1724. ร่างดั้งเดิมของเทียนหยุน
ร่างดั้งเดิมของหวังหลินพุ่งทะยานผ่านดวงดาวด้วยความเร็วที่มากกว่าร่างอวตาร เขาไม่ได้ทะยานด้วยพลังภายในหรือบิดมิติ แต่เป็นการกระชากมิติเพื่อเดินทางไปข้างหน้า!
หวังหลินใช้แขนขวาฉีกอวกาศเบื้องหน้าแล้วก้าวออกไป เกิดเป็นเสียงดังสนั่นกึกก้อง จากนั้นเข้าไปในรอยแยก เมื่อปรากฏตัวอีกครั้งก็ออกไปจากดาราจักร อัญเชิญนทีแล้ว!
ด้วยวิธีอันรุนแรงเช่นนี้ ความเร็วของหวังหลินจึงพุ่งขึ้นจนถึงจุดสูงสุดที่ร่างกายจะรับไหว!
ทั่วทั้งโลกถ้ำมีเพียงหวังหลินคนเดียวที่กล้าเดินทางแบบนี้ ในรอยแยกอวกาศนั้นเต็มไปด้วยพลังทำลายล้างที่ปั่นป่วน ร่างของเซียนปกติไม่สามารถทนรับต่อ แรงกระแทกแบบนี้ได้
แม้กระทั่งพวกปิศาจโบราณและมารโบราณยังพบว่าการทนต่อพายุทำลายล้างนี้ถือว่ายากยาก เทพโบราณอาจจะเอาชีวิตรอดได้ไม่กี่ครั้งแต่ก็ไม่สามารถทนรับได้นาน
มีเพียงร่างเต๋าโบราณซึ่งแข็งแกร่งกว่าร่างเทพโบราณหลายเท่าจึงสามารถทำ แบบนี้ได้! มีเพียงหวังหลินที่มีสายโลหิตเต๋าโบราณเท่านั้นที่จะสามารถเข้าสู่รอยแยกอวกาศด้วยความสงบนิ่งและท่องทะยานไปข้างหน้าด้วยวิธีอันน่าเหลือเชื่อโดย ไม่สนใจความปั่นป่วนข้างใน!
พายุทำลายล้างร่อนใส่ร่างหวังหลิน ไม่เพียงแต่ร่างเขาจะไม่ได้รับความเสียหาย พายุทำลายล้างกลับส่งเสียงแตกร้าวและพังทลายไปดื้อๆ
ณ ดาราจักรฟ้ากระจ่าง รอยแยกขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นจากไหนสักแห่ง ร่างทรงพลังของหวังหลินก้าวออกมาจารอยแยกในทันที สัมผัสวิญญาณอันทรงพลังของหวังหลินกวาดไปทั่วบริเวณ
ไม่นานหลังจากนั้นหวังหลินพลันลืมตาและพุ่งออกไปไกล
ตั้งแต่ที่เขาตื่นจากเต๋าแห่งความฝัน เพิ่งจะผ่านไปไม่กี่ลมหายใจเท่านั้น
ขณะที่หวังหลินทะยานผ่านรอยแยกอวกาศ ด้านดาราจักรอัญเชิญนที วิญญาณอวตารของเทียนหยุนทั้งหมดได้มาถึงแล้ว เมื่อวิญญาณดวงสุดท้ายเข้าไปในร่างอวตารของหวังหลิน ร่างอวตารนั้นพลันลืมตาขึ้น
สายตาเต็มไปด้วยความดิ้นรนและเจ็บปวด วิญญาณของเทียนหยุนกำลังช่วงชิงจิตใจและร่างกายของเขา ด้วยเพราะวิชาผสานก่อกำเนิด จึงไม่สามารถทำให้คนอื่นเข้าแทรกแซงกับการครอบงำได้
แสงสีฟ้าห่อหุ้มรอบร่างอวตารของหวังหลิน ปรมาจารย์เต๋าความฝันยืนอยู่ อย่างสงบนิ่งและมองผ่านเข้ามา ฉิงหลินและปรมาจารย์หงซานกำลังมองหวังหลินอยู่เช่นกันแต่แตกต่างกับปรมาจารย์เต๋าความฝัน ทั้งสองคนไม่สงบนิ่งและมองร่างอวตารของหวังหลินด้วยความเคร่งเครียด
