Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1877

Cover Renegade Immortal 1

1877. การเปลี่ยนแปลงของแยกราตรี!

หวังหลินคิดขึ้นในใจและหันกลับไปทันที แมงป่องเขียวสองตัวเบื้องหน้าเขาดูมืดมนแฝงความหวาดกลัว พวกมันไม่พุ่งเข้าหาเขาอีกต่อไปแต่กลับล่าถอยไปบนพื้นดินอย่างรวดเร็ว

ความแข็งแกร่งของหวังหลินเหนือกว่าที่ผู้ส่งสาส์นมารเขียวคาดการณ์เอาไว้ พวกเขาไม่คิดว่าหวังหลินจะแข็งแกร่งได้ขนาดนี้หลังจากได้รับการยอมรับจากกระทิงสวรรค์ นี่มันมีพลังอำนาจมากพอจะกำจัดเซียนขั้นวิบากดับสูญระดับกลางได้ในทันทีและใกล้เคียงระดับปลายมากแล้ว!

‘สมควรแล้วที่เป็นแผ่นดินเซียนดารา…หากข้าอยู่ในโลกถ้ำ ไม่ว่าจะเป็นเซียนเต๋าสีรุ้งหรือผีเฒ่าจางก็ไม่สามารถเทียบกับข้าได้…’ หวังหลินรู้สึกเห็นด้วย

‘แผ่นดินเซียนดาราต้องมีหนทางปลุกหวานเอ๋อร์แน่นอน!’ หวังหลินเผยสายตามุ่งมั่นพลางมองไปยังแมงป่องสองตัว เขาเผยรอยยิ้มเยือกเย็นและไล่ตามพวกมันไป

แมงป่องสองตัวเคลื่อนไหวรวดเร็วแต่หวังหลินเร็วกว่า เพียงจังหวะเดียวพื้นดินก็สั่นสะเทือนและเขาประชิดได้ในทันที มือขวายกขึ้นเผยแววตาเป็นแสงประหลาด

“ประทับวิญญาณสงคราม!” หวังหลินชี้ออกไปข้างหน้าพร้อมกับเอ่ยเสียงดังกึกก้อง

เพียงเท่านี้ท้องฟ้าเหนือทุ่งยอดนภาจึงพลันเปลี่ยนไป ก้อนเมฆทั้งหมดแตกกระเจิง แม้แต่แสงสว่างยังแตกสลาย ประทับฝ่ามือใหญ่ยักษ์จนปกคลุมได้ทั้งทุ่งยอดนภากำลังปรากฏตัวขึ้นมา

ฝ่ามือตกลงใส่พื้นดินอย่างรวดเร็ว มันปิดบังดวงอาทิตย์และท้องฟ้าไว้จนหมด ราวกับมียักษ์เปิดฝ่ามือออกมาและประทับลงใส่พื้นดิน

หลังจากมันลงมาได้ครึ่งทาง แผ่นหลังฝ่ามือยังไม่อาจมองเห็น ฝ่ามือนี้ช่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง!

แต่น่าประหลาดยิ่งที่ฝ่ามือดูธรรมดานี้ ตรงลายนิ้วมือเริ่มจะผลัดเปลี่ยนผิวคล้ายกับมันเคยมีผนึกห่อหุ้มเอาไว้ ตอนนี้ถึงจุดที่ผนึกกำลังคลายตัวออก

หลังจากผนึกแตกสลาย ประทับฝ่ามือที่ปรากฏในท้องฟ้ายังคงมีขนาดเท่าเดิมแต่รูปร่างของมันแตกต่างยิ่ง!

ประทับฝ่ามือนี้ไม่ได้มีห้านิ้ว แต่มีหกนิ้ว!! นิ้วที่หกเป็นสีแดงและมีเล็บยาวจนน่าตกใจ มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากอีกห้านิ้ว เพราะห้านิ้วที่เหลือกับฝ่ามือเป็นสีดำ กลายเป็นว่านิ้วสีแดงสว่างตัดกับส่วนอื่นอย่างเห็นได้ชัด!

