Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1686

Cover Renegade Immortal 1

1686. น้องแดง!

เจ้ามังกรเพลิงส่งเสียงร้องโหยหวน ใช้พลังเต็มที่และถอยร่น เปลวเพลิงปกคลุมร่างจนมันถอยหนีอย่างรวดเร็ว

วิธีที่หวังหลินใช้รวบรวมเปลวเพลิงช่างน่ากลัว และมันยังสัมผัสแก่นแท้เปลวเพลิงในร่างหวังหลินชัดเจน

มันเองก็มีแก่นแท้เปลวเพลิง แต่ก็แน่นอนว่าอ่อนแอกว่าเมื่อเทียบกับแก่นแท้ของหวังหลิน เป็นผลทำให้เจ้ามังกรเพลิงไม่กล้าจะต่อสู้หวังหลินเลย

มันจึงถอยหนีด้วยความหวาดกลัว หวังหลินมองเจ้ามังกรเพลิงพลันบีบแขนขวาและบดขยี้เปลวเพลิงในมือ

คลื่นความร้อนแผ่กระจายจากฝ่ามือหวังหลินไปทุกทิศทาง หวังหลินไม่ได้ไล่ตามแต่ค่อยๆ สร้างผนึก

ผนึกนี้ถูกวิหคเพลิงรุ่นที่สองมอบไว้ให้เพื่อควบคุมเจ้ามังกรเพลิง!

หลังจากผนึกปรากฏ เจ้ามังกรเพลิงที่ล่าถอยไปไกลแล้วจึงส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน ผนึกอันเป็นเอกลักษณ์ปรากฏขึ้นกลางหน้าผาก

ผนึกประทับลึกลงบนศีรษะ สลักไว้ในวิญญาณ!

“เหล่าวิหคศักดิ์สิทธิ์เช่นเจ้าไม่มีใครเป็นคนดีสักคน ช่างน่าเจ็บปวดนัก…เจ้าบอกว่าจะปล่อยข้าไปแต่ก็ยังทิ้งผนึกไว้กับข้า…” เปลวเพลิงรอบมังกรเพลิงแตกสลายทำให้เห็นร่างของมัน พริบตาเดียวร่างก็ขยายออกไปมากกว่าแสนฟุต

ร่างใหญ่ยักษ์เปล่งแรงกดดันทรงพลัง

ทว่าในยามนี้ แรงกดดันมิอาจส่งผลกระทบถึงหวังหลินได้เลย ร่างเจ้ามังกรเพลิงบิดเบี้ยวและเกิดความเจ็บปวดจนทำให้มันต้องหลั่งน้ำตา

“ช่างน่าเจ็บปวด…ข้าจะไม่หนี ข้ายอมแพ้ ข้ายอมแพ้ เจ้าจะทำอะไรก็ได้ตามใจเลย ข้าจะไม่หนีอีกแล้ว…”

หวังหลินสลายผนึกในมือขวา จากนั้นขึ้นไปยืนเหนือหัวเจ้ามังกรเพลิงในพริบตา มันต้องการดิ้นรนแต่พอนึกถึงความเจ็บปวดรุนแรงที่เพิ่งเจอมาจึงสั่นตัวด้วยความหวาดกลัว มันกลัวเกินกว่าจะต่อต้าน ในแววตามีหยดน้ำและเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

มันมองตำแหน่งสำนักมังกรเทพอยู่ไกลๆ ในสายตามีน้ำตารื้นขึ้นอีก

‘สำนักมังกรเทพของข้า… บัดซบ ข้าไม่ควรมาทางนี้… ข้าควรไปทางอื่น…’

หวังหลินยืนอยู่เหนือหัวมังกรเพลิง คลื่นพลังงานความร้อนออกมาจากหัวของมันและห่อหุ้มรอบตัวเขา แม้แต่ทัศนวิสัยของหวังหลินก็ยังถูกบิดเบือนจากคลื่นความร้อน

