Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1640

Cover Renegade Immortal 1

1640. สำนักเจ็ดเต๋า

หวังหลินถอนสายตา ดัชนีไร้เทียมทานชี้ออกไปด้านหน้าหลายครั้ง ทุกครั้งจะทำให้แรงกระแทกลดทอนลงเล็กน้อย นิ้วชี้ขวาของเขาแตกสลายอย่างต่อเนื่องและฟื้นคืนจนกระทั่งเปิดช่องว่างในคลื่นกระแทกได้ หวังหลินจึงก้าวออกมาจากช่องว่างนั้น

แรงกระแทกกวาดผ่านพื้นที่ระยะหลายล้านลี้ให้กลายเป็นเศษซาก เสียงดังสนั่นอยู่นานก่อนจะค่อยๆ จางหายไป ตอนนี้กลายเป็นเสียงดุจสายฟ้าดังสะท้อนไกลออกมา

หวังหลินลอยตัวขึ้นไปในท้องฟ้า มองลงมาบนพื้นดินที่กลายเป็นเศษซาก สายลมพัดกรรโชกก่อตัวเป็นพายุเข้าปกคลุมพื้นดิน

เรือนผมสีขาวพลิ้วสะบัด เสื้อผ้าพัดกระพือ แต่เขาก็สงบนิ่งเยือกเย็น เปล่งอำนาจบารมีของเซียนขั้นที่สามในระดับวิญญาณดับสูญขั้นกลาง

หวังหลินโบกแขนขวา ผลึกสีทองอ่อนที่มีแต่รอยแตกจึงปรากฏขึ้นในฝ่ามือ ผลึกนี้มีความทรงจำของชีวิตชายชราผู้นั้นอยู่ด้วย

ทว่าความทรงจำเหล่านี้ไม่สามารถตรวจสอบด้วยสัมผัสวิญญาณได้ แม้หวังหลินจะมีระดับบ่มเพาะสูงกว่านี้เขาก็คงไม่สามารถมองทะลุความทรงจำเข้าไปได้

ความทรงจำของเหล่าทวยเทพสามารถดูได้ด้วยคนที่มีสายโลหิตเทพเท่านั้น นี่คือเขตอาคมที่ซ่อนตัวอยู่ และถึงแม้หวังหลินจะเป็นเผ่าโบราณ เขาก็ยังไม่สามารถมองดูได้

มันเป็นความแตกต่างทางด้านระดับ เหมือนกับมดได้รับความทรงจำของช้างสาร มดตัวนั้นคงไม่สามารถเข้าใจได้ แต่หวังหลินเป็นคนที่แตกต่าง เขาได้รับหยดโลหิตเทพที่เป็นร่างเทพอมตะของเขามา แม้จะอยู่บนแผ่นดินเซียนดารา มันก็ล้ำค่าบริสุทธิ์เป็นอย่างยิ่ง!

ด้วยโลหิตนี้ หวังหลินสามารถเข้าไปอ่านความทรงจำได้ง่ายเสมือนอ่านตำรา

วินาทีที่เขาหลับตา ดูราวกับเข้าไปในโลกอัศจรรย์!

เขาเห็นแผ่นดินประหลาด แผ่นดินแห่งนี้กว้างใหญ่ไพศาล แม้กระทั่งเจ้าของความทรงจำยังไม่เคยเห็นปลายสุดของแผ่นดิน ไกลที่สุดที่เจ้าของความทรงจำเคยไปอยู่ราวๆ ระยะของดินแดนชั้นในและดินแดนชั้นนอกรวมกัน แต่นั่นก็แค่หนึ่งในหมื่นของพื้นที่ทั้งหมด

สิ่งที่ส่องสว่างแพรวพราวที่สุดบนแผ่นดินนี้คือดวงอาทิตย์เก้าดวงในท้องฟ้า เหล่าดวงอาทิตย์ตั้งตระหง่านอยู่ในท้องฟ้า ส่องแสงห่อหุ้มพื้นปฐพี

หลังจากดูดซับความทรงจำเข้ามา พอหวังหลินได้เห็นดวงอาทิตย์เก้าดวง จึงค้นพบว่าความทรงจำนี้ได้กล่าวถึงตำนานโบราณเอาไว้

ตำนานบอกว่าดวงอาทิตย์เก้าดวงบนแผ่นดินเซียนดาราเป็นตัวแทนของ มหาจักรพรรดิทั้งเก้าคน แม้กระทั่งอาจารย์เจ้าของความทรงจำ ชายวัยกลางคนจาก รูปปั้นสีรุ้ง ก็ไม่บรรลุถึงระดับนี้

ตำนานได้บอกว่าเก้าดวงถือเป็นขีดจำกัดแล้ว กล่าวว่าหากดวงที่สิบปรากฏขึ้น แผ่นดินเซียนดาราจะตกอยู่ในหายนะไร้ที่สิ้นสุด!