ประทับฝ่ามือดูเหมือนผสานกับเต๋าและมารเอาไว้ นิ้วที่หกราวกับนิ้วของมาร!

ณ ทุ่งยอดนภา เซียนจากแคว้นมารเขียวที่เหลือกว่าพันคนถึงกับเกิดความหวาดกลัว ขณะที่พวกเขาจ้องมองท้องฟ้า ร่างแต่ละคนสั่นเทา จิตใจเกิดความสิ้นหวัง

ในนี้มีเซียนสตรีขั้นวิบากดับสูญระดับต้นอยู่สองคน ทั้งสองจิตใจสั่นสะท้านตอนที่ได้เห็นประทับฝ่ามือและนำสมบัติและวิชาป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของตัวเองออกมาโดยไม่ลังเล

ตอนนี้ทั้งสองไม่มีเวลาให้ความสนใจคนอื่น ความคิดเดียวตอนนี้คือช่วยเหลือตัวเองจากประทับฝ่ามือน่ากลัวนี้

จางต้าวจงตกตะลึง จ้องมองประทับฝ่ามือยักษ์ด้วยสายตาไม่เชื่อ!

‘ยอดฝ่ามือเต๋ามาร!! นี่มันยอดฝ่ามือเต๋ามาร!! ทั้งยังเป็นยอดฝ่ามือเต๋ามารหกนิ้ว!!! วิชาที่ทรงพลังที่สุดของสำนักเต๋ามาร วิชาลับที่ไม่ถ่ายทอดให้กับคนอื่น!!’

‘มีเพียงจ้าวสำนักในแต่ละรุ่นเท่านั้นที่สามารถเรียนรู้วิชานี้ได้ คนอื่นไม่มีสิทธิ์เรียนรู้ ยิ่งเป็นคนนอกสำนักด้วยแล้ว! หวังหลินคนนี้…เขา…เขารู้วิชานี้ได้อย่างไร!?’

ชายชราแซ่จ้าวเองก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน เขาสะบัดแขนโดยไม่ลังเล ร่างกายถูกห่อหุ้มจนพร่ามัว ฝ่ามือสร้างผนึกรวดเร็วเพื่อร่ายวิชาป้องกัน

ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นชั่วพริบตา หลังจากฝ่ามือเปลี่ยนรูปร่างมันได้ตกลงใส่ทุ่งยอดนภาในทันที เหล่าเซียนจากแคว้นมารเขียวกว่าพันคนไม่สามารถต่อต้านได้และตายกันไปก่อน!

วิญญาณดั้งเดิมถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง!

ฝ่ามือเดียวสังหารคนนับพัน พลังอันน่ากลัวเช่นนี้แม้แต่หวังหลินยังตกตะลึง

นี่ยังไม่จบ เซียนสตรีขั้นวิบากดับสูญระดับต้นทั้งสองคนใช้วิชาและสมบัติของตัวเองไปก่อนที่ฝ่ามือจะตกลงมา ทั้งสองนางต่างกระอักโลหิตและดูอ่อนแอ แม้จะไม่ตายแต่ก็บาดเจ็บสาหัส อวัยวะแต่ละส่วนระเบิดออกจนหายใจรวยริน! ทว่านี่ยังไม่จบ ร่างกายระเบิดออกจนเหลือแต่เพียงวิญญาณดั้งเดิม!

จางต้าวจงและชายชราแซ่จ้าวกระอักโลหิตเช่นกัน ตรงหน้าเขากำลังเจอฝ่ามือ ด้านล่างนั้นผู้ส่งสาส์นมารเขียวตัวสั่นสะท้านและโลหิตไหลออกจากมุมปาก ทว่าเพราะมีกระจกเขียวอยู่ด้านบน อาการบาดเจ็บจึงไม่หนักหนาสาหัส!

