Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1698

Cover Renegade Immortal 1

1698. ของปลอม เอ๋!

เมื่อใดที่หวังหลินทะลวงเขตอาคมชั้นที่สามไปได้ เรือลำนี้จะตกอยู่ในการควบคุมของเขาอย่างสมบูรณ์

ดังคำกล่าวที่ว่า “สลับแขกเป็นเจ้าบ้าน!”

ฟ่านชานเมิ่งแววตาเย็นเยียบและส่องสว่าง นางชี้ด้านนอกม่านป้องกันของเรือ พวกมันหมองหม่นทันที

พริบตานั้นฟ่านชานเมิ่งทะลุผ่านดาดฟ้าเรือชั้นแรกและเข้าสู่ชั้นที่สอง

วินาทีที่นางเข้ามา แสงสีรุ้งห่อหุ้มไปทั่วทั้งเรือวิญญาณปีศาจ เซียนเต๋าสีรุ้งร่อนอยู่บนดาดฟ้า

หวังหลินซึ่งอยู่ในชั้นที่สามพลันลืมตาและมองขึ้นไป แววตาแล่นวาบแสงสีทองและดูสงบนิ่ง

‘นางทำแบบนี้จริงๆ’ หวังหลินเยาะเย้ย หลังจากแผนของฟ่านชานเมิ่งถูกหวังหลินทำลายไป อันตรายที่ซุกซ่อนอยู่จึงไม่เป็นภัยคุกคามอีกแล้ว นางจึงเลือกที่จะยืมพลังของเซียนเต๋าสีรุ้งเพื่อมาข่มขู่หวังหลิน

ตอนนี้ชั้นแรกที่เซียนเต๋าสีรุ้งอยู่ได้ตกอยู่ในการควบคุมของหวังหลิน เป็นผลให้ทั้งสองเผชิญหน้ากันทางอ้อม เขาต้องแบ่งหน้าที่ไปควบคุมดาดฟ้าชั้นแรกเพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายเข้ามาได้

‘เล่นกับไฟ… ข้าก็ทำได้!’ หวังหลินดวงตาส่องสว่าง สองฝ่ามือสร้างผนึกและโบกสะบัด เขตอาคมบนดาดฟ้าแรกพังทลายและทำให้ทั้งหมดหยุดเคลื่อนไหว พวกมันสงบลงอย่างสิ้นเชิง

นาทีที่เขตอาคมบนดาดฟ้าชั้นแรกสงบลง แสงสีรุ้งเจาะทะลุชั้นแรกมาส่งเสียงดังปัง เซียนเต๋าสีรุ้งหัวเราะพลางเข้าสู่ชั้นที่สองโดยไม่ต้องพยายามอะไรเลย!

ตอนนี้ฟ่านชานเมิ่งเข้าสู่ชั้นที่สามมาแล้ว สีหน้าท่าทางเปลี่ยนไปมหาศาล นางรู้การกระทำของหวังหลินและจึงมาอยู่ข้างเขาทันที

“เจ้าทำอะไร?! หรือว่าเจ้าอยากตาย? แม้เราจะร่วมมือกัน แต่เราก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของวิญญาณดวงแรก เจ้าเปิดชั้นแรกให้เขาเข้ามา!!”

หวังหลินเอ่ยอย่างสงบนิ่งและแววตาเย็นยะเยือก “หากท่านยังเอะอะต่อไป ข้าจะเปิดชั้นที่สองและปล่อยเขาลงมา!”

“เจ้า!!” ฟ่านชานเมิ่งจ้องหวังหลิน แววตาผุดจิตสังหาร!

“ในเมื่อท่านสามารถเปิดม่านรอบตัวเรือได้และช่วยเขา ทำไมข้าถึงจะเปิดชั้นแรกและปล่อยให้เขาเข้าสู่ชั้นที่สองไม่ได้?”

