Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 702

Cover Renegade Immortal 1

702. หุบปาก

หัวใจหวังผิงรู้สึกขมขื่นยิ่งกว่าเดิม ฉิงยี่กุมมือเขาอยู่ข้างๆ ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและพลันเอ่ยออกมา “ไม่ต้องห่วง ไม่ว่าเจ้าจะเป็นอะไร ข้าจะไปกับเจ้าด้วย”

หวังผิงขบคิดเงียบๆและพยักหน้า

ผู้ส่งสาส์นจ้องหวังหลินด้วยใบหน้ามืดมน “ข้าจะให้เจ้ารู้ว่าผู้ส่งสาส์นตัวจริงของอารามเทพอัสนีคืออะไร!” พลันยกแขนขึ้นชี้ไปที่ท้องฟ้าและตะโกนออกมา “อสูรสายฟ้าสรรค์!”

สายฟ้าจำนวนมากมายออกมาจากทั่วทิศทางและดูเหมือนยึดครองทั้งน่านฟ้า สายฟ้าควบแน่นอย่างบ้าคลั่งกลายเป็นทรงกลมยักษ์เหนือผู้ส่งสาส์น

จากนั้นเกิดเสียงดังสนั่นกึกก้องไปทั่วดวงดาว เต็มไปด้วยความทรงอำนาจที่สั่นสะเทือนจิตใจผู้คนที่ได้ยิน

ขณะนั้นเหล่าเซียนที่ดิ้นรนภายใต้สัมผัสวิญญาณของผู้ส่งสาส์นต่างก็ได้ยินเสียงดังสนั่นกันทั้งหมด พลังปราณในร่างกายพุ่งพล่านและเกือบไม่สามารถควบคุมได้

ทรงกลมสายฟ้าสั่นเทาก่อนจะหดลงจนกลายเป็นอสูรสายฟ้าชั้นสูงและพิเศษยิ่ง!

อสูรสายฟ้าตัวนี้ระยิบระยับ มีสายฟ้าสองเส้นปล่อยออกมาจากรูจมูกสองข้าง ดวงตากลมโตเผยความหยิ่งทระนงราวกับมันสูงส่งที่สุดในโลก

ทว่าในขณะที่มันมองหวังหลิน มันก็ตกตะลึงและเผยร่องรอยความสับสน

ผู้ส่งสาส์นมองหวังหลินและเอ่ยอย่างสุขุม “เป็นเพราะอสูรสายฟ้าเท่านั้นถึงจะถูกเรียกว่าผู้ส่งสาส์แห่งอารามเทพอัสนี บทลงโทษในการอ้างตัวเป็นผู้ส่งสาส์นคือการทำลายล้างทั้งตระกูล!”

หวังหลินชำเลืองมองอสูรสายฟ้าและเอ่ยขึ้นมา “มันไม่อาจเรียกว่าเป็นอสูรสายฟ้าได้เพราะมันไม่มีเขาสายฟ้า!” หวังหลินตบกระเป๋านำราชรถสังหารเทพออกมาและเปลี่ยนกลายเป็นสายฟ้าจำนวนมาก!

กลิ่นอายทำลายล้างที่สามารถทำลายล้างโลกได้เริ่มแพร่กระจายออกมา จากนั้นอสูรตัวใหญ่ยักษ์ค่อยๆเดินออกมาจากสายฟ้า

มันดูเหมือนกิเลนแต่ไม่ใช่กิเลน บนศีรษะของมันมีเขาสีเงินที่ปลดปล่อยเสียงสายฟ้าแตกร้าวอย่างต่อเนื่อง!