อย่างไรก็ตามแมงป่องเขียวสองตัวใต้ดินด้านล่างกลับไม่สามารถทนไหว เมื่อฝ่ามือกระทบบนพื้นดิน จึงมีแรงสั่นสะเทือนทรงพลังส่งผ่านออกไป แมงป่องทั้งสองตัวส่งเสียงคำรามและระเบิดอยู่เบื้องหน้าหวังหลิน

‘นี่สิคือประทับวิญญาณสงครามของจริง!’ หวังหลินดวงตาเปล่งประกายและพุ่งทะยานไปบนพื้นดินจนทำให้ทุ่งยอดนภาสั่นไหว

พอเห็นว่าหวังหลินกำลังจะออกมา สี่ผู้ส่งสาส์นมารเขียวถึงกับมีใบหน้าหวาดกลัว

“เราไม่สามารถปล่อยให้เขาออกมาได้!” ทั้งสี่คนแทบพูดออกมาในจังหวะเดียวกัน ในฐานะผู้ส่งสาส์นมารเขียว จิตใจแต่ละคนเชื่อมประสานกัน เพราะทั้งหมดหวาดกลัวจึงวางฝ่ามือบนพื้นดิน ใช้หน้าผากแตะลงไปด้วย

ลักษณะท่าทางคล้ายกำลังก้มกราบ!

ทว่าการทำเช่นนี้ได้ทำให้กระจกเขียวส่งเสียงร้องแหลมออกมาและร่อนลงบนพื้นดิน กระจกขยายยืดยาวออกไปไร้ที่สิ้นสุดและห่อหุ้มทั่วทั้งทุ่งยอดนภา

“เราขออัญเชิญวิญญาณแมงป่องมารเขียวออกมา!!”

ทั้งสี่คนพูดขึ้นมาพร้อมกัน น้ำเสียงผสานกันดังกึกก้องบนพื้นดิน ทุ่งยอดนภาเปลี่ยนแปลงไปและพื้นที่ราบหายไปทันที พื้นดินเปลี่ยนกลายเป็นหนองบึงไร้ขอบเขต กระทั่งภูเขาทั้งหมดโดยรอบยังหายไป

ทุกสิ่งทุกอย่างที่นี่กลายเป็นโลกของแคว้นมารเขียว!

ไม่ว่ามันจะเป็นภาพมายาหรือของจริง กล่าวได้ว่าทุ่งยอดนภาได้หายไปจากแคว้นมารเขียว แม้ไม่ได้หายไปจริงๆ แต่มันถูกภาพของทั้งแคว้นมารเขียวทับซ้อนเอาไว้!

ภาพทับซ้อนนี้กลายเป็นการข่มและกดดัน!

ด้านจางต้าวจง ชายชราแซ่จ้าวและวิญญาณดั้งเดิมของเซียนสตรีสาวสองคน พวกเขาแทบเอาชีวิตไม่รอดจากประทับวิญญาณสงครามและตอนนี้กำลังทะยานลงมาอย่างหมดท่า ทั้งสี่ใช้ระดับบ่มเพาะของตัวเองเข้าช่วยผู้ส่งสาส์นมารเขียวด้วย!

พวกเขาเข้าใจดีว่าหากไม่สามารถข่มหวังหลินที่ได้รับการยอมรับจากกระทิงสวรรค์ได้ พวกเขาจะต้องเจอกับชะตากรรมอันน่าขนลุก!!

“ผู้ส่งสาส์นกระทิงสวรรค์แตกต่างจากเรา พวกมันสามารถได้รับพลังสูงสุดได้แต่เพียงแค่ชั่วคราว แม้ข้าจะไม่รู้ว่านานแค่ไหนแต่ก็คงไม่นานเกินไป ตราบใดที่เราสามารถข่มเขาเอาไว้ได้ พอเวลาสิ้นสุดลง เราจะสามารถสังหารเขาได้แน่นอน!” หนึ่งในผู้ส่งสาส์นมารเขียวร้องคำรามขึ้น

กลุ่มของจางต้าวจงคล้ายกับเต็มไปด้วยพลังอันไร้ขีดจำกัดและต่างก็คาดหวัง

พื้นดินสั่นเทาและส่งเสียงดังกึกก้อง ทุกเสียงสะท้อนทำให้ใบหน้าทุกคนซีดเผือดขึ้นเรื่อยๆ

หวังหลินกระหน่ำโจมตีจากด้านล่างอย่างต่อเนื่อง เขากำลังทำลายการป้องกันและพุ่งออกไป!

