603. มีจิตสังหาร…
ในขณะที่หวังหลินจากไป ร่างกายซื่อจูตกอยู่บนพื้นไปแล้ว มันแห้งเหี้ยวและไร้ซึ่งร่องรอยของพลังชีวิต แต่มีแสงสีทองอ่อนกระพริบบนหน้าผาก
วิญญาณดั้งเดิมของซื่อจูแตกสลายไปแล้ว ดั้งนั้นร่างจึงตกลงมาจากฟากฟ้า
ความแตกต่างระหว่างเขากับหวังหลินมีมากเกินไป เขาไม่สามารถแม้แต่จะใช้ปราณกระบี่ที่อาจารย์ให้เป็นของขวัญก่อนตาย
จิตใจหวังหลินมีเพียงความบ้าคลั่ง ปราณสวรรค์ในร่างเคลื่อนไหวดุจคลื่นทะเลระหว่างเส้นชีพจรและวิญญาณดั้งเดิม เพิ่มเติมจากการกระตุ้นของผลทะยานสวรรค์ เขาจึงดุจเทพแห่งสงครามที่มีจิตสังหารมหึมา
สายตาแดงฉานก้าวทะยานขึ้นสู่อากาศ เสียงดังกึกก้องสะท้อนอยู่ในอากาศราวการก้าวเท้าได้ทำให้ท้องฟ้ากำลังพังทลาย หวังหลินก้าวเท้ายาวๆเคลื่อนผ่านท้องนภาด้วยความรวดเร็วอย่างยิ่ง
หวังหลินยังอยู่ห่างไกลจากสนามรบโบราณ สายตาแดงฉานยามข้ามผ่านท้องฟ้าได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมากภายในดินแดนวิญญาณปิศาจ
ท่ามกลางผู้คนเหล่านี้มีทั้งเซียนและแม่ทัพปิศาจ ตราบใดที่พวกเขาไม่ได้ยั่วยุหวังหลิน เขาก็ไม่สนใจ แต่หากพวกเขามุ่งจิตสังหารมาที่หวังหลิน เาจะสามารถตรวจจับได้ทันทีด้วยสภาวะปัจจุบัน
ซึ่งใครก็ตามที่มีจิตสังหารต่อหวังหลินจะถูกฆ่าโดยไม่มีลังเลใดๆ!
ณ ดาวเคราะห์ส่วนตัวดวงหนึ่งห่างไกลจากดาวเทียนหยวนชื่อว่า ดาวโม่ ดาวดวงนี้เป็นของคนที่ถูกเรียกว่าบรรพชนโม่ ระดับบ่มเพาะของเขาได้บรรลุมาถึงด่านลวงตาหยินแห่งขั้นหยินหยางแล้ว
เวลานี้ด้วยระดับบ่มเพาะในปัจจุบันของเขา จึงสูญเสียคุณสมบัติในการเข้าสู่ดินแดนวิญญาณปิศาจ ทว่าเขามีศิษย์สามคน มีสองคนที่ได้เข้าไปยกเว้นหัวหน้าศิษย์
ตอนนี้ผู้เยาว์สองคนสวมเสื้อคลุมสีเทาเหาะข้ามผ่านน่านฟ้าในแคว้นปิศาจอัคคี ทั้งสองคนเป็นลูกศิษย์สายตรงของบรรพชนโม่!
ขณะที่พวกเขาเหาะเหิน หนึ่งในนั้นดวงตาส่องสว่างขึ้น เขามองออกไปไกลและสัมผัสความรู้สึกที่คล้ายกับอสูรต้นกำเนิดกำลังปลดปล่อยจิตสังหารเหนือจินตนาการและกำลังมุ่งมาทิศทางที่พวกเขาอยู่
สีหน้าเขาเปลี่ยนไปและร้องตะโกน “ศิษย์น้องรีบถอยกันเถอะ!” สิ้นคำพูด ทั้งสองคนกระจายตัวไปข้างๆ หลังจากนั้นร่างดุจอุกกาบาตได้ผ่านเลยพวกเขาไป
“ขั้นเทวะ!!!” รูม่านตาหดเล็กลง
“ศิษย์พี่ เขา… เขาดูเหมือนได้รับบาดเจ็บ!” ศิษย์ผู้น้องจ้องมองร่างที่เต็มไปด้วยจิตสังหารซึ่งกำลังเคลื่อนที่ห่างออกไปและส่งเสียงสื่อสารออกมาทันที “เซียนขั้นเทวะต้องมีสมบัติมากมาย หากเราได้ผลึกปิศาจของเขา…”
สายตาศิษย์พี่หรี่แคบลงและลังเล
“ศิษย์พี่ เราทั้งคู่ต่างเป็นขั้นแปลงวิญญาณระดับปลาย แม้โอกาสของเราจะมีไม่มาก แต่หากต่อสู้กับเซียนขั้นเทวะที่ได้รับบาดเจ็บและใช้สมบัติวิเศษ…”
เพียงแค่ทั้งสองคนกำลังสื่อสารกัน หวังหลินพลันหยุดชะงักทันที เขาหันกลับมามองด้านหลังด้วยสายตาแดงฉานพร้อมกับพึมพำ “มีจิตสังหาร…”
หวังหลินหันตัวกลับมาทันทีและพุ่งเข้าหาทั้งสองดุจสายฟ้าฟาด!
