1651. การตรวจสอบ
เซียนขั้นสวรรค์ดับสูญต้องกลืนกินจิตวิญญาณเต๋าเพื่อควบแน่นมิติเพลิงนรกานต์ของตัวเอง ดังนั้นจึงต้องใช้วิญญาณเพลิงนรกานต์จำนวนมาก อย่างไรก็ตามมิตินี้เป็นพลังภายนอกเท่านั้น เมื่อบรรลุขั้นวิญญาณดับสูญได้จึงจะสามารถผสานมิติ เพลิงนรกานต์เข้าไปในร่างตัวเองได้ การทำเช่นนี้จะทำให้วิญญาณเพลิงนรกานต์เทิดทูนเจ้าของและทำให้พวกเขาใช้วิชาทรงพลังได้
การบรรลุผ่านในแต่ละขั้นดับสูญนั้นถือเป็นเรื่องยากมาก แต่การผ่านจาก ขั้นวิญญาณดับสูญไปสู่ขั้นแก่นแท้ดับสูญเป็นเรื่องยากที่สุดเนื่องจากมันต้องใช้แก่นแท้รูปแบบนามธรรม!
แก่นแท้แบ่งออกเป็นสองแบบคือนามธรรมและรูปธรรม พวกห้าธาตุนั้นถือเป็นแบบรูปธรรมจับต้องได้ แก่นแท้แบบนี้ได้รับมาง่ายและไม่ต้องเข้าใจซับซ้อนอะไร เพียงแค่ต้องมีจำนวนมากเข้าไว้และแก่นแท้จะค่อยๆ สมบูรณ์ไปเอง
แก่นแท้เพลิงและแก่นแท้สายฟ้าของหวังหลินจึงสมบูรณ์แบบเดียวกันนี้
แต่ยังมีแก่นแท้รูปแบบนามธรรมเช่นแก่นแท้เวรกรรม แก่นแท้ชีวิตและความตาย แก่นแท้จริงเท็จ แก่นแท้เหล่านี้ได้รับมายากยิ่งเพราะไม่จำเป็นต้องค้นหา เพียงแค่ต้องเข้าใจ
เหตุผลว่าทำไมถึงมีเซียนขั้นแก่นแท้ดับสูญอยู่น้อยมาก เซียนหลายร้อยล้านคนจะมีสักไม่กี่สิบคน นั่นเป็นเพราะแก่นแท้รูปแบบนามธรรมได้รับมายากที่สุด
หากบรรลุแก่นแท้นามธรรมไปแล้วตอนที่ทะลวงประตูดับสูญ เมื่อนั้นคอขวดในขั้นวิญญาณดับสูญจะผ่านไปได้ง่ายดาย อย่างไรก็ตามมีน้อยคนที่บรรลุขั้นที่สามได้ด้วยแก่นแท้นามธรรม เป็นผลให้การจะได้มาต้องไปขโมยหรือทำความเข้าใจเอาเอง
แม้หลังจากบรรลุขั้นที่สามจะทำให้แก่นแท้สมบูรณ์ยากขึ้น แต่ตลอดหลายชั่วอายุคน มีคนจำนวนมากและเหล่าอัจฉริยะลองมาหลายวิธี พวกเขาจึงค่อยๆ เกิดวิธีหนึ่งขึ้น
วิธีนั้นถือว่าประหลาดมากแต่มันแสดงให้เห็นว่าเหล่าเซียนทั้งหมดคิดเหมือนกัน วิธีนั้นคือการทำให้วิญญาณเพลิงนรกานต์นับไม่ถ้วนบ่มเพาะกันเอง ความเร็วระดับบ่มเพาะของวิญญาณเพลิงนรกานต์จะเป็นส่วนช่วยเซียนขั้นที่สามคนนั้นอย่างมหาศาล พวกเขาสามารถสร้างขุนเขาและสายน้ำและหมุนเป็นวัฏจักรไปจนผู้คนในมิติเพลิงนรกานต์ไม่รู้ว่ากำลังอยู่ในโลกแห่งมายา
ซึ่งจะทำให้วิญญาณเพลิงนรกานต์ได้รับพลังแห่งมายา พอเวลาผ่านไปหลายชั่วอายุคน จะมีวิญญาณดวงหนึ่งที่มีแก่นแท้รูปแบบนามธรรมถือกำเนิดขึ้น
เมื่อแก่นแท้นามธรรมถือกำเนิด จะถูกเซียนขั้นที่สามผู้นั้นกลืนกิน แต่เพราะทั้งหมดนั้นเป็นเพียงภาพมายาและแก่นแท้ซึ่งเดิมทีเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเซียนขั้นที่สาม การกลืนกินจึงสมบูรณ์แบบ