“ระหว่างข้ากับเขาไม่มีความเกลียดชังฝังลึกอะไรกัน หากเขาต้องการคันศรลี่กวง ข้าก็แค่ยกมันให้เขา แต่ท่านไม่เหมือนกัน หากท่านต้องการอยู่อย่างปลอดภัย ก็จงหุบปาก!” น้ำเสียงหวังหลินดังสนั่นจนทำให้ใบหน้าฟ่านชานเมิ่งต้องซีดเผือด

“ไม่เพียงแต่ต้องหุบปากเท่านั้น แต่หยุดทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ พวกนั้นด้วย หากยังดื้อดึงต่อไป อย่ามากล่าวหาว่าข้าเปิดชั้นที่สองและยอมให้เซียนเต๋าสีรุ้งลงมาที่นี่!” หวังหลินมองนางอย่างเย็นเยียบ

สายตานี้ทำให้หัวใจนางเกิดความหนาวเย็น นางตระหนักได้ว่าหวังหลินเป็นคนน่ากลัวและเจ้าแผนการจริงๆ!

‘เขาเริ่มดึงอำนาจในกำมือข้าไปหนึ่งขั้นจนได้เปรียบ ตอนนี้ข้ากำลังโดนเขาข่มขู่… ความเจ้าเล่ห์ของเขาลึกล้ำเกินไป!!!’

ฟ่านชานเมิ่งขบคิดเงียบๆ นางรู้สึกกลัวลึกๆ ต่อเซียนในโลกถ้ำแห่งนี้จากเดิมที่ดูถูกมากเกินไป

‘การเจ้าเล่ห์ได้ด้วยอายุเท่านี้…หากเขาอยู่บนแผ่นดินเซียนดารา คงมีชื่อเสียงโด่งดังแน่นอน…’

หวังหลินมองฟ่านชานเมิ่งชั่วขณะและถอนสายตา

ยามนี้เสียงดังจากชั้นที่สองกลับรุนแรงยิ่ง แสงสีรุ้งกะพริบวาบเข้าต่อต้าน แต่ดูเหมือนอีกไม่นานมันก็จะพังทลาย

“หากไม่ต้องการตาย ท่านควรซื้อเวลาไว้เพื่อเปิดชั้นที่สาม ข้ารู้ว่าท่านยังมีไพ่ตายเอาไว้รักษาตัวเองให้ปลอดภัย แต่ทว่า ท่านและข้าที่ในตอนนี้มีอำนาจควบคุมเท่ากัน หากข้าไม่ร่วมมือ ท่านก็ไปไหนไม่ได้!” หวังหลินเอ่ยนิ่งๆ จากนั้นหลับตา ร่างเงาบัญชาโบราณปรากฏขึ้นรอบตัวและจมดิ่งตัวเองไปในการศึกษาเขตอาคมบนชั้นที่สาม

ฟ่านชานเมิ่งมีสีหน้ามืดมน นางจ้องหวังหลินอยู่นาน รู้สึกกลัวในใจกับเรื่องที่หวังหลินพูด ทุกอย่างล้วนเป็นความจริง

นางมีไพ่ตายแน่นอน และเป็นเพราะแบบนั้นจึงสงบนิ่งได้ตอนที่ยืมพลังของเซียนเต๋าสีรุ้งมาข่มขู่หวังหลิน

อย่างไรก็ตามนางไม่คิดว่าหวังหลินจะสามารถควบคุมเรือได้สองชั้นและนางไม่สามารถเทียบเคียงการควบคุมเรือของเขาได้ ตอนนี้หากนางต้องการใช้ไพ่ตาย นางจำเป็นต้องได้รับการร่วมมือกับหวังหลิน

ฟ่านชานเมิ่งกัดฟันแน่น “เจ้ามีแผนอะไร? หากข้าปล่อยออกไป ข้าไม่สามารถยื้อเวลาให้เจ้าทะลวงชั้นที่เหลือได้! หากเจ้ายอมทิ้งการควบคุมตอนนี้ เรายังออกไปได้ แต่หากเจ้าปากแข็งอยู่ เราจะตายกันจริงๆ!”

