1746. ติดตามวิญญาณ
เศษวิญญาณดวงที่ห้าเป็นสีเขียว แสงสีเขียวเป็นตัวแทนของต้นไม้ที่มีเจตนากระจายกิ่งก้านสาขาออกไป เศษวิญญาณนี้เกิดขึ้นจากสัญชาตญาณของราชันย์เทพ สีรุ้ง หากวิญญาณนี้คือ คนธรรมดา เขาคงมีลูกหลานหลายคน หากวิญญาณนี้ คือเซียน ระดับบ่มเพาะคงไม่มากนักแต่จะมีร่างอวตารหลายร่างที่ยอดเยี่ยม คล้ายกับกิ่งก้านสาขาของต้นไม้!
วิญญาณดวงนี้ถูกปกคลุมด้วยแสงสีเขียวแต่ไม่ส่องสว่าง มันหายวับเข้าไปเกิดใหม่อย่างเลือนลาง แต่หวังหลินยังเห็นร่างที่ปรากฏขึ้นมาตอนที่มันหายไป
“จิตวิญญาณสลาย…เป็นเขาเอง…” หวังหลินพึมพำ ความตกตะลึงในใจคล้ายอยู่กับเขามามากกว่าสองพันปี
เศษวิญญาณชิ้นที่หกเป็นสีคราม แสงสีครามเปล่งความรู้สึกสองอย่าง หนึ่งคือบางเบาเหมือนน้ำ และอีกหนึ่งเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง!
เศษสีครามเกิดขึ้นจากความรักของราชันย์เทพสีรุ้ง แม้เขาจะมีนางสนมมากมาย แต่ก็มีคนรักเพียงคนเดียว ฟ่านชานเมิ่ง
เศษวิญญาณดวงที่หกมีความรู้สึกซับซ้อนเกี่ยวกับความรัก เขารักฟ่านชานเมิ่งแต่ก็เกลียดนางเช่นกัน เพราะความรักและความเกลียดชังนี้ วิญญาณดวงที่หกจึงแตกต่างจากวิญญาณดวงอื่น
เศษวิญญาณดวงที่หกไม่ใช่บุรุษ แต่เป็นสตรี!
กลิ่นอายที่ออกมาจากสตรีผู้นี้ทำให้จิตใจหวังหลินสั่นไหวอย่างรุนแรง เขามองขึ้นไป ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ เขาไม่เคยคาดคิดว่านางจะเป็นหนึ่งในเจ็ดเศษวิญญาณของราชันย์เทพสีรุ้ง!!
เมื่อเศษชิ้นที่หกหายไป ร่างเลือนลางนั้นเผยออกมา ร่างนี้มีความเฉยเมยและความอ่อนโยน ใบหน้าท่าทางอันซับซ้อนเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ จนคนอื่นสัมผัสได้ถึงความเย็นชา!
หวังหลินหน้าซีด เขาจดจำร่างนั้นได้ เขาไม่กล้าเชื่อว่านี่จะเป็นเรื่องจริง!
‘มู่ปิงเหมย…’
มู่ปิงเหมยนั้นเป็นจุดตัดระหว่างความอ่อนโยนและเฉยชา ชีวิตของนางไม่ว่าจะเกิดใหม่กี่ครั้งก็เหมือนกัน! ความสัมพันธ์ของนางกับหวังหลินอธิบายได้เพียง อย่างเดียวคือ ซับซ้อน และ…ซับซ้อน!
เจ็ดเศษวิญญาณแบ่งออกเป็นวิญญาณแต่ละดวงที่แตกต่าง แม้จะเชื่อมต่อกันแต่ก็เบาบางมาก เจ็ดเศษวิญญาณที่แยกออกมาจึงไปเกิดใหม่เหมือนคนอื่น
เศษวิญญาณชิ้นที่เจ็ดเป็นสีม่วงรุนแรง จิตวิญญาณดวงที่เจ็ดนี้คือความโกรธเกรี้ยวและความบ้าคลั่งของราชันย์เทพสีรุ้งตอนที่เขาพังทลายไปพร้อมกับความไม่ยินยอม!