ขณะที่มันออกมา ผู้ส่งสาส์นพลันมีสีหน้าเปลี่ยนไป นี่เป็นเรื่องที่ทำให้จิตใจมันตื่นตะลึงมากที่สุดตั้งแต่มาที่ดาวรานหยุน เรื่องตกตะลึงทั้งหมดนั้นกลับทำให้เขาทำได้แค่เพียงจ้องอสูรเบื้องหน้าและไร้คำพูดออกมาจากปาก

อสูรสายฟ้าจากอารามเทพอัสนีที่อยู่เหนือเขาได้ปลดปล่อยสายฟ้าออกมาทั่วร่างกายเช่นกัน มันกระทืบกีบเท้าทั้งสี่ไปบนพื้นทำให้ดูน่าดุดันอย่างยิ่ง

อสูรจากราชรถสังหารเทพเงยศีรษะมันขึ้นมาและกู่ร้องคำรามทั่วท้องฟ้า

เสียงสายฟ้ากึกก้องออกมาจากท้องฟ้าและลำแสงสายฟ้าหลายเส้นตกลงมา นี่มันไม่ใช่ทัณฑ์สวรรค์แต่เป็นวิชาของอสูรสายฟ้า

เจ้าอสูรสายฟ้าจากอารามเทพอัสนีปลดปล่อยสายฟ้าออกมาจากจมูกราวกับมันไม่สามารถทนต้านได้เลยและเริ่มคำรามขึ้นมาด้วย

สายตาอสูรสายฟ้าของหวังหลินเปลี่ยนเป็นเยือกเย็น เมื่ออสูรสายฟ้าสองตัวเจอหน้ากันราวกับว่าเจ้านายพวกมันไม่สามารถหยุดได้ พวกมันจะเริ่มต่อสู้ห้ำหั่นกันจนถึงตาย ซึ่งแตกต่างอย่างยิ่งกับอสูรสวรรค์ชนิดอื่น

ลำแสงสายฟ้าหนึ่งปรากฏอยู่ใต้เท้าของอสูรสายฟ้าหวังหลิน มันพุ่งตรงเข้าใส่อสูรสายฟ้าอีกฝ่ายโดยไม่ลังเลใดๆ

อสูรสายฟ้าตัวนั้นเผยร่องรอยตื่นตระหนก สายเลือดของมันไม่ได้บริสุทธิ์ทั้งยังรู้สึกว่าสายฟ้าของอีกฝ่ายทรงพลังอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามเกียรติภูมิของมันออกมาจากวิญญาณจึงทำให้มันปฏิเสธการยอมรับ จนมันส่งเสียงคำรามออกมาอีกและพุ่งเข้าใส่โดยไม่สะทกสะท้าน

สายฟ้าระเบิดออกมาดังกึกก้องข้ามผ่านไปทั่วดินแดนโดยมีอสูรสายฟ้าสองตัวเริ่มต่อสู้อย่างโหดเหี้ยม

ตอนนี้ราวกับทั้งโลกกำลังสั่นเทาและทุกอย่างหมองลง

“นี่…นี่มัน…อสูรสายฟ้าเขาเงิน!!!” สายตาของผู้ส่งสาส์นตกลงไปบนเขาสีเงินบนอสูรสายฟ้าของหวังหลินและดวงตาเต็มไปด้วยอาการตกใจ

“มีอสูรสายฟ้าและยังรอบรู้วิชาสายฟ้าเป็นอย่างดี…” ใบหน้าผู้ส่งสาส์นเต็มไปด้วยความขมขื่น หากเขาไม่ถูกส่งการมาที่นี่และแน่ใจว่าไม่มีผู้ส่งสาส์นจากอารามเทพอัสนีมาที่นี่เมื่อเจ็ดสิบปีก่อน เมื่อนั้นเขาก็คงคิดเช่นกันว่าหวังหลินเป็นผู้ส่งสาส์นแห่งอารามเทพอัสนี!

