455. ผีเสื้อสีชาด
ดวงตาหวังหลินส่องสว่าง ขณะถอยกลับพลันยกกระบี่สวรรค์ขึ้นป้องกันด้านหน้า
ปราณดาบเข้าใกล้เกิดเสียงดังปัง หวังหลินปลิวกลับไป ใช้แรงผลักนี้ให้ออกห่าง พลังของปราณกระบี่แข็งแกร่งเทียบเท่าเซียนขั้นแปลงวิญญาณระดับปลายที่ใช้แรงเต็มที่ หากไม่ใช้ธงวิญญาณหนึ่งล้านดวงไม่มีทางที่หวังหลินจะเปรียบเทียบได้
หวังหลินถอยกลับอย่างรวดเร็ว เขาไม่ได้หลบหนีออกไปทางที่เข้ามาแต่ไปทางตรงกันข้าม หวังหลินลึกเข้าไปในสุสานซูซาคุ
คลื่นข้อความสัมผัสวิญญาณถูกส่งออกมาจากดาบ มันสั่งการให้กระบี่สมบัติทั้งหมดไล่ตามหวังหลินไป
หวังหลินเคลื่อนไหวรวดเร็วมากผ่านสระน้ำแต่ละแห่ง กระบี่สมบัตินับไม่ถ้วนไล่ตามมาพร้อมกับดาบครึ่งจันทราอยู่หลังสุด
กระบี่สวรรค์ถูกเก็บกลับไปแล้วดังนั้นหวังหลินจึงเหาะเหินด้วยพลังทั้งหมดของตัวเองได้
สมบัติกระบี่จากสระน้ำด้านหน้าหวังหลินลอยออกมาทั้งหมดและเข้ามาล้อมวงเขาอย่างสมบูรณ์ ดวงตาหวังหลินสว่างขึ้นยื่นมือขวาออกไปและธงวิญญาณหนึ่งล้านดวงปรากฎ ธงวิญญาณเปลี่ยนเป็นหมอกสีดำและล้อมรอบร่างหวังหลินทำให้ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
กระบี่สมบัติที่เข้ามาจากด้านหน้าเขาทั้งหมดหายไปแต่พวกมันเปลี่ยนมาไล่ตามหลังเขาแทน ในขณะเดียวกันทะเลกระบี่สมบัติจำนวนมหาศาลอยู่เบื้องหลังเขาไป พวกมันสร้างเจตจำนงกระบี่ที่สามารถทำลายสรวงสวรรค์ขึ้น กลิ่นอายเยือกเย็นที่ออกมาทำให้อุณหภูมิตกทันทีแม้แต่น้ำแข็งยังผุดขึ้นมา
ราวกับเสียงหึ่งๆของกระบี่เป็นเพียงสิ่งเดียวที่หลงเหลือในโลกนี้ เสียงของมั่นสะเทือนไปยังฟ้าดิน
เสียงดังจนเหล่าเซียนห่างออกไปหลายหมื่นลี้ทั้งหมดได้ยิน เซียนหลายคนมุ่งหน้ามาทางนี้พลันเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
กระบี่แต่ละเล่มส่งเสียงหึ่งและปลดปล่อยกลิ่นอายเยือกเย็น เมื่อทั้งหมดรวมกันจึงเกิดเป็นกระบี่โบราณอมตะ ปราณกระบี่หลายเส้นผ่านหวังหลินไปมาจากด้านหลังเขา
หวังหลินซึ่งล้อมรอบด้วยธงวิญญาณพลันเคลื่อนร่างราวกับหมอกควัน แม้ปราณกระบี่หลายเส้นตกลงบนตัวเขา ทั้งหมดถูกธงวิญญาณขวางกั้นไว้
มีเพียงแค่ปราณดาบของดาบครึ่งจันทราเท่านั้นที่ทำให้หวังหลินต้องนำกระบี่สวรรค์มาขวางมัน
สถานการณ์นี้ทำให้หวังหลินตื่นเต้นมาก ทำให้เขาจดจำวันเวลาเก่าๆตอนถูกคนอื่นไล่ล่ายามระดับฝึกตนยังต่ำเตี้ย