เขาเกลียดชังสวรรค์ เกลียดชังผืนแผ่นดิน เกลียดชังสตรีที่ตนเองรัก ชีวิตที่เคยสวยงามแต่ก็กลับเป็นคนน่าสงสารเมื่อเขาถูกทำลาย ความโกรธเกรี้ยวไม่ได้หายไปและผสานเข้ากับเศษวิญญาณชิ้นที่เจ็ด!!
เศษวิญญาณดวงนี้คือดวงแรกที่เลือนหายไปและถูกความโกรธเกรี้ยวและความบ้าคลั่งของราชันย์เทพสีรุ้งเข้าปกคลุม หวังหลินจึงไม่สามารถมองเห็นว่าใครอยู่ในวิญญาณดวงที่เจ็ด!
ทว่าเขากลับสัมผัสได้เลือนลางว่าเคยเจอเศษวิญญาณดวงที่เจ็ดมาก่อน!
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในพริบตา เจ็ดเศษวิญญาณเลือนหาย ความตกตะลึงที่หวังหลินได้รับไม่น้อยไปกว่าค้นหาวิญญาณดวงที่สามได้จริงๆ
วิญญาณสามดวงปรากฏขึ้นหลังจากเจ็ดเศษวิญญาณกระจัดกระจายกันไป พวกมันแบ่งออกเป็นสามทิศทางแตกต่างกัน หนึ่งในนั้นเปล่งแสงสีรุ้งทรงพลัง มุ่งหน้าไปสู่ดินแดนที่จะเป็นดินแดนชั้นนอกในอีกหลายปีถัดมา!
เขากลายเป็นเซียนเต๋าสีรุ้งและสืบทอดวิชาทั้งหมดของราชันย์เทพสีรุ้ง!
วิญญาณดวงที่สองลอยออกไปยังทิศทางตรงข้ามและเข้าไปเกิดใหม่ ผ่านการเกิดใหม่อีกหลายครั้งกลายเป็นอสูรธรรมดาในดาราจักรทุกชั้นฟ้า
ความทรงจำของเขาค่อยๆ ฟื้นขึ้น เมื่อตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ ชายชราใกล้ตาย ผู้หนึ่งจึงกระแทกลงใส่ดาวเคราะห์ที่ดวงวิญญาณอยู่
ชายชราคนนี้คือผีเฒ่าจาง!
เขาล้มเหลวในด่านวิบากแก่นแท้ จนร่างกายเหี่ยวแห้ง วิญญาณดั้งเดิมพังทลาย ในขณะที่กำลังตายจึงยิ้มอย่างเวทนา เขาเห็นอสูรประหลาดตัวหนึ่งกระโจนใส่เขาด้วยสายตาแปลกประหลาด
นี่คือโชคแห่งสวรรค์ที่ผีเฒ่าจางค้นพบ!!
หวังหลินมองเห็นเรื่องราวทั้งหมด!
เขายังเห็นวิญญาณดวงที่สามด้วย วิญญาณดวงที่สามล่องลอยไปยังสถานที่ที่ไกลที่สุด ห่างจากแกนกลางของถ้ำและเข้าไปบนเส้นขอบฟ้า หวังหลินตามมันไปทันทีโดยไม่ลังเล
นี่คือครั้งที่สองที่เขาไล่ตาม ครั้งนี้ไม่มีเซียนเต๋าสีรุ้งหรือคนอื่นเข้าขัดขวาง เขาต้องหาว่าวิญญาณดวงที่สามเป็นใคร!
หวังหลินสัมผัสตัวตนและตำแหน่งของวิญญาณดวงที่สามได้ว่ามันกำลังเปิดเผยตัว!
วิญญาณดวงที่สามทะยานผ่านดาราจักรอัญเชิญนทีและมาถึงฟ้ากระจ่าง ชะลอตัวลงไปในดาราจักรฟ้ากระจ่างราวกับกำลังมองหาสถานที่เกิดใหม่
หวังหลินติดตามมาด้วยความเร็วสูงสุดจนไล่ทัน เขามองวิญญาณดวงที่สาม แต่มันมีแต่หมอก ไร้ร่างเงาอันใดข้างใน เห็นได้ชัดว่าแตกต่างจากวิญญาณอื่นอีก สองดวง ก่อนที่มันจะเกิดใหม่ มันไม่มีรูปร่างลักษณะ!
