Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1692

Cover Renegade Immortal 1

1692. ข้อตกลงเมื่อคราวที่แล้ว

เมื่อแสงสีรุ้งกะพริบวูบวาบ ราชันย์ที่กำลังล่าถอยพลันหยุดชะงัก มองดูแสงสีรุ้งด้วยท่าทีซับซ้อนและเกินอธิบาย

ยังมีนางสนมลำดับเจ็ดที่เอาชีวิตรอดมาได้ด้วยสมบัติช่วยชีวิต นางมองแสงสีรุ้งด้วยท่าทีเกินอธิบายเช่นเดียวกัน

‘เขามาจริงๆ!’ หวังหลินหรี่ตาลง ถอยหลังไปหลายก้าวโดยไม่ลังเล แขนขวายื่นออกไปหยิบหินหยกขึ้นมา

บดขยี้หินหยกให้มันเป็นฝุ่นผง หลุมดำขนาดเท่ากำปั้นปรากฏขึ้นมาตรงจุดที่เคยมีหินหยก

หลุมดำมีพลังดึงดูดปล่อยออกมาและมีแสงน่ากลัวห่อหุ้มหวังหลิน มันกำลังดึงเขาเข้าไปในหลุมดำ

ห่างออกไปไกลตรงจุดที่แสงสีรุ้งปรากฏ ร่างชายวัยกลางคนสวมชุดคลุมก้าวเดินออกมา เขาเปล่งบรรยากาศดูสุภาพ เดิมทีมีความสงบนิ่งแต่เมื่อเห็นหลุมดำที่โผล่ขึ้นมาตอนหวังหลินบดขยี้หินหยก แววตาจึงกะพริบแสงลึกลับ

“เจ้าต้องการหนีไปด้วยการใช้วิธีเช่นนั้น? เป็นไปไม่ได้หรอก” เซียนเต๋าสีรุ้งเอ่ยขึ้นมาพลางชี้ใส่หวังหลินอย่างลวกๆ

เพียงแค่ชี้นิ้ว แสงสีรุ้งเปล่งประกายเจิดจ้าและรวมกันในนิ้วมือ พายุแสงสีรุ้งปรากฏขึ้นและพุ่งเข้าใส่หวังหลิน

พายุนี้รวดเร็วเกินไปและเข้าใกล้หวังหลินในพริบตา ห่างจากหวังหลินไม่เกินเจ็ดฟุต!

จิตใจหวังหลินเกิดความเย็นเยียบ ความเย็นแล่นผ่านไปทั่วทุกรูขุมขน มันกำลังบอกเขาว่าเป็นวินาทีความเป็นความตายในชีวิต จากความเร็วของพายุนี้แล้ว ดูเหมือนหวังหลินไม่มีเวลามากพอจะเข้าไปในหลุมดำเลยด้วยซ้ำ

ทว่าเขาไม่ได้ตื่นตระหนก ราวกับทุกอย่างอยู่ในการคำนวณแล้ว ขณะที่พายุสีรุ้งเข้าใกล้ ฝ่ามือละเอียดดุจหินหยกยื่นออกมาจากหลุมดำ นิ้วกลางของนางมีแหวนหยกสีเขียวส่องสว่างเข้าปะทะกับพายุ

พายุสีรุ้งพังทลายอย่างเงียบงันและเปลี่ยนกลายเป็นควัน ซึ่งควันก่อตัวเป็นรูปร่างดุจอสรพิษเจ็ดตัวและเจาะเข้าไปในฝ่ามือของนาง

ฝ่ามือละเอียดดุจหินหยกถึงกับสั่นเทาและสร้างผนึกขึ้นมา มันแบ่งตัวกลายเป็นฝ่ามือแบบเดียวกันเจ็ดข้างและทับซ้อนกันเป็นวงกลม แสงสีรุ้งโผล่ออกมาจากฝ่ามือทั้งเจ็ดข้างนี้ด้วย

เพียงปรบเบาๆ ฝ่ามือเจ็ดข้างเปล่งแสงแตกต่างกันออกมา กลายเป็นประทับฝ่ามือสีรุ้ง มันลอยผ่านหวังหลินและพุ่งใส่เซียนเต๋าสีรุ้งที่อยู่ห่างออกไปไกล

ขณะเดียวกันร่างหวังหลินถูกดึงเข้าไปในหลุมดำ และหายวับไปจากดาราจักรโบราณ

เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในพริบตา

ตอนที่ราชันย์เห็นฝ่ามือเจ็ดข้าง ดวงตาจึงเปล่งประกายเจิดจ้า

“นั่นนาง!!”