เมื่อทั้งสองคนเห็นหวังหลินหันกลับมา สีหน้าแต่ละคนเปลี่ยนไปทันทีและรีบล่าถอย ทว่าหวังหลินรวดเร็วเกินไป ดังนั้นในพริบตาจึงปรากฎตัวถัดกับผู้เป็นศิษย์น้องและยื่นดัชนีออกมา!
ท่าทีของผู้เป็นศิษย์น้องเปลี่ยนไปมหาศาลและตกตะลึงในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เขามองสายตาหวังหลินอย่างหวาดผวา แววตานั่นมันน่ากลัวเกินไป!
ดัชนีของหวังหลินทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนมิอาจต่อต้านได้ ราวกับว่าดัชนีนี้เป็นตัวแทนแห่งฟ้าดิน!
ดัชนีประทับบนหน้าผากด้วยความเร็วที่ไม่คาดคิด ชายหนุ่มส่งเสียงร้องโหยหวนออกมาก่อนที่ร่างกายจะเหี่ยวแห้งและวิญญาณดั้งเดิมเริ่มแตกสลายกลายเป็นพลังสังหารหลุดออกมาจากร่างและลอยเข้าหาหวังหลิน
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเร็วเกินไป! เร็วจนศิษย์ผู้พี่ไม่สามารถตอบสนองได้ทัน เวลาต่อมาเขาจึงตื่นจากอาการตกตะลึง ร่างกายสั่นเทา เขาเริ่มเคลื่อนที่พริบตาก้าวเท้าเข้าสู่อากาศโดยไม่มีความลังเล
หวังหลินก้าวไปข้างหน้าพุ่งผ่านท้องฟ้าและยื่นมือขวาออกไป นิ้วมือดูเหมือนทะลุความว่างเปล่าและบังคับดึงชายหนุ่มออกมา!
ใบหน้าชายหนุ่มซีดเผือดพร้อมกับเอ่ยอย่างเร่งรีบ “ข้าลูกศิษย์ของบรรพชนโม่…” ไม่ต้องรอให้เขาพูดจบ มือหวังหลินกระชับเข้ามา ร่างพลันหมดเรี่ยวแรงตกลงบนพื้น
พลังชีวิตกลายเป็นควันสีเทาและลอยเข้าหาหวังหลิน
หลังจากที่ฆ่าทั้งสอง ดวงตาของหวังหลินยิ่งแดงเถือกมากขึ้น เจตนาต่อสู้ยิ่งรุนแรง จากนั้นร่างกายขยับทันทีและและพุ่งออกไปไกล
ขณะที่หวังหลินเหาะเหินไป พื้นดินแห้งเหี่ยวต่อเนื่องไปเรื่อยๆ สิ่งมีชีวิตทุกสิ่งตายตามกันไปไม่ว่าจะเป็นพืชหรือสัตว์ ทั้งหมดจะถูกสังหารและใช้หล่อเลี้ยงร่างกายหวังหลิน
หวังหลินเข้ามาดุจขุมนรกเพื่อกลืนกินทุกชีวิต!
หวังหลินเหาะเหินเกือบเป็นเส้นตรงข้ามแคว้นปิศาจอัคคีและทุกสิ่งทุกอย่างระหว่างทางได้เหี่ยวแห้งไปทั้งหมด!
ซากจำนวนมากถูกทิ้งไว้เบื้องหลังขณะที่หวังหลินผ่านไป นี่คือความอัปยศและเป็นการยั่วยุแคว้นแห่งนี้ แม่ทัพปิศาจนับสิบถูกออกมาล้อมหน้าหลังเพื่อกำราบเซียนปิศาจตนนี้!
ตำแหน่งการล้อมกรอบนั้นอยู่ใกล้กับชายแดนแคว้นปิศาจอัคคีกับแคว้นปิศาจฟ้า เป็นสถานที่ที่ถูกเรียกว่า ภูเขาล้านปิศาจ!
