Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1726

Cover Renegade Immortal 1

1726. ฟื้นคืนแก่นแท้

หวังหลินมีท่าทางเหน็ดเหนื่อยอยู่บนหลังของเจ้าอสูรโลกันตร์ หากเจ้าอสูรโลกันตร์ขยายร่างคงใหญ่มาก แต่ตอนนี้มันหดลงและมีขนาดราวหมื่นฟุตเท่านั้น กระนั้นมันก็ยังเปล่งกลิ่นอายใหญ่ยักษ์ให้แก่ทุกคนที่มองเห็น

แรงกดดันโผล่ออกมาจากร่างของเจ้าอสูรโลกันตร์และจากสายตาเยือกเย็นโหดเหี้ยมของมัน เป็นความไร้ปราณีที่เกิดขึ้นจากความไม่แยแสต่อชีวิตและความตาย วัฏจักร กาลเวลาและทุกชีวิต!

ราวกับไม่มีสิ่งมีชีวิตใดมีค่าเบื้องหน้าเจ้าอสูรโลกันตร์ มันคือเต๋าแห่งสวรรค์ ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกถ้ำล้วนมาจากมัน ไม่ว่าจะเป็นเซียนหรืออสูรดุร้ายตัวไหน พวกมันต่างไร้ค่า!

เช่นเดียวกันนั้นแรงกดดันนี้ก็ออกมาจากหวังหลินที่กำลังนั่งอยู่บนหลังเจ้า อสูรโลกันตร์ แม้เขาจะนั่งอยู่อย่างเงียบๆ แต่กลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมาเสมือน เทพเจ้า!

หวังหลินมีสายโลหิตเต๋าโบราณ สายโลหิตนี้สูงส่งมากยิ่งกว่าสายโลหิตของเหลียนต้าวเฟย แม้เขาจะเป็นคนจากโลกถ้ำ แต่สายโลหิตของเขาได้ทำให้สามารถเหยียดหยามผู้คนส่วนใหญ่ได้แม้แต่บนแผ่นดินเซียนดารา!

เจ้าอสูรโลกันตร์เคลื่อนไหวอย่างเงียบงัน กล่าวให้ถูกคือ มันไม่ได้ขยับไปไหน แต่เป็นโลกที่กำลังเคลื่อนไหว มันสามารถไปที่ไหนก็ได้ที่ต้องการในพริบตาเพราะ ทุกสิ่งที่นี่เป็นของมัน!

ขณะที่หวังหลินนั่งอยู่ที่นี่ แขนขวาสัมผัสเจ้าอสูรโลกันตร์อย่างสงบนิ่ง ภาพฉากเหตุการณ์ที่เขาปะทะกับเทียนหยุนแล่นวาบในความคิด

‘ข้าไม่คิดว่าเจ้าอสูรโลกันตร์ที่ข้าจับเอาไว้จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของเต๋าแห่งสวรรค์…เทียนหยุนก็เป็นส่วนหนึ่งของเต๋าแห่งสวรรค์ มิน่าเล่าเขาถึงเชื่อในโชคชะตา แห่งสวรรค์…โชคชะตาที่เขาเชื่อว่าตัวเองอยู่ข้างในนั้น ความจริงก็คือตัวเขาเอง’ หวังหลินมองเจ้าอสูรโลกันตร์เบื้องล่างอย่างครุ่นคิดและสัมผัสอารมณ์ความรู้สึกได้

‘เศษชิ้นส่วนที่มาจากแดนเทพบรรพกาลซึ่งราชันย์เทพสีรุ้งได้มา มันถูกใช้เป็น มิติเก็บของ ข้างในเขาค้นพบเต๋าแห่งสวรรค์…ดูเหมือนเขาจะพบลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า ข้างในด้วย’

‘นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงมีเข็มทิศอยู่’

‘ทุกคนกำลังค้นหาเต๋าแห่งสวรรค์ เซียนเต๋าสีรุ้ง ผีเฒ่าจางและคนที่เหลือต่างกำลังค้นหาวิญญาณดวงที่สาม นอกจากการผสานกันแล้ว ทั้งหมดอาจวางแผนไว้สำหรับเต๋าแห่งสวรรค์…และเพื่อให้ได้เศษชิ้นส่วนที่ราชันย์เทพสีรุ้งเคยได้มา’

‘บังเอิญว่าข้าได้กลายเป็นเจ้านายของเต๋าแห่งสวรรค์…ตั้งแต่วันนี้ต่อไปข้าเป็นเจ้านายของมัน ข้าไม่รู้เรื่องแผ่นดินเซียนดารานัก แต่ในโลกถ้ำ ไม่มีใครสามารถขโมยมันไปจากข้าได้!’

