Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1715

Cover Renegade Immortal 1

1715. เส้นโลหิตในดวงตา

กฎเกณฑ์คืออะไร? มีน้อยคนมากที่ครุ่นคิดเรื่องนี้ อีกทั้งมันแตกต่างอะไรจาก คำว่ากฎ? ผู้คนขบคิดมาหลายล้านปีแต่กลับไม่พบเจอสิ่งใด

นี่เป็นเรื่องที่แม้แต่หวังหลินก็สับสน บางครั้งเขาก็คิดว่าตัวเองรอบรู้ แต่ก็ต้องล้มเลิกเพราะใช้เวลามากเกินไป

หวังหลินคาดการณ์ว่ามันคือกฎเกณฑ์หรือค่ายกลของโลกใบนี้

ฟ้าดินคือสิ่งใด? ฟ้าดินของโลกถ้ำคือเต๋าแห่งสวรรค์ แล้วมันคือสิ่งใดถึงกับยอมให้กำหนดกฎเกณฑ์ กำหนดกฎของโลกใบนี้และให้กำเนิดพวกเขา?

หวังหลินไม่เข้าใจ แม้กระทั่งคิดว่าแก่นแท้แห่งการต่อสู้ของเขาอาจได้ถือกำเนิดเป็นกฎใหม่ เขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่ามันคืออะไร เขาเพิ่งรู้ว่า ไม่ว่าจะเป็นกฎเกณฑ์หรือกฎอันใด พวกมันก็ไร้รูปร่าง แต่หากมีรูปร่างคงกลายเป็นเส้นสายที่มักจะพัวพันกันเอง ล้อมรอบทุกสิ่งทุกอย่าง

มันเหมือนเส้นพร่ามัวมากมายปรากฏขึ้นรอบตัวคนที่เขาใช้วิชายับยั้ง เส้นพวกนี้คือความเข้าใจที่หวังหลินมีต่อกฎเกณฑ์และเขตอาคม

ทุกเส้นล้วนแตกต่าง พวกมันตัดขวางกันก่อตัวเป็นกฎเกณฑ์ และสิ่งที่มีอำนาจเหนือพวกมันคือกฎ

มันคือฟ้าดิน และนั่นคือเต๋าแห่งสวรรค์!

ความเข้าใจของหวังหลินในด้านกฎเกณฑ์นั้นเป็นตอนที่โลกถือกำเนิดขึ้น สิ่งมีชีวิตในยุคแรกเริ่มต่างก็เทิดทูนสวรรค์จนกระทั่งเกิดความสงสัยและท้ายที่สุด เริ่มตั้งคำถามกับสวรรค์ พวกมันเริ่มเลียนแบบกฎจนได้เป็นเคล็ดวิชา!

เคล็ดวิชานี้คือสิ่งที่เรียกว่าเขตอาคมและค่ายกล!

ตลอดหลายวันของการทำความเข้าใจ เขาไม่ได้ศึกษาความแตกต่างระหว่าง เขตอาคมแต่เป็นการค้นหาต้นกำเนิดของเขตอาคม

ในมุมมองของเขา หากเส้นสายที่มองไม่เห็นเหล่านี้คือกฎเกณฑ์ เขาคงต้องสร้างเส้นพวกนี้ขึ้นมาเองหากต้องการสร้างแก่นแท้เขตอาคม

เส้นสายพวกนี้จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเพื่อทำให้สิ่งที่ต้องการบรรลุผล!

เขาจำต้องผ่าเปิดใบเรือหน้าปีศาจและยอมให้ตัวเองถูกเขตอาคมนับไม่ถ้วนห่อหุ้มเอาไว้ เขาคิดถึงวิธีหนึ่งได้และนั่นคือการใช้เส้นโลหิตในดวงตา!

เส้นโลหิตในดวงตาจะกลายเป็นเส้นสายของกฎเกณฑ์ในโลก หลังจากผสานเขตอาคมทั้งหมด ดวงตาเขาจะกลายเป็นสิ่งหนึ่งคล้ายกับฟ้าดิน ดวงตาเขาจะกลายเป็นเขตอาคม ความคิดเขาจะกลายเป็นความประสงค์ของกฎเกณฑ์ในโลกนี้!

