Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 668

Cover Renegade Immortal 1

668. เพราะเมื่อสี่ปีก่อน

*แก้คำ ขอแก้จากฟ้าคำรามเป็นอัสนีนะครับ ส่วนดินแดนสวรรค์อัสนีอีกแห่งเปลี่ยนเป็นดินแดนสวรรค์ประกายแสง*

หวังหลินกล่าวอย่างสุขุม “ข้าเตือนเจ้าก่อนแล้ว!” ในใจเขาแม้ว่าซุนซื่อจะมีระดับบ่มเพาะเดียวกันแต่หวังหลินไม่ถือว่าเท่ากับ ตามจริงแล้วหวังหลินไม่คิดว่าเซียนคนใดบนดาวรานหยุนเป็นภัยคุกคามเลย ยิ่งไปกว่านั้นซุนซื่อคนนี้ยังเข้ามาหาแม้จะมีคำเตือนจากเขาซึ่งหมายความว่าซุนซื่อมาเพื่อขอให้สนับสนุน ไม่อย่างนั้นซุนซื่อคงต้องลงโทษหรือไม่ก็สร้างปัญหาให้ในอนาคต

ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมน้ำเสียงหวังหลินจึงไม่สุภาพเลย

หวังหลินฝึกฝนเซียนมาเกือบพันปีและมีประสบการณ์ในชีวิตหลายอย่าง ส่วนใหญ่เมื่อท่านช่วยคนอื่น เขาจะช่วยท่านตอนที่ท่านอ่อนแอ แต่หากท่านช่วยเขาตอนที่พวกเขาอ่อนแอ พวกเขาจะช่วยท่านตอนที่ท่านแข็งแกร่งเช่นกัน

เช่นเดียวกันกับเด็กๆในหมู่บ้านของหวังหลิน คนอ่อนแอจะถูกแกล้ง ส่วนคนฉลาดจะแสดงความแข็งแกร่งของตนเองออกมาซึ่งเด็กคนอื่นที่แกล้งคนแข็งแกร่งหาได้ยากนัก

เหตุกาณณ์นี้เช่นเดียวกับตระกูลของหวังหลินเมื่อก่อน ความแข็งแกร่งและอ่อนแอไม่เคยเท่าเทียมกัน พวกมันแตกต่างกันดุจฟ้ากับเหว ทั้งยังเป็นรูปแบบทางความคิดอีกด้วย หากท่านอ่อนแอ คนอื่นจะแข็งแกร่ง หากท่านแข็งแกร่ง คนอื่นจะอ่อนแอ

หวังหลินฝึกฝนมาหลายปีจึงเข้าใจอะไรได้หลายอย่าง

ซุนซื่อขบคิด หลังจากนั้นสักพักพลันยิ้มขึ้น “เป็นเพราะข้าวู่วามไปหน่อย แต่ข้ามีสิ่งสำคัญอยากจะถามจึงได้รีบเร่งไปเล็กน้อย”

หวังหลินไม่ได้ตอบแต่เดินไปข้างหน้าต่อไป

ซุนซื่อกัดฟันและเอ่ยออกมา “พี่ซิ่ว หากท่านช่วยข้าครั้งนี้ ข้าสามารถใช้ทั้งตระกูลซุนเพื่อช่วยท่านฝึกฝน!”

หวังหลินเอ่ยอย่างใจเย็น “ตระกูลของเจ้าไม่พอสำหรับเซียนขั้นเทวะสองคนหรอก!”

แววตาซุนซื่อกลายเป็นเคร่งเครียดและเอ่ยขึ้น “พี่ซิ่ว ตระกูลข้าไม่สามารถช่วยเหลือเซียนเทวะสองคนได้ก็จริง แต่หากท่านช่วยข้า ข้าจะให้ตำแหน่งเข้าแดนสวรรค์อัสนีในอีกร้อยปีให้ท่าน!”