‘เต๋าแห่งสวรรค์น่าจะสมบูรณ์ มันถึงกับสามารถกลืนกินเหลียนต้าวเฟยเมื่อ คราวก่อนได้ ข้าอยากเห็นเสียจริงว่าใครจะกล้ามาล่วงเกินข้าและกลายเป็นศัตรู คนแรกเพื่อโดนเต๋าแห่งสวรรค์กลืนกิน!’

สัมผัสความมั่นใจอันทรงพลังผุดขึ้นมาในร่างหวังหลิน เขามองออกไปไกล ดวงตาเปล่งประกายเจิดจ้า!

หวังหลินไม่ได้แผ่กระจายสัมผัสวิญญาณ เขาเพียงแค่ให้เจ้าอสูรโลกันตร์เร่ร่อนไปท่ามกลางดวงดาว เขาหลับตาและใช้ฝ่ามือสร้างผนึก พึมพำเล็กน้อยก่อนจะลืมตาและกัดปลายลิ้นพ่นโลหิตออกไป

ก้อนโลหิตสีแดงลอยอยู่เบื้องหน้า รักษาระยะกับเจ้าอสูรโลกันตร์เบื้องล่าง โลหิตเคลื่อนไหวและเรืองแสงแพรวพราว ระเบิดกลิ่นอายแผ่กระจาย

“ในเมื่อร่างอวตารแตกสลายไป ข้าจะสร้างขึ้นมาอีกครั้ง! ร่างอวตารนี้จะมี โลหิตของข้าเป็นแกนหลักและเดินสู่เส้นทางแห่งยอดเต๋า!” หวังหลินพึมพำพลางชี้ไปที่โลหิต

เพียงชี้นิ้ว โลหิตเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มันขยายตัวออกและเปลี่ยนกลายเป็นร่างคนผู้หนึ่ง แต่ดูเหมือนคนผู้นี้เป็นสีแดงเหมือนสร้างขึ้นจากโลหิต

“โลหิตข้ามีพลังแห่งเต๋าโบราณ การจะสร้างร่างอวตารนี้ขึ้นมา ข้าต้องแยก พลังเต๋าโบราณออกมาด้วย เรื่องนี้ไม่ถือว่ายาก!” หวังหลินดวงตาส่องสว่าง ดวงดาวกลางหน้าผากและในดวงตาปรากฏขึ้นมา พวกมันหมุนติ้วก่อเกิดเป็น พลังดึงดูด ร่างโลหิตเบื้องหน้าเริ่มบิดเบี้ยวพร้อมกับมีควันหลายสายถูกดึงออกมาและถูกดาวของหวังหลินดูดซับ

กระบวนการนี้เป็นไปอย่างรวดเร็ว ผ่านไปครึ่งก้านธูป กลิ่นอายเต๋าโบราณทั้งหมดจึงถูกแยกออก ร่างโลหิตตอนนี้ไม่มีกลิ่นอายเต๋าโบราณเหลืออยู่เลย

ขณะที่กลิ่นอายเต๋าโบราณถูกแยกออก ร่างโลหิตเปล่งประกายสว่าง ไม่นานนักแสงสีโลหิตก็เปลี่ยนไป ร่างอวตารหน้าตาคล้ายหวังหลินปรากฏขึ้น!

