Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1730

Cover Renegade Immortal 1

1730. แก่นแท้ปฐพี

ท่ามกลางคนทั้งสี่ มีชายชราสวมชุดคลุมเต๋าอยู่ผู้หนึ่ง ใบหน้าแต้มจุดสีน้ำตาล หลังจากลังเลเล็กน้อยจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “เรื่องนี้…เราควรบอกผู้อาวุโส หน่าต้าวหรือไม่?”

เขาเป็นคนที่หวาดกลัวหวังหลินมาก เขาคือ หยินตงเฉิน

คนที่พูดคนสุดท้ายคือชายวัยกลางคน พลันขมวดคิ้วและเอ่ยตอบ “ข้าเองก็แนะนำว่าไม่ควรล่วงเกินหวังหลินไปก่อนที่จะแจ้งผู้อาวุโสหน่าต้าว เขามีชื่อเสียงมากและในเมื่อมาเพื่อเยี่ยมเยียน หากเรา…”

“สำนักกุ้ยยี่ของเราหาได้หวาดกลัวใครหน้าไหนกัน? แม้หวังหลินจะเป็นคนมีชื่อเสียง แล้วอย่างไรเล่า? แม้เขาจะเป็นมังกร เขาก็ยังต้องคุกเข่าเบื้องหน้าเรา!” หญิงวัยกลางคนร้องออกมา

ชายชราชุดคลุมสีดำสะบัดแขนและเอ่ยอย่างเย็นเยียบ “ไม่ต้องเถียงกัน ข้าคิดมาแล้ว อีกทั้งไม่ใช่ว่าผู้อาวุโสหน่าต้าวไม่ทราบเรื่องนี้หรือ ในเมื่อเขาไม่ออกมา เช่นนั้นก็มาดูกันว่าเจ้าปีศาจหวังหลินคนนี้จะมีสามเศียรหกกรหรือไม่!”

เพียงสะบัดแขนเสื้อ อวกาศระหว่างทั้งสี่คนก็บิดเบือนและปรากฏกระจกขึ้นมาเผยให้เห็นหวังหลินที่กำลังเดินเข้าหาวงแหวนทั้งห้า!

ขณะเดียวกันคนที่นั่งอยู่ในชั้นที่เก้า ทั้งคู่อายุอยู่ในวัยกลางคน หนึ่งในนั้นสวม ชุดคลุมห้าสี มองไปยังท้องฟ้านอกหอคอยด้วยแววตามีแสงลี้ลับ

หากหวังหลินอยู่ที่นี่ เขาคงจำได้ทันทีว่าคนผู้นี้คือ หน่าต้าว!!

บนร่างของหน่าต้าวไม่มีร่องรอยความเหี่ยวย่น เขายังคงเหมือนเดิมเช่นก่อนหน้านี้ สายตามองท้องฟ้า หน่าต้าวเผยรอยยิ้ม

“ตอนนั้น เขาเป็นแค่เซียนขั้นวิญญาณแรกกำเนิดเท่านั้น ผ่านไปเพียงพันปี กลับเติบใหญ่ขนาดนี้…แม้แต่ข้าก็เทียบไม่ได้”

“ข้าก็เทียบไม่ได้เช่นกัน แต่แล้วอย่างไรเล่า? อย่าลืมว่าเราเป็นใคร นอกจากนี้พวกคนรุ่นหลังแค่ปกป้องที่นี่ไว้ก็พอ” ชายวัยกลางคนนั่งตรงข้ามกับหน่าต้าว เขาสวมชุดสีม่วง ดูหล่อเหลา หลังจากได้ยินคำพูดของหน่าต้าวจึงหัวเราะ

“หากศัตรูมาจริงๆ คงไม่จำเป็นต้องให้เราลงมือ บรรพชนเบื้องบนสามารถ ตื่นขึ้นมาแก้ไขทุกอย่างได้ กระนั้นเจ้าคิดหรือไม่ว่าหวังหลินจะสามารถเดินออกมาจากค่ายกลเบญจธาตุได้?”

