648. มังกรสายฟ้าโบราณ
เมื่อใช้ปราณกระบี่เปิดเส้นทาง หวังหลินจึงใช้ความเร็วทั้งหมดเคลื่อนไหวดุจอุกกาบาตลงไปด้านล่าง เขาไม่ได้ไปพร้อมกับโจวยี่เพราะแม้กรีดจะมีสมบัติมากมาย โจวยี่ก็ไม่สามารถเอาชนะได้ง่ายๆ
สิ่งที่เขาต้องทำตอนนี้คือเปิดช่องให้ไกลที่สุดเท่าที่เป็นไปได้เพื่อยื้อเวลาจนกว่าโจวยี่จะมาถึง
“กรีดคนนี้มีสมบัติมากมายเกินไป ข้าไม่รู้ว่าเขาเก็บสมบัติอีกมากมายแค่ไหนในกระเป๋า แม้ผู้อาวุโสโจวยี่จะเอาชนะได้ข้ากลัวว่าคงต้องใช้เวลาอยู่บ้าง” หวังหลินขมวดคิ้ว ปราณกระบี่ทำลายการต่อต้านการลงไปด้านล่างของหวังหลินอย่างต่อเนื่อง
ด้านหลังเขา วิญญาณดวงที่สองของกรีดไล่ตามมาติดๆ วิญญาณดวงนี้เหมือนกับคนตัวเล็กที่สร้างขึ้นจากผลึก ทั้งยังมีแสงสายฟ้าสีดำล้อมรอบร่างไปด้วย
แรงต่อต้านจากด้านล่างถูกทำลายด้วยลูกแก้วสายฟ้า มันจ้องหวังหลินด้วยสายตาเรืองแสงเป็นประกาย ฝ่ามือของมันสร้างผนึกและตบลงไป
ลูกแก้วสายฟ้าเก้าลูกที่หมุนรอบตัวพลันเรียงกันขึ้นเหมือนกับด้ายลูกปัด แทงทะลุผ่านแรงต้านดุจลูกธนูออกจากแล่งตรงเข้าหาหวังหลิน
“สายฟ้า…” หวังหลินหันศีรษะกลับมาทันทีและตบกระเป๋า ราชรถสังหารเทพลอยออกมาพลันก่อเกิดเป็นลูกแก้วสายฟ้ากลางอากาศ มันขยายตัวออกอย่างรวดเร็วเปลี่ยนเป็นอสูรสายฟ้า!
อสูรสายฟ้าคืออสูรสายฟ้าแดนสวรรค์ หลังจากมันปรากฏตัวพลันพ่นลมหายใจออกเป็นควันสีเขียวสองเส้น สายตาแฝงประกายสายฟ้า ภายใต้การจดจ้องของมัน ไม่เพียงแต่ลูกแก้วสายฟ้าจะไม่ช้าลง มันกลับเร็วยิ่งกว่าเดิม
อสูรสายฟ้าอ้าปากและส่งเสียงคำราม ลูกแก้วสายฟ้าทั้งเก้าลูกสั่นสะท้าน แทนที่จะเข้าหาหวังหลิน พวกมันกลับเข้าหาอสูรสายฟ้าและถูกกลืนกินทันที
วิญญาณดวงที่สองของกรีดพลันเกิดดวงตาส่องสว่างขึ้น มันขยับร่างและสายฟ้าสีดำทั้งหมดรอบร่างกระหน่ำลงใส่หวังหลินและเจ้าอสูรสายฟ้า
ขณะเดียวกันมันก็ตะปบหน้าผากตนเอง ค้อนที่ปกคลุมไปด้วยสายฟ้าพลันปรากฏออกมา มันคว้าค้อนและกระแทกลงไปอีก
ตึงตัง ตึงตัง ตึงตัง!
