Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 49

Cover Renegade Immortal 1

49. ประลอง (3)

ราวกับศิษย์ของสำนักซวนต้าวและเหิงยั่วที่เข้าร่วมในยี่สิบปีมานี้ไม่เคยเห็นฉากนองเลือดนี้มาก่อน

ทุกคนไม่มีเสียงเล็ดรอดออกมาและรู้สึกกระวนกระวายใจ

จ้าวสำนักฮวงหลงใบหน้าบูดบึ้งยืนเงียบเป็นเวลานาน เขาเห็นระดับฝึกตนของหลิวเฟิงคือระดับหกได้อย่างง่ายดาย แต่ไม่คาดคิดว่าจะมีวิชาเซียนที่แข็งแกร่งเช่นนั้น กำแพงวารีของเขาไม่อาจพังทลายลงได้ถ้าหากไม่ใช่ผู้ฝึกตนระดับ 8 ขึ้นไป เพียงแค่รอบแรกก็เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นแล้ว ช่างดุเดือดเสียจริงๆ กำลังใจของสำนักเหิงยั่วตกลงจริงๆ เขามองไปที่เหล่าศิษย์และเห็นแต่ละคนต่างมีใบหน้าขมขื่น

ซุนต้าซื่อสูดลมหายใจอย่างหนาวเหน็บ “แม่งเอ้ย! ศิษย์คนเดียวยังมีพลังมากกว่าข้าอีก สำนักซวนต้าวได้ลูกศิษย์แบบนี้ได้เช่นไร? ทำไมข้าไม่โชคดีแบบนี้บ้าง?”

หวังหลินมองหลิวเฟิงอย่างลึกซึ้ง เขาเห็นได้ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น แม้ว่าเขาจะมองผ่านเห็นระดับฝึกตนของหลิวเฟิงตอนที่เขาใช้กำแพงวารีก็เถอะ หวังหลินยังคงตกใจกับวิชาเซียนแบบนั้น

ผู้อาวุโอวหยางจากสำนักซวนต้าวยิ้มแย้มและพูดเสียงดัง “สหายฮวงหลง รอบที่สองนี้ตาท่านส่งศิษย์ออกมาก่อนเถอะ”

ฮวงหลงกวาดผ่านร่างศิษย์สายในแต่ละคน ศิษย์สายในต่างก้มหัวหวังหว่าตัวเองไม่ถูกเลือกออกไป

เมื่อเห็นเช่นนี้ฮวงหลงกลายเป็นโกรธเกรี้ยว เมื่อเขากำลังจะพูดแต่ซุนเฮ่ากัดฟันพูดขึ้นก่อน “ท่านจ้าวสำนัก แม้ว่าศิษย์ไม่ได้เป็นคนฉลาด ศิษย์ขอขึ้นประลองเป็นรอบที่สองเอง”

ผู้อาวุโสสองสามท่านใบหน้าเปลี่ยนสี และผู้อาวุโศซิ่วขมวดคิ้วพูดขึ้น “ซุนเฮ่า เจ้าเพียงระดับ 4 อย่าทำให้ขายหน้า!”

ซุนเฮ่าลังเลชั่วครู่และพูดขึ้น “ศิษย์…ศิษย์พึ่งเรียนรู้วิชาเซียนอันใหม่ได้ แม้ว่ามิอาจชนะ ข้าก็ยังดูไม่แย่เท่าไหร่” เขาคิดขึ้นในใจ “ตอนนี้ไม่มีใครต้องการออกไป ถ้าข้าออกไปตอนนี้ ข้าสามารถแสดงความประทับใจที่ดีแก่ท่านจ้าวสำนัก แม้ข้าไม่อาจชนะด้วยระเบิดกลิ่นเหม็นนี่ ข้าก็ดูไม่แย่นัก ขอโทษเถอะพี่หลี่ชาน ข้าจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้ของท่านและใช้มันกับคนของท่านแทน ข้าบอกได้ว่ามันเป็นกรรมสนองเท่านั้น”

สองสามวันที่ผ่านมา เขารู้สึกว่าเขาได้รับความเข้าใจบางอย่างในการใช้ระเบิดกลิ่นเหม็นนี่แล้ว เขาพยายามมันด้วยตัวเองและล้มเหลวมาตลอด แต่หลังจากกลับไปหาหลี่ชานในที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จ แม้ว่าระหว่างใช้เวลาฝึกซ้อมน้อยไปหน่อยและลองใช้เพียงไม่กี่ครั้ง เขาอาจจะทำให้มันใช้งานได้