ขณะนั้นเองลำแสงสองเส้นลอยเข้าหาหวังหลิน พวกมันหยุดห่างไปห้าพันลี้แต่เมื่อเห็นสิ่งกำลังเกิดขึ้นจึงหันตัวหนีอย่างรวดเร็ว
หวังหลินหัวเราะออกมาขณะหันหลังกลับและมองเหล่ากระบี่สมบัตินับไม่ถ้วนเบื้องหลังและเจ้าดาบครึ่งจันทรานั้นด้วย เขาเคลื่อนร่างพริบตาและหายตัวห่างไปห้าพันลี้
ทว่าขณะที่เขาปรากฎตัวในไม่ช้านั้น เหล่าสมบัติกระบี่ที่กำลังไล่ตามทันจึงปลดปล่อยแสงกระพริบเจิดจ้าและตามมาอย่างกระชั้นชิด
เสียงดังลั่นกึกก้องในสุสานและรัศมีการทำลายล้างของสุสานดูเหมือนจะเกิดขึ้นอีกครั้ง
ขณะที่ลำแสงสองเส้นหลบหนี หวังหลินจดจำสองคนนั้นได้ทันที หนึ่งในนั้นเป็นบุรุษและอีกหนึ่งเป็นสตรี จากหูที่เขาเห็นหวังหลินจึงรู้ได้ว่าเขาคือโจวหวู่ไท่ ส่วนสตรีเป็นนางที่สวมผ้าคลุมหน้าสีม่วง สายตาหวังหลินส่องสว่าง เขาจดจำนางได้ดีเช่นกัน
แม้ว่าหวังหลินกำลังถูกกระบี่สมบัติทั้งหมดตามล่า สีหน้าเขาสงบนิ่งและหัวเราะ “อย่าพึ่งไปพี่โจว รอข้าเดี๋ยว!”
โจวหวู่ไท่พึมพำด้วยใบหน้าน่าเกลียด “โชคร้ายนัก!” เขาแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินหวังหลินและเหาะเหินรวดเร็ว
ส่วนสตรี เมื่อนางเห็นหวังหลินจึงเผยใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและหลบหนีอย่างรวดเร็ว
เพียงเช่นนี้ ทั้งสองคนเหาะเหินด้านหน้าหวังหลินตามมาด้วยกระบี่นับไม่ถ้วน ดาบครึ่งจันทราปรากฎตัวและส่งปราณดาบออกมาเป็นพักๆ
ปราณดาบนี้เป็นสิ่งเดียวที่หวังหลินกังวลจริงๆ ทุกครั้งที่มันโยนมาที่เขา หวังหลินจึงต้องหลบเลี่ยงมันอย่างรวดเร็ว
ดาบครึ่งจันทรานั้นประหลาดมาก ต้องขอบคุณสัมผัสวิญญาณของเขาจึงรับรู้ว่าทุกครั้งที่ดาบเล่มนี้เพิ่มความเร็วมาจุดหนึ่ง พลังลึกลับจะบังคับมันให้ช้าลง ไม่เช่นนั้นมันคงไล่ทันหวังหลินได้ง่ายๆ
ทั้งสามคนเหาะเหินด้วยความเร็วสูงสุดของตนเอง หลังเวลาสามก้าวธูปผ่านไป ขอบพื้นที่สระน้ำจึงปรากฎในระยะสายตา ดวงตาหวังหลินสว่างวาบและเขาเคลื่อนที่พริบตาทันที เมื่อปรากฎตัวอีกครั้งก็อยู่ปลายขอบแล้ว เมื่อปรากฎตัวเขาพุ่งออกไปโดยไม่หยุดเพียงชั่วขณะ
โจวหวู่ไท่ลังเลก่อนจะไล่ตามหลังหวังหลิน ส่วนสตรีนางนั้นลังเลเล็กน้อยจึงเลือกทิศทางอื่นและแยกจากโจวหวู่ไท่
กระบี่สมบัติทั้งหมดหยุดลงที่นี่ มีเพียงดาบครึ่งจันทราเท่านั้นที่ไม่หยุดลงและพุ่งออกไปนอกเขตสระน้ำ