สัมผัสวิญญาณของเหล่าเซียนขั้นที่สามยังอยู่ในบริเวณนี้ พวกเขามองหวังหลินจับเจ้ามังกรเพลิงแต่ก็ไม่ประหลาดใจ แม้มังกรเพลิงจะแข็งแกร่ง แต่มันก็เทียบได้กับเซียนขั้นสวรรค์ดับสูญระดับต้นเท่านั้น สำหรับพวกเขาแล้วถือว่าอ่อนแอเกินไป

หากเป็นก่อนที่หวังหลินจะรู้เรื่องโลกนี้คือถ้ำ เขายังจับเจ้ามังกร แต่ก็ไม่รีบลงมือนัก

เจ้ามังกรนี้แตกต่างจากสัตว์อสูรทั้งหมดที่หวังหลินเคยเจอมาก่อน ไม่เพียงแต่มันจะพูดได้ มันยังมีสติปัญญา แม้แต่เจ้าอสูรโลกันตร์ก็ยังเทียบไม่ติด

มันยังเรียกตัวเองว่า “มังกรเทพ” และยังสร้างสำนักมังกรเทพขึ้นมา กดขี่เหล่าเซียนให้รับใช้มัน แสดงความพิเศษที่มังกรควรจะเป็น!

สิ่งสำคัญที่สุด ร่างเจ้ามังกรตัวนี้มีพลังของสายโลหิตเทพอยู่เบาบาง ถึงจะอ่อนมากและยากจะสังเกตเห็น ทว่าหวังหลินมีหยดโลหิตร่างเทพอมตะ ดังนั้นจึงมองเห็นมันได้

หวังหลินยืนอยู่เหนือหัวเจ้ามังกรยักษ์ ดวงตาเปล่งประกายมองเจ้ามังกรเบื้องล่าง

มีเวลาเหลืออยู่แค่สามชั่วโมงถึงจะจบช่วงเวลาสามปี สามชั่วโมงนี้มีเวลามากพอให้หวังหลินได้ข้อมูลจากเจ้ามังกรนี้อยู่บ้าง

“แผ่นดินเซียนดาราคือบ้านเกิดของเจ้า ใช่หรือไม่…” หวังหลินส่งข้อความทางสัมผัสวิญญาณใส่เจ้ามังกรทันที

เจ้ามังกรตกตะลึง มันกะพริบตาดวงยักษ์และเริ่มส่ายหัว

หวังหลินจ้องมองเจ้ามังกรอย่างเยือกเย็นพลางยกแขนขวาขึ้นมา กลิ่นอายของวิชาค้นวิญญาณปรากฏขึ้นบนฝ่ามือ เขามองเจ้ามังกรเพลิงและค่อยๆ เอ่ยเสียงเรียบ

“ด้วยสติปัญญาของเจ้า เจ้าคงรู้ผลลัพธ์ของวิชาในมือข้า ข้าจะถามเจ้าอีกครั้ง เจ้ามาจากแผ่นดินเซียนดาราใช่หรือไม่?”

แววตาเจ้ามังกรเผยความหวาดกลัวขึ้นมา แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง มันมองไปทางเซียนของสำนักมังกรเทพนับพันอยู่ไกลๆ มันกัดฟันแน่นและส่ายหัว

หวังหลินขมวดคิ้ว เขาไม่สามารถใช้วิชาค้นวิญญาณตอนนี้ได้ ที่นี่คือดาราจักรโบราณและมีสัมผัสวิญญาณของเซียนทรงพลังหลายคน หากเขาใช้วิชาค้นวิญญาณ คงมีโอกาสที่คนอื่นจะโจมตีได้

ซึ่งนั่นจะส่งผลกระทบต่อแผนการของเขาในอีกสามชั่วโมง

ดวงตาหวังหลินเผยแววเย็นเยียบ หวังหลินสลายวิชาค้นวิญญาณและกำลังจะส่งเจ้ามังกรเข้าไปในมิติเก็บของ เขาจะหาคำตอบหลังจากจัดการกับแดนสวรรค์โบราณเสียก่อน