ไม่มีใครที่คิดถึงวิธีนี้ได้ตลอดหลายชั่วอายุคน หวังหลินเป็นคนแรก เขาเป็น คนกล้าบ้าบิ่น และเมื่อตัดสินใจไปแล้วจะไม่ยอมเปลี่ยนความคิดง่ายๆ

ภาพดวงตาสีแดงปรากฏขึ้นเบื้องหน้า เส้นโลหิตในดวงตานั้นมองเห็นได้ชัดเจน หวังหลินส่งเสียงร้องคำราม เส้นโลหิตขยายตัวออก ห่อหุ้มเขตอาคมจำนวนมากเอาไว้

ในตอนนี้หวังหลินยกแขนขวาขึ้นและกดใส่ตาซ้าย ภาพดวงตาข้างซ้ายปรากฏขึ้นมาและก่อเกิดเป็นลูกตาขนาดใหญ่อีกข้าง

หลังจากลูกตาทั้งสองปรากฏขึ้น เส้นโลหิตกะพริบวาบและแผ่ขยายเข้าผสานกับเขตอาคม ผ่านเวลาไปครึ่งชั่วธูปไหม้จึงไม่มีเขตอาคมเหลืออยู่ เหลือเพียงดวงตายักษ์สองข้างที่ลอยอยู่ตรงนั้น

เพียงหวังหลินคิด ลูกตาทั้งสองข้างกะพริบวาบและหายไปอย่างรวดเร็วเข้าไปในตาของหวังหลิน จากนั้นเขาก็หลับตา

ร่างทั้งสามก้าวเข้ามาผสานเข้ากับร่างดั้งเดิมกลายเป็นคนเดียว

สัมผัสวิญญาณที่กระจัดกระจายค่อยๆ ควบแน่นกลับเข้าไปในร่างเช่นเดียวกัน

กระบี่แก่นแท้ทั้งหกเล่มลอยอยู่รอบตัวหวังหลิน กลิ่นอายของแก่นแท้ได้ทำให้ร่างหวังหลินพร่าเลือนเล็กน้อย

ทุกอย่างในอวกาศสงบนิ่งลงราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีเพียงหวังหลินที่นั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น

ทว่ามีกลิ่นอายทรงพลังยิ่งแผ่กระจายออกมาจากร่างหวังหลิน กลิ่นอายนี้คือ กลิ่นอายที่สร้างขึ้นจากระดับขั้นแก่นแท้ดับสูญระดับกลาง ตอนนี้กลิ่นอายดูเหมือนกำลังเดือดและเผยสัญญาณว่ากำลังเพิ่มพูน

กลิ่นอายรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่แผ่กระจาย กระบี่หกแก่นแท้ที่อยู่รอบตัว หวังหลินจึงส่งเสียงด้วยความสุข ความสุขจากการถือกำเนิดของแก่นแท้ที่เจ็ด!

หวังหลินพลันลืมตา เผยสายตาที่ทุกคนเห็นคงรู้สึกหวาดกลัว สายตาเขาไร้สีสัน แต่หากมีใครพบเจอสายตาหวังหลินตอนนี้คงโดนภาพมายาเสมือนว่าดวงตาของตัวเองเป็นสีแดงโลหิต!