หลังดาบครึ่งจันทราออกจากสระน้ำ มันระเบิดความเร็วขึ้นทันที พลังลึกลับที่ชะลอมันลงดูเหมือนจะอ่อนแอทำให้มันบรรลุความเร็วเหนือจินตนาการ
แทบในพริบตา ดาบครึ่งจันทราผ่านโจวหวู่ไท่ไปและพุ่งเข้าหาหวังหลิน
หน้าผากโจวหวู่ไท่ชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น ตอนที่ดาบผ่านเขาไป เขาไม่รับรู้ถึงมันเลย รู้แต่เพียงสายลมรุนแรงและเห็นจุดสีดำหายวับไปสู่เส้นขอบฟ้าเท่านั้น
“ของสิ่งนี้มันอะไรกัน? เร็วได้ขนาดนั้น! มันเร็วกว่าเดิมอย่างน้อยสิบเท่า!” โจวหวู่ไท่ตกใจขณะไล่ตามหลังหวังหลินและดาบเล่มนั้น
ขณะที่หวังหลินเหาะเหินออกไป เขาชะลอตัวลงเพราะหลังจากออกพื้นที่สระน้ำแล้วรอยแยกจะปรากฎมากขึ้นจนถี่ หลังจากใช้เวลาหลบเลี่ยงรอยแยกหวังหลินจึงเลือกหยุดลงบนยอดเขาแห่งหนึ่ง
เมื่อมองออกไปไกลเขาจึงเห็นภูเขาลูกหนึ่งเรืองแสงสีรุ้ง ภูเขาลูกนี้ช่างเหมือนกับภูเขาวิญญาณที่ซือถูหนานอธิบายให้เขาฟัง
แทบในทันที่เขาหยุดลง เสียงดังสนั่นพุ่งเข้ามาจากระยะไกล หวังหลินเตรียมตัวไว้แล้วและเคลื่อนที่พริบตาห่างออกไปหมื่นลี้ ปัง! ภูเขาที่พึ่งอยู่พลันแตกสลาย แสงสีฟ้ากระพริบ ดาบครึ่งจันทราลอยออกมาจากเศษดินพวกนั้น
ในเวลาเดียวกัน ข้อความถูกส่งออกมาจากดาบครึ่งจันทรา
“ทิ้งเขาไว้…ที่นี่!”
ร่างหวังหลินหายวับไปอีกครั้ง คราวนี้เขารู้สึกเจ็บปวดจากแขนซ้าย เมื่อปรากฎตัวห่างไปหมื่นลี้ แขนเสื้อหายไปและเกิดรอยแผล
“ความเร็วอะไรกัน!” หลังปรากฎตัวเขาก็เคลื่อนที่พริบตาอีกครั้ง เขาไม่กล้าออกไปไกลเพราะหากเข้าไปใกล้รอยแยกมันคงเป็นอันตรายยิ่ง
ทำให้ทุกครั้งที่หวังหลินเคลื่อนที่พริบตา จะมีแสงสีฟ้ากระพริบและตำแหน่งที่หวังหลินพึ่งอยู่ก็แตกสลาย
ดาบครึ่งจันทราดูเหมือนไล่ตามหวังหลินอย่างบ้าคลั่ง
เพียงกระพริบ หวังหลินเคลื่อนที่ห่างไปหมื่นลี้และเคลื่อนตัวออกด้านข้างทันที จากนั้นรอยแยกหนึ่งปรากฎขึ้นอย่างเงียบเชียบถัดจากตำแหน่งที่เขาอยู่
หลังจากหวังหลินเคลื่อนที่พริบตา แสงสีฟ้ากระพริบผ่านตำแหน่งที่เขาพึ่งอยู่ ทุกสิ่งที่อยู่ในเส้นทางแสงสีฟ้าถูกทำลาย รวมถึงภูเขา พื้นดินและแม้กระทั่งรอยแยกอวกาศที่ปรากฎเบื้องหน้ามันยังถูกทำลายไปทั้งหมด
เมื่อเห็นเช่นนี้ทำให้ศีรษะหวังหลินเสียวซ่าน เขาเคลื่อนที่พริบตาอีกครั้งโดยไม่ลังเลใด คราวนี้รู้สึกเจ็บปวดจากขาขวาและโลหิตพุ่งออกมาจากแผล