คนที่ตกตะลึงยิ่งกว่าก็คือนางสนมลำดับเจ็ด ใบหน้าซีดเซียว ก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัวพร้อมกับร้องอุทาน “พี่หญิง!! นางไม่ตาย!!”

มีเพียงเซียนเต๋าสีรุ้งที่มีท่าทีสงบนิ่ง ขณะที่ประทับสีรุ้งเข้าใกล้ เขาเพียงสะบัดแขน ระลอกคลื่นสีรุ้งดังกึกก้องและปะทะกับฝ่ามือสีรุ้ง

ชั่วครู่ต่อมาทุกอย่างจึงหายวับไป

เซียนเต๋าสีรุ้งหลับตา ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ผ่านไปสักพักจึงลืมตาขึ้นมามองตำแหน่งที่หวังหลินหายตัวไป แววตาเกิดความรำลึกถึง

“ประทับหยกสีรุ้ง… ข้าคิดว่านั่นคือชื่อของมัน… น่าเสียดายที่ข้ามีวิชาแต่ไม่มีความทรงจำ… อย่างไรเสียมันก็ไม่มากพอจะหนีไปจากข้าได้ คันศรลี่กวงจบสิ้นภารกิจของมันแล้ว ถึงเวลาที่จะนำมันกลับคืน” เซียนเต๋าสีรุ้งเงยหน้าขึ้น ก้าวออกไปและหายวับอย่างไร้ร่องรอย

เหลือเพียงราชันย์และนางสนมลำดับเจ็ดที่เหลืออยู่ตรงนั้น ทั้งคู่ตกตะลึงกับการปรากฏตัวของฝ่ามือและตัวตนของเจ้าของฝ่ามือข้างนั้น

นางสนมอันดับหนึ่งของราชันย์เทพ ทั้งยังเป็นน้องสาวของคนรักของราชันย์เทพด้วย!

ณ ทะเลเมฆา มีรอยแยกอวกาศขนาดยักษ์เกิดขึ้นตรงที่สำนักมารเคยใช้ มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่ารอยแยกนี้นำทางไปที่ไหน บ่อยครั้งมีอสูรดุร้ายหลายตัวโผล่ออกมา

ยามนี้ลึกเข้าไปในรอยแยกอวกาศ ในความมืดมิดและอวกาศอันแปลกประหลาด มีอสูรตัวยักษ์มากกว่าหมื่นฟุต ดูเหมือนสิงโตแต่มีเขาเดียว

มีสตรีผู้หนึ่งกำลังอยู่เบื้องหน้าเขาเดียวของมัน นางงดงามล่มเมือง ยามนี้กลับมีใบหน้าซีดเซียว นางสร้างผนึกอย่างต่อเนื่องและโบกสะบัดแขนเบื้องหน้า

เบื้องหน้าคือหลุมขนาดเท่ากำปั้นที่กำลังดูดกลืนความมืดรอบตัว หลุมดำสั่นเทาและขยายตัวออก เมื่อมันขยายไปสิบฟุต หวังหลินก้าวเดินออกมา

เมื่อเขาเดินออกมา หลุมดำพังทลายเป็นละอองแสง

“ขอบคุณมาก!” หวังหลินคำนับฝ่ามือให้สตรีที่กำลังอยู่ตรงนั้น

สตรีผู้งดงามพลันลืมตาและเผยความเหน็ดเหนื่อย นางมองหวังหลิน ผ่านไปสักพักจึงส่ายศีรษะและถอนหายใจ

