Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1644

Cover Renegade Immortal 1

1644. เงียบ!

จิตวิญญาณพยัคฆ์ก้มศีรษะและโค้งคำนับให้หวังหลิน จากนั้นมันก็พุ่งเข้าไปผสานในวังวน วังวนหายไปและกลับเป็นพยัคฆ์ขาวตัวใหญ่ดังเดิม

เจ้าพยัคฆ์ขาวส่งเสียงร้อง กระโจนออกจากด้านล่างหวังหลินและเข้าสู่ท้องฟ้า มันหันมามองหวังหลินและไม่สนใจชายชราผมขาวอีกเลย ร่างกายของมันสั่นไหวและเปลี่ยนกลายเป็นละอองแสงส่องสว่างขึ้นทั่วทั้งแดนสวรรค์โบราณ

“เป็นไปไม่ได้!!” ชายชราผมขาวถึงกับหน้าซีด ดวงตาหวาดกลัวและไม่เชื่อสิ่งที่เห็น

เพียงแค่มิติแห่งนี้ส่องสว่างขึ้นจากแสงสีขาวของพยัคฆ์ เงาสีฟ้าหนึ่งก้าวออกมาจากวังวนของรูปปั้นหนึ่งในสี่

ทันใดนั้นเสียงมังกรคำรามดังกึกก้อง ร่างเงาเปลี่ยนกลายเป็นมังกรฟ้ายืดยาวอยู่เบื้องบน ขณะเดียวกันชายชราสวมชุดสีครามก้าวออกมาจากมังกรฟ้า เปลี่ยนกลายเป็นลำแสงและพุ่งใส่หวังหลิน

ลำแสงรวดเร็วยิ่งกว่าประกายไฟ เหตุการณ์เกิดขึ้นในทันทีที่แสงแพรวพราวเลือนหาย เมื่อชายชราผ้าคลุมสีฟ้าเข้าประชิดหวังหลิน ดัชนีขวาพุ่งตรงออกไป สายตาสงบนิ่งแต่แฝงจิตสังหารแผ่กระจายออกมาจากปลายนิ้ว!

ขณะที่ดัชนีขยับเคลื่อนไหว มังกรฟ้าตัวยักษ์ด้านหลังขยับเร็วกว่าและเข้ามาในร่างชายชรา เข้าไปในดัชนีและพุ่งใส่หวังหลิน

มองไกลๆ ราวกับเป็นภาพวาด ในภาพวาดนั้นชายชราถูกปกคลุมอยู่ในแสงสีคราม เบื้องหลังเป็นมังกรฟ้าตัวยาว ดุจชายชราหายไปและถูกแทนที่ด้วยมังกรฟ้าที่กำลังเข้าใกล้หวังหลิน

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเร็วเกินไป เขาอยู่ห่างจากหวังหลินเพียงแค่สามฟุตในทันที!

พร้อมกันนั้นชายชราชุดดำก้าวออกมาจากอีกรูปปั้นหนึ่ง ยามนั้นท้องฟ้ามืดมิด เต่ายักษ์ปรากฏขึ้นมาส่งเสียงคำรามดังสนั่น

เขาเคลื่อนไหวดุจสายฟ้าและพุ่งใส่หวังหลินเช่นกัน ใช้ความเร็วเท่ากับชายชราชุดฟ้าและโยนกำปั้นออกไป

เงาของเต่าดำเกิดการบิดเบือนด้วยเสียงคำรามและผสานเข้ากับชายชรา บนกำปั้นมีหนามผุดขึ้นมานับไม่ถ้วน!

ขุนพลมังกรฟ้าและขุนพลเต่าดำได้ตัดสินใจโจมตีในจังหวะนี้จึงถือเป็นการลอบโจมตี ทั้งสองทะยานตรงเข้าใส่หวังหลิน!