หมอกหนาปกคลุมภูเขาล้านปิศาจไม่เคยเหือดหาย มีสองเมืองอยู่ใกล้ภูเขาล้านปิศาจฝั่งละเมือง หนึ่งในนั้นคือเมืองฟ้าสงบของแคว้นปิศาจฟ้าและอีกเมืองคือเมืองเพลิงอัคคีหลอมเหลวของแคว้นปิศาจอัคคี
ตอนนี้มีทหารปิศาจมากกว่าหนึ่งแสนนายเตรียมพร้อมภายในเมืองฟ้าสงบ แม่ทัพปิศาจมากกว่าสิบคนกำลังมองออกไปไกล
ท่ามกลางเหล่าแม่ทัพปิศาจมีอยู่หนึ่งคนที่มีระดับต่างกันออกไป เขาเป็นชายวัยกลางคนและสีหน้ามืดมน
“สังหารเซียนคนนี้ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเรา คราวนี้ท่านรองผู้บัญชาการมาด้วย นี่มันยิ่งง่ายดายขึ้นไปอีก”บุรุษที่อยู่ข้างชายวัยกลางคนยิ้มขึ้น แม้ว่าเขาจะยิ้มก็ยังแสดงความเคารพนับถือ
แม่ทัพปิศาจคนข้างๆหัวเราะ “มันแน่นอนอยู่แล้ว ด้วยพลังของท่านรองผู้บัญชาการเราจะทำให้มันกลายเป็นขี้เถ้าในทันที!!”
ชายวัยกลางคนกล่าวด้วยท่าทีสงบนิ่ง “พวกเจ้าทั้งหมดจงจบการต่อสู้ให้เร็วที่สุด เมื่อพวกเจ้าฆ่ามันแล้ว ข้าจะได้กลับไปทันที” แม้ว่าจะมีสีหน้ามืดมนแต่ก็ยังมีความหยิ่งทนงในสายตา ในฐานะของรองผู้บัญชาการ ตำแหน่งเขาที่สูงมาก ซึ่งปกตินั้นเขาจะไม่ออกจากเมืองหลวงเพื่อจัดการกับเซียนเพียงแค่คนเดียว
เดิมทีเขากำลังจะเดินทางไปยังแคว้นปิศาจฟ้าเพื่อทำเรื่องส่วนตัว แต่เมื่อเขามาถึงกลับเขาได้รับคำสั่งจากจักรพรรดิปิศาจให้อยู่ที่นี่สองสามวัน เพื่อเป็นผู้นำแม่ทัพปิศาจในการต่อสู้กับเซียน
ช่วยไม่ได้ที่จะต้องมาจัดการเรื่องนี้ ในความเห็นของเขา มันไม่จำเป็นต้องส่งคนมากมายเพื่อฆ่าเซียนเพียงคนเดียว มันลำบากเกินไป
ในขณะเดียวกัน เขาครุ่นคิดและกล่าวว่า “พวกเจ้าแน่ใจหรือว่ามันจะผ่านมาทางนี้?”
“ท่านรองผู้บัญชาการโปรดสบายใจ เราได้ส่งคนไปสอดแนมแล้ว มันกำลังเดินทางเป็นเส้นตรงและต้องผ่านที่นี่อย่างแน่นอน! ”
“ท่านรองผู้บัญชาการ มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ข้าสงสัย สิบคนที่เราส่งไปมีเพียงสามคนที่ถูกฆ่าแทนที่จะตายกันทั้งหมด ดูเหมือนว่าเซียนคนนี้มีความแปลกประหลาดในการฆ่าคน”
ขณะที่แม่ทัพปิศาจกำลังพูดคุยกันอยู่ ท่าทีของชายวัยกลางคนพลันเปลี่ยนไป เขามองออกไปไกลและกล่าวอย่างเหลืออด “แค่เซียนบาดเจ็บสาหัสขั้นเทวะเพียงคนเดียวยังกล้ามาสร้างปัญหาในแคว้นปิศาจอัคคีของข้า? พวกเจ้าทุกคนต้องจบการต่อสู้ครั้งนี้ให้เร็วที่สุด! ”
แม่ทัพปิศาจมากกว่าสิบคนตกตะลึง ทั้งหมดหันสายตาเยือกเย็นมองไปบนฟ้าไกล คนผู้หนึ่งสวมชุดเกราะสีฟ้าเดินออกมาหาชายวัยกลางคนและกล่าวว่า “ท่านรองผู้บัญชาการ ข้าหยินตง ขออาสาไปฆ่ามัน!”