หลังปรากฎตัวห่างไปห้าลี้ มือขวาหวังหลินลูบไปบนรอยแผลทำให้แผลปิดและโลหิตหายไป
“นี่มันสมบัติแบบไหนกัน?!” ร่องรอยความโลภปรากฎในดวงตาหวังหลิน เขาเคยเห็นของที่มีความเร็วเช่นนี้มาก่อนและนั่นคือวิญญาณดวงที่สี่จากธงวิญญาณ
หลังเปรียบเทียบทั้งสองอย่างแล้ว ความเร็วแทบจะเท่ากันเพียงแต่พลังอำนาจของดาบแข็งแกร่งกว่า เนื่องจากการถูกเข็มแทงอาจได้รับบาดเจ็บ แต่หากถูกดาบตีใส่อาจทำให้หัวของท่านกลิ้งลงพื้นก็เป็นได้
“สิ่งนี้สร้างขึ้นจากเสี้ยววิญญาณหนึ่งดวง ใครกันที่มีดวงวิญญาณที่มีพลังธาตุโลหะแข็งแกร่งแบบนี้?! ดาบเล่มนี้มันเป็นสมบัติ!!” ร่างหวังหลินหายตัวไปอีกครั้งและทุกสิ่งรอบจุดที่เขาพึ่งอยู่พลันพังทลายอีก
ดาบยิ่งเร็วขึ้นและในไม่ช้าหวังหลินไม่อาจตามมันทันได้ หากเขาประมาทเพียงชั่วขณะเขาคงได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้เขารู้ว่าทำไมจูเซว่จื่อถึงต้องการวิญญาณดวงที่สี่มากขนาดนี้
“ข้าต้องทำให้มันเป็นของข้า!” ดวงตาหวังหลินสว่างขึ้นขณะนำกระบี่สวรรค์ออกมา เพียงพลิกฝ่ามือเจ้าฉวี่ลี่กั๋วถูกบังคับให้ออกจากกระบี่สวรรค์
“ฉวี่ลี่กั๋ว จงทนมันไว้สักพักเหมือนที่เจ้าทำกับบรรพชนเผ่ามารยักษ์ เมื่อข้าได้วิญญาณของข้ากลับคืน ข้าจะมาช่วยเจ้า!” เช่นนั้นหวังหลินโบกแขนและฉวี่ลี่กั๋วลอยขึ้นสู่อากาศ
เจ้าฉวี่ลี่กั๋วร้องไห้ออกมาและกำลังจะหลบหนี ทว่าดาบครึ่งจันทราไล่ตามเขาและเขาหายตัวไป
เสียงร้องไห้ของฉวี่ลี่กั๋วดังออกมาไกล
“นายท่าน ท่านต้องไม่ลืมมาช่วยข้านะ…”
สายตาหวังหลินสว่างวาบขณะถือกระบี่สวรรค์ในมือไว้ เขาและฉวี่ลี่กั๋วเชื่อมต่อกันดังนั้นจึงสัมผัสได้ว่าอยู่ตรงไหน รวมถึงจิตวิญญาณดาบไม่ควรทำร้ายฉวี่ลี่กั๋วเพราะมันมีเจตนาอย่างอื่น
และเจ้าฉวี่ลี่กั๋วเป็นปิศาจ มันจึงไม่ถูกทำลายได้ง่ายๆ ตอนนี้เขาต้องรีบและไม่มีเวลาต่อกรกับดาบได้ชั่วขณะ ให้เจ้าฉวี่ลี่กั๋วเป็นเหยื่อล่อ เขาจะมีเวลาเหลือเฟือเพื่อให้ได้มันมาในภายภาคหน้า
หลังเก็บกระบี่สวรรค์กลับไป หวังหลินมองภูเขาสีรุ้งและกำลังจะเหาะเหินไปที่นั่น ทว่าขณะนั้นเองสีหน้าเปลี่ยนไปและหันกลับมามองภูเขาใกล้เคียง ที่นั่นเขาเห็นร่างสีแดงร่างหนึ่ง ร่างนั้นโดดเดี่ยวและว่างเปล่า
นางยืนอยู่ที่นี่ราวกับผีเสื้อสีแดงที่ต้องการจะจากไปกับสายลมแต่ถูกฝืนให้รั้งไว้
“ผีเสื้อสีชาด!”