สี่ขุนพลร่วมมือกันมานานหลายปีและรู้จักกันดี พอทั้งสองโจมตี ขุนพลพยัคฆ์ขาวจึงปาดโลหิตออกจากมุมปาก แม้เขาจะไม่มีเงาพยัคฆ์ขาว เขาก็ยังมีกระบี่อยู่ในมือ พลันกระโจนขึ้นไปในอากาศ ร้องคำรามและฟันกระบี่ลงใส่หวังหลิน!

มีเพียงขุนพลวิหคศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่ไม่ปรากฏตัว ราวกับเขาเชื่อว่ากระบวนท่าผสานการโจมตีของทั้งสามคนก็มากพอที่จะสังหารหวังหลินแล้ว!

ทุกอย่างเกิดขึ้นในพริบตา ขุนพลมังกรฟ้าเข้าใกล้ หวังหลินดวงตาส่องสว่างและสัมผัสถึงวิกฤตความเป็นความตายรอบตัว คนอื่นๆ คงเกิดความตระหนกแต่หวังหลินใช้ชีวิตกับความรู้สึกนี้มานับไม่ถ้วนและเติบโตมากับมัน ยิ่งอันตรายเขายิ่งสงบนิ่ง!

ในใจเขาไม่ถือว่าเหล่าเทพที่บาดเจ็บทั้งสามคนนี้ไม่ได้อันตราย ถึงจะโจมตีพร้อมกันแล้วอย่างไรเล่า?

หวังหลินหัวเราะ ยกแขนขวา ชี้นิ้วใส่ดัชนีของมังกรฟ้า ระหว่างกระบวนการนี้ ศีรษะบัญชาโบราณด้านหลังก็ผสานเข้ากับนิ้วไปด้วย

ขณะเดียวกัน ดวงดาวทั้งหมดของเขาหมุนติ้ว พลังโบราณทั้งสามแหล่งผสานเข้ากันจนเกิดเป็นวิชาที่หวังหลินคิดค้นขึ้น!

ดัชนีอมตะ!

ดัชนีนี้สามารถทะลวงผนึกของราชันย์เทพสีรุ้งได้ แล้วทำไมหวังหลินยังต้องกลัวมังกรฟ้าที่บาดเจ็บกันเล่า?

เพียงชี้นิ้ว ท้องฟ้าเปลี่ยนสีสัน ก้อนเมฆกระจัดกระจาย ขุนพลมังกรฟ้าไม่อาจสงบนิ่งได้อีกและมีสีหน้าเปลี่ยนไป เสี้ยววินาทีถัดมาดัชนีของเขาจึงปะทะเข้ากับหวังหลิน

เกิดเสียงดังสนั่นกึกก้องคับฟ้า เสียงดังมากพอสั่นสะเทือนความคิดผู้คน วินาทีที่ทั้งสองปะทะกัน มังกรฟ้าด้านหลังพังทลาย ขุนพลมังกรฟ้ากระอักโลหิต ถูกผลักกลับไปพันฟุตก่อนจะหยุดยั้งตัวเองได้ สายตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

ดัชนีอมตะเป็นกระบวนท่าที่ทรงพลังที่สุดจากมรดกโบราณของหวังหลิน มันไม่ได้พังทลายอย่างสิ้นเชิงเพราะมันสามารถฟื้นฟูได้อย่างไร้ขีดจำกัด ดัชนีของขุนพลมังกรฟ้าทำให้ดัชนีเขาพังทลายไปไม่กี่ร้อยครั้งเท่านั้น ซึ่งยังอ่อนด้อยกว่าของผนึกยิ่งนัก

จำนวนหลักร้อยไม่มากพอทำลายดัชนีอมตะของหวังหลินได้ คนที่ต้องถอยไปคือขุนพลมังกรฟ้า!

