Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1699

Cover Renegade Immortal 1

1699. สิ่งลวงตาในภาพมายา

“เจ้ากำลังทำอะไร!?” นางเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง รีบถอยห่างไปหลายพันฟุตในพริบตา ฝ่ามือสร้างผนึกให้แสงสีรุ้งล้อมรอบร่างกาย กระบี่ยาวเจ็ดนิ้วหลายเล่มปรากฏขึ้นหมุนรอบตัวเอง

เงาขนาดยักษ์ปรากฏด้านหลังเป็นดอกไม้สีรุ้ง มันเบ่งบานดูชั่วร้ายและปลดปล่อยกลิ่นเย้ายวน

สีหน้าหวังหลินไม่เปลี่ยนแปลง เขายืนขึ้นมองเซียนเต๋าสีรุ้งที่กำลังโผล่ออกมาจากชั้นที่สาม เซียนเต๋าสีรุ้งยกแขนขวาขึ้นมาด้วยท่าทีไม่แยแส ดวงตะวันส่องสว่างขึ้นในฝ่ามือ!

ดวงตะวันไม่ใหญ่นัก มีขนาดเท่าฝ่ามือเท่านั้น แต่แสงและความร้อนที่ปลดปล่อยออกมาราวกับดวงอาทิตย์ของจริง

เส้นผมหวังหลินเริ่มเผาไหม้ทันที ทั่วร่างเต็มไปด้วยความเจ็บปวดรุนแรงจนสีหน้าบิดเบี้ยว ราวกับร่างกายกำลังถูกดวงอาทิตย์หลอมละลาย

ทว่าสายตายังคงสงบนิ่งไร้การเปลี่ยนแปลง ยอมให้ดวงอาทิตย์เข้าใกล้ ส่วนสตรีอีกด้านมองด้วยความตกตะลึงที่เห็นดวงอาทิตย์กลืนกินหวังหลิน

‘เป็นแบบนี้ได้อย่างไร… เขาเป็นบ้า… เป็นบ้าไปแล้วจริงๆ…’ อย่างไรก็ตามพอลมหายใจถัดไป ดวงตาของนางเบิกกว้างจ้องมองตรงหน้าและแทบกรีดร้อง

หวังหลินที่ควรตายไปในดวงอาทิตย์พลันก้าวออกมา เรือนผมเหมือนเดิม เสื้อผ้าไม่ได้รับความเสียหาย เขาไม่ได้ดูเหน็ดเหนื่อยแต่กลับดูสงบนิ่งอย่างน่ากลัว!

“ทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก!” หวังหลินหลับตาและสะบัดแขนขวา แสงสีรุ้งหายไป ดวงอาทิตย์หายไป เซียนเต๋าสีรุ้งหายไป ดาดฟ้าชั้นที่สี่หายไป ชั้นที่สามและชั้นที่สองก็หายไปด้วย

คนสุดท้ายที่หายไปคือฟ่านชานเมิ่ง นางหายไปจากที่นี่ด้วยใบหน้าไม่เชื่อและงุนงง

หวังหลินลืมตา วินาทีนั้นสิ่งที่เขาเห็นคือดาดฟ้าแรกบนเรือวิญญาณปีศาจ ใบเรือพัดสะบัดบนเสากระโดงเรือ ใบหน้าน่ากลัวบนใบเรือกำลังเผยรอยยิ้มแปลกประหลาด

หวังหลินยังคงนั่งอยู่บนดาดฟ้าแรกและร่างเงาบัญชาโบราณยังคงอยู่รอบตัวเขา ห่างออกไปไม่ไกล นางยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นและลืมตาขึ้นมา ดวงตาเต็มไปด้วยความสับสนฝังลึก

“แสดงว่าแม้แต่ท่านก็ไม่รู้ที่ทุกอย่างเป็นแค่ภาพมายา…” หวังหลินหันออกไปนอกเรือ ม่านพลังป้องกันยังอยู่รอบตัวเรือและไม่มีสัญญาณของแสงสีรุ้งหรือเซียนเต๋าสีรุ้งเลย

‘แม้แต่นางก็โดนหลอก…’

หวังหลินยืนขึ้นช้าๆ สะบัดแขนขวาให้ร่างเงาบัญชาโบราณหายไป เขามองรอบๆก่อนจะมองไปที่ใบเรือบนเสากระโดง

‘เกิดอะไรขึ้น…’ ยามนี้นางจ้องมองหวังหลิน แววตาสับสนหายไปแล้ว จากนั้นพลันมองรอบๆ หลังจากเห็นทุกอย่างชัดเจน สีหน้าท่าทางจึงเปลี่ยนไปมหาศาล!