“หวังหลิน เจ้าเร็วกว่าข้าหรือไม่?” แววตาหวังหลินเกิดความดิ้นรนมากขึ้นและร่างกายสั่นเทา เส้นโลหิตปูดบวม คำพูดเก่าแก่ดังออกมาจากปาก น้ำเสียงเต็มไปด้วยความแปลกประหลาด
ยามที่ร่างอวตารของหวังหลินกล่าวขึ้น ดวงตาขวาบิดเบี้ยวและถูกแทนที่ด้วยเงา เขาหันไปมองปรมาจารย์เต๋าความฝันและคนอื่น ใบหน้าเผยรอยยิ้มดูถูก
“เจ้าสามคนไม่อ่อนแอ ในเมื่ออยากหยุดข้าไม่ให้ออกไปไหน ข้าจะให้พวกเจ้าได้เป็นพยานรู้เห็นการตื่นครั้งที่ 99 ของข้า!” ดวงตาซ้ายของร่างอวตารหวังหลินถึงกับสั่นเทาและจากนั้นสงบลง เขานั่งลงและหลับตา
ร่างดั้งเดิมของหวังหลินรู้สึกทุกอย่างที่ร่างอวตารกำลังรับรู้ ขณะที่ร่างอวตารของหวังหลินกำลังถูกครอบงำ ดาวเคราะห์ดวงหนึ่งปรากฏขึ้นเบื้องหน้าร่างอวตารที่อยู่ในดาราจักรฟ้ากระจ่าง
เป็นดาวเคราะห์รกร้างที่ไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง ไม่มีสัญญาณชีวิตและทั้งดวงดาวก็แทบจะเต็มไปด้วยทะเลทราย
แม่น้ำเหือดแห้งจนถูกทะเลทรายกลบจนมิด ท้องทะเลสีดำและมีร่างเน่าเปื่อยมากมายในทะเลจนทำให้ดูสกปรก
รอบดาวเคราะห์มีหมอกสีดำ หมอกนี้มีพิษจำนวนมาก ดังนั้นหากคนธรรมดา สูดเข้าไปจึงตายทันที แม้แต่พวกเซียนยังต้องขมวดคิ้วเมื่อเผชิญกับพิษนี้
ที่นี่ไม่มีพลังปราณอันใด ทำให้ไม่มีใครคนไหนอยากมาที่นี่ แม้แต่เซียนพิษก็ ไม่อยากมาเพราะพิษที่นี่ไม่ได้รุนแรงขนาดนั้น เหตุผลที่อาจทำให้เหล่าเซียนขมวดคิ้วเป็นเพราะไม่เพียงแต่พิษเท่านั้นแต่ยังมีกลิ่นเหม็นคละคลุ้งออกมาจากซากศพ เน่าเปื่อยด้วย
ดาวเคราะห์รกร้างแห่งนี้ช่างน่าเกลียดและเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็น แม้แทบทุกอย่างที่นี่จะแตกต่างจากดาวเคราะห์ที่หวังหลินเห็นในวงโคจรการกำเนิดใหม่ของเทียนหยุน แต่กลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมาคือแบบเดียวกัน!
กลิ่นของมันคือ กลิ่นอายของดาวแห่งนี้ ตอนนั้นดาวเพิ่งถือกำเนิด ตอนนี้ดาวใกล้ตายแต่หวังหลินก็ยังจดจำได้!
เมื่อหวังหลินได้เห็นดาวเคราะห์ จึงพุ่งออกไป ทะลวงผ่านชั้นบรรยากาศเบาบาง ร่อนลงบนแผ่นดินบนดาวเคราะห์
พอมาถึง สายหมอกรอบดาวเคราะห์ถูกผลักออกไปราวกับสายลมพัด ราวกับม่านได้ถูกเปิดจนเผยให้เห็นทุกอย่างบนดาวเคราะห์
หวังหลินปรากฏตัวขึ้นเหนือท้องทะเล ทะเลสีดำแห่งนี้ไม่มีแม้แต่คลื่น ราวกับมันตายไปแล้ว!