พอกล่าวจบ เสียงดังสนั่นกึกก้อง ดาดฟ้าเรือเริ่มพังทลายเป็นวงกว้าง เขตอาคมราวสามในสิบส่วนถูกทำลาย

“ข้าต้องการเวลาสามชั่วโมง!” หวังหลินลืมตามองฟ่านชานเมิ่ง

“เจ้า!!” ฟ่านชานเมิ่งเผยรอยยิ้มโกรธเกรี้ยว ขณะต่อมานางหันกลับไปอย่างดุดัน สองฝ่ามือสร้างผนึก แสงสีรุ้งโผล่ออกมาจากชั้นสอง

หวังหลินสงบจิตใจตัวเอง เดิมทีเขาคงไม่คุกคามสองสาวพี่น้องเช่นนี้ แต่อีกฝ่ายวางแผนใส่เขาก่อน หวังหลินทำตามกฎที่ว่าจะไม่ล่วงเกินอีกฝ่ายหากอีกฝ่ายไม่ล่วงเกินเขา!

ตอนนี้เขากุมความได้เปรียบ เป็นธรรมดาที่จะไม่ปล่อยไปง่ายๆ อีกทั้งเขตอาคมที่นี่ก็มีประโยชน์สำหรับเขามหาศาล หลังจากทะลวงไปได้สองชั้น สุดยอดเขตอาคมทั้งสี่ของหวังหลินจึงได้บรรลุความสมบูรณ์ เขาเพียงต้องใช้เวลาอีกเล็กน้อยเพื่อผสานพวกมันให้กลายเป็นแก่นแท้!

เขตอาคมส่วนใหญ่ที่อยู่บนชั้นที่สามคือกลุ่มที่หวังหลินไม่เคยเจอมาก่อน ขณะที่เขาศึกษา ความเข้าใจด้านเขตอาคมจึงก้าวกระโดด

“เขากำลังทะลวงผ่านชั้นที่สอง แม้ข้าพยายามหยุดไว้แต่ก็ยื้อได้แค่สองชั่วโมงเท่านั้น แม้เจ้าเข้าใจชั้นที่สาม เขาก็ยังมีเวลาอีกหนึ่งชั่วโมง!”

เสียงจากชั้นที่สองดังสนั่นกึกก้องไปเรื่อยๆ ไม่นานเสียงแตกร้าวแผ่กระจายและชั้นที่สองพังทลายอย่างสิ้นเชิง!

ร่างฟ่านชานเมิ่งถึงกับสั่นเทาและกระอักโลหิต นางถอยหลังไปหลายก้าว แสงสีรุ้งกระจายออกมาจากการพังทลายของชั้นที่สองอย่างรวดเร็ว

วินาทีนั้นหวังหลินพลันลืมตา สองฝ่ามือสร้างผนึกและสะบัดขึ้นเบื้องบน เขตอาคมบนชั้นที่สามก่อตัวเป็นตาข่ายและลอยขึ้นไป

ไม่นานร่างหวังหลินก็จมลงไปจากชั้นที่สามสู่ชั้นที่สี่!

จากนั้นฟ่านชานเมิ่งก็ติดตามไป

ในชั้นที่สี่มีหมอกจำนวนมาก หมอกนี้เป็นอุปสรรคต่อทัศนวิสัยและสัมผัสวิญญาณ

“หวังหลิน เจ้าต้องการอะไรกันแน่? ข้ายอมรับที่ข้าวางแผนกับเจ้า แต่เพื่อเป้าหมายของเรา แม้เจ้าจะมอบสัจจะโลหิตให้ข้า ข้าก็ส่งสัจจะโลหิตให้เจ้าเช่นกัน ไม่ใช่ว่าข้าไปทำร้ายเจ้าเสียหน่อย!”