เสียงคำรามสายฟ้าระเบิดพุ่งพล่านออกมาจากค้อนด้ามนั้น สายฟ้าเคลื่อนที่เสมือนมังกรกำลังตะปบบกรงเล็บเข้าใส่หวังหลิน
ดวงตาหวังหลินส่องสว่างและจับกระเป๋านำพู่กันสวรรค์ออกมา เขาสูดหายใจลึกและวาดออกไปด้านหน้าทันที สัญลักษณ์ห้าเส้นทึบปรากฏและหวังหลินแบ่งเศษดวงวิญญาณดั้งเดิมของตนเป็นห้าเส้นเข้าไปข้างในทันที
สัญลักษณ์สีทองปลดปล่อยแสงพร่ามัว หลังจากนั้นมันก็ส่องสว่างดุจดวงอาทิตย์ เมื่อเจ้ามังกรพุ่งเข้ามาถึง ทั้งสองด้านก็ชนกันกลางอากาศ
เกิดเสียงดังปังสะท้อนในหุบเหวนรก ทำให้ก้อนหินก้อนดินจำนวนมากตกลงจากหน้าผา แต่ก้อนหินพวกนั้นกลับถูกพลังต่อต้านผลักให้ขึ้นไป
ในเสี้ยววินาทีนั้นแม้แต่พลังต่อต้านที่ออกมาจากเบื้องล่างก็ชะลอตัวลงชั่วขณะ
สัญลักษณ์ได้แบ่งกลายเป็นเศษสัมผัสวิญญาณห้าส่วนและกลับคืนสู่ร่างหวังหลิน หวังหลินเกิดอาการโซเซและใบหน้าซีดเผือด เขาวาดขึ้นอีกครั้งโดยไม่หยุดชะงัก
มังกรสายฟ้านั้นไม่ได้เปลี่ยนไปเลย มันหยุดนิ่งไม่ไหวติงอยู่กลางอากาศ เมื่อแรงต้านทานผลักมันจึงเกิดรอยร้าวนับไม่ถ้วนและแตกสลายทันที
ส่วนอสูรสายฟ้านั้น ตอนที่ลูกแก้วสายฟ้าเข้ามาถึงมันจึงเปิดปากและอ้าปากกินลูกแก้วทีละลูกอย่างมีความสุข แม้แต่มังกรสายฟ้าที่กำลังแตกสลายยังถูกเจ้าอสูรสายฟ้าผ่านไปและกลืนกินทันที จากนั้นมันมองดวงวิญญาณของกรีดด้วยสายตาเย้ายวนก่อนจะติดตามหวังหลิน
สายตาของดวงวิญญาณกรีดพลันเต็มไปด้วยเจตนาเย็ยเยียบและเอ่ยเสียงแหบพร่า “เจ้าอสูรบัดซบ!”
เขาสะบัดค้อนสายฟ้าในมือและมันเริ่มเรืองแสงสีแดง พลันไล่ตามหลังหวังหลินอย่างรวดเร็วโดยที่ค้อนมีสีแสงสีแดงรุนแรงยิ่งขึ้น นที่สุดค้อนก็ปลดปล่อยเป็นแสงสีแดงโลหิต
ขณะที่หวังหลินกำลังหลบหนี เขาสัมผัสถึงสายฟ้าทรงพลังด้านหลังได้ทันทีจนแม้แต่เส้นผมบนหนังศีรษะยังเสียวแปลบ อสูรสายฟ้าเคร่งเครียดไปด้วย มันมองด้านหลังและร้องคำรามเสียงต่ำ
“วิญญาณดวงที่สองของกรีดคืออะไรกันแน่?” หวังหลินมีสีหน้ามืดมน การต่อต้านด้านล่างกำลังรุนแรงยิ่งขึ้นแต่ปราณกระบี่ของหลิงเทียนโฮวแข็งแกร่งมาก หวังหลินไม่ได้รับผลกระทบเลยเมื่อมีปราณกระบี่เปิดเป็นเส้นทางให้ เขาเคลื่อนตัวดุจสายฟ้าพุ่งลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็ว
วิญญาณดวงที่สองของกรีดไล่ตามหลังหวังหลินอย่างกระชั้นชิด
ระยะห่างระหว่างสองคนเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่องเมื่อพวกเขาพุ่งเข้าหาด้านล่าง ทว่ายิ่งพวกเขาเข้าใกล้มากเท่าไหร่ แรงต่อต้านก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น ท้ายที่สุดแล้วความเร็วของแต่ละคนก็ชะลอตัวลง
ดวงวิญญาณของกรีดเอ่ยขึ้น “สายฟ้าทำลายสวรรค์!” เขาสะบัดค้อนในมือและแสงสีแดงจากค้อนพุ่งออกไปดุจลำแสงสายฟ้า มันไม่ได้พุ่งเข้าหาหวังหลินหรืออสูรสายฟ้าแต่เจาะเข้าผนังของเหวนรกแทน
รูม่านตาหวังหลินหดลงและรู้สึกถึงหายนะทันที ในจังหวะนั้นเขาคว้าร่างอสูรสายฟ้าโดยไม่ลังเลและนำมันกลับเข้าไปในกระเป๋า ผนึกชีวิตทั้งหมดรวบรวมบนร่างกายและในเวลาเดียวกันก็นำหินหยกโลหิตจำนวนมากออกมาบดขยี้มันทั้งหมด
หินหยกโลหิตเหล่านี้มาจากเหยาซีเชว่ ตอนที่เขาบดขยี้ทั้งหมดจึงเกิดแสงสีแดงโลหิตหนาแน่นล้อมรอบกลายเป็นม่านปกป้องทีละชั้น
แทบในจังหวะที่หวังหลินทำทุกอย่างเสร็จสิ้น แสงสีแดงกระพริบวาบออกมาจากด้านข้างหน้าผา จุดสีแดงหลายจุดปรากฏอยู่บนผิวหน้าผาทันที
จุดพวกนี้ขยายขนาดขึ้น จากนั้นระเบิดออกมาจากผนังก่อเกิดเป็นตาข่ายสายฟ้าสีแดง!
