599. ขั้นเทวะ
การหลอมรวมเขตแดนและปราณสวรรค์คือกระบวนการเผาไหม้ ปราณสวรรค์เป็นเชื้อเพลิงและเขตแดนถูกหล่อหลอมด้วยเพลิงนั้นจะเปลี่ยนเป็นผลึกเทวะ!
เมื่อผลึกเทวะเกิดขึ้นมา ท่านอาจจะรู้สึกเหมือนกลายเป็นสิ่งไร้ตัวตนและวิญญาณของท่านจะหลงทางในฟ้าดิน ความรู้สึกนี้เป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งและมันเรียกกันว่าการรู้แจ้งขั้นเทวะ
ปกติแล้วสิ่งแรกที่เซียนบนดาวเซียนทำคือการใช้ชั่วขณะการรู้แจ้งนี้ในการดึงเศษเสี้ยววิญญาณของตัวเองออกมาจากผลึกดาวเซียน แม้ว่าจะมีโอกาสเพียงครึ่งเดียวแต่พวกเขาต้องลองดู!
หวังหลินฟื้นฟูเศษเสี้ยววิญญาณของตัวเองไปแล้วดังนั้นเขาจึงไม่ต้องทำเรื่องนี้ ในชั่วขณะหินหยกสวรรค์ทั้งหมดในกระเป๋าได้ถูกวางไว้รอบตัว ปราณสวรรค์ถูกบดขยี้ให้แตกออกมาจากหินหยกก่อนจะเปลี่ยนเป็นฝุ่นผง
ที่นี่ไม่มีสายลมดังนั้นฝุ่นผงจึงไม่ได้ถูกพัดพาออกไปและรวบรวมไว้บนพื้นแทน
ปราณสวรรค์จำนวนมากเข้าไปในร่างหวังหลินผ่านรูขุมขนและเคลื่อนผ่านเส้นชีพจรอย่างรวดเร็ว จากนั้นปราณสวรรค์รวบรวมไปรอบๆเขตแดนแห่งชีวิตและความตายที่อยู่ในวิญญาณดั้งเดิม
กระบวนการปรับแต่งตัวเองเช่นนี้ดำเนินต่อไปในร่างกายหวังหลิน
กระทั่งเกิดพายุอัคคีเร่าร้อนข้างในร่างหวังหลินโดยที่ร่างกายผ่านการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ วิญญาณดั้งเดิมของเขาดุจรังไหม้ยักษ์ เขตแดนเขาเสมือนชีวิตที่อยู่ในรังไหมและปราณสวรรค์เสมือนกับไฟโหมกระหน่ำที่อยู่ด้านนอกรังไหม!
เปลวเพลิงยิ่งรุนแรงก็ยิ่งทำให้รังไหมมีชีวิตชีวามากขึ้น เขตแดนข้างในยิ่งรวมกับรังไหมมากขึ้น!
เป้าหมายของการหลอมรวมกันระหว่างปราณสวรรค์และเขตแดนคือการทำให้เขตแดนรวมเข้ากับวิญญาณดั้งเดิมในที่สุด
เมื่อถึงจุดนั้นจะไม่มีความแตกต่างด้านเขตแดนและวิญญาณดั้งเดิม วิญญาณดั้งเดิมคือเขตแดนและเขตแดนคือวิญญาณดั้งเดิม!
เปลวไฟเผาไหม้รุนแรงขึ้นด้านนอกรังไหม้ เมื่อไหร่ก็ตามที่เปลวเพลิงดูเหมือนอ่อนลงจะมีปราณสวรรค์พรั่งพรูออกมาจากด้านนอกมากขึ้น ราวกับเป็นการเติมเชื้อเพลิงให้กับเปลวไฟทำให้มันเผาไหม้รุนแรงยิ่ง!