ชายชราเจ้าของความทรงจำถือกำเนิดขึ้นในแผ่นดินนี้ เติบใหญ่ขึ้นมาจึงเข้าไปในสำนักแห่งหนึ่งซึ่งถูกเรียกว่าสำนักเจ็ดเต๋า!

เหล่าปรมาจารย์ของสำนักเจ็ดเต๋ามีคู่รักเซียนอยู่หนึ่งคู่ หนึ่งในนั้นคือชายที่มาจากรูปปั้นสีรุ้ง เขาถูกขนานนามว่า ราชันย์เทพสีรุ้ง!

เขามีระดับบ่มเพาะที่ไม่อาจหยั่งถึง ทั้งยังจัดตั้งสำนักของตัวเองขึ้นมาและรวบรวมศิษย์ไว้จำนวนมาก ตลอดหลายหมื่นปีนับตั้งแต่ที่สำนักถูกตั้งขึ้น ได้พบกับหายนะอยู่หลายครั้ง แต่ท้ายที่สุดอันตรายก็ได้ถูกคู่รักเซียนคลี่คลาย พวกเขาค่อยๆ มีชื่อเสียงขึ้นในบริเวณนั้น

ขณะที่เวลาผ่านไป ชายชราผู้เป็นเจ้าของความทรงจำได้กลายเป็นหนึ่งในกองร้อยทหารเทพ เก่งกาจทรงพลังในสำนักเจ็ดเต๋า!

เขาเป็นรองเพียงวิหคศักดิ์สิทธิ์ มังกรฟ้า พยัคฆ์ขาวและเต่าดำเท่านั้น สถานะของเขาสูงส่งมากและสามารถได้ตั้งกฎและรับเม็ดยาใดก็ได้ที่ต้องการ

จนกระทั่งวันหนึ่ง…

ในความทรงจำของชายชรามีแสงเรืองรองออกมาจากด้านนอกสำนักเจ็ดเต๋า กลิ่นอายน่าขนลุกห่อหุ้มทั่วดินแดน

ภายใต้กลิ่นอายนี้ ดวงตะวันสองดวงที่ไม่ควรปรากฏขึ้นในยามกลางคืน พลันปรากฏขึ้นเบื้องหน้าชายชราจนเขาหวาดกลัว

ดวงตะวันสองดวงนี้ค่อยๆ ปรากฏขึ้นในยามกลางคืนทั้งยังเปล่งแสงเจิดจ้า ชายชราสั่นเทาและจดจำฉากเหตุการณ์นี้ไว้ให้ขึ้นใจ เขานึกถึงตำนานและความหมายของดวงอาทิตย์ขึ้นมาได้

ขณะที่เกิดความหวาดกลัวไร้ที่สิ้นสุด เขาได้ยินเสียงดังสนั่นและเสียงคำรามขึ้นมาจนทำให้โลหิตไหลออกจากทวารทั้งเก้า จิตใจสั่นเทาและเขาก็สลบไป

แต่ก่อนที่จะสลบไป เขาสัมผัสได้ว่าจ้าวสำนักและคนรักของจ้าวสำนักได้พุ่งตัวออกไปหาตำแหน่งที่สองดวงตะวันปรากฏ

ชายชราตื่นมาอีกครั้งในหลายวันถัดมา เขารู้สึกขมขื่นที่ค้นพบว่าระดับบ่มเพาะของตนเองตกลงไปหลายระดับ อีกหลายเดือนต่อมา ปรมาจารย์ของสำนักเจ็ดเต๋าได้กลับมาคนเดียว แม้จะมีสีหน้ามืดมนแต่ดวงตาเป็นประกาย