กลิ่นเหม็นรุนแรงแต่หวังหลินไม่ใส่ใจ เขาพุ่งเข้าไปในทะเลสีดำเบื้องล่าง
เสียงดังปัง ปรากฏวังวนยักษ์ขึ้นในทะเลสีดำพร้อมกับหวังหลินพุ่งเข้าไป วังวนยืดจนถึงพื้นทะเล ขยายใหญ่ไปจนตะกอนสีดำด้านล่างเผยออกมา
ตะกอนนี้เกาะกันแน่นมาหลายปีและไม่เคยเผยให้เห็น ยามนี้มันถูกปัดเป่าออกไปจนเผยให้เห็นท้องทะเลจริงๆ!
ท้องทะเลแห่งนี้ไม่ได้เรียบเนียนแต่เต็มไปด้วยภูเขาเล็กๆ นับไม่ถ้วน!
‘ที่นี่เอง!’ ดวงตาหวังหลินเปล่งประกายเจิดจ้าและพุ่งทะยาน ตรงลงไปโดยไม่สนใจกลิ่นเหม็น!
ณ ใต้ทะเลมีถ้ำแห่งหนึ่งซึ่งปรากฏขึ้นเมื่อนานมาแล้ว ถ้ำแห่งนี้ถูกปกคลุมไปด้วยโคลนสีน้ำตาล ผ่านไปนานหลายปีเกิดแผ่นดินไหวหลายครั้งจนดินโคลนพังทลายเข้าไปในถ้ำ ฝังกลบเข็มทิศครึ่งส่วนไว้ในส่วนลึก!
สายลมบางเบา พัดผ่านเข้าไปในถ้ำและดันดินโคลนที่ไม่เคยขยับเคลื่อนไปไหนให้ออกห่าง เผยให้เห็นมุมหนึ่งของเข็มทิศที่โดนฝัง
ขณะเดียวกัน ฝ่ามืออันทรงพลังคว้าเอามุมเข็มทิศและดึงออกมาจากฝุ่น!
หวังหลินจ้องมองไปบนเข็มทิศในมือ แววตาส่องสว่างเจิดจ้า
‘ใครเร็วกว่ากัน?’
ณ ดาราจักรอัญเชิญนที หลังจากร่างอวตารของหวังหลินหลับตาลง ใบหน้าจึงเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เขาไม่เหมือนหวังหลินอีกแล้วแต่กลายเป็นเทียนหยุนผมขาว!
การครอบงำแบบนี้เสมือนการกลืนกินแต่ก็แตกต่างจากการกลืนกินโดยตรงที่เคยทำ การกลืนกินแบบนี้โหดเหี้ยมกว่ามากเนื่องจากเลือกกลืนกินจากข้างในเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีโอกาสผิดพลาด!
แม้ดวงตายังคงหลับอยู่ แต่ร่างกายกำลังผสานอย่างรวดเร็ว การผสานนี้คือ การหลับใหล เมื่อการผสานเสร็จสมบูรณ์ เขาก็จะตื่น!
เป็นการตื่นครั้งที่ 99
หลังจากตื่นครั้งนี้เทียนหยุนจะสามารถตามหากลุ่มก้อนหมอกที่เคยแยกจากกันคราวนั้นได้ เมื่อผสานกันอีกครั้งเขาก็จะได้รับโชคชะตาของตัวเองกลับคืนมา!
ถึงตอนนั้นเขาจะกลายเป็นเต๋าแห่งสวรรค์ที่พิเศษยิ่ง เขามีความคิดจิตใจของตัวเองและมีสติปัญญาเหนือล้ำกว่าใครหน้าไหน!