เพลิงสวรรค์เผาไหม้เจิดจ้าข้างในร่างหวังหลิน เพลิงนี้มองไม่เห็นและไม่อาจมองเห็นด้วยตาเปล่า ทว่าหากใช้สัมผัสวิญญาณจะเห็นหวังหลินกำลังปลดปล่อยเพลิงอัศจรรย์จากร่างกาย
เสาะหาเต๋าในยามเช้าและตายในยามดึกคือสิ่งที่เซียนขั้นเทวะทุกคนรู้จัก และมีมากกว่านั้น หากไม่สามารถผ่านบททดสอบนี้ไปได้ เพลิงนี้จะเปลี่ยนจากไร้ตัวตนกลายเป็นของจริง เผาไหม้วิญญาณดั้งเดิมและร่างกายให้กลายเป็นเถ้าถ่านในพริบตา!
รังไหมดั้งเดิมข้างในเปลวเพลิงยิ่งดูมีชีวิตมากขึ้น ม้วนคัมภีร์แห่งขีวิตและความตายที่อยู่ในรังไหมต่างก็กำลังเปลี่ยนไปด้วย ราวกับมันกำลังหลอมละลายและรวมเข้ากับรังไหม
เวลาค่อยๆผ่านไปอย่างเชื่องช้า เพลิงสวรรค์ไม่ได้อ่อนลงเลย ยิ่งปราณสวรรค์เติมเต็มเข้าไปให้เพลิงมากขึ้นก็ยิ่งทำให้มันเผาไหม้ส่องสว่างเจิดจ้ามากขึ้น!
เขตแดนข้างในรังไหมหลอมละลายอย่างสมบูรณ์กลายเป็นมวลพลังงานอันโกลาหล พลังงานนี้เรียกกันว่าพลังต้นกำเนิดในยุคโบราณ
ในช่วงยุคโบราณที่ไม่มีเหล่าเซียนนั้น พวกคนที่บ่มเพาะในอดีตเรียกตัวเองว่าผู้ปรับแต่งพลังงาน!
ผู้ปรับแต่งพลังงานแข็งแกร่งที่ชื่อ คุนหลิว คือต้นฉบับของเซียนโบราณ
พวกเขาเรียกตัวเองว่าผู้ปรับแต่งพลังก็เพราะพลังงานที่อยู่ในพลังต้นกำเนิดและเพราะการฝึกฝนของพวกเขาเน้นไปที่พลังต้นกำเนิด!
พลังต้นกำเนิดสายนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากเขตแดนของหวังหลิน พลังต้นกำเนิดได้รับการหล่อเลี้ยงจากรังไหมดุจทารกยังอยู่ในครรถมารดา พลังต้นกำเนิดดำเนินการเติบโตแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
ในยุคโบราณนั้นพลังต้นกำเนิดไม่ได้อยู่ข้างในวิญญาณดั้งเดิมแต่มันถูกแยกออกมาและแทนที่พลังปราณสวรรค์ทั้งหมดในร่างกาย
ทว่าหลังจากแดนสวรรค์ปรากฏออกมาจากอวกาศ เหล่าเซียนได้กลายเป็นเทพและค้นหาความเป็นอมตะ ดังนั้นจึงเริ่มใช้พลังต้นกำเนิดเป็นพลังชีวิตของตน พวกเขาห่อหุ้มพวกมันด้วยปราณสวรรค์และนั่นเป็นวิธีที่พวกเซียนและเทพไม่ตายอีกนานแสนนานทั้งที่เหลือเศษเสี้ยวพลังไว้น้อยนิด!
เพราะเศษเสี้ยวพลังงานที่แท้จริงนั้นคือพลังต้นกำเนิด!
เพลิงที่มองไม่เห็นข้างในหวังหลินมีความตั้งใจมากขึ้น พลังต้นกำเนิดข้างในรังไหมวิญญาณต้นกำเนิดได้ควบแน่นจนกลายเป็นสสารคล้ายของเหลว มันเป็นผลึกใสกระจ่างและก่อเกิดเป็นรูปร่างหลายแบบ
อย่างไรก็ตามของเหลวนี้ไม่อาจตกผลึกได้ หากมันตกผลึกไม่ได้ก็ไม่อาจก่อรูปเป็นผลึกเทวะไปได้!
