเดียวมันก็เข้าประชิดชายหนุ่มชุดขาว
ชายหนุ่มหน้าซีดเผือด เขาพยายามบดขยี้หินหยกเพื่อออกไปแต่ถึงแม้หินหยก จะแตกสลายก็ไม่มีการตอบสนอง ตอนนี้เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดในหน้าผากและกระอักโลหิต
พอรู้ว่าหนีไปไม่รอด จึงร้องคำรามและหันกลับมาใช้วิชา แต่ขณะที่หันกลับมา เกาทัณฑ์พุ่งทะยานใส่บริเวณกลางหน้าผากด้วยความเร็วเกินบรรยาย
ปัง
ศีรษะชายหนุ่มระเบิดในทันที ร่างกายแตกสลายเป็นชั้นๆ ตามที่เกาทัณฑ์แทงทะลุผ่านไป
ขณะที่เริ่มต้นขึ้นนั้นแม้แต่เสียงกรีดร้องโหยหวนยังหายไป ทำให้อีกสามคนตัวสั่นและแทบคิดอะไรไม่ออก
นางสนมจักรพรรดิเทพที่โดนวิชาจันทรามืดจนดูน่าเกลียด แต่ในสายตานางตอนนี้มีแต่ความหวาดกลัวและสิ้นหวัง เกาทัณฑ์เข้าใกล้และชี้ใส่หน้าผากของนาง
นางสนมจักรพรรดิเทพหันกลับมาเผยท่าทีบิดเบี้ยวทันที นางยกแขนขึ้นมาปรากฏม่านแสงเป็นชั้นๆ ทว่าเกาทัณฑ์ทะลุผ่านทั้งหมดไป
ในนาทีวิกฤตนางกระอักโลหิตให้ก่อตัวเป็นคนขึ้นมา มันเริ่มก่อตัวเป็นรูปร่างแต่เกาทัณฑ์พุ่งทะยานผ่านไปจนนางเผยความสิ้นหวังถึงขีดสุด!
เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในชั่วพริบตา นางสนมจักรพรรดิเทพนำพิณโบราณที่เคยดีดก่อนหน้านี้ออกมา พิณนี้เป็นของขวัญจากจักรพรรดิสวรรค์และเป็นสมบัติที่ทรงพลังมหาศาล แต่ในขณะที่พิณโบราณปรากฏขึ้นมาขัดขวางนาง มันแตกสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย นางสนมจักรพรรดิเทพกรีดร้องและล่าถอย แต่นางถอยได้เพียงแค่สองก้าว เกาทัณฑ์ทะลุผ่านพิณและทะลุผ่านศีรษะนางทันที
ศีรษะของนางระเบิดเหมือนชายหนุ่มชุดขาว ร่างกายแตกสลายโดยพลัน เกาทัณฑ์พุ่งทะยานผ่านร่างของนางไปด้วยกัน
เกาทัณฑ์สังหารคนสองคนในครั้งเดียว ดังนั้นจึงสูญเสียพลังทำลายอยู่บ้างแต่ก็ยังมีพลังมหาศาล วินาทีนี้มันพุ่งเข้าใส่คนที่สาม สตรีผู้ใช้วิชาพยากรณ์!
นางเป็นพยานรู้เห็นการตายของชายหนุ่มชุดขาว และจากนั้นเห็นน้องสาวแตกสลาย ใบหน้าเผยความอนาถใจ แม้ร่างกายจะเป็นร่างแยกและการตายธรรมดาถือว่าไม่ส่งผลอะไรนัก แต่การตายด้วยเกาทัณฑ์ดอกนี้จะส่งผลกระทบต่อร่างดั้งเดิมให้บาดเจ็บสาหัส เกาทัณฑ์ไม่ได้เป็นสิ่งที่ควรอยู่ในโลกนี้ มันมาจากบ้านเกิดของนาง เป็นสมบัติที่มีชื่อเสียงยิ่งแห่งตระกูลลี่!