“เขาน่าจะสามารถเดินออกมาจากค่ายกลเบญจธาตุได้ แต่เรื่องเก้าโคจร น่าจะไม่ผ่านไปถึงรอบที่สาม! ค่ายกลนั้นถูกเก้าบรรพชนวางเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว แต่ถึงจะผ่านไปหลายปีก็ไม่มีคนธรรมดาคนใดสามารถทะลวงเข้ามาได้! ข้ารู้จักหวังหลินเล็กน้อย เขาเป็นเพียงแค่เซียนขั้นวิญญาณดับสูญระดับกลางเท่านั้น!” หน่าต้าวยิ้ม

ชายวัยกลางคนยิ้มออกมาเช่นกัน เขามองออกไปนอกหอคอย “เรามาดูการละเล่นนี้กันเถอะ”

ภายในห้าวงแหวน หวังหลินก้าวเดินอย่างสงบนิ่ง วงแหวนส่งเสียงดังลั่น แต่ไม่มีวงไหนสามารถทำร้ายหวังหลินได้เลย

ร่างเต๋าโบราณของเขาแข็งแกร่งมาก วิชาพวกนี้ไม่สามารถทำร้ายเขาได้ ธาตุทั้งห้าปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง บางครั้งก็เป็นเปลวเพลิงมหึมา บางครั้งก็เป็นพายุทราย บางครั้งเป็นทะเลโกรธเกรี้ยวปกคลุมท้องฟ้า บางครั้งเป็นเศษโลหะหลายพันชิ้น ส่งเสียงกระทบ บางครั้งก็มีต้นไม้พุ่งเข้ามากระแทก

หวังหลินไม่หยุดเดินเลย เขาเตรียมตัวมาที่ดาวเบญจธาตุอย่างเต็มที่ แม้จะมี เสืออยู่ในถ้ำ เขาก็ยังจะลองทะลวงผ่านไป!

ตัวแปรที่สองนอกจากเทียนหยุนถูกซ่อนอยู่ที่นี่ หวังหลินไม่รู้เรื่องกองกำลังที่ซ่อนที่นี่มากนัก ดังนั้นการตามหาวิญญาณดวงที่สามจึงเสียเปรียบอย่างยิ่ง!

เป้าหมายของเขาในการมาที่นี่คือการเปิดเผยตัวแปรกลุ่มนี้ให้เผยออกมา เขาต้องการรู้ให้แน่ชัดว่าขุมอำนาจที่ซ่อนอยู่ที่นี่มีกำลังมากแค่ไหน!

มีเพียงการทำแบบนี้เท่านั้นจึงทำให้หวังหลินสบายใจ!

เขาไม่ใช่คนโอหังมากพอจนบดขยี้ขุมกำลังนี้ด้วยตัวเอง แต่เขามั่นใจว่าหากต้องการออกไป ไม่มีใครหน้าไหนกล้าหยุดเขา!

หากเขาไม่มีความมั่นใจ เขาคงไม่มาที่นี่ด้วยตัวเอง!

เพียงก้าวเท้า วิชาธาตุทั้งห้าได้พังทลายรอบหวังหลินอย่างต่อเนื่อง หลังจาก ก้าวไปสิบสี่ก้าว หวังหลินจึงเข้าสู่ชั้นในของห้าวงแหวน!

แสงที่นี่ส่องสว่างและแพรวพราว ธาตุทั้งห้ารอบตัวหวังหลินพลันเปลี่ยนไป ธาตุทั้งหมดเปลี่ยนกลายเป็นธาตุปฐพี!

ทุกอย่างที่เขาเห็นก่อนหน้านี้เป็นแค่ชั้นนอก สิ่งที่หวังหลินเผชิญตอนนี้คือค่ายกลชั้นแรกของจริงแห่งค่ายกลเบญจธาตุ ค่ายกลมหาปฐพี!

หลังจากหวังหลินเข้ามาในห้าวงแหวน ค่ายกลปฐพีจึงกระตุ้นขึ้นมา ภาพทัศนวิสัยพร่าเลือน ราวกับเขาเข้ามายังโลกอีกใบ

โลกนี้มีเพียงพื้นดินและไม่มีท้องฟ้า! ด้านล่างเป็นพื้นดินไร้ขอบเขต เบื้องบนเป็นพื้นดินกลับหัวแทนที่ท้องฟ้า!