จิตสำนึกหวังหลินตื่นตัว หลังพยายามและล้มเหลวไปหลายครั้ง เขาสูดหายใจลึก ในชั่วขณะหินหยกสวรรค์รอบร่างกายระเบิดออกปลดปล่อยปราณสวรรค์ทั้งหมดออกมา ปราณสวรรค์เคลื่อนที่ราวกับกลุ่มควันเข้าสู่ร่างหวังหลินผ่านจมูกอย่างรวดเร็ว
เมื่อปราณสวรรค์ส่วนสุดท้ายเข้าไปในร่างเขา เพลิงที่มองไม่เห็นเผาไหม้รุนแรงมากขึ้นกว่าครั้งก่อนหลายเท่าตัว ในพริบตาเดียวพลันเกิดเพลิงสวรรค์ออกมาจากจมูกและปากหวังหลิน
เม็ดเหงื่อจำนวนมากเริ่มผุกออกมาจากร่าง แต่ขณะที่เหงื่อเกิดขึ้นมามันก็ระเหยกลายเป็นควันสีขาว ควันสีเขาวลอยเหนือศีรษะหวังหลินควบแน่นมากขึ้นช้าๆ
เพลิงสวรรค์ที่อยู่ในร่างหวังหลินเผาไหม้มากขึ้นแบบไม่เคยเป็นมาก่อน มันพุ่งไปที่รังไหมวิญญาณดั้งเดิมอย่างรวดเร็ว ในที่สุดของเหลวที่เป็นพลังงานดั้งเดิมได้เกิดอาการตกผลึกหลังจากถูกหล่อหลอมด้วยเปลวเพลิงนี้!
เมื่อมันกำลังตกผลึกมันจึงสั่นเทาทันที การสั่นเทานี้เงียบเชียบแต่ได้ทำให้รังไหมวิญญาณดั้งเดิมขยับ!
การเคลื่อนไหวของวิญญาณดั้งเดิมโดยทันทีได้ทำให้เพลิงสวรรค์เปลี่ยนไป แทนที่มันจะหล่อหลอมมันกลับเริ่มกระจายออกมาแทน
เพลิงที่มองไม่เห็นในร่างหวังหลินเริ่มเปลี่ยนเป็นเพลิงของจริงและเขากำลังล้มเหลวในการพยายามบรรลุขั้นเทวะ!
แต่ขณะนั้นเองผลึกเทวะที่โจวยี่ยกให้เขาซึ่งเขากินเข้าไปก่อนหน้านี้ได้ออกมาจากจุดตันเถียนและหลอมรวมเข้ากับเพลิงสวรรค์
ไม่ใช่แค่เพลิงสวรรค์ไม่อาจทำให้มันได้รับผลกระทบแต่เมื่อมองเข้าไปใกล้ๆ เพลิงสวรรค์หม่นหมองลงราวกับของสิ่งนี้สามารถมอดดับได้
ผลึกเทวะของโจวยี่เข้ามาข้างๆรังไหมวิญญาณดั้งเดิมและเข้าไปข้างในโดยไร้อุปสรรค์ มันปรากฏข้างๆผลึกเทวะของหวังหลิน
สองผลึกเทวะ หนึ่งเป็นตัวแทนชีวิตและความตาย ขณะที่อีกหนึ่งเป็นตัวแทนของความครอบงำ ผลึกเทวะของโจวยี่หมุนวนเป็นวงกลมรอบผลึกเทวะของหวังหลินหนึ่งครั้งก่อนที่มันจะแตกสลาย!
เมื่อมันแตกสลาย เศษผลึกดั้งเดิมทั้งหมดข้างในได้ถูกผลึกเทวะของหวังหลินดูดซับไป!