ฮวงหลงลังเลชั่วครู่และถอนหายใจ เขาพยักหน้าและพูดขึ้น “เจ้าออกไปได้ แสดงให้ข้าเห็นวิชาใหม่ของเจ้า”

ซุนเฮ่าจัดร่างกายตัวเองให้เป็นระเบียบและก้าวออกไปที่ลานประลอง เขาพูดขึ้น “ศิษย์สำนักเหิงยั่ว ซุนเอ่า ขอคำชี้แนะจากสำนักซวนต้าวด้วย”

เมื่อหลี่ชานเห็นซุนเฮ่า เขาหัวเราะจนปอดแทบระเบิด เมื่อเห็นผู้อาวุโสโอวหยางกำลังจะเลือกศิษย์ออกไป เขารีบก้าวเข้าไปอย่างรวดเร้วและพูดขึ้น “ผู้อาวุโส ศิษย์หลี่ชานขอออกไปและประลองกับเขาเอง” เขากระพริบตาไปด้วยพูดไปด้วย

หลี่ชานเป็นศิษย์ที่ทำให้ผู้อาวุโสโอวหยางปวดเศียรเวียนเกล้าอยู่หลายครั้งแต่โอวหยางรู้ว่าหลี่ชานเป็นคนฉลาดแกมโกงแค่ไหนและไม่ทำอะไรที่ตัวเองเสียประโยชน์ โอวหยางรู้ว่าหากหลี่ชานต้องการออกไปนั่นแปลว่าเขามั่นใจเต็มร้อยว่าจะชนะ ดังนั้นจึงให้หลี่ชานออกไปได้

หลี่ลานตื่นเต้นบนสนามประลอง จิตใจเต็มไปด้วยความเร่าร้อน พลันคิดว่า “โอ้ ซุนเฮ่านะซุนเฮ่า เจ้าทำตัวเองแท้ๆ”

เมื่อซุนเฮ่าเห็นหลี่ชานก้าวเข้ามา ใบหน้าเขากลายเป็นประหลาดใจ

หลี่ชานพูดขึ้นเสียงดัง “น้องซุนเฮ่า ก้าวเข้ามาและแสดงวิชาใหม่ของเจ้าให้ดูหน่อย ข้าหลี่ชานจะยืนตรงนี้ให้เจ้าโจมตีเอง”

ซุนเฮ่าลังเลเล็กน้อย เขาเข้าถึงระดับที่สามารถใช้กระบี่เหินได้แล้ว ฝ่ามือก่อร่างเป็นผนึกครานึง กระบี่สีแดงก็โบยบินรอบร่างของเขาปรากฎเป็นแสงเยือกเย็น “ไป!” กระบี่เหินพุ่งไปหาหลี่ชานอย่างรวดเร็ว และซุนเฮ่าใช้เวลานี้เพื่อนำระเบิดกลิ่นเหม็นออกมาหลายลูก เขาตะโกนขึ้น “นี่ไงหล่ะวิชาใหม่ของข้า!”

หลี่ชานหัวเราะเสียงดัง เขาหลบหลีกกระบี่เหินอย่างว่าง่ายและคิดขึ้นในใจ “ระเบิด!”

ปัง!

ระเบิดในมือซุนเฮ่าระเบิดขึ้นเสียงดังก่อนที่เขาจะโยนพวกมันออกไป กลิ่นเน่าเหม็นกระจายออกไปรอบด้าน ซุนเฮ่ายืนอยู่กับที่ปกคลุมไปด้วยซากเน่าเหม็นสีดำ

เขาไม่เข้าใจว่าทำไมระเบิดพวกนี้ถึงได้ระเบิดออกมาก่อนที่จะโยนมันออกไป นี่เขาบังคับใช้มันมากเกินไปงั้นหรือ?