วิญญาณดวงที่สามหยุดกึกด้านนอกดาวเคราะห์รกร้างดวงหนึ่ง แต่ท้ายที่สุดมันก็ไม่ได้เลือกที่นี่และทะยานออกไป
ผ่านไปไม่รู้นานแค่ไหน หวังหลินยังคงติดตามวิญญาณดวงที่สาม ผ่านรอบ ดาราจักรฟ้ากระจ่างไปหนึ่งรอบ มันเร่งความเร็วขึ้นและพุ่งทะลุไปยังทะเลเมฆา!
หวังหลินดวงตาส่องสว่างเจิดจ้า ประเมินเวลาที่ผ่านไป ตอนนั้นเซียนเต๋าสีรุ้งคงต้องเห็นว่าวิญญาณดวงที่สามเข้ามายังดาราจักรฟ้ากระจ่างและไม่เห็นว่ามันทะยานไปยังทะเลเมฆา เพราะเขาถูกหวังหลินปลุกขึ้นมา!
แต่เมื่อหวังหลินคิดเช่นนี้จึงรู้สึกเย็นเยียบในใจ
‘วิญญาณดวงที่สามหมุนรอบดาราจักรฟ้ากระจ่างไปหนึ่งรอบราวกับกำลังค้นหาบางอย่าง…หรือมันจะรู้ว่าผ่านไปอีกนานหลายปีเซียนเต๋าสีรุ้งจะค้นหามัน จึงชะลอตัวลงในดาราจักรฟ้ากระจ่าง…’ หวังหลินส่ายศีรษะ รู้สึกว่าความคิดนี้ช่างไร้สาระเกินไป
วิญญาณดวงที่สามทะยานเข้าทะเลเมฆาและเข้าสู่ดาวเคราะห์ป่าแห่งหนึ่ง! หวังหลินมาถึงและจ้องมองดาวเคราะห์ดวงนั้น
วันเวลาผ่านไปจนวันหนึ่ง ดาวเคราะห์แตกสลายและกระจัดกระจายไปทั่วทุกแห่ง ก้อนฝุ่นจำนวนมากแผ่กระจายล้อมรอบดาวเคราะห์ ณ แผ่นดินแห่งหนึ่ง อสรพิษ ตายไป ลำแสงหนึ่งสายล่องลอยเข้าไปในดาราจักร
หวังหลินตกตะลึงและเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุด ติดตามลำแสงนั้นไปจึงค้นพบร่องรอยการเกิดใหม่ของวิญญาณดวงที่สาม ตอนนี้กำลังกำลังจะไปตามหาว่า วิญญาณดวงที่สามไปเกิดใหม่เป็นใคร!
จะเป็นคนธรรมดา เซียน หรือดอกไม้หรือจะเป็นต้นไม้? บางทีอาจยังเป็นอสูร!
หวังหลินไล่ตามวิญญาณดวงที่สามไปไม่รู้นานแค่ไหน ข้ามผ่านไปทั่วสี่ดาราจักร เขาเห็นวิญญาณดวงที่สามไปเกิดใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า ครั้งหนึ่งมันไปเกิดใหม่ เป็นบัณฑิต
บัณฑิตผู้นี้ฝักใฝ่และรู้แต่วิธีการอ่านหนังสือจนกระทั่งได้รับตำแหน่งจากทางการ หลังจากบัณฑิตตายไปด้วยโรคแก่ชรา มันจึงทะยานออกไปเกิดใหม่รอบถัดไป
มีทั้งชายและหญิง
ครั้งหนึ่งวิญญาณดวงที่สามไปเกิดใหม่เป็นต้นไม้ใหญ่ ช่วงหนึ่งพันปีมันเติบโตจากเมล็ดจนกระทั่งเหี่ยวเฉาและตายไป
ครั้งหนึ่งมันเกิดใหม่เป็นเซียน ระดับบ่มเพาะของเซียนผู้นี้ไม่ได้สูงมาก เขาสามารถบรรลุได้แค่ขั้นแกนลมปราณในชั่วชีวิตเท่านั้น จากนั้นก็ตายไปเนื่องจากหมดอายุขัย
กาลเวลาผ่านไปเรื่อยๆ จนกระทั่งวิญญาณดวงที่สามเลือกไปเกิดบนดาวเคราะห์ดวงหนึ่งในดาราจักรฟ้ากระจ่าง ดาวเคราะห์ดวงนั้นช่างคุ้นเคยมาก และหวังหลินก็ตกตะลึงเมื่อค้นพบว่ามันคือ ดาวซูซาคุ!