เช่นเดียวกันนี้ เพราะระดับบ่มเพาะของวิญญาณเพลิงนรกานต์เหล่านั้นจะเป็นภาพมายา ดังนั้นเมื่อออกมาจากมิติเพลิงนรกานต์ได้ ก็จะเปลี่ยนกลับเป็นคนธรรมดาทั่วไป
ตลอดหลายชั่วอายุคน เมื่อมีใครสักคนพยายามค้นหาว่าโลกที่อาศัยอยู่นั้นเป็นเพียงดินแดนเพลิงนรกานต์ของเซียนทรงพลังหรือไม่ กลับไม่ได้รับคำตอบ
สิ่งเดียวที่พิสูจน์ได้คือเมื่อออกมาจากมิตินั้น หากระดับบ่มเพาะทั้งหมดหายไปและกลายเป็นคนธรรมดา เมื่อนั้นตัวตนที่เคยอยู่จึงเป็นแค่เพียงมิติเพลิงนรกานต์
อย่างไรก็ตามหากระดับบ่มเพาะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปหลังจากออกมา เมื่อนั้นทุกอย่างคือเรื่องจริง!
ขณะที่หวังหลินท่องทะยานผ่านดาราจักรอัญเชิญนที สัมผัสวิญญาณของเขากลับมาพร้อมกับศีรษะหนึ่ง เมื่อจับศีรษะทีแรกจึงใช้วิชาค้นวิญญาณและได้รับความทรงจำทั้งหมดจากชายวัยกลางคนมา
เพียงสะบัดแขนขวา ศีรษะอีกหัวจึงถูกเติมเข้าไปในหนึ่งหมื่นหัวด้านหลัง นี่คือศีรษะของเซียนขั้นที่สามคนแรกแต่เห็นได้ชัดว่ามันคงไม่เป็นหัวสุดท้าย
ในดาราจักรอัญเชิญนทีไม่มีเซียนขั้นที่สามเหลืออยู่ หากมีก็คงหนีไปนานแล้ว หวังหลินท่องทะยานดุจลำแสงและกวาดล้างไปทั่วดาราจักรอัญเชิญนที
ดาวเคราะห์ที่เขาผ่านไปล้วนเกิดการนองเลือด ราวกับสายลมรุนแรงผ่านไปและทำให้ศีรษะนับไม่ถ้วนหลุดลอยออกมาติดตามเขา
บ่อยครั้งจะเป็นแสงกระพริบสีขาวปรากฏขึ้นใกล้ๆ ดาวเคราะห์หรือกองประจำการและเกิดความตายติดตามหวงหลินมา ยิ่งหวังหลินเดินทางยิ่งมีศีรษะรวมกันด้านหลังเขาจนเกือบห้าหมื่นหัว!
ห้าหมื่นหัวฟังดูง่าย แต่หากมองดูทั้งหมดแล้ว ภาพที่เห็นคงทำให้เซียนทุกคน ตกตะลึง มันไม่ใช่เพียงแค่ตัวเลขแต่เป็นศีรษะจริงๆ ที่มองเห็นได้ กลิ่นคาวเลือดหนาแน่นจนแม้จะอยู่ไกลๆ ก็ยังได้กลิ่นชัดเจน
ตอนที่ซือถูหนานและเซียนหลายพันคนมาถึง พวกเขามาที่ดาราจักรอัญเชิญนทีถึงกับร้องอุทานและใจลอย! ขณะที่ท่องทะยานต่อไป ผ่านดาวแต่ละดวงที่ถูกย้อมด้วยสีแดงโลหิต ผ่านดวงแล้วดวงเล่าจึงมีเซียนของดาราจักรอัญเชิญนทีติดตามรอยเท้าของหวังหลินมากขึ้น
หวังหลินเคลื่อนไหวและพวกเขาตามอยู่ด้านหลัง แม้ระยะห่างยังคงห่างไกลแต่หวังหลินเหมือนกระบี่ที่หันปลายพุ่งออกไป คนอื่นๆ ได้แต่ติดตามเขามา
หวังหลินถอนตัวออกดาราจักรอัญเชิญนทีหลังจากตัดสินแล้วว่าไม่มีเซียนดินแดนชั้นนอกเหลืออยู่ เขาก้าวเท้าเข้าไปในดาราจักรทะเลเมฆาพร้อมกับศีรษะเกือบ ห้าหมื่นหัวที่กรีดร้องโหยหวน!