ผลึกเทวะของหวังหลินเติบโตด้วยความเร็วที่ตาเปล่ามองเห็น มันเติบโตขึ้นจากขนาดเท่าเล็บมือจนมีขนาดเท่านิ้วก้อย!
ตอนนี้รังไหมวิญญาณดั้งเดิมไม่ขยับอีกและเพลิงสวรรค์หยุดการกลายเป็นเพลิงจริง แม้ว่าทั้งหมดดูเหมือนง่ายแต่เป็นช่วงจังหวะความเป็นความตาย!
หลังดูดซับพลังดั้งเดิมจากผลึกเทวะของโจวยี่ ผลึกเทวะของหวังหลินจึงเกิดรูปร่าง รังไหมดั้งเดิมหดลงอย่างรวดเร็วจนตอนนี้มันห่อหุ้มรอบผลึกเทวะไปแล้ว
กลิ่นอายใหม่ค่อยๆก่อตัวขึ้นมาข้างในรังไหมวิญญาณดั้งเดิม!
กระบวนการนี้กินเวลาอยู่นานมาก…
หวังหลินนั่งสมาธิอยู่ในถ้ำ อยู่นิ่งๆไม่เคลื่อนไหวราวกับเขาสามารถอยู่ที่นี่ได้ตลอดเวลา
ส่วนด้านนอก เวลาได้เคลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็ว แคว้นปิศาจฟ้า เมืองปิศาจฟ้าได้ถูกสร้างขึ้นใหม่เมื่อสิบปีก่อน ขนาดของมันและขอบเขตกลับมาเท่าเดิมเหมือนก่อนไม่มีผิดเพี้ยน!
พระราชวังจักรพรรดิยังคงตั้งตระหง่านและลานจัตุรัสขนาดใหญ่กลับมาเหมือนเดิมด้วย!
กลองปิศาจยักษ์ยังคงอยู่ลานจัตุรัส!
เวลาสิบปีผ่านไปอย่างรวดเร็วเพียงชั่วพริบตา ประชาชนของเมืองปิศาจฟ้าที่หลบเลี่ยงภัยพิบัติเมื่อสิบปีก่อน สิ่งที่พวกเขาเห็นเป็นสิ่งที่จะไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต!
เสียงข่าวลือของเซียนชื่อหวังหลินยังคงกระจายไปทั่วเมืองปิศาจฟ้า
เรือไม่ล่องอีกแล้วและกระทั่งผู้คนบนเรือก็หายไป ไม่มีใครกำลังเล่นพิณ…
ชายหนุ่มที่ครั้งหนึ่งดื่มเหล้ากับหวังหลิน ตอนนี้เขายืนอยู่เหนือพระราชวังในวังจักรพรรดิ ด้านข้างเขาเป็นหญิงสาวนางหนึ่ง นางสวยมากแต่ใบหน้ายังดูซุกซน
หากฉวี่ลี่กั๋วอยู่ที่นี่และเห็นนาง เขาจะน้ำลายไหลและกระโจนเข้าใส่นางและร้องตะโกนทันทีว่า “แม่นางน้อย พี่ใหญ่ฉวี่ของเจ้ากลับมาแล้ว!”
ชายหนุ่มคนนั้นถอนหายใจและพึมพำ “ประหลาดนัก นี่มันก็ผ่านมาสิบปีแล้วตั้งแต่ที่เด็กคนนั้นหายตัวไป แม้ท่านบรรพชนทั้งห้าจะช่วยกันตรวจสอบด้วยสัมผัสวิญญาณก็ยังไม่อาจหาร่องรอยของเขาได้ ราวกับ…ราวกับเขาออกไปจากดินแดนวิญญาณปิศาจ!“
หลังเมืองถูกสร้างขึ้นมาใหม่ คฤหาสน์สวยงามสง่าถูกสร้างขึ้นทางด้านตะวันออก คฤหาสน์แห่งนี้มีตัวอักษรใหญ่หกตัว!