ต้นตอของสายตานั้นคือ เส้นสีโลหิต มันตัดผ่านกันเสมือนกฎเกณฑ์ของโลกนี้

ทุกเส้นโลหิตมีเขตอาคมบรรจุเอาไว้ สายตาของหวังหลินสงบนิ่ง มองอวกาศรอบตัวจนเห็นเส้นยุ่งเหยิงมากมาย เส้นพวกนี้คือกฎเกณฑ์

หวังหลินยกแขนขึ้นมาและหยิบบางอย่างเบาๆ การกระทำดูเรียบง่ายแต่เขากลับหยิบเส้นที่คนอื่นมองไม่เห็น

เมื่อเขาหยิบเส้นนี้ขึ้นมา ก้อนน้ำแข็งหนึ่งปรากฏขึ้นห่างออกไปทันทีและแช่แข็งพื้นที่แห่งนั้นในพริบตา

เมื่อหวังหลินปล่อยเส้นนั้นไป น้ำแข็งที่ปรากฏนั้นจึงพังทลายเช่นเดียวกัน

หวังหลินมีสีหน้าเรียบนิ่ง แขนขวาหยิบขึ้นอีกเส้น ห่างออกไปไกลมีอวกาศพังทลายเป็นหลุมดำ หลุมดำปลดปล่อยพลังดึงดูดที่ดูดฝุ่นรอบด้านเข้าไป

ผ่านไปสักพักหวังหลินจึงหลับตา พอลืมตาขึ้นอีกครั้ง แขนขวาสร้างผนึก ชี้ห่างจากดวงตาออกไปสามนิ้ว แสงสีแดงจากดวงตาค่อยๆเริ่มรุนแรง เส้นสีโลหิตเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ เขาอดทนต่อความเจ็บปวดอย่างรุนแรงจนกระทั่งพวกมัน หลอมรวมกันกลายเป็นเส้นเดียว!

หนึ่งดวงตา หนึ่งเต๋า!

เส้นโลหิตเส้นนี้ถูกสร้างขึ้นจากเส้นทั้งหมดในดวงตา มันไม่ได้เป็นแนวตั้งเหมือน รูม่านตาของอสรพิษ แต่เป็นแนวนอนวาดผ่านรูม่านตาหวังหลิน เส้นสีแดงแผ่กระจายออกมาและรวมกันอยู่ปลายนิ้วของหวังหลิน แสงสีแดงส่องสว่างลุกโชนขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นแสงเขตอาคมสีแดงสดดูน่ากลัว

ผ่านไปสักพักหวังหลินจึงลดมือลงและชี้ไปข้างหน้า แสงน่ากลัวกะพริบวาบ กระบี่เล่มยาวค่อยๆ เริ่มก่อรูปทรงขึ้นเบื้องหน้า

กระบี่เล่มนี้เป็นภาพมายาและมีเขตอาคมอยู่ข้างในจำนวนนับไม่ถ้วน

เมื่อกระบี่ปรากฏ เรือนผมหวังหลินพลิ้วไหวโดยไร้แรงลม ในร่างเกิดเสียงปะทุ ดังกึกก้อง กลิ่นอายข้างในร่างเพิ่มพูนขึ้นมหาศาลจากขั้นวิญญาณดับสูญระดับกลางไปสู่ระดับปลาย!

หวังหลินเงยศีรษะขึ้นและกำหมัดขวา เนื่องด้วยระดับบ่มเพาะเพิ่มขึ้น อวกาศรอบตัวจึงสั่นสะเทือนราวกับอยู่ในกำมือ

หวังหลินยืนขึ้นอย่างช้าๆ และสะบัดแขนเสื้อ กระบี่เจ็ดเล่มที่ก่อตัวขึ้นจาก แก่นแท้ได้เข้าสู่ร่างกายและหายไปทีละเล่ม

หวังหลินคว้าไปที่อากาศว่างเปล่า ใบเรือหน้าปีศาจที่มีรูพลันปรากฏในฝ่ามือ กวาดสายตามองคราเดียว ช่องว่างนั้นปิดลงอย่างรวดเร็วจนกระทั่งไม่มีข้อผิดพลาดเหลืออยู่

ใบหน้าปีศาจบนใบเรือยังคงประหลาด แต่ตอนนี้มันดูคุ้นเคยกับหวังหลินยิ่งขึ้น

ตอนนี้ใบเรือหน้าปีศาจเป็นสมบัติส่วนตัวของหวังหลินไปแล้ว!