“ตอนที่เราแยกทางกันครั้งนั้น ระดับบ่มเพาะของเจ้าต่ำมาก ข้าไม่คิดว่าวันนี้เจ้าจะบรรลุระดับบ่มเพาะสูงส่งถึงขนาดนี้ได้… ข้าคิดว่าเจ้าลืมเรื่องข้อตกลงของเราแล้ว แต่ตอนที่ข้าได้รับข้อความของเจ้าผ่านหินหยก ข้าจึงรู้ว่าเจ้าไม่ได้ลืม”

“ก่อนหน้านี้ท่านช่วยข้ามาที่นี่ ข้าไม่ลืมแน่นอน แต่เพราะเกิดเรื่องบางอย่าง ข้าจึงมาสาย” หวังหลินยิ้มและมองไปที่เจ้าสิงโตยักษ์ที่กำลังวิ่ง เขาตัดสินใจที่จะนั่งลง

ตอนที่เขาตัดสินใจไปดาราจักรโบราณเพื่อทำลายแดนสวรรค์โบราณของฝั่งนั้น หวังหลินคิดถึงวิธีหนีไว้แล้ว เขารู้ว่าการเดินทางไปครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา เมื่อเขายิงคันศรไปสองครั้ง ราชันย์คงจะลงมือ ถึงหวังหลินจะมีพลังให้ยิงได้มากกว่าสองดอก แต่ดินแดนชั้นนอกคืออาณาเขตของเซียนเต๋าสีรุ้ง เมื่อคนผู้นั้นปรากฏ หวังหลินรู้ว่าการหนีจึงเป็นเรื่องยาก

ดังนั้นตอนที่เขากำลังบ่มเพาะอยู่บนค่ายกลกงล้อเมื่อหนึ่งปีก่อน หวังหลินนำหินหยกออกมาสื่อสารกับสตรีผู้นี้ซึ่งไม่ได้พูดคุยมานานแล้ว ทั้งสองจึงทำข้อตกลงร่วมกัน

เหตุผลที่หวังหลินขอให้นางช่วยเป็นเพราะความรู้ของเขาและเบาะแสหลายอย่าง หวังหลินมั่นใจกว่าหกในสิบส่วนว่านางคือนางสนมอันดับแรกที่หายตัวไป!

หลังจากทั้งสองสื่อสารกัน นางจึงเผยตัวเองว่าเป็น นางสนมอันดับหนึ่ง!

สตรีงดงามเอ่ยขึ้นเสียงเบา “ครั้งหนึ่งข้าเคยเป็นนางสนมอันดับหนึ่งของราชันย์เทพสีรุ้ง ข้าบอกเจ้าก่อนหน้านี้ตอนที่เราคุยผ่านหินหยก อีกสถานะของข้าคือน้องสาวของฟ่านชานเมิ่ง ซึ่งคือคู่รักของราชันย์เทพสีรุ้ง ชื่อของข้าคือฟ่านชานลิ่ว!”

“ในเมื่อเจ้ารู้แล้วว่าที่นี่เป็นเพียงแค่โลกในถ้ำ ก็ไม่จำเป็นต้องซ่อนอะไรจากเจ้าอีก”

“ราชันย์เทพสีรุ้งพยายามไปเอาสมบัติชิ้นหนึ่งมาขณะที่สองในเก้าตะวันกำลังต่อสู้ เขาใช้วิธีอันน่ารังเกียจคือใช้พี่สาวข้าเป็นเหยื่อล่อ และใช้โอกาสนั้นไปเอามา จากนั้นกลับมาและผนึกสำนักเจ็ดเต๋า”

“เมื่อเรามาถึงที่นี่ ข้าไม่เชื่อใครที่มาจากแผ่นดินเซียนดาราเลย และข้าถูกราชันย์เทพสีรุ้งทำร้ายจนบาดเจ็บ ระดับบ่มเพาะของข้ายังไม่ฟื้นฟูและข้าไม่ร่วมมือกับใครจนกระทั่งเจ้าปรากฏตัว ระหว่างเราไม่มีความแค้นอะไรกัน เราสามารถร่วมมือกันได้!”

นางเอ่ยขึ้นเบาๆ

“เจ้าต้องการพาเซียนดินแดนแห่งนี้ไปที่แผ่นดินเซียนดารา ข้าจะช่วยเจ้าด้วย!”