ทว่าร่างกายของหวังหลินได้รับผลกระทบไปด้วย มีเพียงนิ้วของเขาที่เป็นอมตะ ไม่ได้รวมถึงร่างกายด้วย โลหิตจึงไหลย้อนออกจากมุมปาก เสียงดังสนั่นอยู่ในร่างกาย อวัยวะภายในเกิดความเจ็บปวดระเบิดขึ้นมา

แต่หวังหลินระงับความเจ็บปวดรุนแรงนี้เอาไว้ ในแววตาผุดจิตสังหาร โลหิตสีทองที่มีร่างเทพอมตะจึงลอยออกมา เปล่งความน่าหวาดหวั่นใส่สี่ขุนพล เพราะโลหิตนี้มีสายโลหิตเทพที่บริสุทธิ์ยิ่ง

ตอนนี้ขุนพลเต่าดำอยู่ใกล้กับหวังหลินมากที่สุดและถูกแสงสีทองกระทบใส่ ราวกับเขาถูกแสงจนร่างกายเปลี่ยนกลายเป็นควันสีดำ เสียงกรีดร้องโหยหวนตามมาติดๆ

หยดโลหิตสีทองลอยออกมาจากหน้าผากหวังหลินและลอยเข้าใส่ขุนพลเต่าดำ หยดโลหิตเจาะทะลุแขนเข้าไป ทำให้เงาเต่าดำด้านหลังพังทลาย เขาส่งเสียงร้อง อย่างเจ็บปวด

ขุนพลเต่าดำถึงกับกระอักโลหิตและรีบถอย ร่างกายถูกล้อมรอบด้วยควันสีดำ หมัดขวาชุ่มไปด้วยโลหิต แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“สายโลหิตเทพ เจ้ามีสายโลหิตเทพจริงๆ!! เป็นไปไม่ได้ สายโลหิตเทพที่มีความบริสุทธิ์ขนาดนี้ นี่…นี่…นี่มันร่างเทพอมตะ!!”

ขณะถอยไป หยดโลหิตสีทองลอยกลับไปหาหวังหลิน

หนึ่งดัชนีบังคับให้มังกรฟ้าถอยไป และหนึ่งโลหิตทำลายเต่าดำโบราณ อย่างไรก็ตามวิกฤตยังไม่จบเท่านี้ ยังมีกระบี่แยกสวรรค์จากขุนพลพยัคฆ์ขาวด้วย!

กระบี่เข้าใกล้พร้อมกับเสียงร้องหวน หวังหลินเงยหน้าและระงับพลังปั่นป่วน ในร่างกาย เขายกแขนขึ้นและต้านเข้าใส่ปลายกระบี่

พายุเพลิงเก้าสีพรั่งพรูไปกับฝ่ามือ จากนั้นมีสายฟ้าตามมาติดๆ เปลวไฟก่อตัวเป็นประทับฝ่ามือลอยเข้าใส่กระบี่ของขุนพลพยัคฆ์ขาว

สายฟ้ารวมตัวกันเกิดเป็นอีกฝ่ามือที่เต็มไปด้วยสายฟ้า มันตามหลังฝ่ามือเพลิงไปตรงๆ!

ยังไม่จบแค่นี้!

ต่อจากฝ่ามือสายฟ้า พลังแห่งเวรกรรมรวมกันเป็นก้อนพลังปั่นป่วนจนเปลี่ยนเป็นฝ่ามือที่สาม!

แก่นแท้แห่งชีวิตและความตายคือฝ่ามือถัดไป ควันสีดำและขาวผสานกันเป็น ฝ่ามือที่สี่!

แก่นแท้จริงเท็จปรากฏขึ้น สับเปลี่ยนระหว่างจริงเท็จจนเกิดเป็นประทับฝ่ามือ ที่ห้าขึ้นในทันที!

ท้ายที่สุด แก่นแท้สังหารระเบิดออกมาจากร่างหวังหลินเพื่อสร้างเป็นประทับ ฝ่ามือที่หก หกฝ่ามือเชื่อมต่อกันดูราวกับเป็นภาพลวงตา ลอยทะยานเข้าหากระบี่ขุนพลพยัคฆ์ขาว!

