Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1642

Cover Renegade Immortal 1

1642. พยัคฆ์คำราม

ชายชราพยัคฆ์ขาวเผยสายตาเย็นเยียบ ท่าทีของหวังหลินทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก เขามาถึงช่วงการฟื้นฟูที่สำคัญและเพราะวิธีการฟื้นฟู เขาจึงไม่สามารถใช้พลังได้มากกว่าระดับแก่นแท้ดับสูญขั้นต้น หากมากกว่านั้นเขาอาจจะมีปัญหาในอนาคต

ในความคิดของเขาเดิมทีด้วยพลังเท่านี้คงมากพอที่จะสังหารหวังหลินได้

อย่างไรก็ตามการโจมตีจากหวังหลินครั้งก่อนนั้นช่างประหลาดยิ่งและทำให้ความคิดของพยัคฆ์ขาวต้องสั่นเทา ทำให้เขารู้สึกว่าไม่สามารถมองทะลุความแข็งแกร่งที่แท้จริงของหวังหลินได้

พร้อมด้วยหวังหลินที่ทำลายผนึกของราชันย์เทพได้ จึงทำให้พยัคฆ์ขาวรู้สึกหวาดหวั่นและหวาดกลัว อย่างไรก็ตามเขาบ่มเพาะฝึกฝนในฐานะเทพมานานและไม่อาจถอยไปเพียงแค่คำพูดไม่กี่คำจากหวังหลินได้ ความภาคภูมิใจของเขาเองก็ไม่ยอมถอยเช่นกัน

เขาคือเทพ และในสายตาเขา ไม่ว่าหวังหลินจะทรงพลังแค่ไหน หวังหลินก็เป็นเพียงมดแมลงชั้นต่ำ ยิ่งหวังหลินสงบนิ่งมากเท่าไร ยิ่งทำให้พยัคฆ์ขาวรู้สึกกดดัน มากขึ้นและโกรธเกรี้ยวมากกว่าเดิม

เขาไม่เพียงแค่โกรธหวังหลิน แต่โกรธตัวเองด้วยที่รู้สึกหวาดกลัว เขาจินตนาการไม่ออกว่าตนเองจะกลัวมดแมลงชั้นต่ำไปทำไม!

พยัคฆ์ขาวร้องคำราม ดวงตาปลดปล่อยแสงสีขาวแฝงกลิ่นอายทรงพลังและกดขี่มหาศาล นี่คือกลิ่นอายจากวิถีการบ่มเพาะ มันคือพลังอำนาจความดุร้ายของ ดาวพยัคฆ์ขาว

ชายชราพยัคฆ์ขาวก้าวไปข้างหน้าและพุ่งใส่หวังหลิน แขนขวาสร้างผนึกพลางชี้ใส่ท้องฟ้าและร้องคำราม

“เจ้ากดดันข้าแล้วอย่างไร!? หากเจ้าสามารถรับข้าได้สามกระบวนท่า เมื่อนั้นเจ้าถึงจะมีสิทธิ์พูดกับข้า!” ชายชราส่งเสียงดังลั่นกึกก้องในแดนสวรรค์โบราณ เสียงฟังดูไม่เหมือนคนเดียวแต่เป็นคนนับไม่ถ้วนกำลังร้องคำราม

ส่งผลให้เสียงคำรามนี้สั่นสะเทือนสวรรค์และก่อตัวเป็นคลื่นพลังรุนแรงที่ทำให้พื้นปฐพีต้องสั่นไหว

“กระบวนท่าแรก พยัคฆ์คำรามกวาดขุนเขาและสายน้ำ!” ชายชราสะบัดแขนเสื้อ พยัคฆ์ขาวตัวมหึมาปรากฏขึ้นด้านหลัง พยัคฆ์ขาวตัวนี้ทรงอำนาจยิ่ง สายตากะพริบ สีขาวจับจ้องมาที่หวังหลิน มันส่งเสียงคำรามสั่นสะเทือนสวรรค์!

เสียงคำรามกู่ร้องใส่ท้องฟ้าจนแดนสวรรค์โบราณคล้ายกับล่มสลาย บนท้องฟ้าผุดเป็นม่านพลังคล้ายเกล็ดปลาและตกลงมา เกิดรอยแตกร้าวไม่สม่ำเสมอในอากาศ

พื้นดินด้านหลังหวังหลินสั่นสะเทือนรุนแรง สายลมคำรามรุนแรงและพื้นดินเกิดอาการพังทลาย แผ่นดินคล้ายกับอ่อนยวบในทันที แรงสั่นสะเทือนแผ่กระจายออกไปทุกทิศทางอย่างไร้ขอบเขต

มองไกลๆ ราวกับบนพื้นดินเกิดรอยแผลเป็นนับไม่ถ้วน ช่างดูน่าตกตะลึงยิ่ง

เสียงคำรามจากพยัคฆ์ได้ทดแทนเสียงทั้งหมดในมิติแห่งนี้ เสียงดังกึกก้องและผสานกันกลายเป็นพลังแข็งแกร่งมหาศาล!