หวังหลินชะงักและมองด้านข้างซุนซื่อ เขาถอนสายตาและเดินต่อไปข้างหน้า

“ข้าเชื่อว่าพี่ซุนต่างก็รู้เรื่องแดนสวรรค์อัสนีแห่งดาราจักรทุกชั้นฟ้าจะเปิดขึ้น หม้ออัสนีทั้งหมดจะถูกใช้สำหรับเข้าแดนสวรรค์อัสนีต่างถูกหอเทพอัสนีควบคุมเอาไว้ เป็นไปไม่ได้ที่คนนอกจะได้รับมา มีแต่เพียงคนของดาราจักรทุกชั้นฟ้าและตระกูลที่บันทึกอยู่ในหอเทพอัสนีเท่านั้นที่จะได้รับตำแหน่งมา” ดวงตาของซุนซื่อครึ่งหลับครึ่งตืื่นราวกับพึ่งอธิบายรายละเอียดออกมา

มีน้อยคนนักที่บรรลุขั้นเทวะได้จะไม่เป็นคนเจ้าเล่ห์ ซุนซื่อคนนี้เป็นบรรพชนผู้ก่อตั้งของตระกูลดังนั้นจึงมีเล่ห์เหลี่ยมอย่างยิ่ง ก่อนหน้านี้ภายใต้แรงกดดันของหวังหลินเขากลับทำตัวอ่อนแอ แต่ตอนนี้เขาเริ่มโต้กลับแล้ว

การอธิบายนั้นได้ชี้ความสงสัยในประวัติของหวังหลินออกมาด้วย

หวังหลินยิ้มบาง “ตระกูลเจ้ามีผู้น้อยชื่อซุนเชว่ชาน เขายังสบายดีอยู่หรือไม่?”

ดวงตาของซุนซื่อเผยประกายแสงประหลาดและมองหวังหลินอย่างสื่อความหมาย จากนั้นยิ้มขึ้น “เชว่ชานฝึกฝนได้ดีแต่ยังไม่มีประสบการณ์เพียงพอ ข้าขอบคุณอย่างยิ่งที่พี่ซิ่วช่วยเขา”

สองรอยยิ้มส่งให้กันและถอนสายตาออกมา ความหวาดกลัวของซุนซื่อต่อหวังหลินยิ่งรุนแรงขึ้น เขาชำเลืองมองหวังหลินจากด้านข้างและถอนหายใจในใจ ‘ต้นกำเนิดของคนผู้นี้ลึกลับและวิธีคิดของเขาช่างลึกซึ้ง การสอดแนมของซุนซื่อหมิงก่อนหน้านี้ก็ถูกเขามองออกในทันที เขาสามารถสลายข้อสงสัยที่ข้าชี้ขึ้นมาด้วยการกล่าวถึงเชว่ชานได้ เขาได้เปลี่ยนรูปลักษณ์ไปแล้ว อย่างมากข้าเพียงแกล้งทำเป็นไม่รับรู้และไม่ขุดคุ้ยเรื่องนี้อีก อย่างไรก็ตามเขาเปิดใจรับด้วยตัวเองซึ่งน่าประหลาดนัก เห็นได้ชัดว่าเขาไม่กลัวว่าข้าจะรู้ ระดับบ่มเพาะของเขานับว่าสูงส่งไกล ไกลกว่าข้ายิ่งนัก คนเช่นเขาเป็นคนที่ตระกูลซุนต้องให้เป็นสหายและไม่ควรทำให้เป็นศัตรู’

“ดาวตงหลิน…หรือว่าเขามาจากดาวตงหลินจริงๆ…” ซุนซื่อขบคิดอย่างเงียบๆ

ซุนซื่อถามขึ้น “พี่ซิ่วพอใจกับข้อเสนอของข้าหรือไม่?”