สายฟ้าสีแดงล้อมรอบหวังหลินและแทงทะลุผ่านโล่ห์แสงโลหิตทันทีจนเกิดเสียงดังปัง! มันถูกผนึกชีวิตหยุดไว้และเกือบถึงหวังหลินแล้ว
หวงหลินมีสีหน้ายิ่งมืดมนขึ้นกว่าเดิม เขาตบกระเป๋านำกระบี่สามเล่มออกมา หลังจากผสานปราณกระบี่ของหลิงเทียนโฮวไว้ใส่พวกมัน หวังหลินจึงชี้ไปที่วิญญาณของกรีด กระบี่ทั้งสามเล่มพุ่งเข้าใส่ทันที
“เมื่อต้องการสู้ ข้าก็จะสู้!” หวังหลินไม่พยายามหลบหนีอีกต่อไป แม้เขาจะอยู่ใกล้เหวนรกอย่างมาก ทว่าแรงต่อต้านที่นี่มีมากมายเกินไปจนยากที่จะผ่านไปได้ เพิ่มกับเรื่องความโหดร้ายของวิญญาณดวงที่สองนี้ หวังหลินจึงโกรธเกรี้ยวออกมา
สามกระบี่พุ่งออกไปเป็นค่ายกล วิญญาณปิศาจแกะ หมู และหนูโผล่ออกมาและรวมเข้ากับปราณกระบี่ของหลิงเทียนโฮว พวกมันแทงทะลุผ่านตาข่ายสายฟ้าและปลดปล่อยปราณกระบี่หนาแน่นแทงเข้าใส่วิญญาณดั้งเดิมดวงที่สองของกรีด
วิญญาณดวงนั้นส่องแสงสว่างเจิดจ้าและสายตาเคร่งขรึม มันทุบค้อนกลางอากาศและมังกรสายฟ้าปรากฏขึ้นมาเริ่มหมุนวนรอบร่าง เมื่อสามกระบี่มาถึง วิญญาณปิศาจทั้งสามตัวลอยออกไปและต่อสู้กับเจ้ามังกรสายฟ้าตัวนั้น
กระบี่สามเล่มหมุนเป็นวงกลมและแทงเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง ทว่าพวกมันกลับถูกมังกรสายฟ้าขัดขวางเอาไว้และไม่สามารถแทงเข้าใส่วิญญาณดั้งเดิมที่เป็นเป้าหมายได้
หากไม่มีปราณกระบี่ของหลิงเทียนโฮวอยู่ที่นี่ วิญญาณดั้งเดิมของกรีดก็คงไม่ต้องระมัดระวังมากนัก ทว่าปราณกระบี่ในกระบี่สามเล่มนั้นทำให้เขาต้องระมัดระวังอย่างยิ่งและไม่ยอมให้ปราณกระบี่เข้ามาในร่างไปได้ เขาตัดสินใจที่จะใช้มังกรสายฟ้าเพื่อทำให้ปราณกระบี่อ่อนแอลง!
