Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1816

Cover Renegade Immortal 1

1816. ความรู้สึกเรื่องร่างแก่นแท้

ตู้ฉิงผ่านด่านวิบากแก่นแท้ไปเจ็ดด่าน ถึงแม้ไม่ได้บรรลุขั้นวิบากดับสูญระดับต้น เขาก็ยังลึกล้ำจนหยั่งไม่ถึง ถ้าไม่ใช่เพราะหวังหลินมีวิธีการหลายอย่าง ตู้ฉิงคงยอมแพ้ได้ยาก

เขาเป็นคนระมัดระวังตัวมากและพร้อมจะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สามารถยอมคดยอมงอเพื่อบรรลุเป้าหมาย การช่วยหวังหลินนั้นจึงใช้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดของตัวเอง แสงสีม่วงห่อหุ้มร่างกาย แก่นแท้น้ำหนักปรากฏขึ้น

วิญญาณมังกรร้องคำราม เมื่อมันเข้าไปใกล้ตู้ฉิงจึงสั่นเทาราวกับน้ำหนักเพิ่มขึ้นหลายเท่า มันส่งเสียงคำรามและตกลงมาจากท้องฟ้า พยายามดิ้นรนอย่างต่อเนื่องแต่ไม่สามารถหนีไปไหนได้

เปลวเพลิงแผ่กระจายออกมาจากร่างตู้ฉิงเนื่องจากสูญเสียการควบคุมจนเขาโดนพลังตีกลับ

หวังหลินเห็นเช่นนี้จึงเข้าใจแก่นแท้น้ำหนักของตู้ฉิง เขาไม่ต้องระวังตู้ฉิงมากเกินไปแล้ว นอกจากแบ่งสัมผัสวิญญาณเสี้ยวเดียวเพื่อเฝ้าระวัง หวังหลินเพ่งสมาธิไปที่มังกรเพลิงเบื้องหน้า

มังกรเพลิงสีม่วงปลดปล่อยอุณหภูมิสูงมาก มันเผาไหม้อาณาเขตแห่งนี้กลายเป็นควันสีดำมากมายรอบตัวจนดูไม่เหมือนวิญญาณของมังกรเพลิงแต่เหมือนมังกรปิศาจ!

ขณะที่มันพุ่งเข้าหาหวังหลิน เขาพลันก้าวไปข้างหน้าและยกแขนขวาขึ้นมาสร้างผนึกและสะบัด แสงโลหิตกะพริบวาบ กระบี่โลหิตปรากฏเบื้องหน้าหวังหลินและ ผ่าลงใส่วิญญาณมังกรเพลิง!

การผ่าครั้งนี้ถึงกับทำให้โลกเปลี่ยนสีสัน เสียงดังสนั่นกึกก้อง วินาทีที่แสงโลหิตสัมผัสกับมังกรเพลิงจึงเกิดเสียงดังลั่น มังกรเพลิงรู้สึกเจ็บปวดและล่าถอยเพื่อหลบกระบี่โลหิต

แต่กระบี่โลหิตรวดเร็วเกินไป ขณะที่เจ้าวิญญาณมังกรเพลิงล่าถอย กระบี่โลหิตเฉือนเข้าไปและตัดวิญญาณมังกรเพลิงส่วนหนึ่งออกมา!

เจ้าวิญญาณมังกรเพลิงที่ถูกตัดไปส่วนหนึ่งถึงกับต้องถอย หวังหลินดวงตาส่องสว่าง เขาอยู่ในช่วงสำคัญของการสร้างร่างแก่นแท้ จึงพุ่งทะยานออกไปโดยไม่ลังเลและคว้าส่วนที่ตัดไปเข้ามา จากนั้นโยนเข้าหาก้อนเปลวเพลิง

ก้อนเปลวเพลิงดูดซับวิญญาณมังกรส่วนหนึ่งนั้นเอาไว้และยิ่งรุนแรงขึ้น ร่างแก่นแท้ที่มีแต่แขนขาเริ่มแสดงอาการให้เห็นร่างเนื้อขึ้นแล้ว