ร่างอวตารนี้เสมือนเด็กทารกที่เกิดใหม่ แม้จะเหมือนผู้ใหญ่แต่มันไม่มีวิญญาณ มันมีเพียงแค่ร่างกาย

“ก่อเกิดวิญญาณ!” หวังหลินชี้กลางหน้าผาก แบ่งวิญญาณส่วนหนึ่งของเขาออกไปเข้าสู่ร่างอวตาร เมื่อเสี้ยววิญญาณเข้าไปแล้ว หวังหลินจึงรู้สึกเหมือนตัวเองและร่างอวตารได้ผสานกันดุจสายน้ำ ทั้งสองไม่มีความแตกต่างกัน

หลังเสร็จทั้งหมดนี้ หวังหลินดูเหน็ดเหนื่อยยิ่งขึ้น เขาค่อยๆ หลับตาราวกับกำลังหลับ

วินาทีที่ร่างดั้งเดิมหลับตาลง ร่างอวตารจึงลืมตาตื่นและเปล่งประกาย เขามองร่างอวตารที่ตัวเองสร้างขึ้นมาใหม่อย่างสงบนิ่งและชี้ไปบนท้องฟ้า

“แก่นแท้เปลวเพลิงที่ข้ารู้แจ้งซึ่งได้หายไปในความว่างเปล่า จงกลับมา!” วินาทีนั้นเมล็ดเปลวเพลิงเริ่มปรากฏขึ้นรอบอสูรโลกันตร์ มันปรากฏมากขึ้นเรื่อยๆ มองไกลๆราวกับดาราจักรดวงดาวกำลังถูกเผาไหม้ ทะเลเพลิงโหมกระหน่ำในดวงดาว!

ทะเลเพลิงเปลี่ยนกลายเป็นวงแหวนและหมุนรอบหวังหลิน เปลวเพลิงไร้ที่สิ้นสุดรวมกันมาจากทั่วดาราจักร ราวกับคลื่นลูกใหญ่ที่กำลังหมุนไปอย่างต่อเนื่อง

เมื่อเปลวเพลิงทั้งหมดเข้าใกล้หวังหลิน ดวงตาเขาจึงเปลี่ยนกลายเป็นหลุมดำเข้ากลืนกินเปลวเพลิง ทะเลเพลิงจึงพุ่งเข้าไปในตาซ้าย

พริบตาเดียวทะเลเพลิงก็หายไป อักขระแก่นแท้เปลวเพลิงปรากฏขึ้นในตาซ้ายของหวังหลินทันที

“แก่นแท้สายฟ้าที่หายไปในความว่างเปล่า ข้าในฐานะจ้าวแห่งสายฟ้า ขออัญเชิญเจ้าให้กลับมาหาข้า!” หวังหลินเอ่ยขึ้นเบาๆ จากนั้นสะบัดแขนขวา

ดาราจักรดวงดาวสั่นเทากลายเป็นระลอกคลื่นนับไม่ถ้วนแผ่กระจายไปทั่วสารทิศ เสียงพึมพำดังกึกก้องออกมาไกลและในไม่นานก็ดังยิ่งขึ้นเรื่อยๆ มันโผล่ออกมาจากทุกทิศ เพียงไม่กี่ลมหายใจมันก็กลบทับเสียงทุกอย่างรอบด้าน

สายฟ้าไร้ขอบเขตปรากฏขึ้นเหนือเส้นขอบฟ้า ทั้งหมดพุ่งเข้าหาหวังหลินอย่างรวดเร็ว

สายฟ้าทั้งหมดควบแน่นอยู่ในตาขวาของหวังหลิน ประกายสายฟ้าพุ่งไปในดวงตาและทุกสายจะทำให้สายฟ้าโค้งเป็นวงรอบตัวหวังหลิน พวกมันดูเหมือนกำลังส่งเสียงร้องดีใจเพราะกลับมาหาเจ้านายของตนเอง

ไม่นานนักสายฟ้าทั้งหมดจึงหายไปเบื้องหน้าดวงตาขวา อักขระสายฟ้านิรันดร์ปรากฏขึ้นนตาขวาทันที!

สองแก่นแท้ เปลวเพลิงในตาซ้ายและสายฟ้าในตาขวา!

“แก่นแท้รูปแบบนามธรรมที่ข้ารู้แจ้งในเต๋าความฝัน พวกมันมีอาณาเขตและเป็นยอดเต๋าที่ข้าบรรลุในชีวิต แม้ทั้งหมดได้สูญสลายไป ข้ายังสามารถเรียกพวกมันกลับมาได้…แก่นแท้รูปแบบนามธรรมชนิดแรกที่จะกลับมาคือชีวิตและความตาย!”