ฝุ่นดินตกลงมาจากด้านบนราวกับสายฝน เกิดเป็นพายุเชื่อมต่อพื้นดินทั้งสองฝั่ง มันไม่ได้มีพายุเดียวแต่มีถึงเก้า เก้าพายุนี้ปลดปล่อยเสียงดังสนั่นมหาศาล

ขณะเดียวกัน เก้าพายุเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและเข้ามาใกล้ในทันที พวกมันเปลี่ยนกลายเป็นใบหน้ามนุษย์เก้าคนซึ่งอยู่ห่างจากหวังหลินเพียงหมื่นฟุต ใบหน้าทั้งเก้าสร้างขึ้นจากดินโคลนและดินทราย พุ่งใส่หวังหลินในจังหวะนั้น

พื้นดินด้านล่างหวังหลินสั่นเทา เคลื่อนตัวราวกับคลื่นคล้ายอสูรดุร้ายซ่อนตัวอยู่ด้านล่าง

ในหูหวังหลินเกิดเสียงดังสนั่นกึกก้อง สายตามองทุกอย่างด้วยความใจเย็น

‘แค่จิตวิญญาณห้าธาตุ ไม่คู่ควรให้ข้ายอมรับ!’ หวังหลินก้าวเท้าและเข้าประชิด ขณะที่มันส่งเสียงคำราม หวังหลินโยนกำปั้นออกไป

ใบหน้าพังทลายเสียงดังปัง ฝุ่นดินจำนวนมากพัดใส่หวังหลิน หวังหลินพลันเคลื่อนไหวและเคลื่อนเข้าหาใบหน้าที่สอง โยนกำปั้นออกไปอีกครั้ง

จากนั้นก้าวไปเก้าครั้งและโยนกำปั้นเก้าระลอก ใบหน้าทั้งเก้าพังทลายทั้งหมด จังหวะนั้นพื้นดินแปลกประหลาดที่กำลังห้อยอยู่ในท้องฟ้าพลันเริ่มเคลื่อนไหวและ บิดตัวลงมา

ขณะเดียวกัน พื้นดินด้านล่างหวังหลินเริ่มยกตัวขึ้น ทั้งหมดเกิดขึ้นในชั่วพริบตา สองพื้นดินบีบเข้าหากันเพื่อบดขยี้หวังหลิน

ภายในหอคอย คนทั้งสี่มองเห็นฉากเหตุการณ์ทั้งหมดในกระจก เมื่อเป็นแบบนี้ ชายชราชุดสีดำเริ่มหัวเราะ

“ค่ายกลปฐพีจะถูกทำลายง่ายๆ ได้อย่างไร? หวังหลินผู้นี้ดูเหมือนจะมั่นใจตัวเองมากเกินไป แม้จะเป็นเซียนขั้นที่สาม แต่การทำลายค่ายกลปฐพีก็ต้องใช้ความพยายามอยู่บ้าง!”

“นั่นก็ถูก นี่เป็นเพียงแค่การเปลี่ยนแปลงรอบสองในค่ายกลปฐพีและมีอีกเจ็ดครั้ง ข้าคิดว่าแม้หวังหลินจะผ่านค่ายกลปฐพีในชั้นแรกไปได้ เขาก็คงบาดเจ็บสาหัส” หญิงสาววัยกลางคนเอ่ยด้วยเสียงแหลม นางจ้องหวังหลินด้วยความเกลียดชังและ มีความสุข

“หวังหลิน เจ้ารู้จักซือถูหนาน ดังนั้นวันนี้เจ้าจงยอมรับการลงโทษแทนคนที่ ไร้หัวใจคนนั้นไปซะ!”