ขณะพื้นดินแตกร้าวมันจึงพังทลายในทันที ท้องฟ้าก็แตกระแหง เศษเสี้ยวกระจัดกระจายจนโลกแห่งนี้ถูกความมืดมิดปกคลุม

เสียงเดียวที่เหลืออยู่คือเสียงพยัคฆ์คำรามที่ดังมากขึ้นเรื่อยๆ

หวังหลินยืนอยู่ในอากาศพร้อมกับเสียงอื้ออึง ท้องฟ้าด้านบนหายไป พื้นดินด้านล่างพังทลาย ทั้งร่างเขาถูกล้อมรอบด้วยเสียงคำรามของพยัคฆ์ขาว สายลมทำให้เรือนผมและเสื้อผ้าสะบัดพลิ้ว มันพยายามฉีกร่างเขาให้ขาดสะบั้น

ถ้าไม่ใช่เพราะเขามีร่างเทพโบราณ ร่างกายคงแตกสลายไปแล้วถึงแม้จะมีระดับบ่มเพาะขั้นวิญญาณดับสูญระดับกลาง จากนั้นพอร่างกายแตกสลาย วิญญาณดั้งเดิมคงบาดเจ็บสาหัส

เสียงพยัคฆ์คำรามปลดปล่อยแรงกดดันไม่ด้อยไปกว่าอำนาจแห่งสวรรค์ ในสายตาของหวังหลิน พลังอำนาจจากพยัคฆ์ได้ทำลายขีดจำกัดและสามารถกลืนกินได้ทุกชีวิต!

ที่นี่คือแดนสวรรค์โบราณ เป็นแกนกลางของถ้ำแห่งนี้ หากอยู่ด้านนอกไม่ว่าจะเป็นดินแดนชั้นในหรือดินแดนชั้นใน เมื่อนั้นท้องฟ้าคงเปลี่ยนสีสัน ดาวเคราะห์นับ ไม่ถ้วน แม้กระทั่งอวกาศก็คงพังทลาย เซียนหลายคนคงล้มตายจากเสียงคำราม!

หวังหลินไม่ได้ถอยร่างจากเสียงคำรามและสายลม เขาสงบนิ่งและหลับตา เมื่อหลับตาทุกสิ่งทุกอย่างในโลกจึงกลายเป็นเรื่องเท็จ

เรื่องเท็จนี้เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นด้วยจิตใจ ดังนั้นจึงไม่ใช่ความจริง แต่หวังหลินรู้แจ้งเต๋าแห่งจริงเท็จ หากเขาคิดว่ามันเป็นเท็จ เมื่อนั้นร่างกาย วิญญาณดั้งเดิม ความคิด ทุกสิ่งทุกอย่างของเขาจะคิดว่าโลกด้านนอกไม่ใช่เรื่องจริง!

แก่นแท้แห่งจริงเท็จเป็นแก่นแท้รูปแบบนามธรรม มันถือกำเนิดขึ้นจากจิตใจ!

เมื่อหวังหลินหลับตา เรือนผมหยุดพลิ้วสะบัดในสายลม ราวกับสายลมได้หายไปจนเส้นผมที่กระจายไปเข้ามาปกคลุมบนไหล่

เสื้อผ้าพัดกระพือในสายลมเช่นกัน แต่ในยามนี้มันสงบลง ราวกับไม่มีสายลมตีใส่เขา

ราวกับไม่มีสายลมอยู่รอบตัว!

อย่างไรก็ตามความจริงแล้วเสียงคำรามของสายลมนี้รุนแรงมากขึ้นหลายเท่า และเสียงพยัคฆ์คำรามก็รุนแรงขึ้นไปด้วยเช่นกัน

พื้นดินพังทลายขยายตัวออก แผ่นฟ้าแตกกระจายออกไป ร่างหวังหลินยังคงนิ่งไร้การขยับ ความสงบนิ่งเบื้องหน้าเสียงพยัคฆ์คำรามและสายลมช่างเป็นความขัดแย้งที่ไม่สมกับส่วนที่เหลือของมิติแห่งนี้เลย!

พยัคฆ์ขาวร้องคำรามและก้าวไปข้างหน้า เคลื่อนไหวดุจสายฟ้าเข้าหาหวังหลิน

พริบตาเดียวก็ประชิดตัวหวังหลินได้ เขาสะบัดแขนขวา รวบรวมแสงสีทองในฝ่ามือ กลายเป็นกระบี่สีทอง!

กระบี่ยาวสิบฟุต ชั่วขณะที่เข้าไปใกล้จึงยกแขนและสับลงใส่ศีรษะหวังหลิน!

การสะบั้นได้ทำให้พยัคฆ์คำรามรุนแรงยิ่งขึ้น ท้องฟ้าเปลี่ยนสีสัน สายลมรุนแรง คมกระบี่กำลังผ่าลงใส่หวังหลินที่ยังคงหลับตาโดยไม่มีการต่อต้าน!