หวังหลินพึมพำและอ้าแขนออก

“แขนซ้ายคือชีวิต แขนขวาคือความตาย…วันเวลาผ่านไป หัวใจแห่งเต๋าของข้าคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง”

แขนซ้ายของหวังหลินมีควันสีขาวล้อมรอบเอาไว้ พวกมันเรืองแสงสีขาวอ่อนนุ่ม มันคือ พลังชีวิตของหวังหลินและเป็นส่วนหนึ่งการรู้แจ้งชีวิตและความตายที่เขา ผ่านมาตลอดสองพันปี

ขณะเดียวกันควันสีดำล้อมรอบแขนขวา ก่อตัวเป็นก้อนแสงสีดำ ก้อนควันนี้เต็มไปด้วยความตายและเน่าเปื่อย ราวกับสามารถแยกวิญญาณออกมาจากขุมนรกได้

เมื่อกลิ่นอายสีดำและสีขาวปรากฏขึ้น พวกมันขยับจากแขนขึ้นไปจนรวมอยู่กลางหน้าผาก ผสมผสานเข้าด้วยกันและหมุนเหมือนอักขระหยินหยาง!

แก่นแท้แห่งชีวิตและความตายกลับคืนแล้ว!

กลิ่นอายในร่างกายหวังหลินพลันระเบิดในทันที!

“ต่อไปเป็นแก่นแท้จริงเท็จ จริงและเท็จ เท็จและจริง ดังนั้นคือชีวิต” หวังหลินขบคิดเงียบๆ มีอารมณ์ความรู้สึกเรื่องนี้กับเทียนหยุน

หลังเอ่ยปาก ร่างกายพลันเปลี่ยนไปเป็นภาพมายา ราวกับเขาไม่ใช่ความจริงโดยเฉพาะดวงตาที่เสมือนดวงดาว หากใครมองดวงตาคู่นี้ คงตกเข้าสู่สภาวะสับสน

“ข้าหลับตา ทุกอย่างคือเท็จ ข้าลืมตา ทุกอย่างคือจริง” หวังหลินพึมพำก่อนจะหลับตา ฟ้าดินทั้งหมดเลือนหายไป โลกถ้ำ วิญญาณดวงที่สามและอสูรโลกันตร์ ไม่มีอยู่ ตอนนี้ทุกอย่างอยู่ในภาพลวงตาของหวังหลิน

เมื่อเขาลืมตาขึ้น แก่นแท้จริงเท็จจึงรวมตัวกัน

ขณะที่หวังหลินกำลังฟื้นคืนแก่นแท้ของร่างอวตารตัวเอง เจ้าอสูรโลกันตร์ด้านล่างกำลังเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ มันออกมาจากดาราจักรอัญเชิญนทีและมาถึง ดาราจักรทะเลเมฆา

ตอนนี้ในทะเลเมฆา มีกลุ่มคนกำลังท่องทะยานผ่านดวงดาว

คนกลุ่มนี้นำโดยชายชราสี่คนและมีอีกร้อยคนติดตามเป็นขบวน ขณะที่พวกเขาทะยานผ่านดวงดาวไป เกิดระลอกคลื่นเสียงดังสนั่น

หลายคนเปล่งกลิ่นอายทรงพลังเนื่องจากสี่คนที่นำหน้านั้นแข็งแกร่งที่สุด พวกเขาใช้วิชาบางอย่างที่ทำให้สัมผัสวิญญาณของแต่ละคนเชื่อมต่อกัน เหนือศีรษะแต่ละคนมีน้ำเต้ายักษ์สีเขียวล้วนและมีอักขระหลายอย่างเลือนหายไปตามกาลเวลา

ข้างในน้ำเต้ามีกลุ่มก้อนสายหมอกสีเขียวที่ดูเหมือนกำลังชี้ทางพวกเขา

ชายชราสี่คนเดินทางและหยุดเป็นพักๆ โค้งให้กับน้ำเต้าและผสานสัมผัสวิญญาณให้ลอยออกไปราวกับสื่อสารกับน้ำเต้า

สี่ชายชรานี้คือ สี่ขุนพลแห่งแดนสวรรค์โบราณ!

ด้านหลังเหล่าเทพคือผีเฒ่าจางในชุดคลุมเต๋า เขาไม่สนใจเหล่าเทพเบื้องหน้าและดูเหมือนไม่สนใจตัวตนของอีกฝ่ายเลย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!