“ตอนนี้เรามาถึงจุดนี้แล้ว เราควรแลกเปลี่ยนสัจจะโลหิตและเจ้าควรล้มเลิกการควบคุมเรือได้แล้ว บางทีเราอาจจะมีหนทางต่อสู้!” ฟ่านชานเมิ่งดูเคร่งเครียดและมองหวังหลินที่อยู่ชั้นที่สี่

หวังหลินมองดูฟ่านชานเมิ่ง ผ่านไปสักพักจึงหัวเราะทันที

“ถึงตอนนี้แล้วท่านยังพยายามโกหกข้าอีก…”

“ข้าโกหกเจ้า?” ฟ่านชานเมิ่งเผยแววตาเจ็บปวด นางมองชั้นที่สามด้านบนและเห็นรอยแตกร้าวบางๆ

หวังหลินถอนหายใจ เขาดูเหมือนไม่ใส่ใจรอยแตกร้าวที่เกิดขึ้น สายตามองนางและเอ่ยออกมา “ท่านไม่ใช่ฟ่านชานเมิ่ง…”

“เจ้าหมายความว่าอะไร?” สีหน้านางกลับสงบนิ่งพลางจ้องมองหวังหลิน

“ท่านคือฟ่านชานลิ่ว! ความจริงแล้วตั้งแต่ที่ข้าเข้ามาในเรือ ท่านกำลังวางแผนหลอกข้า บางทีแม้ข้าจะมอบสัจจะโลหิตออกไป เรื่องที่เสนอมาคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น”

“แต่ท่านกังวลว่าข้าจะไม่มอบให้ ดังนั้นจึงกระอักโลหิต ท่านใช้วิธีบางอย่างใส่ข้าเพื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์และกลิ่นอายของตัวเองทำให้ข้าคิดว่าท่านคือฟ่านชานเมิ่ง!”

“เพราะความเข้าใจผิดนี้ ท่านจึงบอกความลับเรื่องถ้ำแห่งนี้ให้ข้าเพื่อให้เชื่อว่าท่านคือฟ่านชานเมิ่ง จากนั้นตอนที่ข้ากำลังทำลายเขตอาคม ปฏิกิริยาของท่านบางส่วนจริง บางส่วนก็โกหก!”

“ก่อนหน้านี้ข้าดูไม่ออก แต่ตอนนี้เข้าใจแล้ว” หวังหลินเอ่ยขึ้นพลางมองไปที่นาง

เสียงดังลั่นออกมาจากชั้นที่สาม รอยแตกร้าวโผล่ออกมาพร้อมกับแสงสีรุ้งราวกับทุกอย่างกำลังพังทลาย

“เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? ข้าไม่เข้าใจว่าเจ้าพูดอะไร!” นางขมวดคิ้ว

“ไม่เข้าใจ… ทุกอย่างที่นี่เป็นเรื่องโกหก! ชั้นที่สอง ชั้นที่สาม ชั้นที่สี่ ทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก ท่านก็โกหก แสงสีรุ้งอาจเป็นจริง แต่บนเรือลำนี้ไม่ใช่เรื่องจริง เห็นได้ชัดว่าโลกนี้คือภาพมายา!”

“ช่างเป็นภาพมายาที่ดูสมจริง ข้าหวังหลินเผชิญวิชาคล้ายกันนี้มาก่อน แต่ข้าไม่เคยเจออะไรที่สมจริงขนาดนี้!”

นางตกตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นเผยรอยยิ้มขมขื่นและก้าวถอยหลัง มองหวังหลินอย่างไม่เชื่อสายตา

“โกหก? หวังหลิน เจ้าเป็นบ้าไปแล้วจริงๆ เจ้า…หากเจ้าไม่อยากแลกเปลี่ยนสัจจะโลหิตก็บอกมาได้ แต่ทุกอย่างที่เจ้าพูดเป็นเรื่องโกหก…”

หวังหลินกะพริบแววตาเย็นเยียบพลางยกแขนขวาขึ้นมากระแทกลงใส่ชั้นที่สามที่กำลังพังทลาย!

แรงกระแทกนี้ทำให้ชั้นที่สามพังทลาย แสงสีรุ้งเล็ดลอดออกมาห่อหุ้มชั้นที่สี่ ขณะเดียวกันร่างเซียนเต๋าสีรุ้งโผล่ออกมาด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version