ชายวัยกลางคนพยักหน้า
แม่ทัพปิศาจหยินตงเปลี่ยนเป็นลำแสงสีเขียวและเหาะเหินตรงเข้าหาหวังหลิน
ดวงตาหยินตงเย็นเยียบและเผยจิตสังหารขึ้นทันที เขาต้องฆ่าคนผู้นี้อย่างสวยงามต่อหน้าท่านรองผู้บัญชาการ ถ้าสามารถดึงดูดความสนใจของท่านรองผู้บัญชาการได้ เขาจะอยู่บนเส้นทางแห่งความสำเร็จ!
“เซียนขั้นเทวะระดับต้นที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ฮึ่ม! พลังปิศาจของข้ามีเกือบประมาณสามแสนและแม้ว่าจะไม่มั่นใจในการต่อสู้กับเซียนขั้นเทวะของจริง แต่หากเจ้าบาดเจ็บสาหัส การจะฆ่าเจ้ามันก็ไม่ยากเย็นนัก! ”
“จิตสังหาร…” ขณะหวังหลินเหาะเหิน สายตาบรรจุจิตสังหารอันมากมายมหาศาลและเจตนาต่อสู้มีอยู่เต็มจิตใจ!
“ผู้เข้ามา จงหยุด!” หยินตงตะโกน เขาใช้พลังปิศาจทั้งหมดลงไปในเสียงตะโกนครั้งนี้เพื่อสร้างคลื่นสะท้อน
เสียงคำรามสนั่นราวกับเสียงฟ้าร้องดังกึกก้องไปทั่วทั้งเมือง จากนั้นทหารทั้งหมดหนึ่งแสนนายโผล่ออกมาและทั่วพื้นที่ล้อมรอบด้วยกลิ่นอายฆ่าฟัน
ชายวัยกลางคนกล่าวให้เห็นถึงความชื่นชมในความสามารถ “หยินตงคนนี้ไม่เลว เขารู้การใช้กลิ่นอายเพื่อกดดัน!”
หยินตงรู้สึกภูมิใจมากเมื่อสัมผัสกลิ่นอายฆ่าฟันในชั้นบรรยากาศได้ ทว่าเขากลับไม่รู้เลยว่ากลิ่นอายนี้จะนำพาประตูสู่ขุมนรกมาให้เขา!
กลิ่นอายฆ่าฟันอันหนาแน่นที่ถูกปล่อยออกมานั้นหวังหลินสามารถรับรู้ได้ทันที จิตสังหารนี้รุนแรงเกินไปและเมื่อวังหลินสัมผัสได้ จิตใจที่บ้าคลั่งและเจตนาต่อสู้ของเขาจึงทวีความรุนแรงขึ้นหลายเท่า
เขาไม่ได้หยุดลงและก้าวพุ่งออกมา หยินตงพ่นลมหายใจเย็นเฉียบและกำลังจะใช้วิชาบางอย่าง ทว่าในชั่วขณะนั้นหวังหลินก็เงยหน้าขึ้น ดวงตาสีแดงบ้าคลั่งเลื่อนมือขึ้นและชี้มาข้างหน้า ในพริบตาลำแสงสีดำที่สร้างจากดัชนีแห่งความตายก็พุ่งออกมา
หยินตงถูกล้อมด้วยลำแสงสีดำโดยไม่มีแม้แต่จะหลบ ร่างกายแห้งเหี่ยวและในที่สุดก็สลายลงไป
ในตอนนี้ เสียงตะโกนจากทหารปิศาจแสนนายที่อยู่บนพื้นพลันหายไป!
ความเงียบ ทั่วบริเวณถูกปกคลุมด้วยความเงียบ ชายวัยกลางคนลืมตาขึ้นมาทันทีและเป็นครั้งแรกที่เห็นสัญญาณเตือน
“ฆ่า!!” หวังหลินส่งเสียงคำรามออกมาในความเงียบ จากนั้นพลังสังหารหลายเส้นสายออกมาจากร่างกายและกลายเป็นมังกร พลังสังหารมากกว่าสามหมื่นเส้นปรากฏขึ้นเต็มท้องฟ้าในชั่วพริบตา หวังหลินล้อมรอบไปด้วยมังกรมากกว่าสามหมื่นตัวดุจเทพปิศาจกำลังจุติ
“หัวหน้าผู้บัญชาการทุกนายจงฟังคำสั่งและจัดเตรียมค่ายกล!” เสียงตะโกนดังออกมาจากชายชราหนึ่งในแม่ทัพปิศาจ ทำให้ทหารปิศาจแสนนายเคลื่อนไหวทันที!
ในขณะที่ทหารปิศาจทั้งแสนนายขยับเขยื้อน เส้นใยพลังสังหารทั้งสามหมื่นเส้นได้ปล่อยลงมา การนองเลือดกำลังจะเริ่มขึ้น!