ร่องรอยหนึ่งค่อยๆปรากฏระหว่างคิ้วของดวงวิญญาณดั้งเดิม ร่องรอยนี้ลึกมากและกระพริบช้าๆ
หวังหลินปกคลุมไปด้วยแสงโลหิต เมื่อไร้ปราณกระบี่ของหลิงเทียนโฮว หวังหลินจึงสัมผัสแรงต้านอันทรงพลังที่อยู่เบื้องล่างได้ หวังหลินลอยตัวขึ้นไปโดยยืมพลังต้านจากเหวนรก เคลื่อนร่างด้วยความเร็วมากกว่าก่อนหลายเท่าตัว เคลื่อนผ่านตาข่ายสายฟ้าและพุ่งตรงเข้าใส่วิญญาณดั้งเดิมของกรีด!
แสงโลหิตส่วนใหญ่ที่ล้อมรอบร่างพลันแตกสลายทันที หวังหลินต้องบดขยี้หยกโลหิตอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ปกป้องตัวเอง
หากไม่มีแสงโลหิตเป็นโล่ห์ป้องกันไว้ เขาคงได้เผชิญหน้ากับบททดสอบแห่งชีวิตและความตายในตาข่ายสายฟ้านี้ได้แม้จะใช้ผนึกชีวิตหนึ่งล้านก็ตาม
“ตอนนั้นเทียนหยุนชุดเทาได้บอกว่าการป้องกันของผนึกชีวิตทรงพลังอย่างยิ่ง นี่เป็นเรื่องจริงเมื่อเผชิญกับวิชาธรรมดา แต่เมื่อเผชิญกับคนที่แข็งแกร่งมากกว่าข้า มันไม่เพียงพอ! หากศาสตร์สังหารเทพไม่สมบูรณ์ก็เป็นไปได้ว่าเทียนหยุนชุดเทาหลอกข้า!”
หวังหลินเห็นรอยระหว่างคิ้วของวิญญาณดั้งเดิมดวงที่สองได้ทันที!
“นั่นเป็นผนึกที่กรีดใช้ควบคุมวิญญาณดวงที่สอง ข้าต้องทำลายมัน!” สายตาหวังหลินส่องสว่างขึ้น ตาข่ายสายฟ้าหนาแน่นเกินไปและเมื่อเขาเคลื่อนไหวมันก็ขยับเข้ามาใกล้ทำให้ตาข่ายทรงพลังมากกว่าเดิม
แต่ทว่าในชั่วจังหวะนั้น ดวงตาของวิญญาณกรีดเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบ ตาข่ายสายฟ้ารอบตัวหวังหลินแคบลงทันที!
ลำแสงสายฟ้านับไม่ถ้วนเริ่มรวบรวมไปที่หวังหลิน!
ในจังหวะนั้นหวังหลินล้มเลิกการป้องกันของตนเอง ดวงตาแดงฉานและตะโกน “ก็ดี! วันนี้หากข้าไม่ฆ่าเจ้า ข้าก็ตาย!”
กระบี่สามเล่มขับเคลื่อนเร็วยิ่งขึ้น ราวกับมันสัมผัสจิตสังหารของหวังหลินได้ ปราณกระบี่ของหลินเทียนโฮวกระจายออกมาจากกระบี่สามเล่มนั้น
“หยุด!” เสียงคำรามดังออกมาจากหวังหลิน ในชั่วจังหวะนี้เองวิชาเทพยับยั้งได้ถูกหวังหลินใช้งานด้วยพลังเต็มที่!
แขนของวิญญาณดั้งเดิมดวงที่สองพลันชะงัก!
หวังหลินส่องสายตาเป็นประกายเจิดจ้าและตะโกน “ฆ่า!”
พริบตานั้นกลิ่นอายของกระบี่สามเล่มได้พุ่งขึ้นถึงขีดสุดและเคลื่อนผ่านเจ้ามังกรสายฟ้า แทงเข้าใส่วิญญาณดั้งเดิมดวงที่สองและแทงลงถึงร่างกายมัน!