ราชันย์เทพสีรุ้งไม่ได้พูดถึงว่าคู่รักของเขาจากไปไหน เขากลับพาศิษย์ของเขาบางส่วน นางสนมจักรพรรดิเทพหลายคน เหล่าทหารหลักร้อย และสี่ขุนพลเข้าไปในถ้ำ เขาปิดผนึกถ้ำไว้และทิ้งอักขระผนึกเอาไว้นับไม่ถ้วน จากนั้นนำสมบัติบางส่วนที่เจ้าของความทรงจำไม่เคยเห็นออกมาเพื่อปิดผนึกถ้ำ

ความทรงจำกลายเป็นเศษเสี้ยวเนื่องจากมีรอยร้าวอยู่บนผลึก ความทรงจำหลายอย่างแตกหักและไม่ครบถ้วน

ทว่าหวังหลินได้เห็นสตรีคนหนึ่งในเศษเสี้ยวความทรงจำ นางสวมชุดราตรีสีเงินและเป็นคนรับใช้ของราชันย์เทพ

หวังหลินคุ้นเคยกับสตรีผู้นี้ ตอนที่เขาเห็นนางจึงค่อยๆ เชื่อมต่อเรื่องราวได้ชัดเจน สตรีผู้นี้คือร่างศพเงินที่อยู่ในมิติเก็บของของหวังหลินและเป็นคนที่หวาดกลัวรูปปั้นสีรุ้ง!

อีกเศษเสี้ยวความทรงจำหนึ่ง หวังหลินได้เห็นราชันย์เทพสีรุ้ง หรือที่ดินแดนชั้นในรู้จักกันในนามจักรพรรดิเทพโบราณ เขาคือคนเดียวกับรูปปั้นสีรุ้ง!

เขานำพาทุกคนเข้าไปในถ้ำ ผนึกทางเข้าออกเอาไว้ จากนั้นออกไปทำอะไรบางอย่าง เหล่านางสนมจักรพรรดิเทพ เหล่าทหารและสี่ขุนนางไม่รู้ว่าราชันย์เทพกำลังทำอะไร แต่ก็ไม่มีใครกล้าสอบถาม ดังนั้นทั้งหมดจึงหาสถานที่ปิดด่านบ่มเพาะและรอคอยให้ราชันย์เทพเรียกใช้งาน

จนกระทั่งวันหนึ่ง น้ำเสียงมืดมนดังออกมาจากด้านนอกถ้ำ เสียงนี้ปลุกทุกคนที่กำลังบ่มเพาะและรอคอยเจ้านายให้ตื่นขึ้นมา

“ราชันย์เต๋าสีรุ้ง เจ้าถึงกับทิ้งคู่รักของเจ้าไว้เบื้องหลัง เจ้าต้องได้สุดยอดสมบัติเป็นแน่ ถึงกับทิ้งเบาะแสเพื่อล่อลวงข้ามาที่นี่ บัญชาโบราณผู้นี้อยากเห็นนักว่าเจ้าจะใช้เล่ห์กลอะไร!”

ชายชราไม่คุ้นเคยกับเสียงนี้เท่าไรนัก แต่น้ำเสียงกลับมีแรงกดดันทรงพลัง ความคิดของเจ้าของความทรงจำถึงกับสั่นเทาและลืมตา สิ่งที่เขาได้ยินถัดไปถึงกับทำให้รู้สึกหวาดกลัวยิ่ง!

“บัญชาโบราณเย่โม่ ข้าเชิญเจ้ามาที่นี่ แต่เจ้ากลับพูดว่าเป็นเล่ห์กล จะเป็น เล่ห์กลหรือไม่ เจ้าจะรู้เองเมื่อเห็นมัน!”

ชายชราเจ้าของความทรงจำรู้จักชื่อเสียงของบัญชาโบราณเย่โม่เป็นอย่างดี เพราะบัญชาโบราณเย่โม่มีชื่อเสียงมากมาย ทั้งยังเป็นราชาของแคว้นโบราณ!

สิ่งที่เกิดขึ้นถัดไปเป็นเศษความทรงจำที่เสียหาย ดังนั้นหวังหลินจึงไม่เห็นว่า เกิดอะไรขึ้น สิ่งที่หวังหลินเห็นเป็นเศษเสี้ยวความทรงจำชิ้นสุดท้าย

ในเศษเสี้ยวความทรงจำนั้น เขาเห็นการต่อสู้อันปั่นป่วน แต่มันก็พร่ามัวจนไม่เห็นว่าใครกำลังเข้าร่วมในการรบได้เลย เขาเห็นแต่เหล่าทหารหลายร้อย สี่ขุนพลและนางสนมจักรพรรดิเทพหลายคนที่กำลังต่อสู้กับสามคน!