ทว่าขณะที่กำลังสลายวิชาค้นวิญญาณ เสียงวิงวอนของเจ้ามังกรเพลิงก็เข้ามาในความคิด

“เอ่อ…ท่านไว้หน้าข้าบ้างได้หรือไม่… ท่านเห็นศิษย์ข้ากำลังมองดูอยู่ หากไว้หน้าข้าบ้างและร่วมมือกับข้า เช่นนั้นข้าจะร่วมมือด้วยและบอกทุกอย่าง ตกลงหรือไม่…”

หวังหลินตกตะลึงและเผยท่าทีประหลาดใจ เขามองมังกรเพลิงด้านล่าง ผ่านไปสักพักจึงพยักหน้า

วินาทีที่มังกรเพลิงเห็นหวังหลินตกลง มันจึงมีความสุขยิ่ง มันทะยานร่างออกไปจากใต้หวังหลิน

ดวงตาเปล่งประกายเจิดจ้าและดูสูงส่งยิ่ง กรงเล็บมังกรขนาดใหญ่ยักษ์ชี้ไปที่หวังหลินและกล่าวเสียงทรงอำนาจดังกึกก้อง

“เจ้าพูดว่าอยากเข้าสำนักมังกรเทพของข้าหรือ ข้าจะไม่ถือสาสิ่งที่เจ้าทำลงไปและจะให้เจ้าร่วมสำนักมังกรเทพของข้า เอ่อ…” ขณะที่เจ้ามังกรพูดขึ้นมา มันก็ให้ความสนใจกับท่าทางของหวังหลินด้วย พอเห็นหวังหลินเริ่มย่นคิ้ว มันจึงสั่นเทาและรีบพูด

“เอ่อ… ด้วยเซียนทรงพลังแบบเจ้าเข้าร่วมสำนักมังกรเทพ ถือเป็นโชคดีของข้าแล้ว ฮี่ฮี่ เจ้าจะได้เป็นรองจ้าวสำนัก…”

พอเอ่ยขึ้นมา เหล่าเซียนที่ตกใจและยังตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นถึงกับจ้องมองตรงหน้า

ก่อนที่จะตอบสนองอะไรได้ เจ้ามังกรเพลิงหันกลับมาหาพวกเขาและส่งเสียงคำราม

“เอาหล่ะ พวกเจ้ากลับไปได้แล้ว มังกรเทพจะชี้แนะรองจ้าวสำนักคนใหม่และคงยุ่งน่าดู ข้าจะกลับไปทีหลัง ดังนั้นจงดูแลสำนักให้ข้าไปก่อน!”

แม้พวกเซียนจะเต็มไปด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่กล้าแสดงออกมา ทั้งหมดเผยท่าทีกลัวเกรงต่อมังกรเพลิงและจากไปอย่างเคารพ

หลังจากเซียนทั้งหมดจากไป กลิ่นอายสูงส่งของเจ้ามังกรก็หายไป พอหวังหลินกลับมายืนอยู่บนหัว มันจึงมีท่าทีอึดอัดและกำลังจะเอ่ยขึ้น แต่หวังหลิงสะบัดแขนและพาเจ้ามังกรไปตรงที่ที่เขานั่งคราวก่อน

“นายท่าน มังกรน้อยผู้นี้มาจากแผ่นดินเซียนดาราจริงๆ หากท่านมีคำถามอะไรก็โปรดถามมาได้เลย ข้าสัญญาว่าจะบอกท่านทุกอย่าง” เจ้ามังกรเพลิงเผยท่าทีประจบและรีบส่งข้อความสัมผัสวิญญาณออกไป

“เจ้าเข้ามาที่นี่จากแผ่นดินเซียนดาราได้อย่างไร?” หวังหลินนั่งลงบนตัวมังกร

“ข้าติดตามอดีตเจ้านายและพวกสหายบัดซบ พวกสหายบัดซบพวกนั้นรู้ว่านายท่านชื่นชอบข้ามากกว่าและไม่ยอมรับอยู่ในใจ ดังนั้นจึงบอกนายท่านว่าสำนักเจ็ดเต๋ามีสมบัติและหลอกเจ้านายคนเก่ามาที่นี่…”