อารามเทพอัสนีมีอสูรสายฟ้าเขาเงินอยู่บ้างแต่มีน้อยมากและทุกตัวต่างอยู่ในมือของผู้ส่งสาส์นระดับสวรรค์ หากเขาสามารถได้อสูรสายฟ้าเขาเงินสักตัว สถานะของเขาในอารามเทพอัสนีจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

เมื่อมองเขาบนอสูรสายฟ้า แววตาจึงแฝงร่องรอยแห่งความโลภ จากนั้นมองตรงไปที่หวังหลิแนละไม่มีอาการลังเลใดๆ ฝ่ามือสองข้างสร้างผนึกและม้วนเข้าหากัน จากนั้นดึงออกมาสร้างเป็นกระบี่สายฟ้าสีเงิน

ขณะที่สายฟ้าเคลื่อนผ่านกระบี่ ฝ่ามือขวาผู้ส่งสาส์นพลันสร้างผนึกและชี้ไปที่หุ่นเชิด กระบี่ยาวสีเงินพุ่งออกไปเข้าหาหุ่นเชิดองครักษ์เทพ

“ตราบใดที่ข้าฆ่าคนผู้นี้ อสูรสายฟ้าที่ไร้เจ้าของจะตกเป็นของข้า!” หลังผู้ส่งสาส์นโยนกระบี่เหินออกไป เขาก็พุ่งตัวออก กางแขนทั้งสองข้างและตะโกน “ทัณฑ์แดนสวรรค์อัสนี!”

ลำแสงสายฟ้าสีม่วงปรากฏในฝ่ามือและเปลี่ยนเป็นตาข่าย ส่งเสียงดังสนั่นออกมาพร้อมกับลอยเข้าหาหวังหลิน

หวังหลินสีหน้าเรียบเฉยแต่รูม่านตาหดลงเล็กน้อย ผู้ส่งสาส์นคนนี้คู่ควรที่จะเป็นเซียนขั้นมายาหยิน ไม่เพียงแต่ร่างกายจะเต็มไปด้วยปราณสวรรค์แต่การควบคุมสายฟ้าก็ยังน่าตกใจ!

“ข้ากลัวว่าเขตแดนของคนผู้นี้จะเกี่ยวข้องกับสายฟ้าด้วย!” แววตาหวังหลินเยือกเย็นพลันสัมผัสกระเป๋านำพู่กันสวรรค์สีทองออกมา

หวังหลินโบกสะบัดพู่กันอยู่กลางอากาศและสัญลักษณ์หนึ่งปรากฏขึ้น เขาวาดด้วยความรวดเร็วและวาดจนเสร็จทั้งเจ็ดเส้นทึบในทันที!

เจ็ดเส้นถือเป็นขีดจำกัดของเขา! หวังหลินแบ่งวิญญาณดั้งเดิมลงไปในแต่ละเส้นด้วยดังนั้นเขาจึงได้แบ่งวิญญาณดั้งเดิมออกไปเจ็ดครั้ง

หลังจากวิญญาณดั้งเดิมของหวังหลินดูดซับมังกรสายฟ้าโบราณเข้ามา มันจึงเปลี่ยนไป ตอนนี้วิญญาณดั้งเดิมเจ็ดส่วนของหวังหลินอยู่ในสัญลักษณ์ ซึ่งมันไม่ได้เรืองแสงสีทองแต่อย่างใดแต่กลับเรืองแสงสีขาวที่เต็มไปด้วยสายฟ้า!

ไม่เพียงแค่มันจะปลดปล่อยแรงกดดันของทวยเทพ แต่มันยังปลดปล่อยแรงกดดันของสายฟ้าสวรรค์ได้เป็นอย่างดี! ขณะที่สัญลักษณ์เสร็จสมบูรณ์มันยังมีเสียงแตกร้าวจากสายฟ้าเคลื่อนผ่านไปด้วย

พลังทำลายล้างเหนือจินตนาการระเบิดออกมาดุจพายุโหมกระหน่ำในตัวสัญลักษณ์นี้!