“เราจะสนทนาเรื่องนี้กันทีหลัง ข้าต้องขอเวลาคิดอีกสักหน่อย” หวังหลินหลบเลี่ยงคำถามอย่างง่ายๆ

ซุนซื่อลอบถอนหายใจและไม่พยายามทดสอบหวังหลินอีก เขาเริ่มแนะนำดาวรานหยุนให้หวังหลิน ขณะที่ทั้งสองพูดคุย พวกเขาก็มาถึงอารามกองสมบัติที่อยู่ฝั่งตะวันออกของเมือง

วันนี้เป็นวันแห่งการประมูลของอารามกองสมบัติดังนั้นจึงมีเซียนจำนวนมากรวมตัวกันที่ด้านนอก มีคนมากกว่าสิบคนกำลังทำหน้าที่ต้อนรับและนำทางผู้คนไปตามระดับที่แสดงอยู่บนเหรียญทางเข้า

ขณะที่ซุนซื่อและหวังหลินใกล้เข้ามา ซุนซื่อหมิงที่รอคอยอยู่ข้างนอกอารามพลันรีบเดินเข้ามาหา เขาโค้งคำนับด้วยดวงตาเต็มไปด้วยความเคารพ “รุ่นที่สาม ซุนซื่อหมิง ขอคารวะท่านบรรพชนและผู้อาวุโสซิ่ว”

ซุนซื่อเผยความองอาจของตนเองต่อหน้าคนอื่น เขาไม่ได้พูดอะไรและพยักหน้า

ซุนซื่อหมิงมาถึงที่อารามกองสมบัติก่อนหน้านี้แล้ว แม้ว่าอารามแห่งนี้จะเป็นของตระกูลราน แต่ซุนซื่อหมิงเป็นผู้นำตระกูลซุนในเมืองแห่งนี้ดังนั้นสถานะของเขาจึงสูงกว่าเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ เขานำทางหวังหลินและซุนซื่อตรงไปที่ชั้นสี่แทนที่จะให้คนอื่นพาไป

ผู้เยาว์ชื่อลั่วที่ขัดขวางหวังหลินจากการเข้ามาก่อนหน้านี้กำลังพูดคุยกับลูกค้าคนอื่น เมื่อเขาเห็นหวังหลินนั้นจึงพลันเงยศีรษะขึ้นและตกตะลึงทันที แต่จากเขาเห็นซุนซื่อหมิงก็พลันตื่นตะลึงยิ่ง ส่วนซุนซื่อนั้นเขาไม่รู้ว่าเป็นใครแต่เมื่อสังเกตว่าซุนซื่อหมิงเคารพเป็นอย่างยิ่งแล้วก็พอเดาได้ว่าซุนซื่อเป็นคนที่มีสถานะสูงมากในตระกูลซุน

เมื่อเขามองหวังหลิน ผู้เยาวลั่วกลับรู้สึกว่าเขากำลังพลาดอะไรบางอย่างไป…

อารามกองสมบัติถูกแบ่งออกเป็นสี่ชั้น ชั้นที่สี่แบ่งออกเป็นหลายห้อง

ซุนซื่อและหวังหลินนั่งอยู่ในห้องแรกจากทางซ้าย ตำแหน่งดีเยี่ยมจึงสามารถเห็นการประมูลบนชั้นสองเพียงแค่ชำเลืองดูได้

ซุนซื่อหมิงยืนอยู่ด้านข้างอย่างเคารพนอบน้อม รอคอยคำสั่งของซุนซื่อ

ขณะที่หวังหลินเข้าไปเขาพลันเกิดความรู้สึกประหลาด ราวกับมีบางอย่างในใจเขากำลังสั่นไหว เมื่อเขากระจายสัมผัสวิญญาณออกไปพลันเห็นร่างชราผู้หนึ่งในชั้นสามได้ทันที