“ข้าซื่อสัตย์ต่อเจ้านายและกังวลเป็นธรรมดา ดังนั้นข้าจึงมากับเขาด้วย…” เจ้ามังกรเพลิงดูเหมือนไม่พอใจมาก ขณะที่มันส่งข้อความสัมผัสวิญญาณออกไป มันจึงมองออกไปไกลราวกับหวาดกลัว

หลังจากได้ยินเช่นนี้หวังหลินจึงขมวดคิ้ว มองเจ้ามังกรเพลิงอยู่นานจนกระทั่งเส้นขนของมันตั้งชูขึ้นและส่งข้อความออกมาอีกครั้ง

“สิ่งที่ข้าพูดเป็นเรื่องจริง เอ่อ…โกหกนิดหน่อย ข้าไม่ได้มาเพราะข้าภักดีต่อเจ้านายคนเก่า แต่เจ้านายคนเก่าขี่ข้ามาที่นี่…” มังกรเพลิงพูดอย่างระมัดระวัง

“เจ้าชื่ออะไร?” ความคิดหวังหลินสั่นเทา คาดเดาได้เลือนลาง!

“นายท่าน ท่านเรียกข้าว่า น้องแดง ก็ได้ ชื่อของข้าคือ น้องแดง” เจ้ามังกรสะบัดศีรษะและส่งข้อความ

น้องแดง!! แววตาหวังหลินเปล่งประกายเจิดจ้า จดจ้องมังกรเพลิงจนความคิดสั่นเทา คำพูดของเหลียนต้าวเฟยดังกึกก้องอยู่ในหัว

‘น้องแดง น้องแดง เจ้าอยู่ไหน…’

‘ฮึ่ม ทุกอย่างของข้าอยู่กับน้องแดง ไปหาน้องแดงกัน…’

‘น้องแดง รีบไปหาพี่ใหญ่ บอกเขาว่าข้าถูกฝัง…’

ไม่เพียงแต่เจ้ามังกรเพลิงรู้สึกว่าเส้นขนบนร่างตั้งชูขึ้นจากสายตาหวังหลิน หัวใจมันยังเต้นรัวไปด้วย มันไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้หวังหลินและกำลังจะส่งข้อความออกไปด้วยความกลัว

“เหลียนต้าวเฟยเป็นอะไรกับเจ้า?” หวังหลินส่งข้อความออกไป

หลังเจ้ามังกรเพลิงได้ยิน “เหลียนต้าวเฟย” มันตกตะลึงไปชั่วขณะ

“หา? ท่านรู้จักเจ้านายข้าได้อย่างไร? เหลียนต้าวเฟยคืออดีตเจ้านายข้า… ช่างโชคร้ายที่เขาตายแล้ว…”

‘ใช่แน่นอน!’ ความคิดหวังหลินกำลังสั่นสะท้าน เขาไม่ถามอีกและเก็บเจ้ามังกรเพลิงเข้าไปในมิติเก็บของ

เวลาเกือบจะหมดแล้ว ดังนั้นจึงสงบจิตใจเพื่อจะได้ใช้พลังได้เต็มที่ ตอนนี้เขาต้องการความสงบนิ่ง!

หากได้ข้อมูลมากขึ้นจากเจ้ามังกรเพลิง หวังหลินคงสงบนิ่งได้ยากขึ้น ตอนนี้เขานั่งหลับตาเพื่อให้คลื่นในใจสงบ

พอเวลาผ่านไป เหล่าคนที่สังเกตหวังหลินด้วยสัมผัสวิญญาณจึงเฝ้าดูต่อไป เวลาสามชั่วโมงสุดท้ายค่อยๆ ผ่านพ้น!

เมื่อสามชั่วโมงสุดท้ายผ่านไป หวังหลินพลันลืมตาขึ้นมาทันที!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version