“ภาพมายามหาวิญญาณ!! นี่คือวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของพี่สาว! เพื่อการสังหารเจ็ดสีแล้ว แม้แต่ข้าก็ตกอยู่ในวิชานี้ด้วย!” นางคือฟ่านชานลิ่ว พลันลุกขึ้น เดินโซเซถอยหลังก่อนจะกระอักโลหิต

“เซียนเต๋าสีรุ้งที่มาถึงเป็นเรื่องโกหก เขาอาจจะไล่ตามเรามาที่นี่จริง แต่ไม่ได้ปรากฏตัวเบื้องหน้าเรา” สายตาหวังหลินยังคงจับจ้องไปที่ใบหน้าชั่วร้ายบนใบเรือ

“พวกท่านสองพี่น้องช่างน่าสนใจ ท่านคิดว่าทุกอย่างอยู่ภายในการคำนวณแล้ว แต่ท่านพาข้ามาที่นี่ด้วยภัยคุกคามทั้งจากด้านสว่างและด้านมืดเพียงเพราะต้องการให้ข้ามอบสัจจะโลหิต… พี่สาวท่านเป็นคนที่ยอดเยี่ยม ตอนที่ข้าเข้ามาที่นี่ นางได้สร้างโลกมายาเอาไว้ สร้างเซียนเต๋าสีรุ้งเพื่อไล่ล่าเรามาที่นี่”

“จากนั้นถึงแม้นางจะอยู่เบื้องหลังท่าน ตอนที่ข้าเตรียมการศึกษาเขตอาคม นางได้สร้างโลกมายาขึ้นในภาพมายาอีกที ดังนั้นข้าจึงมองไม่ออก ในโลกมายาที่มีภาพมายานั้น นางเกือบบังคับให้ข้ามอบสัจจะโลหิต…”

“ชาญฉลาด! ข้าหวังหลินพบเจอผู้คนมากมายในชีวิต มีเพียงคนเดียวที่ทำให้ในใจข้าหวาดกลัวได้ แต่ตอนนี้มีเพิ่มอีกคนแล้ว นั่นคือพี่สาวท่าน!” หวังหลินสงบนิ่ง แม้แต่คำพูดยังไม่มีอารมณ์เจือปน

ฟ่านชานลิ่วหน้าซีดและคิดเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างถี่ถ้วน สีหน้าท่าทางค่อยๆ มืดมน นางมั่นใจว่าสิ่งที่หวังหลินพูดเป็นเรื่องจริง นางได้ตกอยู่ในภาพลวงตาของพี่สาวจริงๆ!

“การที่พี่สาวท่านมีวิชาลวงตาทรงพลังขนาดนี้ ข้าขอเดาว่าสำนักมหาวิญญาณมีชื่อเสียงด้านวิชาลวงตาบนแผ่นดินเซียนมายา ภาพลวงตา ภาพลวงตา…” หวังหลินสูดหายใจลึก

ฟ่านชานลิ่วขบคิดชั่วครู่ จากนั้นเอ่ยขึ้นบางเบาด้วยสายตาซับซ้อน “สำนักมหาวิญญาณมีชื่อเสียงมากที่สุดด้านวิชาลวงตา ไม่ใช่ทุกคนที่มีคุณสมบัติเรียนรู้มัน พี่สาวข้าเป็นคนมีพรสวรรค์และบ่มเพาะไปจนถึงจุดที่สร้างภาพมายาทับซ้อน!”

“ภาพมายาในโลกมายาที่เจ้าพูดถึงก่อนหน้านี้คือภาพมายาทับซ้อน ห่างกับภาพมายาสามชั้นเพียงขั้นเดียว และเราคงไม่สามารถหนีออกมาได้”

“ข้าเชื่อว่าตอนที่ท่านพูดว่าพี่สาวตายไปเพราะราชันย์เทพสีรุ้งและจากนั้นได้อาจารย์ช่วยฟื้นคืนชีพ ท่านโกหก นางไม่ได้ตายและดูเหมือนว่าภาพมายาของนางก็ได้หลอกราชันย์เทพสีรุ้งไปด้วย…”

“ดูเหมือนว่าแม้กระทั่งสิ่งที่เกิดขึ้นกับสองคนนั้นก็ไม่ได้เหมือนที่ท่านพูด…”

“อย่างไรก็ตาม ข้าไม่สนใจเรื่องพวกนี้!” หวังหลินเอ่ยกล่าว พลางก้าวออกไปหาเสากระโดงเรือ ดวงตาเย็นเยียบและปลดผ้าใบลงมา

“ข้าจะเอาสมบัติชิ้นนี้!”

วินาทีนั้นบนแผ่นดินเซียนดารา ในภูเขาน้ำแข็ง สตรีด้านในพลันลืมตาและกระอักโลหิต ดวงตาเต็มไปด้วยความตกตะลึง

“เขาทำลายภาพมายามหาวิญญาณของข้าได้จริงๆ!!”

ขณะเดียวกัน อีกพื้นที่หนึ่งในมิติประหลาดที่มีเรือตั้งอยู่ เซียนเต๋าสีรุ้งนั่งอยู่ท่ามกลางซากศพอสูรหลายตัว บางครั้งสีหน้าก็เจ็บปวด บางครั้งก็ตื่นเต้น การเปลี่ยนแปลงประหลาดนี้ไม่ค่อยปรากฏขึ้นกับเขานัก

ถึงกับได้เข้าไปในภาพมายาตอนที่เข้ามายังที่แห่งนี้ หรือพูดให้ถูกคือเขาเข้าไปอย่างสมัครใจ ไม่เช่นนั้นถึงแม้จะมีระดับบ่มเพาะต่ำกว่าของฟ่านชานเมิ่ง การที่เขาจะออกไปก็ไม่ได้ยากนัก

มีเพียงเขาที่รู้ว่าทำไมเขาถึงยอมเข้าไปในภาพมายาและยังไม่ตื่นขึ้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!