“ร่มบรรพกาลเผาดินแดน!” หวังหลินใช้ฝ่ามือสร้างผนึกเขตอาคมขึ้นมานับไม่ถ้วน ร่มเพลิงขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นในท้องฟ้าเหนือภาพฉายแคว้นมารเขียว!

ร่มเปิดออกในชั่วจังหวะนั้นและมีเปลวเพลิงมหึมาพวยพุ่งลงมาเผาภาพทับซ้อนและโลกด้านล่าง วินาทีนั้นวิญญาณดั้งเดิมของเซียนสตรีขั้นวิบากดับสูญทั้งสองคนถึงกับร่ำร้องแต่พวกนางก็กัดฟันแน่นและสังเวยสมบัติช่วยชีวิตของตัวเอง เสริมพลังเข้าไปเพื่อต่อต้านเปลวเพลิง!

ร่มบรรพกาลเผาดินแดนไม่ได้เปลี่ยนรูปร่างเหมือนหอกสีรุ้งและประทับวิญญาณสงคราม มันยังคงเหมือนเดิมเพียงแต่แข็งแกร่งขึ้น แต่ยังคงด้อยกว่าอีกสองวิชาที่ใช้ออกมาก่อนหน้านี้

‘วิชานี้ดูเหมือนทรงพลังมาก แต่ความจริงนั้นแม้แต่เหลียนต้าวเฟยยังเข้าใจเพียงแค่ผิวเผน แม้แต่ข้าก็ไม่สามารถแสดงพลังที่แท้จริงของมันออกมาได้…หรือเป็นไปได้ว่าวิชานี้ไม่ได้ทรงพลังเหมือนที่ข้าคิดและนี่คือขีดจำกัดแล้ว’ หวังหลินคิดกับตัวเอง

‘เช่นนั้นข้าอยากลองวิชาถัดไปของข้า!’ หวังหลินมองขึ้นไปด้วยแววตาเป็นแสงประหลาด เขายกแขนขวาขึ้นมาโบกสะบัด

พื้นดินเบื้องหน้าพลันเปลี่ยนเป็นพร่ามัวและถูกแทนที่ด้วยทะเลคลั่ง ภาพนี้ปรากฏขึ้นในสายตาของผู้ส่งสาส์นมารเขียวด้วยเช่นกัน ท้องทะเลแผ่กระจายอย่างบ้าคลั่ง ร่มในท้องฟ้าพลันหายไปและถูกแทนที่ด้วยความมืดมิด

ความมืดมิดปลดปล่อยความเย็นเยียบไม่มีที่สิ้นสุด สายลมเย็นพัดผ่านมาใส่กลุ่มของจางต้าวจง

ทางด้านตะวันออกมีแสงสีทองเหลืองอร่าม ดวงอาทิตย์ค่อยๆ เริ่มปรากฏขึ้นมา ทั้งยังมีพลังของกฎแห่งต้นกำเนิดอันทรงพลังยิ่ง!

พลังนี้สามารถฉีกกระชากความมืดมิดได้ทั้งหมดและทำให้กลางคืนแตกสลาย! ตอนที่หวังหลินสร้างวิชานี้ขึ้นมา เขาไม่ได้เข้าใจมันอย่างถ่องแท้และเกิดขึ้นโดยบังเอิญ จนกระทั่งตอนนี้เขาจึงได้เห็นฉากอัศจรรย์ข้างในดวงอาทิตย์

ฉากนี้ทำให้เขาถึงกับตกตะลึง!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!