แรงกดดันนี้คืออำนาจที่แท้จริงของสายฟ้าสวรรค์ ไม่ใช่สิ่งที่วิชาสายฟ้าดาษดื่นจะเทียบได้ เมื่ออำนาจสายฟ้าสวรรค์ได้ปรากฏ แม้แต่อสูรสายฟ้าสองตัตวที่กำลังต่อสู้กันอยู่ไม่ไกลก็ยังหยุดชะงักและมองข้ามมา แต่ละตัวตระหนักถึงสายฟ้าได้พวกมันจึงรู้สึกว่าสายฟ้านั้นบรรจุร่องรอยสายฟ้าสวรรค์โบราณเอาไว้!

สายฟ้าสวรรค์โบราณนี้มาจากเจ้ามังกรสายฟ้าโบราณซึ่งครั้งนึงมันควบคุมสายฟ้าแห่งสรวงสวรรค์และได้รับพลังอำนาจการควบคุมสายฟ้าสวรรค์มา หลังจากหวังหลินกลืนกินมังกรสายฟ้าโบราณเข้าไป มันคงค่อยๆผสานเข้ากับวิญญาณดั้งเดิมของเขาและทำให้หวังหลินได้รับพลังอำนาจนั้น

จึงกล่าวได้ว่าสายฟ้าจากวิญญาณดั้งเดิมหวังหลินเป็นสายฟ้าที่อยู่เหนือสายฟ้าใดในโลก หากผู้ส่งสาส์นใช้วิชาอื่นก็คงดี แต่เมื่อเขาเผชิญหน้ากับหวังหลินที่ใช้วิชาสายฟ้าด้วยกัน ไม่มีทางที่เขาจะเอาชนะได้!

แม้ระดับบ่มเพาะจะสูงกว่า มันยังไม่ได้สูงเพียงพอ เขาต้องก้าวข้ามสู่ขั้นที่สองจริงๆถึงจะเอาชนะได้!

หวังหลินเหนือกว่าแน่นอนเมื่อมีสายฟ้า ไม่มีวิชาสายฟ้าใดในโลกที่จะสามารถทำร้ายหวังหลินได้!

อีกนัยหนึ่ง หวังหลินคือมังกรสายฟ้าที่มีชีวิต!

หลังวาดสัญลักษณ์เจ็ดเส้น พู่กันก็เตะสัญลักษณ์เบาๆและลอยเข้าใส่ผู้ส่งสาส์น

สีหน้าท่าทางผู้ส่งสาส์นพลันมืดมัว เขากัดฟันแน่นผลักสายฟ้าในฝ่ามือให้ปะทะกับสัญลักษณ์

ตู้มมมมม!

สัญลักษณ์พังทลาย พัดพาเอาพลังไร้ขีดจำกัดพร้อมกับวิญญาณดั้งเดิมเจ็ดส่วนของหวังหลินตรงประทับใส่ผู้ส่งสาส์น ลำแสงสายฟ้าสีม่วงในมือเขาพลันแตกสลายทันที เขาพ่นโลหิตคำโตออกมาจากปากก่อนจะล่าถอย

ตู้มมมม ตู้มมมม ตู้มมมม ตู้มมมม! ทุกการระเบิดคือเสี้ยววิญญาณดั้งเดิมของหวังหลินที่สะท้อนอยู่ในร่างผู้ส่งสาส์น เขากระอักโลหิตออกมาอย่างต่อเนื่องพร้อมกับล่าถอยกลับไป

เมื่อวิญญาณดั้งเดิมสะท้อนจนจบ ใบหน้าผู้ส่งสาส์นซีดเผือดและถอยไปกว่าร้อยฟุต แววตาตกตะลึงมหาศาล

นี่คือครั้งแรกในชีวิตเขาที่พ่ายแพ้ต่อวิชาสายฟ้า กระทั่งรู้สึกว่าหากเปรียบเทียบตัวเองกับศัตรูแล้ว ซิ่วมู่คนนี้คือผู้ส่งสาส์นแห่งอารามเทพอัสนีตัวจริงและเขาคือตัวปลอม