หวังหลินเคลื่อนทะยานดุจสายฟ้าและข้ามผ่านระยะหมื่นฟุต ปรากฏตัวเหนือวิญญาณมังกร เคลื่อนร่างดุจก้อนเมฆแม้จะไม่สามารถกดดันวิญญาณมังกรด้วย แก่นแท้เดียวเหมือนตู้ฉิงได้ แต่กระบี่ของเขาก็แหลมคมอย่างยิ่ง

วินาทีนี้หวังหลินยกแขนขวาขึ้นมา แสงสีทองปรากฏขึ้นในฝ่ามือ แสงสีทองนี้ถึงกับทำให้จิตใจตู้ฉิงสั่นสะเทือน

แววตาสะท้อนประทับฝ่ามือสีทองในมือหวังหลิน!

วินาทีที่ประทับสีทองปรากฏขึ้น เจ้ามังกรเพลิงถึงกับตัวสั่น ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว มันไม่ต้องการมาที่นี่ มันถูกหวังหลินเรียกมา เมื่อได้เห็นประทับสีทองมันจึงต้องการหนี เพียงชั่วขณะนั้นมันทะยานห่างออกไปหลายหมื่นลี้จนมองเห็นเป็นจุดสีดำไกลลิบตา

หวังหลินสงบนิ่งและชี้ไปยังมังกรเพลิงที่กำลังหนี ประทับสีทองส่องสว่างเจิดจ้าและลอยออกไปไกล

หวังหลินไม่แม้แต่มองดูผลลัพธ์ เขาหันกลับมามองมังกรเพลิงที่กำลังโดนตู้ฉิงรั้งเอาไว้

ขณะที่หันกลับมา เสียงดังสนั่นโผล่ออกมาไกล แสงสีทองกระพริบวาบ ประทับทองลอยเข้าหาหวังหลิน สัมผัสตัวตนของมังกรเพลิงข้างในและรู้สึกได้ว่า มันร้องคำรามอย่างสิ้นหวัง

ฉากเหตุการณ์นี้ทำให้ตู้ฉิงถึงกับจิตใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

“มิน่าเล่ามันถึงเป็นสมบัติที่มหาชั้นฟ้าสร้างขึ้น…จากที่มองดู เขายังไม่ได้ใช้พลังเต็มที่ของมันเลยด้วยซ้ำ…” ตู้ฉิงดวงตาส่องสว่างพลางยิ้มไปที่หวังหลิน

“ยินดีด้วยสหายเซียนที่ได้สายเพลิงปฐพีกิ่งก้านเล็กถึงสองตัว ร่างแก่นแท้ของเจ้าจะสมบูรณ์เร็วยิ่งขึ้น”

หวังหลินส่ายศีรษะเล็กน้อย เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา แขนขวาสัมผัสประทับทอง วิญญาณมังกรลอยเข้าหาก้อนเปลวเพลิง หลังจากก้อนเปลวเพลิงดูดซับไป จึงเกิดเสียงดังสนั่นกึกก้อง ร่างเนื้อของร่างแก่นแท้เริ่มก่อเกิด

หลังจากร่างเนื้อโผล่ออกมาได้ครึ่งเดียว เปลวเพลิงเริ่มหมองหม่นและ เผยสัญญาณการแตกดับ หวังหลินขมวดคิ้วไปที่ตู้ฉิง

ตู้ฉิงไม่ได้พูดมากแต่เดาได้ว่าหวังหลินต้องการอะไร วิญญาณมังกรเพลิงที่เขารั้งเอาไว้นั้นได้ทะยานเข้าหาก้อนเปลวเพลิง

มันเข้าไปใกล้และถูกก้อนเปลวเพลิงดูดซับทันที สิ้นเสียงคำรามของมันจึงถูก ก้อนเปลวเพลิงดูดซับอย่างสมบูรณ์

หลังจากได้สายเพลิงปฐพีกิ่งก้านเล็กไปอีกตัว เปลวเพลิงจึงปะทุขึ้นอีกครั้ง ร่างเนื้อของร่างแก่นแท้เริ่มก่อเกิดขึ้นอีกครา!