ปราณกระบี่ของหลิงเทียนโฮวพุ่งเข้าใส่วิญญาณดวงที่สองโดยไม่มีความลังเลและเริ่มอาละวาดข้างในร่างวิญญาณเขา
วิญญาณดั้งเดิมดวงที่สองของกรีดเกิดการสั่นเทาและผนึกตรงระหว่างคิ้วกระพริบอย่างบ้าคลั่ง ผนึกกระจายออกมาทั่วร่างกายพยายามต่อต้านพลังทำลายล้างนี้
ในจังหวะนั้นตาข่ายสายฟ้าก็หดลงเข้าหาหวังหลินทันที หวังหลินพุ่งออกมาและจับกระเป๋านำเกราะมารปกคลุมร่างกาย พลังมารกระจายออกมาและหวังหลินยกนิ้วขึ้นในเสี้ยววินาที ดัชนีมารถูกใช้งานออกมาและเปลี่ยนปราณสวรรค์ในร่างให้กลายเป็นปราณปิศาจ
ขณะเดียวกันหวังหลินชี้อีกครั้งใช้ดัชนีนรกออกมา เมื่อดัชนีนรกปรากฏ แม่น้ำอเวจีก็ปรากฏออกมาด้วยพร้อมกับพุ่งออกไปด้วยกันกับดัชนี
ด้วยการช่วยเหลือของทั้งสองวิชา เพิ่มเติมกับพลังต่อต้านที่ช่วยให้เขาพุ่งขึ้นไปเร็วขึ้น หวังหลินจึงมาถึงด้านข้างวิญญาณดั้งเดิมของกรีดในทันที ประทับสองวิชาเข้าใส่เขา
ดวงตาหวังหลินแดงฉานและร้องตะโกน “จงระเบิดไปซะ!”
ผนึกระหว่างคิ้วของวิญญาณดวงที่สองกระพริบรุนแรง พยายามกลับคืนสู่ปกติ ทว่าสองวิชาของหวังหลินที่ประทับลงไปคือระเบิดอันร้ายแรง ดังนั้นผนึกจึงแตกสลาย!
เมื่อผนึกแตกสลาย วิญญาณดั้งเดิมดวงที่สองของกรีดก็เริ่มแตกสลายไปด้วยเช่นกันและเกิดรอยร้าวนับไม่ถ้วนบนร่างผลึก
แต่ว่าในจังหวะนั้นเองสีหน้าหวังหลินก็เปลี่ยนไป เขาเรียกกระบี่สามเล่มกลับคืนมาและรีบล่าถอย
กลิ่นอายโดดเดี่ยวกระจายออกมาจากรอยร้าวของวิญญาณดั้งเดิมดวงที่สองและเกิดกลิ่นอายเหนือจินตนาการรั่วไหลออกจากรอยร้าวนั้น มันคือกลิ่นอายของอสูร!
วิญญาณปิศาจสามตัวบนกระบี่สามเล่มเกิดการสั่นสะท้านทันที!
ณ ทางออกของเหวนรก กรีดที่กำลังต่อสู้กับโจวยี่เกิดการสั่นสะท้านรุนแรงและกระอักโลหิตออกมา เขามองด้านล่างด้วยท่าทางตกตะลึง
“นี่มัน…”
วิญญาณดวงที่สองของกรีดระเบิดเสียงดังปัง! แต่ในตอนที่มันแตกสลายนั้นลำแสงสีเขียวพุ่งออกมาจากระหว่างคิ้ว เป็นกลิ่นอายโดดเดี่ยวหนาแน่นกระจายออกมา
เมื่อแสงสีเขียวปรากฏมันก็ได้เปลี่ยนเป็นมังกรเขียว!
มีสายฟ้าหมุนวนไปทั่วร่างมังกรตัวนี้ดูน่าหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง! มันคือมังกรสายฟ้าโบราณที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เมื่อก่อนตอนที่กรีดยังเป็นเซียนขั้นพื้นฐานลมปราณ เขาตกลงไปในหน้าผาแห่งหนึ่งและพบกับมังกรสายฟ้าที่เป็นทารก เขาซ่อนมันไว้เป็นอย่างดีและเมื่อเผชิญกับอันตราย กลิ่นอายจากมังกรสายฟ้าจะปกป้องผู้เป็นเจ้านาย
หลังจากนั้นมา กรีดก็ได้ขโมยสมบัติไร้ค่ามากจากเมืองแห่งหนึ่ง ทว่าหลังจากค้นคว้าไปบางส่วนมันกลับไม่ใช่สมบัติไร้ค่าแต่เป็นปิศาจวิเศษโบราณ กรีดใช้มันเพื่อประทับและผนึกมังกรสายฟ้าเอาไว้จนมันไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้อีกเลยและหลงเหลืออยู่ภายใต้การควบคุมของเขา
จนเมื่อเขาบรรลุขั้นเทวะจึงเปลี่ยนมันเป็นวิญญาณดั้งเดิมดวงที่สอง ทว่าเขาไม่กล้ากระตุ้นมันมากเกินไปเกราะกลัวมันจะตื่นและหนีออกจากการควบคุมของเขา
มังกรเขียวลืมตาขึ้นมาและส่งเสียงคำรามของจริง!