‘วิชาลวงตาของสำนักมหาวิญญาณแห่งแผ่นดินเซียนดาราเองก็เป็นเขตอาคมแบบหนึ่งเช่นกัน มันเป็นส่วนหนึ่งของแก่นแท้เขตอาคม เขตอาคมคือภาพมายา เสมือนกับกฎเกณฑ์ หากบอกว่ามันมีอยู่ มันก็มี แต่เมื่อทรงพลังมากพอจนไม่ต้องสนใจพวกมัน พวกมันก็ไม่มี…’

‘มันคือภาพมายา… เหมือนกับจริงเท็จแต่ก็แตกต่างยิ่ง! แม้ข้ารู้แจ้งแก่นแท้ เขตอาคม มันก็ไม่สมบูรณ์ มันเกิดขึ้นจากความเข้าใจของข้า…’

‘การทำให้แก่นแท้เขตอาคมเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง มันจำเป็นต้องเปลี่ยนตัวเองไปเป็นฟ้าดิน ทำให้กฎของตัวเองกลายเป็นกฎเกณฑ์ของฟ้าดิน ทำให้ความประสงค์ของตัวเองกลายเป็นความประสงค์แห่งฟ้าดิน นี่เป็นเรื่องยากอย่างยิ่ง…’

หวังหลินส่ายศีรษะอย่างเงียบงัน เขาเก็บใบเรือหน้าปีศาจและเดินออกไป

‘ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ และคงต้องใช้เวลาอีกสักพักเพื่อศึกษาภาพลวงตาบนใบเรือนี้…กระนั้นตอนนี้ถึงเวลาออกจากที่นี่แล้ว’ เรือนผมสีขาวสะบัดพลิ้วพลางออกไปจากที่นี่

สิ่งที่หวังหลินได้ในการเดินทางครั้งนี้นับว่ามหาศาล ร่างเต๋าโบราณของเขาบรรลุระดับแปดดาว ตัวเขาบรรลุขั้นวิญญาณดับสูญระดับปลาย เขาได้รับใบเรือหน้าปีศาจเพื่อควบคุมเรือและกระทั่งเป็นพันธมิตรกับฟ่านชานลิ่วอีก

สิ่งสำคัญที่สุด เขาได้เห็นวิธีการค้นหาวิญญาณดวงที่สาม

ขณะเดียวกัน บนแผ่นดินเซียนดารา ภายในดินแดนของทวยเทพ เกิดการต่อสู้อันหาได้ยากขึ้นในท้องฟ้าเบื้องบน การตรวจจับเป็นไปได้ยากมากและเซียนด้านล่างก็ไม่ได้มีระดับบ่มเพาะมากพอ สำหรับพวกเซียนแล้วเพียงแค่เห็นท้องฟ้าสลัวในเดือนนี้และเกิดหมอกปั่นป่วนขึ้น

“ซวนลั่ว เจ้าอ่อนแอยิ่งกว่าก่อนมากนัก ควรถึงเวลาที่เจ้าจะไปเกิดใหม่แล้ว… ข้าไม่รู้ว่าเจ้ามีองครักษ์หรือไม่ หากไม่มี ข้าสามารถมอบให้เจ้าได้สักคน”

ตะวันสีแดงส่องประกายเจิดจ้า ซวนลั่วเอ่ยขึ้นจากภายในอย่างเยือกเย็น “ต้าวยี่ เจ้าขวางทางข้าตั้งแต่ที่ข้าเข้ามาในแผ่นดินเทพแล้ว หากเจ้าทำแบบนี้ต่อไป ข้าจะล้างบางสำนักเจ้าให้หมด!”

“ล้างบางสำนักข้า? ในเมื่อเจ้าร้อนใจเช่นนั้น เจ้าต้องมีเรื่องสำคัญในแผ่นดินเทพเป็นแน่!”

“ทุกที่ที่ข้าไปล้วนเป็นเรื่องสำคัญ เจ้าจะหลีกทางให้ข้าหรือไม่!?” ซวนลั่วไม่ได้คิดก่อกวนและผุดแววตาเย็นเยียบ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version