ทะเลเมฆาเดิมทีเป็นด่านหน้าของสงคราม เซียนจำนวนมากของทั้งสองฝ่ายต่างก็ตายกันที่นี่ เมื่อหวังหลินเข้าไปพลันสัมผัสได้ถึงเสียงกรีดร้องของเหล่าภูติผีนับไม่ถ้วน
เขาหลับตา สัมผัสมันอยู่สักพักจึงลืมตาขึ้นมาเผยจิตสังหารรุนแรง หวังหลินท่องทะยานต่อไปพร้อมกับศีรษะห้าหมื่นหัวด้านหลัง เป็นภาพเหตุการณ์ที่น่าตกตะลึงยิ่ง
‘ห้าหมื่นหัวน่าจะมาพอจนสร้างค่ายกลแห่งชีวิตและความตายได้แล้ว!’ หวังหลินเคลื่อนผ่านดาราจักรทะเลเมฆา แผ่นดินมากกว่าครึ่งในอดีตได้ล่มสลายและพังทลายไปหมด
แผ่นดินที่เหลืออยู่ถูกเซียนดินแดนชั้นนอกจำนวนมากครอบครอง พวกมันอยู่ที่นี่มานานแล้ว และเพราะทะเลเมฆาเป็นด่านหน้า จึงมีเซียนดินแดนชั้นในเหลืออยู่ น้อยมาก ส่วนใหญ่ตายกันไปหมด
ทั้งทะเลเมฆาได้กลายเป็นแผ่นดินของดินแดนชั้นนอก!
สัมผัสวิญญาณของหวังหลินแพร่กระจายออกไปล้อมรอบทะเลเมฆาในทันที ทุกสิ่งทุกอย่างในทะเลเมฆาปรากฏขึ้นกระจ่างชัดในจิตใจ หัวใจหวังหลินปะทุ ความโกรธขึ้นดุจพายุ สายตามองไปยังทะเลเมฆาเสมือนคนแปลกหน้า
เขาไม่ได้ซ่อนสัมผัสวิญญาณเลยแต่ใช้วิธีกดขี่ครั้งนี้เพื่อบอกเหล่าเซียนดินแดนชั้นนอกทั้งหมดว่าเขามาถึงแล้ว
เซียนดินแดนชั้นนอกบนแผ่นดินทั้งหมดถึงกับตื่นขึ้นเมื่อสัมผัสวิญญาณของหวังหลินได้ ทั้งหมดมองขึ้นฟ้าด้วยความตกตะลึงและเกิดความรู้สึกแย่ๆ ขึ้นในใจ
สัมผัสวิญญาณของหวังหลินเสมือนพายุที่พัดผ่านทะเลเมฆา ราวกับค้อนหนักหน่วงตีเข้าใส่จิตใจเซียนดินแดนชั้นนอกทุกคน
ลึกเข้าไปภายในทะเลเมฆา มีดาวเคราะห์ดวงหนึ่งที่เคยเป็นดาวเคราะห์ของสำนักทะลวงสวรรค์ แต่ตอนนี้มันกลายเป็นซากปรักหังพัง มีสาหร่ายสีฟ้าและสีม่วงเติบโตขึ้นที่นี่จนถึงหลายพันฟุต มองไกลๆราวกับดาวเคราะห์ที่มีเส้นผมปกคลุม
ทั่วทั้งดาวเคราะห์ถูกปกคลุมไปด้วยสาร่ายสีฟ้าและสีม่วง ใจกลางสาหร่ายคือกิ่งก้านขนาดยักษ์ที่มีความหนาหลายร้อยฟุต มันเป็นดอกไม้สีม่วงขนาดยักษ์!