ชั่วจังหวะนั้นท้องฟ้าพลันเปลี่ยนสีและก้อนเมฆได้รวมตัวกัน แม้แต่แรงต้านทานจากเหวนรกยังถูกผลักออกไป
หวังหลินเผยรอยยิ้มเจ็บปวด เขายืมพลังต่อต้านเพื่อผลักตัวเองให้ออกห่างและหนีให้ไกลจากมังกรเขียวตัวนี้!
“กรีด…กรีด…คนผู้นี้มีสมบัติมากมายอย่างแท้จริง แม้แต่วิญญาณดั้งเดิมดวงที่สองยังเป็นมังกร! เตาหลอมที่เทพโบราณตู่ซือซึ่งหวังหลินได้รับสืบทอดเมื่อตอนนั้นก็ยังตกอยู่ในกำมือเขา…ระดับบ่มเพาะของเขายังสูงส่งจนถือได้ว่าเป็นคนที่มีโชคแห่งสรวรค์โดยแท้!” หวังหลินยิ้มอย่างขื่นขม เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนที่กรีดมีอายุแปดขวบและยังไม่ได้เริ่มฝึกเซียนนั้น ขณะที่กำลังเล่นอยู่กลับพบผนึกแห่งโซโลมอนอายุห้าร้อยปี(เป็นต้นไม้ชนิดหนึ่ง) เขานำมันกลับมาที่บ้านและกินมันเข้าไปหลังจากที่มันเสียหาย ไม่เพียงแต่เขาไม่ถูกพลังข้างในกระตุ้นจนตาย แต่กลับได้วางรากฐานให้เขาเป็นเซียนขึ้นมา
ขณะที่เจ้ามังกรเขียวร้องคำราม สายตาเย็นเยียบกวาดผ่านพื้นที่และตกลงบนหวังหลิน ความเกลียดชังจากก่อนหน้านี้ยังคงมีเหมือนเดิม แม้ว่ามันพึ่งจะตื่นขึ้นมาแต่มันยังจำเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ร่างกายเปลี่ยนเป็นลำแสงสีเขียวและพุ่งเข้าใส่หวังหลินโดยตรง
หลังจากพุ่งลงไปที่ก้นเหวนรก หวังหลินจึงเป็นหลุมไร้ก้นบึ้งที่อยู่ตรงกลาง มีพลังดึงดูดกำลังออกมาจากหลุมและถูกปกคลุมในสายหมอก
เสียงคำรามของมังกรและกลิ่นคาวจากปากมันได้เข้ามาหาหวังหลินจากด้านหลัง หวังหลินเผยรอยยิ้มเจ็บปวดพร้อมกับจ้องหลุมไร้ก้นบึ้งไปด้วย เขากัดฟันแน่นและกระโดดเข้าไปในหลุมทันที
ในเสี้ยววินาทีนั้นเจ้ามังกรเขียวก็พุ่งออกมาขณะที่กำลังคำรามไปด้วย เจ้ามังกรพึ่งตื่นดังนั้นความคิดมันจึงยังตกอยู่ในสภาวะสับสน มันกระทำตามสัญชาตญานโดยสมบูรณืและเมื่อมันเห็นหวังหลินกระโดดเข้าไปในหลุม มันก็ตามเข้าไปด้วยโดยไม่มีความลังเล
พลังดึงดูดที่นี่แตกต่างจากข้างนอก มันรุนแรงกว่ามาก หวังหลินไม่ได้มาที่นี่เป็นครั้งแรกดังนั้นเขาจึงรู้เรื่องนี้ หลังจากกระโดดเข้าไปในหลุมจึงกระตุ้นพลังปราณสวรรค์ในร่างกายและพักใกล้กับด้านข้างหน้าผา