ทั้งยังรู้จักวิชาและสามารถเติบโตได้เองโดยไม่ต้องให้ใครมาหล่อเลี้ยง! คงไม่กล่าวเกินจริงเลยที่จะบอกว่าเมื่อเขาได้ควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ชีวิตนับไม่ถ้วนที่ถือกำเนิดในโลกถ้ำจะถูกเขาควบคุมไปด้วย หากชีวิตถูกเต๋าแห่งสวรรค์ที่ไร้สติปัญญาของตัวเองเข้าจัดการ นั่นคงไม่เกิดปัญหาอะไรมากนัก แต่หากเต๋าแห่งสวรรค์มีสติปัญญาขึ้นมาเอง นั่นคงเป็นเรื่องน่ากลัวอย่างยิ่ง!
ตราบใดที่เขาต้องการ เขาสามารถกลืนกินทุกอย่างที่มาจากเต๋าแห่งสวรรค์ได้ ถึงตอนนั้นจะเหลือสิ่งที่ไม่ได้ถือกำเนิดขึ้นที่นี่ นั่นคือสามวิญญาณหลักและเจ็ดชิ้นส่วน รวมถึงคนของแผ่นดินเซียนดารา!
เพียงชั่วเวลาสั้นๆ การผสานเสร็จสิ้นไปมากกว่าครึ่ง จากนั้นไม่กี่ลมหายใจต่อมา การผสานก็เสร็จสมบูรณ์ เทียนหยุนลืมตาตื่น!
เขาเผยรอยยิ้ม เงยหน้าและหัวเราะ
“การตื่นครั้งที่ 99 ในที่สุดข้าก็ได้ตื่นเป็นครั้งสุดท้าย เต๋าแห่งสวรรค์ ข้าคือ เต๋าแห่งสวรรค์!!” เทียนหยุนยืนขึ้น เรือนผมสีขาวสะบัดพริ้ว กลิ่นอายเก่าแก่แผ่กระจายออกมาจากร่างกายและมีหมอกรอบตัว!
หวังหลินเคยเห็นหมอกในวัฏจักรการเกิดใหม่ หมอกนั้นเป็นรูปร่างของเต๋าแห่งสวรรค์!
“หวังหลิน ร่างอวตารของเจ้าถูกควบคุมแล้ว ร่างดั้งเดิมของเจ้าไม่ตายแล้วอย่างไร? ข้าไม่มีเวลามาต่อกรกับเจ้า!!” เทียนหยุนมีใบหน้าดุดัน เขากระทั่งไม่หันไปมองปรมาจารย์เต๋าความฝันและคนอื่นๆ และกำลังจะจากไป
แต่ขณะที่กำลังจะเคลื่อนไหว ลำแสงสีฟ้ากระพริบเบื้องหน้า ปรากฏเป็นปรมาจารย์เต๋าความฝันเพื่อป้องกันไม่ให้เขาขยับไปไหน
“ข้าสัญญากับเขาว่าจะไม่ยอมปล่อยให้เจ้าออกไปจากที่นี่ได้”
ฉิงหลินและปรมาจารย์หงซานเข้ามาใกล้ด้วยเช่นกัน
เทียนหยุนดวงตาส่องสว่างและสะบัดแขนเสื้อ เขาอ้าปากและสูดเข้าไป โลกสั่นสะเทือนราวกับมันกำลังกลับตาลปัตร หมอกนับไม่ถ้วนปรากฏเต็มไปทั่ว ดาราจักรดวงดาวเข้าขัดขวางทัศนวิสัย
ทว่าขณะที่หมอกปรากฏขึ้นนั้น มีปากปรากฏขึ้นมากลืนกินทั้งสามคน แสงสีฟ้าสว่างระเบิดออก กลิ่นอายทรงพลังยิ่งโผล่ออกมาจากแสงและปะทะใส่ปาก
ขณะเดียวกันน้ำเสียงเย็นเยียบเต็มไปด้วยจิตสังหารได้โผล่ออกมาจากระยะไกล!
“เทียนหยุน! ข้าพาร่างดั้งเดิมของเจ้ามาที่นี่แล้ว!”