เสียงดังสนั่นกึกก้องไปทั่วโลกและก่อตัวเป็นพายุ กระบี่ในมือขุนพลพยัคฆ์ขาวถึงกับแตกหัก หลังจากกระบี่พังทลาย หกประทับฝ่ามือจึงร่อนลงบนหน้าอกขุนพลพยัคฆ์ขาว

ขุนพลพยัคฆ์ขาวกรีดร้อง พลังเทพจำนวนมากปะทุออกมาจากร่างกาย เขากระเด็นกลับไปโดยมีขุนพลมังกรฟ้าและขุนพลเต่าดำช่วยค้ำจุนขุนพลพยัคฆ์ขาวจากด้านหลัง

“ช่วยข้าเปิดผนึกฟื้นฟู ข้าจึงจะสามารถปลดปล่อยแก่นแท้และสังหารมันได้!!” ขุนพลพยัคฆ์ขาวดูอ่อนแอและหน้าซีด แต่สายตาเปล่งแสงอำมหิต เขากระเด็นกลับไปใส่มังกรฟ้าและเต่าดำ เรือนผมสีขาวยุ่งเหยิงและเริ่มร้องคำรามบ้าคลั่ง

กลิ่นอายเริ่มระเบิดขึ้น อักขระรูนสีทองปรากฏขึ้นกลางหน้าผาก!

“มังกรฟ้า เต่าดำ ช่วยข้าเปิดผนึก!! ถ้าไม่ใช่เพราะเราต้องฟื้นฟูเซียนของเรา เราคงไม่ถูกเจ้ามดแมลงนี่กดดันขนาดนี้ ข้าจะฆ่ามัน! มันมีคุณสมบัติอะไรถึงมากดดันเรา? มันก็แค่มดแมลงชั้นต่ำ!!”

หวังหลินสีหน้านิ่งเฉยแต่เขายังบาดเจ็บ เขาเกือบไม่สามารถทนรับการโจมตีจากทั้งสามคนนั้นได้ ถ้าไม่ใช่เพราะเขามีไพ่ตายหลายอย่าง เขาคงบาดเจ็บสาหัสไปแล้ว

ตอนนี้พอได้เห็นพยัคฆ์ขาวบ้าคลั่งขึ้นมา จึงยกแขนซ้ายและยื่นออกไปในความว่างเปล่า แสงสีทองเรืองรองผุดออกมาจากฝ่ามือ เมื่อแสงสีทองหายไป พลันปรากฏคันศรโบราณ!

แขนซ้ายถือคันศร แขนขวารั้งสาย หวังหลินดึงไปจนสายตึงแน่น! เกาทัณฑ์โบราณค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนสายคันศร!

เมื่อเสียงจากสายคันศรดังลั่น ทุกอย่างกลับเงียบกริบ พยัคฆ์ขาวไม่ร้องคำรามและไม่พยายามเปิดผนึกอีกแล้ว เขายืนนิ่ง ตะลึงงันมองดูคันศรในมือหวังหลินและเกิดแววตาหวาดกลัวอย่างที่ปิดไว้ไม่มิด

ขุนพลมังกรฟ้าเองก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ เขาถอยร่นโดยไม่รู้ตัว แววตาหวาดกลัวสุดขั้ว

“คันศรของลี่กวง!!”

ขุนพลเต่าดำเองก็หวาดกลัวเช่นกัน ควันสีดำรอบร่างเพิ่งจะถูกระงับได้ แต่พอเขาได้เห็นคันศร สีหน้าจึงซีดเผือดในทันที

“… สหายเทพหวังหลิน ได้โปรดอย่าโกรธเกรี้ยว โปรดไว้หน้าข้าบ้างและเรามาเจรจากัน…” ท่ามกลางความเงียบนี้ ร่างเงาสวมชุดสีแดงก้าวเดินออกมาจากรูปปั้นตัวสุดท้าย เขาคำนับฝ่ามือให้หวังหลินอย่างอึดอัดใจ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version