อีกสองคนตกตะลึงและขมวดคิ้ว พวกเขามองหน้ากันเองและรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ทุกอย่างดูเหมือนเรียบร้อยเกินไป

ขณะนั้นเองโลกในกระจกเปลี่ยนแปลงไปอย่างประหลาด การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นฉับพลัน เสียงหัวเราะของชายชราชุดดำและหญิงวัยกลางคนถึงกับโดนขัด เมื่อทั้งสองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น สีหน้าท่าทางจึงเปลี่ยนไป

ในกระจกนั้นพื้นดินสองฝั่งปิดลงไปแล้วและหวังหลินถูกผนึกไว้ตรงกลางโดยไม่ได้เปิดออกมาเลย กระนั้นตอนนี้มีเสียงดังเป็นจังหวะโผล่ออกมาท่ามกลางพื้นดินทั้งสอง ราวกับมีคนกำลังชกใส่บางอย่างเบาๆ

บนพื้นดินปรากฏรอยแตกร้าวขึ้นทันที รอยแตกร้าวปริแตกออกไปเรื่อยๆ หวังหลินดูเหมือนเดิมเช่นก่อนหน้านี้ เขาก้าวออกมาจากพื้นดินที่พังทลาย

หากแค่นั้นคงไม่ทำให้ชายชราชุดดำและหญิงวัยกลางคนตกตะลึงมากพอ สิ่งที่ตกตะลึงคือ ตอนที่หวังหลินสะบัดแขนและใช้วิชาบางอย่าง พื้นดินที่แตกสลายกลับลอยเข้าหาหวังหลินและควบแน่นในมือขวา!

มันเปลี่ยนกลายเป็นกองดิน!

กองดินเล็กน้อยนี้เปล่งกลิ่นอายจิตวิญญาณทรงพลัง มันคือจิตวิญญาณของ ค่ายกลปฐพี!

ทั้งสี่คนขบคิดเงียบๆ ชายชราชุดดำอ้าปากค้าง ดวงตาหวาดกลัวยิ่ง เขาจ้องมองหวังหลินด้วยความคิดว่างเปล่าเพราะหวังหลินถือก้อนดินในมือและดันออกไป เขาเห็นหวังหลินมองขึ้นมาที่เขา และเขาส่งเสียงร้องโดยไม่รู้ตัว

เขาไม่ใช่เพียงคนเดียว พอหวังหลินกวาดสายตาผ่านไป หญิงวัยกลางคนและ อีกสองจึงรู้สึกศีรษะด้านชา ถอยร่นทันที

“เขาไม่สามารถหาเราเจอได้ เราอยู่นอกค่ายกล!!”

“เขา…เขาจับจิตวิญญาณปฐพีได้จริงๆ!!”

บนชั้นที่สิบนั้น สายตาของหน่าต้าวยังคงจับจ้องไปบนท้องฟ้าด้านนอกหอคอย เขาค่อยๆ ขมวดคิ้ว

ชายวัยกลางคนที่อยู่ตรงข้ามหน่าต้าวเอ่ยขึ้นเบาๆ “หากเขาแค่ทำลายค่ายกลปฐพีก็คงดี แต่เขาเอาจิตวิญญาณปฐพีไปด้วย…สมควรแล้วที่มีชื่อเสียงขนาดนี้… เขาแข็งแกร่งมาก”

“ไม่มีปัญหา เรายังมีอีกสี่ค่ายกล อีกทั้งยังมีเก้าโคจร ข้าอยากเห็นว่าเขาจะเอาพวกมันไปได้อย่างไร!!” หน่าต้าวเผยสายตาเย็นเยียบ เขาและหวังหลินไม่ถือว่าเป็นสหายกัน อย่างมากก็เป็นคนรู้จัก

ตอนนี้ไม่มีใครในโลกถ้ำสังเกตเห็นแสงสีโลหิตกะพริบวาบในดาราจักรฟ้ากระจ่าง แสงโลหิตเปลี่ยนกลายเป็นชายหนุ่มผมสีดำ

พลางมองออกไปไกลและเผยรอยยิ้มมีความสุข

‘เขาอยู่นั่น…ก็ดี ข้าไม่รู้นิสัยของเด็กคนนี้ ติดตามเขาไปดูเสียหน่อยน่าจะดี’

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!