ตอนนี้ร่างแก่นแท้มีร่างเนื้อและแขนขาไปแล้ว เหลือเพียงส่วนศีรษะที่เป็น วิหคศักดิ์สิทธิ์ ทำให้มันดูแปลกประหลาดมาก แต่พลังของเปลวเพลิงได้มาถึงขีดจำกัด ก้อนเปลวเพลิงพังทลายในทันที มันเปลี่ยนกลายเป็นละอองเปลวเพลิงที่ถูกร่าง แก่นแท้ดูดซับโดยไม่มีศีรษะ

ขณะที่ก้อนเปลวเพลิงพังทลาย แรงกดดันทรงพลังยิ่งโผล่ออกมาจากร่างแก่นแท้ที่ไม่สมบูรณ์ ตู้ฉิงอยู่ห่างไปไม่ไกล พอสัมผัสแรงกดดันได้จึงตกตะลึง

แม้เขาจะมีร่างกายทนทานยังต้องรีบหนีไปให้ไกล แสดงให้เห็นว่าร่างแก่นแท้นั้นทรงพลังแค่ไหน

‘ขนาดร่างแก่นแท้ที่ยังไม่สมบูรณ์กลับมีแรงกดดันทรงพลังขนาดนี้…’ ตู้ฉิงสูดหายใจลึก แววตาเกิดความปรารถนา เขาต้องการสร้างร่างแก่นแท้ของตัวเองขึ้นมา ซะแล้ว

‘กิ่งก้าน 188 แห่งและสามกิ่งก้านเล็กก็ยังไม่สามารถสร้างร่างแก่นแท้ขึ้นมาได้…มันยากเกินไปจริงๆและจำเป็นต้องมีทรัพยากรมากมาย…ด้วยความยากระดับนี้ มิน่าเล่าถึงไม่มีวันสร้างขึ้นมาได้ในโลกถ้ำเพราะมันไม่มากพอจนสร้างได้แม้แต่ร่าง แก่นแท้เดียว มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ’ หวังหลินถอนหายใจ ตอนนี้เขารู้แล้วว่าการสร้างร่างแก่นแท้นั้นยากแค่ไหนและรู้สึกสะเทือน

‘ยิ่งพัฒนาไปไกลแค่ไหน ยิ่งจำเป็นต้องใช้แก่นแท้เพลิงมากเท่านั้น สงสัยจริงว่าต้องใช้แก่นแท้เพลิงมากแค่ไหนถึงก่อเกิดศีรษะขึ้นมาได้…’ หวังหลินครุ่นคิด ร่างแก่นแท้ที่ขาดศีรษะนั้นได้เปลี่ยนกลายเป็นทะเลเพลิงและเข้าสู่ตาซ้ายของ หวังหลิน

พอเข้าไปในตาซ้าย ดวงตาเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าตกตะลึง อักขระเพลิงธรรมดาหายไปแล้วและถูกแทนที่ด้วยรูม่านตาคู่

รูม่านตาคู่นี้เปล่งความรู้สึกอันชั่วร้ายอย่างยิ่ง

หลังจากขยับศีรษะ หวังหลินจึงก้าวออกไป ปรากฏร่างเงาหนึ่งด้านหลังคล้ายจะเคลื่อนไปพร้อมกับร่างเขา แต่ภาพลักษณ์ของมันไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน

การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ทำให้ตู้ฉิงต้องอ้าปากค้าง

‘หรือนี่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังจากได้รับร่างแก่นแท้มา ร่างเงาหรือ? ข้าเคยเจอบรรพชนของสำนักมหาวิญญาณไม่กี่ครั้ง ดูเหมือนจะมีร่างเงาติดตามเขาเสมอ’

‘ไม่ว่าจะทำอะไร มันก็จะเปลี่ยนแบบ ยิ่งเด่นชัดตอนที่ใช้วิชา’

หวังหลินขมวดคิ้ว ดูเหมือนจะสังเกตการเปลี่ยนแปลงต่อร่างกายได้หลังจาก ร่างแก่นแท้ถูกสร้างขึ้นมา หลังจากขบคิดไปเล็กน้อย ร่างเงาด้านหลังก็เริ่มจางหายไปจนกระทั่งหายไป