“คฤหาสน์รองผู้บัญชาการปฐพี”
ภายในคฤหาสน์มีคนรับใช้มากมายและมีภูเขาเทียมทุกแห่งหนจนทำให้มันดูโออ่ามาก ร่างชายกำยำสวมชุดคลุมรองหัวหน้าผู้บัญชาการกำลังยืนอยู่ในลานแห่งหนึ่งของภูเขาเทียม เขามองขึ้นไปบนท้องฟ้าและถอนหายใจ
เบื้องหลังเขาเป็นชายอีกสามคน ทั้งสามคนนี้สวมชุดเกราะแม่ทัพปิศาจทั้งหมดและยืนนิ่งไม่ไหวติงพร้อมด้วยความเคารพยิ่ง
“น้องหวัง เจ้าไปอยู่ที่ไหน…” ชายร่างกำยำถอนหายใจยาว
ภายในถ้ำ หวังหลินไม่ขยับอะไรเลยมาสิบปี เขายังอยู่ที่นี่ดุจรูปปั้นหิน
ภายในร่างกายเขา การหล่อหลอมข้างในรังไหมวิญญาณค่อยๆสิ้นสุดลงอย่างช้าๆและเกิดรัศมีสั่นสะเทือนกระจายออกมาจากรังไหม
หลังผ่านไปไม่ทราบเวลา รอยร้าวหนึ่งปรากฏบนรังไหมวิญญาณดั้งเดิม รอยร้าวนี้เล็กมากและปริแตกออกเบาๆ
หลังจากนั้นไม่นาน รอยร้าวอีกแห่งปรากฏขึ้นและในไม่ช้าก็ปรากฏไปทั่วรังไหม เมื่อครอบคลุมทั้งหมดในที่สุดมันก็แตกกระจาย!
ลำแสงสีเทาพุ่งออกมาจาภายใน จากนั้นวิญญาณดั้งเดิมเกิดใหม่ลอยออกมาช้าๆ
วิญญาณดั้งเดิมนี้ไม่ได้โปร่งแสงอีกต่อไปแต่กลับมีตัวตน มันแทบไม่แตกต่างไปจากเลือดเนื้อเลย ผลึกเทวะได้เปลี่ยนเป็นวิญญาณดั้งเดิมอย่างเชื่องช้า
สำหรับเซียนขั้นเทวะแล้ว วิญญาณดั้งเดิมคือเขตแดน!
นี่คือสภาวะที่แท้จริงของเขตแดนหลังจากมันเข้าสู่ร่างกาย!
หลังจากวิญญาณดั้งเดิมลอยออกมา รังไหมที่แตกกระจายได้หลอมละลายกลายเป็นสารอาหารหล่อเลี้ยงวิญญาณดั้งเดิมและถูกมันดูดซับ เมื่อมันดูดซับไปทั้งหมดวิญญาณดั้งเดิมนั่งลงทำสมาธิ ในชั่วขณะที่มันนั่งลงไป ร่างกายหวังหลินสั่นเทาและเขาลืมตาขึ้นมาเป็นครั้งแรกในรอบสิบปี
หวังหลินพึมพำ “ขั้นเทวะ!” จากนั้นแสงในดวงตาส่องสว่างขึ้นมากกว่าเดิม! หลังผ่านการฝึกเซียนมาเจ็ดร้อยปี ในที่สุดเขาก็บรรลุขั้นเทวะจนได้ ขั้นเทวะคือตัวตนขั้นสูงสุดของแคว้นเซียนระดับหก!
แม้กระทั่งแคว้นเซียนระดับเจ็ด พวกเซียนขั้นเทวะยังถือว่าเป็นอำนาจที่แข็งแกร่ง!
หวังหลินตกอยู่ในการรู้แจ้งขั้นเทวะมาสิบปีและเขาเก็บเกี่ยวมาได้อย่างดีเยี่ยม!