สัมผัสความงุนงงนี้ทำให้เขาต้องสูดหายใจลึก แววตายิ่งมืดมนกว่าเดิม

หวังหลินถอนหายใจอยู่ในใจ ผู้ส่งสาส์นคนนี้เป็นเซียนขั้นมายาหยินจริงๆ หลังจากถูกสัญลักษณ์เข้าปะทะ เขาเพียงแค่ได้รับบาดเจ็บเท่านั้นกระทั่งแกนพลังยังไม่ได้รับผลกระทบ

ปราณสวรรค์ของอีกฝ่ายแข็งแกร่งเกินไปและมีร่องรอยของพลังดั้งเดิมผสมอยู่ด้วย เมื่อสายฟ้าหวังหลินเข้าไปในร่างผู้ส่งสาส์น มันได้ถูกพลังสายนี้สลายอย่างต่อเนื่อง

“เจ้าแข็งแกร่งมาก! ข้าเดาว่าเจ้าอยู่อย่างโดดเดี่ยวในดาวรานหยุนเพื่อรู้แจ้งเขตแดนของตนเอง หากข้าให้เวลาเจ้าอีกร้อยปี บางทีเจ้าอาจจะแข็งแกร่งมากกว่าข้า หากเจ้ามีระดับเดียวกันกับข้า ข้าคงตายโดยไม่ต้องสงสัย แต่น่าเสียดายที่ระดับบ่มเพาะของเจ้าหยุดอยูที่ขั้นแรก!” ผู้ส่งสาส์นสูดหายใจลึกและอาการบาดเจ็บทั้งหมดฟื้นฟูทันที

อย่างไรก็ตามหวังหลินรู้สึกได้ชัดเจนว่าพลังดั้งเดิมในร่างกายอีกฝ่ายลดลงเล็กน้อย

ผู้ส่งสาส์นกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ข้าจะถามเจ้าอีกครั้ง ส่งอสูรสายฟ้าเขาเงินและหุ่นเชิดมา จากนั้นข้าจะปล่อยเจ้าไป! ไม่เช่นนั้นวันนี้เจ้าจะต้องตายแน่นอน! วิชาที่ข้าใช้เป็นแค่วิชาธรรมดา แต่หากเจ้ายังดื้อดึง ข้าจะใช้วิชาพลังดั้งเดิมเฉพาะของเซียนระดับสอง เจ้าไม่อาจต่อต้านได้!”

หวังหลินใช้มือขวาสัมผัสกระเป๋านำกระบี่เล่มใหญ่ไว้ในมือ เขาเอ่ยขึ้น “โจมตีมา ให้ข้าได้สัมผัสวิชาพลังดั้งเดิมของเซียนขั้นมายาหยิน!”

ไม่ว่ามันจะเป็นบรรพชนตระกูลฮวน เฉียนกุ้ยซื่อหรือผู้ส่งสาส์น หวังหลินพบว่ามีสิ่งหนึ่งที่พวกเขาทั้งสามมีกันนั่นก็คือพลังดั้งเดิม!

เห็นได้ชัดว่าพลังดั้งเดิมนี้คือกุญแจสำคัญของเซียนที่จะก้าวข้ามผ่านระดับสอง!

การต่อสู้ครั้งนี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นการต่อสู้ส่วนตัวครั้งแรกของหวังหลินกับเซียนขั้นมายาหยิน ความสามารถในการฟื้นฟูอันทรงพลังของเซียนขั้นมายาหยินได้ทำให้จิตใจหวังหลินมืดมน

สายตาผู้ส่งสาส์นกวาดผ่านหวังหลินและตกลงบนหวังผิงและฉิงยี่ แววตาเผยประกายแสงลึกลับและเอ่ยขึ้นมา “เจ้าล้มเลิกการรู้แจ้งเขตแดนเพื่อการตายของคนคนเดียว เรื่องนี้ทำให้ข้างุนงงอย่างยิ่ง!”

หวังหลินพลันเงยหน้าขึ้นเผยสายตาแดงฉาน เขายกกระบี่ในมือขึ้นมาและเอ่ยอย่างเย็นเฉียบ “หุบปาก!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version