หลี่ชานถอนหายใจก่อนจะพูดออกมา “การเคลื่อนไหวของน้องซุนเฮ่าแข็งแกร่งจริงๆ นั่นเรียกว่าท่าอะไรนะ? ระเบิดตัวเองหรือ? ข้าเคยบอกเจ้ามาก่อนแล้วให้ระวังระเบิดพวกนี้ดีดี แต่เจ้ากลับบังคับใช้พวกมันเช่นนั้น มันจึงระเบิดขึ้นน่ะสิ”

เหล่าศิษย์สำนักซวนต้าวต่างหัวเราะเสียงดัง เสียงเยาะเย้ยถากถางดังขึ้นไปทั่ว แม้แต่ศิษย์ของสำนักเหิงยั่วที่อยากหัวเราะ แต่ก็ต้องฝืนกลั้นกลับลงไปเพราะไม่กล้าทำให้ผู้อาวุโสโกรธเคือง

ฮวงหลงโบกมือด้วยความโกรธ คลื่นลมสายหนึ่งพัดเอากลิ่นเหม็นออกไปกระทั่งพาเอาซุนเฮ่าที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นออกจากลานประลอง

ผู้อาวุโสโอวหยางยิ้มขึ้น “ซุนเฮ่าคนนั้นใช้วิชาแบบผิดๆ ดังนั้นเราจึงไม่รู้ความแข็งแกร่งที่แท้จริง ให้จบด้วยการเสมอเสียเถอะ” หลังจากเขาพูดจบจึงพยักหน้าให้กับหลี่ชาน

ฮวงหลงใบหน้ามืดหม่น “แพ้ก็คือแพ้ จะเสมอได้เช่นไรเล่า? ต่อกันเถอะ”

ผู้อาวุโสโอวหยางหัวเราะ “ไม่น้อยหน้าสำนักที่ใหญ่ที่สุดเมื่อห้าร้อยปีก่อน ฉี่มู่ เจ้าขึ้นไป!”

ศิษย์คนหนึ่งของสำนักซวนต้าวเดินออกมา เขาอายุราวๆ 24 ถึง 25 ปี ประสานมือคารวะเข้าด้วยกันบนลานประลองและไม่พูดอะไรอีก

ฮวงหลงไม่ได้เรียกศิษย์สายในคนไหนออกมาแต่กลับหยิบเศษหยกขึ้นมาขยี้ให้แตกสลาย ขณะที่เศษหยกแตกออกมานั้น แสงสีฟ้าสว่างวาบปรากฎบนสนามประลอง คนสามคนเดินออกมาจากแสงสีฟ้าระยิบระยับเช่นนั้น

ทั้งสามคนนี้สวมชุดคลุมสีม่วง เมื่อทั้งสามคนปรากฎตัวขึ้น พวกเขาปลดปล่อยความกดดันที่แข็งแกร่งรุนแรงออกมาจนศิษย์สายในตกใจ

ใบหน้าผู้อาวุโสโอวหยางเปลี่ยนไปเล็กน้อยและเขาลอบตรวจสอบสามคนนี้อย่างระมัดระวัง

ทันใดนั้นชายวัยกลางคนที่ยืนด้านหลังสำนักซวนต้าวก็เปลี่ยนท่าที แววตาเขาส่องสว่างขึ้นและฉายแววกระหายการต่อสู้

เมื่อชายทั้งสามคนปรากฎขึ้น พวกเขามองทางเหล่าผู้ชมอย่างเยือกเย็น หนึ่งในนั้นเป็นชายวัยสี่สิบพูดขึ้น “สำนักซวนต้าวงั้นรึ? ฮึ่ม! ยี่สิบปีมาแล้ว ข้าหลิวโม่ว(呂某 Lǚ mǒu) เคยพ่ายแพ้ แต่ตอนนี้มันจะไม่เป็นเช่นนั้นอีกแล้ว”

คิ้วหวังหลินขมวดเป็นปม ในเหล่าสามคนนี้เขารู้จักเพียงคนเดียวเท่านั้นคือศิษย์พี่ลำดับสอง จางขวง

ฮวงหลงพูดชัดๆ “หลิวโม่ว ตาเจ้าแล้ว”

หลิวโม่วพยักหน้า ทั้งสองคนด้านข้างเคลื่อนกายออกไปจากลานประลองและอยู่ถัดจากฮวงหลง

“หลิวโม่ว! ศิษย์พี่อาวุโสลำดับห้า หลิ่วโม่ว! ข้าเคยได้ยินว่าเขาอยู่ระดับหกเมื่อยี่สิบปีก่อน เวลานี้สำนักเหิงยั่วของเราจะต้องชนะได้แน่ๆ!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!