พอเกิดความรู้สึกสิ้นหวัง นางจึงไม่หนีอีกแล้ว นางหันกลับมาเผชิญเกาทัณฑ์ที่กำลังขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆ จนเต็มทัศนวิสัย นางหลับตาลง
เกาทัณฑ์พุ่งเข้ามาใกล้หน้าผากของนาง ขณะที่มันกำลังทะลวงผ่านไป แสงสีรุ้งโผล่ออกมาจากหน้าอก บนคอของนางมีจี้ที่สร้างขึ้นจากหินสีดำรูปทรงวงรี แสงสีรุ้งโผล่ออกมาจากหินก้อนนี้
จี้ลอยขึ้นเบื้องหน้านาง แสงสีรุ้งล้อมรอบร่างกายเอาไว้
ขณะนั้นเกาทัณฑ์ทะลุผ่านหน้าผากของนางไป จนกระทั่งเกาทัณฑ์ผ่านไปนางยังไม่ได้ลืมตาขึ้นมา นางไม่รับรู้ถึงอาการบาดเจ็บอันใด แต่จี้หินสีดำเบื้องหน้านางปรากฏรอยแตกร้าว
“นางสนมสุดที่รักของข้า ข้าขอมอบหินก้อนนี้ไว้ให้เจ้า มันสามารถปกป้องเจ้าได้…หากวันใดวันหนึ่งข้าไม่อยู่ มันจะยังอยู่กับเจ้า…” คำพูดอ่อนโยนจากจักรพรรดิเทพดังกึกก้องในหู
เกาทัณฑ์ทะลุผ่านนางและไล่ตามหลังปรมาจารย์เทพซูเฉินที่อยู่ในร่างหมอก เกาทัณฑ์ทะลุเข้าไปในหมอกจนเกิดเสียงดังสนั่นกึกก้องไปทั่วโลก
สายหมอกพังทลายและจึงควบแน่นเป็นชายชราสวมชุดสีดำ ใบหน้าซีดเซียว ขณะที่ล่าถอย ร่างกายแตกสลายอีกครั้ง
เสียงกรีดร้องดังโหยหวน ในชั่วเวลาสั้นๆ ปรมาจารย์เทพซูเฉินร่างแตกสลายไปหลายครั้ง เมื่อก่อเกิดขึ้นในครั้งสุดท้าย อักขระกลางหน้าผากแตกกระจาย เกาทัณฑ์แทงทะลุผ่านร่างของเขาไป
หนึ่งในห้ายอดปรมาจารย์แห่งดาราจักรโบราณ ปรมาจารย์เทพซูเฉินได้แต่ยิ้ม พลางร้องอย่างโหยหวนและระเบิดร่าง หมอกจำนวนมากสูญสลายไปอย่างไร้ร่องรอย
“ราชันย์ ข้าขัดขวางเกาทัณฑ์ให้เจ้า เจ้าต้องอธิบายเรื่องนี้กับข้า!!” เสียงคำรามโหยหวนดังกึกก้องขณะที่เขาดับสูญไป
มีเพียงคำพูดเดียวที่สามารถอธิบายพลังอำนาจของเกาทัณฑ์ได้ นั่นคือ “สั่นสะเทือนสวรรค์!”
หลังจากสังหารทั้งสามคนไป ในเกาทัณฑ์จึงไม่เหลือพลังอยู่มากนัก แต่ยังมีเสียงโหยหวนและพุ่งเข้าหาท้องฟ้า มันกำลังจะทะลวงเปิดท้องฟ้าและปลดปล่อยหวังหลินจากหายนะ!
ทว่าขณะที่เกาทัณฑ์เข้าใกล้ท้องฟ้า ม่านสีฟ้าเริ่มกะพริบ คนผู้หนึ่งเดินออกมาเงียบๆ เขาสวมชุดคลุมสีดำปกคลุมจนถึงใบหน้า แรงกดดันทรงพลังแผ่กระจายออกมาซึ่งเหนือล้ำกว่าขั้นวิญญาณดับสูญระดับกลาง!
เขายื่นมือเหี่ยวแห้งออกไปและคว้าเกาทัณฑ์!
ร่างกายสั่นไหวและค่อยๆ หันหน้าไปมองหวังหลิน เอ่ยคำพูดสงบนิ่งและแหบพร่า
“เสียงคำรามจากยืมพลังอำนาจในสุสานโบราณ ขัดขวางเซียนดินแดนชั้นนอกในการรบครั้งแรกที่ทะเลเมฆา หวังหลิน ในที่สุดเราก็ได้เจอกันอีกครั้ง…ข้าคือราชันย์…”