สามคนนั้นพร่ามัวยิ่ง เห็นแต่เพียงแสงสีทองเรืองรองจนดูไม่ออกว่าใครเป็นใคร การต่อสู้ครั้งสุดท้ายกินเวลายาวนานมากจนมีหลายคนล้มตาย หนึ่งในสามคนนั้นปลดปล่อยแสงสีทองทรงพลังและหัวเราะ เขากวาดล้างคนของสำนักเจ็ดเต๋าและ พุ่งใส่ประตูหิน

“ราชาผู้นี้มาด้วยตัวเองแล้ว น้องราชันย์สีรุ้ง เจ้ายังไม่ออกมาคุกเข่าเบื้องหน้าข้าอีก!” เสียงหัวเราะดังกึกก้องออกมาจากชายผู้ปกคลุมตัวเองด้วยแสงสีทอง แต่จิตใจ หวังหลินสั่นสะท้านตอนที่ได้ยินเสียงนี้

ขณะที่เข้าไปใกล้ประตูหิน เสียงคำรามรุนแรงดังออกมาจากประตูหิน ความทรงจำจบลงตรงนั้น!

หวังหลินพลันลืมตาขึ้นมาทันที ผลึกความทรงจำที่เขาประทับใส่หน้าผากพลันสลายกลายเป็นผุยผงและหายไปกับสายลม

‘เสียงของเหลียนต้าวเฟย!!’ หวังหลินสูดหายใจลึก สัมผัสวิญญาณเข้าไปในมิติเก็บของ เขาเห็นเหลียนต้าวเฟยยังคงหลับใหลและยิ้มอย่างขี้เล่น

หวังหลินขบคิดด้วยใบหน้าหมองหม่น ความทรงจำเหล่านั้นได้ช่วยเขาขจัดคำถามไปหลายอย่างแต่ก็เกิดความสงสัยขึ้นด้วย

‘ข้ารู้เรื่องบัญชาโบราณเย่โม่และยังคาดเดาการเข้ามาของเหลียนต้าวเฟยได้บางส่วน…นอกจากนี้ สตรีชุดเงินก็บอกไว้ว่านางไม่ได้เป็นคนเปิดประตู หรือว่าประตูนี้จะเป็นประตูที่เหลียนต้าวเฟยเข้ามา…’

‘ผลลัพธ์ของสงครามครั้งนั้นทำให้เหลียนต้าวเฟยสูญเสียความทรงจำและกลายเป็นบ้า… แดนสวรรค์โบราณกลายเป็นเศษซาก คนที่เหลือของสำนักเจ็ดเต๋าต่างก็ปิดด่านบ่มเพาะกันหมด’

‘เจ้าของถ้ำ จ้าวสำนักเจ็ดเต๋าหรือก็คือราชันย์เทพสีรุ้ง เขาบาดเจ็บสาหัสไปด้วย…ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ หากเป็นจริง เช่นนั้นสิ่งที่พวกเขากำลังต่อสู้อาจจะเป็นสิ่งที่ถูกเรียกว่าเต๋าแห่งสวรรค์ หรือลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า… ระหว่างลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าและเต๋าแห่งสวรรค์มีความเกี่ยวข้องอะไรกันแน่…’

‘ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าเป็นส่วนหนึ่งของสมบัติเข็มทิศ ดังนั้นมันอาจจะไม่ใช่เต๋าแห่งสวรรค์…แล้วมันคืออะไรและมาจากไหนกัน?’

หวังหลินขมวดคิ้ว ดวงตาส่องสว่าง

‘อีกทั้ง ข้ารู้มาจากเผ่าสายฟ้ากระจายว่าหลังจากสงครามนั้นอีกหลายปี มีกลุ่มเซียนต่างถิ่นปรากฏขึ้นอย่างลึกลับในดินแดนชั้นนอก แส้ฟาดวิญญาณเองก็เป็นอาวุธของหนึ่งในพวกเขาด้วย…’

‘คนพวกนั้นเป็นใคร…’ หวังหลินรู้สึกเลือนลางเหมือนกำลังเปิดผ้าคลุมและเข้าใกล้คำตอบของสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!