“เขานั่นเอง!” หวังหลินตกตะลึงและถอนสัมผัสวิญญาณออกมาทันที

ซุนซื่อมองหวังหลินและเอ่ยขึ้น “พี่ซิ่ว เม็ดยาระดับแปดนี้มีประวัติอยู่บ้าง เม็ดยาเม็ดนี้ไม่ได้มาจากดาวรานหยุนแต่มาจากเซียนต่างแดนที่บาดเจ็บหนักและหนีมาที่นี่ ข้า บรรชนตระกูลรานและจูชื่อช่วยกันขโมยมา เซียนคนนั้นจึงตายในมือบรรพชนตระกูลราน”

หวังหลินขมวดคิ้วจากนั้นชำเลืองซุนซื่อแต่ไม่ได้เอ่ยอะไร เขาไม่ได้ต้องการรู้ความลับเช่นนี้แต่ซุนซื่อก็ยังบอกเขา อาจจะมีความสัมพันธ์กับเรื่องที่ซุนซื่อต้องการให้เขาช่วย

ซุนซื่อแกล้งทำเป็นไม่เห็นสายตาของหวังหลินและเอ่ยต่อไป “เรื่องนี้มันเริ่มเมื่อสี่ปีก่อน เม็ดยาเม็ดนี้มีมูลค่าอย่างมากโดยเฉพาะกับเซียนขั้นเทวะเช่นพวกเรา มันไม่ได้มีเพียงหนึ่งแต่มีทั้งหมดห้าเม็ด ข้าและจูชื่อได้รับคนละเม็ด บรรพชนตระกูลรานเป็นเซียนขั้นเทวะระดับกลาง ดังนั้นจึงได้มาสามเม็ด”

หวังหลินมองไปที่ชั้นสองราวกับเขาไม่ได้ฟัง

ซุนซื่อไม่คิดมากและเอ่ยต่อไป “เม็ดยาพวกนั้นร้อนเล็กน้อย เราเห็นป้ายสิทธิ์ของตระกูลฮวนแห่งดาวพันมายาอยู่ในกระเป๋าของบรรพชนตระกูลรานที่ฆ่าไป…”

หวังหลินหันศีรษะกลับมามองซุนซื่อ “สหายเซียนซุน ข้าไม่ชอบฟังประวัติ”

ซุนซื่อยิ้มเล็กน้อย “พี่ซิ่ว หากข้าไม่บอกเรื่องนี้กับท่าน คนอื่นคงคิดว่าเมืองนี้เป็นของตระกูลซุน ทั้งเม็ดยานี้ยังมาถูกประมูลที่นี่ ข้าเชื่อว่าด้วยปัญญาของพี่ซิ่วแล้ว ท่านน่าจะทราบเหตุผล”

หวังหลินมีสีหน้าเป็นปกติ เขาสงสัยเรื่องนี้มาก่อนแต่เพราะเขาไม่เข้าใจดาราจักรทุกชั้นฟ้าดีจึงไม่คิดอะไรมาก แต่ตอนนี้ซุนซื่อชี้เรื่องนี้ออกมา สายตาจึงกวาดผ่านชั้นสองและเปลี่ยนเป็นเย็นชา

ซุนซื่อจ้องท่าทางของหวังหลินมาตลอด ขณะที่เขาเห็นสายตาเย็นชาของหวังหลินจึงรู้สึกโล่งอก เป้าหมายของเขาบรรลุแล้ว เขาไม่พูดอีกแต่รินชาให้ตัวเองและเริ่มดื่มมัน

แววตาเย็นชาของหวังหลินกระพริบแวบเดียวเท่านั้นก่อนจะเลือนหายไป มันจะมาประมูลที่นี่ได้อย่างไร? เว้นแต่เซียนขั้นเทวะระดับกลางของตระกูลรานจะอนุญาต ราคาของยาเม็ดนี้ต้องสูงเทียมฟ้าทั้งยังไร้ประโยชน์ต่อคนต่ำกว่าขั้นเทวะ ไม่เพียงแต่ไร้ประโยชน์ต่อคนส่วนมากแล้ว ใครกันที่จะฉลาดพอจะซื้อมัน