“กลับไปที่สำนักมังกรฟ้า ข้าจำเป็นต้องอาศัยอยู่ที่นั่นสักพัก” หวังหลินมองดูตู้ฉิง

พอตู้ฉิงได้ยินเช่นนี้ จิตวิญญาณจึงพวยพุ่งจึ้นมาและยิ้มขึ้น เขาคำนับฝ่ามือ “เป็นเกียรติกับข้าอย่างยิ่ง สหายเซียนหวังสบายใจได้ ข้าจะส่งศิษย์ทั้งหมดออกไปค้นหาสายวิญญาณเพลิงปฐพีและให้ผู้อาวุโสไปแยกพวกมันมาให้สหายเซียนใช้งาน”

หวังหลินมีท่าทีสงบนิ่งเช่นเดิมพลางพยักหน้าเบาๆ เขาเปลี่ยนกลายเป็นลำแสงพร้อมกับตู้ฉิงและจากไป สายเพลิงปฐพีข้างใต้ภูเขาค่อยๆ แห้งเหี่ยวอย่างช้าๆ

ณ แคว้นกระทิงสวรรค์ สองลำแสงท่องทะยานผ่านท้องฟ้า ระดับบ่มเพาะของตู้ฉิงสูงกว่าจึงเร็วกว่าหวังหลินเป็นธรรมดา ตู้ฉิงชำเลืองมาที่หวังหลินและเริ่มขบคิด

‘เขามีระดับบ่มเพาะอะไรกัน…ดูเหมือนเขาอยู่ในขั้นวิญญาณดับสูญระดับสูงสุดแต่สามารถรับการโจมตีทั้งสองของข้าได้และดูเหมือนยังไม่ได้ใช้พลังเต็มที่เลยด้วยซ้ำ…’

‘แม้ระดับบ่มเพาะจะสามารถซ่อนเอาไว้ได้ ความเร็วยังเป็นตัวบ่งบอกระดับ บ่มเพาะได้เช่นกัน…ดูกันว่าเขารวดเร็วได้แค่ไหน!’ ตู้ฉิงขบคิดเงียบๆ และเพิ่มความเร็วขึ้นทีละน้อย เขาลอยผ่านหวังหลิน ระยะห่างทั้งสองเพิ่มขึ้น

‘ข้าไม่สามารถทำให้มีพิรุธมากเกินไป ข้าต้องค่อยๆ ทำ อีกทั้งยังต้องพึ่งพาเขาเพื่อได้ติดต่อกับมหาชั้นฟ้า…’ ตู้ฉิงไม่กล้าห่างเกินไปนัก พอเห็นว่าหวังหลินไม่สามารถไล่ตามได้ทัน เขากำลังชะลอตัวลงแต่ก็ต้องหรี่ตาแคบ

เป็นเพราะสายตาเย็นเยียบของหวังหลินตกอยู่ในสายตาของตู้ฉิง หวังหลินสะบัดแขนขวาปรากฏหมอกสีดำขึ้นมา เสียงคำรามแหลมดังออกมาจากภายในหมอกสีดำ

เสียงคำรามนี้รุนแรงยิ่งและมีพลังทำให้จิตใจผู้คนสั่นสะเทือน ตู้ฉิงอยู่ห่างไปไม่ไกล พอได้ยินเสียงคำรามนี้จิตใจจึงสั่นเทา กระทั่งเกิดภาพมายาว่าร่างกายกำลังแตกสลาย เสียงคำรามดูเหมือนออกมาจากสิ่งที่ดุร้ายยิ่งและกำลังฉีกกระชากร่างเขาเป็นชิ้นๆ

‘นี่มันอสูรแบบไหนกัน!?’ ตู้ฉิงพลันเปลี่ยนท่าทีอย่างรวดเร็ว

ราชายุงปรากฏตัวขึ้นมาจากภายในหมอกสีดำ ปากใหญ่ยักษ์ หลังจากมันหดร่างลงจึงเหลือเพียงเท่าภูเขา หนามสีดำปกคลุมทั่วร่างทำให้ตู้ฉิงตกตะลึง!

“สหายเซียนตู้ เจ้าช้าเกินไป เจ้าต้องตามให้ทัน” หวังหลินเอ่ยขึ้นจากนั้นก้าวเข้าไปบนราชายุง ราชายุงพุ่งไปข้างหน้าและหายวับไปอย่างไร้ร่องรอย

ความเร็วของมันทำให้ตู้ฉิงตกใจ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!