“แผ่นดินเซียนดาราคือสถานที่ลึกลับ มันใหญ่เกินไปและมีสงครามเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีสถานที่สงบเงียบท่ามกลางสำนักหลากหลายแห่ง หากเจ้าต้องการมีที่ยืน เจ้าต้องมีสำนัก!”

“พื้นที่ดีๆ ทุกแห่งถูกจับจองไปแล้ว ข้าจะบอกความจริงให้ ด้วยระดับบ่มเพาะของเจ้า เจ้าไม่สามารถครอบครองได้แม้แต่สำนักเดียว! ส่วนเรื่องโลกในถ้ำ ทุกอย่างที่นี่เป็นเพียงแค่ภาพมายา ไม่เกินจริงเลยถ้าจะบอกว่าทุกชีวิตที่นี่เป็นเรื่องหลอกลวง…”

“ตลอดหลายชั่วอายุคน ข้าไม่ค่อยได้ยินใครออกมาจากโลกในถ้ำของสำนักทั่วแผ่นดินเซียนดาราจักร ข้าต้องบอกเจ้าเรื่องนี้ก่อน”

หวังหลินขบคิดเงียบๆ พลางนั่งลงฟังคำพูดของนาง

“อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เมื่อเจ้าไปที่แผ่นดินเซียนดารา เจ้าต้องอดทนกับการลงโทษของกฎเซียนดารา ข้าได้ยินเรื่องนี้มานิดหน่อย แต่หลังจากบรรลุขั้นวิบากแก่นแท้ในโลกแห่งถ้ำได้ถึงจะมีโอกาสรอด”

“กระนั้นข้าสามารถช่วยเจ้าเรื่องนี้ได้เช่นเดียวกัน!” นางเอ่ยขึ้นพลางมองหวังหลิน

“ข้าฟังอยู่!” หวังหลินมีท่าทีสงบนิ่งไร้ความปั่นป่วน เมื่อนางเห็นแบบนี้จึงอดไม่ได้ที่จะเผยความชื่นชม

หลังจากขบคิดเล็กน้อย นางเอ่ยขึ้นทันที “พี่สาวข้ายังไม่ตาย!”

หวังหลินหรี่ตาแต่ก็ไม่เอ่ยอะไร

“นางไม่ได้อยู่ที่นี่ นางอยู่ในแผ่นดินเซียนดารา! การได้เป็นสำนักในแผ่นดินเซียนดาราเป็นเรื่องยากมาก แต่หากเจ้าสังหารราชันย์เทพสีรุ้ง สำนักเจ็ดเต๋าก็เป็นของเจ้า! พี่สาวข้าและข้าเองก็ไม่ต้องการ ความจริงแล้วเราไม่ใช่คนของสำนักเจ็ดเต๋าแต่เป็นศิษย์หลักของสำนักมหาวิญญาณ”

“ตอนนั้น เราตาบอดและเลือกติดตามราชันย์เทพสีรุ้ง…” นางกัดฟันและเผยท่าทีไม่พอใจ

“แม้หลังจากเจ้าจะได้รับสำนักเจ็ดเต๋าไปแล้ว หากเจ้าอยากบ่มเพาะต่อไป เราสามารถแนะนำเจ้าให้เข้าไปในสำนักมหาวิญญาณได้!”

“ส่วนเรื่องบทลงโทษที่เจ้าเข้าไปในแผ่นดินเซียนดารา ข้าจะขอให้พี่สาวไปขออาจารย์ให้ช่วยเหลือ การมีอาจารย์ช่วยเหลือเพื่อรับเจ้าเข้าไปในแผ่นดินเซียนดารา บทลงโทษจะลดลง”

หวังหลินขบคิดเงียบๆ ครู่ต่อมาจึงเอ่ยปาก

“นอกจากข้าแล้ว เซียนคนอื่นในโลกถ้ำเล่า?”

สตรีงดงามกำลังจะเอ่ยแต่ทันใดนั้นสีหน้าท่าทางพลันเปลี่ยนไป นางมองกลับมา ขณะเดียวกันหวังหลินก็มองไปเช่นกันด้วยท่าทีมืดมน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!