เซียนต่ำกว่าขั้นเทวะไม่สามารถกินเม็ดยาระดับแปดได้ หากกลืนกินมันก็เหมือนกลืนกินพิษ

เหตุผลที่เม็ดยาถูกประมูลที่นี่คือหวังหลิน เซียนตระกูลรานต้องการล่อลวงหวังหลินให้ซื้อยาเม็ดนี้

หวังหลินไม่รู้สึกประหลาดใจว่าเซียนตระกูลรานจะรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ นอกจากนั้นแล้วดาวดวงนี้ยังตามด้วยชื่อตระกูบราน หากพวกเขาไม่มีวิธีดีดีคงไม่สามารถรักษาสถานะของตระกูลมาได้ถึงปัจจุบัน

การได้เม็ดยานี้มาเท่ากับการลงขันเข้าร่วมก่อการร้ายเมื่อสี่ปีก่อน แม้เขาจะพยายามอธิบายมันให้ตระกูลฮวน มันก็ไร้ประโยชน์

“เจ้าเล่ห์ซะล้ำลึกอะไรกันนี่!” สีหน้าหวังหลินยังสงบนิ่งแต่จิตใจเฝ้าระวัง ไม่มีเซียนขั้นเทวะคนใดจะต่อกรได้ง่ายๆและไม่พบว่าตระกูลใดจะอ่อนแอ!

“ตระกูลรานควบคุมการประมูล ดังนั้นหากข้าไม่ซื้อมันก็ไม่มีคนอื่นซื้อยาเม็ดนี้ จากนั้นตระกูลรานจะหาวิธีอื่นลากเม็ดยามาให้ข้า”

การประมูลบนชั้นสองเริ่มขึ้น สมบัติวิเศษมากมาย วัตถุดิบและเม็ดยาเริ่มประมูลขึ้น

ซุนซื่อวางถ้วยชาลงและพึมพำกับตนเอง “น่าเสียดายนัก เมื่อสี่ปีก่อนคนผู้นั้นไม่มีเวลาบอกตัวตนของตนเองก่อนที่เราสามคนจะลอบโจมตีและฆ่าเขา หากเรารู้ว่าเขามาจากตระกูลฮวน เราคงไม่กล้าโจมตี” ”

“ตระกูลฮวนแห่งดาวพันมายาเป็นตระกูลที่เอาแต่ใจอย่างยิ่ง หากสมาชิกตระกูลจะถูกฆ่า ทุกคนที่เกี่ยวข้องจะถูกสังหาร แม้คนนั้นจะได้รับของมาจากตระกูลเขาผ่านการประมูล พวกเขาก็ยังกริ้วโกรธอยู่ดี”

“สิ่งที่ตระกูลฮวนต้องการคือสถานการณ์ที่แน่นอน แม้สิ่งนั้นจะมาจากกระเป๋าของสมาชิกตระกูลฮวนที่ถูกวางไว้เบื้องหน้าท่าน ท่านยังไม่กล้าเอามันมาและส่งมันคืนแทน ไม่เช่นนั้นท่านคงหวังแต่ว่าพวกมันจะไม่เจอท่านและท่านจะมีชีวิตอยู่ในความหวาดกลัวและกังวลอยู่ตลอดเวลา…น่าเสียดาย ข้ายังกลัวที่จะกลืนกินเม็ดยาที่ข้ามี…”

หวังหลินไม่ได้กล่าวอะไร สายตายังคงอยู่บนชั้นสอง

เสียงชายคนหนึ่งดังออกมาจากชั้นสอง “ของชิ้นต่อไปที่จะประมูลคือเม็ดยาระดับแปด เม็ดยานี้สามารถใช้ได้เฉพาะเซียนขั้นเทวะเท่านั้น หากใครที่ต่ำกว่าขั้นเทวะใช้มัน ร่างกายจะระเบิดและตายในทันที การประมูลจะเริ่มขึ้นด้วยหินหยกสวรรค์หมื่นก้อน…”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!