เสียงแหลมคมของกระบี่ดุจคมมีดผ่าสวรรค์ผ่านหวังหลิน แต่กลับไม่มีอาการบาดเจ็บบนร่างกาย ราวกับที่ผ่าลงไปเป็นเพียงแค่เงา!

‘แก่นแท้จริงเท็จ!! นี่มันแก่นแท้จริงเท็จ!! บัดซบ เจ็ดเต๋าที่ราชันย์เทพตั้งไว้เพื่อป้องกันการกำเนิดของแก่นแท้นามธรรม ถ้าไม่ใช่เพราะเขาบาดเจ็บสาหัสจนต้องถอนเจ็ดเต๋าพวกนี้ออกมา ไอ้เด็กนี่คงไม่มีวันได้รู้แจ้งเต๋านามธรรมนี้!’

ชายชราพยัคฆ์ขาวมีแววตาตกตะลึงแต่ก็ไม่ยอมแพ้ เขาสะบัดกระบี่ในมือหลายพันครั้ง ส่งเสียงแหลมคมดังกึกก้องต่อไป แต่ร่างหวังหลินก็ยังเป็นภาพมายา คมกระบี่สับผ่านร่างกายไปแต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

พอชายชราพยัคฆ์ขาววาดกระบี่เป็นครั้งสุดท้าย หวังหลินจึงลืมตาขึ้นมา “เล่นพอหรือยัง?”

หลังเอ่ยเช่นนั้น ชายชราจึงล่าถอยโดยไม่ลังเล หวังหลินก้าวเท้า ปรากฏตัวเบื้องหน้าชายชราในทันทีและยกแขนขวาขึ้นเป็นฝ่ามือ กระแทกใส่หน้าอกชายชราอย่างแผ่วเบา

ฝ่ามืออ่อนนุ่มและไร้พลังงานราวกับไม่ใช่พลังสังหาร ทว่าในวินาทีที่ร่อนลงไป สีหน้าของชายชราพยัคฆ์ขาวจึงเปลี่ยนแปลงมหาศาล รู้สึกถึงความเป็นความตาย ฝ่ามือเบาๆ นี้ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัว

“นี่…นี่มัน…” เขาต้องการถอยให้ห่างจากฝ่ามือของหวังหลินแต่มันก็สายเกินไปแล้ว พอฝ่ามือหวังหลินร่อนลงไป แววตากะพริบวาบ จากนั้นกุมนิ้วเข้ามาและถึงแขน

ชายชรากระอักโลหิตและเกิดเสียงดังสนั่น ร่างกายร่วงหล่นราวกับว่าวสายป่านขาด อย่างไรก็ตามมีควันสีขาวถูกดึงออกมาไว้ในมือหวังหลิน

“เวรกรรม!! นี่มันแก่นแท้เวรกรรม!! เจ้ามีสองแก่นแท้นามธรรมอยู่จริงๆ!!”

หวังหลินมองชายชราพยัคฆ์ขาวอย่างเยือกเย็น เสียงพยัคฆ์คำรามยังคงดังอ้อยอิ่งอยู่ในหู หวังหลินไม่ได้ไล่ตามแต่บดขยี้ควันสีขาวในมือ ชายชราพยัคฆ์ขาวตัวสั่นเทา กระอักโลหิตจากนั้นเริ่มถอยร่นเร็วกว่าเดิม

“เจ้าต้อนรับข้าด้วยพยัคฆ์คำราม เช่นนั้นข้าจะคืนไปแบบเดียวกัน!” หวังหลินดวงตาส่องสว่าง วางฝ่ามือขวากลางหน้าผาก ดาวเทพโบราณปรากฏขึ้นมารวมถึงในตาซ้ายและตาขวา จากนั้นศีรษะโบราณปรากฏขึ้นเบื้องหลัง

ร่างเงาของสามเผ่าโบราณปรากฏขึ้นรอบๆ ศีรษะโบราณและครอบคลุมพื้นที่ด้านหลังหวังหลินทั้งหมด ยามนี้หวังหลินจึงส่งเสียงคำราม!

พอเขาคำราม ศีรษะบัญชาโบราณจึงอ้าปากขึ้นและร้องคำรามออกมาเช่นกัน ร่างเงาทั้งสามเผ่าโบราณจึงอ้าปากขึ้นมาร้องคำรามกันทั้งหมด!

เสียงคำรามทั้งหมดกดทับเสียงพยัคฆ์คำรามอย่างสิ้นเชิง ก่อเกิดเป็นคลื่นเสียงเกินคำอธิบายเข้ากระแทกข้างหน้า

ชายชราพยัคฆ์ขาวถูกเสียงคำรามกระแทกใส่จนเดินเซ สองฝ่ามือสร้างผนึกให้พยัคฆ์ขาวตัวยักษ์ผสานเข้ากับเขา มองไกลๆ ดูราวกับชายชราหายตัวไป เหลือเพียงพยัคฆ์ขาวตัวใหญ่เพียงตัวเดียว มันร้องคำรามและทะยานหนีจากเสียงคำรามของเหล่าสามเผ่าพันธุ์โบราณ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!