เมื่อหวังหลินเห็นแบบนี้ ความคิดจิตใจจึงสั่นเทา ไม่รู้ว่านี่เป็นจุดสุดท้ายหรือไม่ แต่เมื่อเขาเห็นดาวซูซาคุ จึงคาดเดาบางอย่างได้เลือนลาง
วิญญาณดวงที่สามเปลี่ยนกลายเป็นคนธรรมดาบนดาวซูซาคุ เขาไม่ได้บ่มเพาะแต่ชีวิตก็เจิดจ้ายิ่ง เขากลายเป็นมหาบัณฑิตแห่งแคว้นจ้าว!
ชื่อเขาคือ ซูต้าว!!
หวังหลินรู้สึกตกตะลึงในใจดุจคลื่นยักษ์เข้าถาโถม! เขาไม่รู้ว่าทำไมคนผู้นี้ถึงปรากฏตัวในเต๋าความฝันของตัวเอง ไม่รู้ว่าทำไมซูต้าวถึงรับเขาเป็นศิษย์ใน เต๋าแห่งความฝัน
ราวกับมีวัฏจักรแห่งเวรกรรมระหว่างเขา! แต่หวังหลินกลับไม่สามารถค้นหาต้นเหตุแห่งกรรมได้ เขาเห็นแต่เพียงผลแห่งกรรมเท่านั้น
เวรกรรมของเขาเดิมทีนั้นสมบูรณ์ แต่เมื่อได้เห็นวิญญาณดวงที่สามกลายเป็นซูต้าว เขาจึงสับสน
ในความสับสนนั้น เขาเห็นซูต้าวตายไปด้วยโรคแก่ชราพร้อมกับรอยยิ้ม หลังจากตายจึงทะยานออกไปและเปลี่ยนทิศทางอีกครั้ง คราวนี้เข้าสู่ดาราจักรทุกชั้นฟ้า!
จิตใจหวังหลินสั่นไหว พอเห็นว่ามันผ่านไปนานแค่ไหน จึงรู้ว่ากำลังใกล้จะถึง จุดสุดท้ายแล้ว!
เขาติดตามวิญญาณดวงที่สามไปยังส่วนลึกของดาราจักรทุกชั้นฟ้า วิญญาณกลายเป็นปลาในแม่น้ำบนดาวเคราะห์หนึ่ง ดาวเคราะห์ดวงนี้ถูกเรียกว่า ฉิงหลิง!
ปลาตัวนี้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ และว่ายผ่านแม่น้ำหลายแห่ง มันดำเนินชีวิตไปจนกระทั่งตาย
ทว่าสิ่งที่ทำให้หวังหลินเพ่งสมาธิกลับไม่เหมือนก่อนหน้านี้ วิญญาณดวงที่สามไม่ได้ออกไปจากดาวเคราะห์เหมือนที่ทำในอดีต มันกลับไปเกิดใหม่เป็นปลาอีกตัวในแม่น้ำ
มันเลือกไปเกิดใหม่ในแม่น้ำแห่งเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า! ราวกับกำลังรอคอยบางอย่าง ปรากฏการณ์แบบนี้ทำให้หวังหลินมองดูดาวเคราะห์อันคุ้นเคยด้วยท่าที แปลกประหลาดและเริ่มจะคาดเดาบางอย่าง
หวังหลินเฝ้าดูวิญญาณดวงที่สามไปเกิดใหม่นับร้อยครั้ง ช่วงการเกิดใหม่สุดท้าย มีชาวประมงกำลังตกปลาอยู่ และปลาตัวนั้นคือวิญญาณดวงที่สามเข้าไปกัดเหยื่อ ชาวประมงดึงปลายขึ้นมาพลางหัวเราะ
ราวกับมันไปเกิดใหม่หลายร้อยครั้งเพื่อรอชาวประมงคนนี้ รอเหยื่อคราวนี้!
“เนี่ยจื่อกำลังคลอด วันนี้ข้าจะจับปลาตัวนี้กลับบ้าน!”