ดอกไม้นี่มีความสูงมากกว่าหมื่นฟุต เห็นได้ชัดว่าสาหร่ายเติบโตขึ้นมาได้เพราะมัน! ดอกไม้ไม่ได้แบ่งบานแต่มีต้นอ่อนขนาดร้อยฟุตอยู่ตรงปลายยอด
ต้นอ่อนดอกไม้อยู่ใจกลางและค่อนข้างโปร่งใส มีสตรีผู้หนึ่งนั่งอยู่ข้างใน นางงดงามยิ่งและสวมชุดราตรีโปร่งแสง นั่งบ่มเพาะอยู่ตรงนั้น
กลิ่นอายระดับบ่มเพาะขั้นวิญญาณดับสูญระดับกลางแผ่กระจายออกมาจากต้นอ่อนดอกไม้ เมื่อกลิ่นอายของหวังกลินแผ่กระจายผ่านทะเลเมฆา สตรีข้างในต้นอ่อนดอกไม้ถึงกับลืมตา
นางลืมตาด้วยสายตาตกตะลึง สาหร่ายบนดาวเคราะห์สั่นไหว
ไกลออกไปจากดาวเคราะห์ ที่ที่สายหมอกเกิดเป็นหลุมขึ้นมาในค่ายกลดินแดนปิดผนึก มีแผ่นดินยักษ์หนึ่งลอยอยู่ตรงนั้น เซียนดินแดนชั้นนอกนับไม่ถ้วนกำลังเคลื่อนไหวนำเอาหินขนาดใหญ่มาสร้างเป็นอาราม
อารามแห่งนี้มีโครงร่างเป็นพื้นฐานแล้วและมีรูปปั้นอยู่ตรงยอด รูปปั้นมีปีกสีดำขนาดยักษ์สองข้าง เปล่งสัมผัสแห่งอำนาจและดูดุดัน
รูปปั้นนี้ไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นค้างคาวยักษ์!
ชายชราชุดสีแดงกำลังนั่งอยู่บนรูปปั้น กลางหน้าผากมีอักขระค้างคาวสีดำ! เมื่อสัมผัสวิญญาณของหวังหลินกวาดผ่านมา ชายชราพลันลืมตาด้วยความหวาดกลัว เขาลุกขึ้นยืนมองท้องฟ้าด้วยใบหน้าซีดเซียวทันที
ขณะเดียวกัน เซียนดินแดนชั้นนอกทั้งที่อยู่ในดาราจักรทุกชั้นฟ้า พวกเขารวมตัวกันอยู่ที่นี่หลายแสนคนและมีเซียนขั้นที่สามมากมายกำลังสู้รบ มีอยู่หลายคนที่ร่วมมือกันสังหารหวังหลินด้วย!
เซียนหลายแสนคนของดินแดนชั้นนอกก่อตัวเป็นวงกลม แค่ชำเลืองสายตามองคงบอกได้ว่ามันปกคลุมไปทั่วอวกาศ พวกเขาดูเหน็ดเหนื่อยแต่ความดุร้ายไม่ได้ลดทอนลงไปเลย
เซียนหลายแสนคนกำลังล้อมรอบค่ายกลขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นจากดาวเคราะห์ 999 ดวง แต่ละดวงพอมีเซียนดินแดนชั้นในอยู่บ้าง ทั้งหมดต้านทานอยู่ที่นี่มา นานแล้ว
ใจกลางค่ายกลเป็นแท่นวงกลม ล้อมรอบด้วยหมอกและแทบมองไม่เห็น คนผู้หนึ่งกำลังนั่งอยู่บนแท่น
บนดาวเคราะห์เซียนดวงหนึ่ง สตรีผู้มีสีหน้าไม่แยแสกำลังกัดริมฝีปาก แววตาเผยความสิ้นหวัง
อีกดาวเคราะห์หนึ่ง มู่ปิงเหมยรวบผมยาวมัดขึ้นไป นางสวมชุดสีขาว ใบหน้างดงามเต็มไปด้วยความสับสน
เหล่าผู้คนที่หวังหลินคุ้นหน้าคุ้นตาต่างก็อยู่บนดาวเคราะห์เหล่านี้