703. วิชาของระดับสอง
ดวงตาผู้ส่งสาส์นส่องสว่างขึ้น เป็นครั้งแรกที่เขาใช้วิชาโดยที่สายตายังมองหวังผิง
ภายใต้สายตานี้ ร่างหวังผิงรู้สึกเย็นเฉียบ ราวกับร่างกายไม่มีความลับอะไรและถูกอีกฝ่ายมองทะลุหมดจด
พลังอำนาจของหวังหลินได้แตะเส้นกั้นของผู้ส่งสาส์น เขาไม่ได้ต้องการใช้วิชาพลังดั้งเดิมเว้นแต่จะเป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะพลังดั้งเดิมมีน้อยเกินไป
ด้วยระดับบ่มเพาะของเขา เขาจะไม่ยอมใช้วิชาดั้งเดิมเลยเว้นแต่จะถึงสถานการณ์ความเป็นความตาย ยิ่งเขาใช้มากขึ้นเขาก็ยิ่งต้องอยู่ในขั้นมายาหยินนานขึ้น หากเขาไม่สามารถทะลวงระดับไปได้หลังหนึ่งพันปี ระดับบ่มเพาะของเขาจะไม่ก้าวหน้าอีกตลอดชีวิต
เขาเหลือเวลาน้อยกว่าสามร้อยปีแล้ว ดังนั้นจึงจะไม่ยอมใช้วิชาพลังดั้งเดิมอย่างลวกๆได้
สิ่งที่เขากลัวมากที่สุดคือสายฟ้าของหวังหลิน ผู้ส่งสาส์นสรุปได้ว่าสายฟ้าอีกฝ่ายสัมพันธ์กับเขตแดน หากเขาสามารถทำลายเขตแดนของคนผู้นี้ได้ บางทีเขาอาจเอาชนะได้โดยไม่ต้องใช้วิชาพลังดั้งเดิม
“มาให้ข้าดูอีกครั้ง! เดิมทีมันเป็นวิญญาณอาฆาต ข้าคิดว่ามันมีปัญหาบางอย่าง คนธรรมดาจะสามารถต้านทานสัมผัสวิญญาณของข้าได้อย่างไร? ตอนแรกข้าคิดว่ามันคือหุ่นเชิด แต่ดูเหมือนว่าข้าจะผิดพลาด…” ผู้ส่งสาส์นหัวเราะ คำพูดแฝงเจตนาชั่วร้าย ทว่ารูม่านตาเขาหดลงและหยุดคำพูดไป สายตามองไปหาหวังผิงพร้อมกับเผยสัมผัสแห่งความหวาดกลัวรุนแรง
“นี่…นี่มันปราณกระบี่…ปราณกระบี่ช่างน่าหวาดกลัว!” ผู้ส่งสาส์นอ้าปากค้างและล่าถอยทันทีทั้งที่ศีรษะยังด้านชา วิชานั้นทำให้เขาสามารถเห็นปราณกระบี่สองสายในร่างหวังผิงได้!
“คนบ้า! นี่มันคนบ้าชัดๆ! เขาใช้ปราณกระบี่เพื่อสร้างเลือดเนื้อให้กับแค่เศษดวงวิญญาณ ข้ามิอาจต่อสู้ได้ ข้าต้องรีบถอย!” ร่างผู้ส่งสาส์นสั่นเทาและรีบถอยเข้าหาอสูรสายฟ้าโดยไม่ลังเล
ปราณกระบี่สองสายในตัวหวังผิงทำให้เขาตื่นตระหนกโดยสิ้นเชิง!
หวังผิงครุ่นคิดพร้อมกับจ้องมองแผ่นหลังของผู้เป็นพ่ออย่างเงียบๆ เขาไม่ได้พูดอะไรเป็นเวลานาน
หวังหลินดวงตาแดงฉานจ้องไปที่ผู้ส่งสาส์นที่พยายามหลบหนี หากไม่ใช่เพราะว่าปราณกระบี่ของหลิงเทียนโฮวไม่ได้อยู่ในร่างกายตนเอง เขาคงปลดปล่อยมันทั้งหมดเพื่อฆ่าคนผู้นี้ไปแล้ว
ขณะนั้นหวังหลินสะบัดแขนและสับลงมาโดยไม่ลังเล! พลังดั้งเดิมส่วนหนึ่งผสานเข้ากับวิญญาณดั้งเดิมเข้าไปในกระบี่
ขณะที่ผู้ส่งสาส์นล่าถอย ใบหน้าก็เปลี่ยนอีกครั้ง เขารู้สึกถึงกลิ่นอายน่าหวาดกลัวตกลงมาจากสวรรค์
“วิชาพลังดั้งเดิม! เจ้าใช้วิชาพลังดั้งเดิมได้อย่างไรกัน!?” ขณะนั้นสัมผัสถึงช่วงวิกฤตความเป็นความตาย ผู้ส่งสาส์นด้อยกว่าบรรพชนตระกูลฮวน นอกจากนั้นแล้วเดิมทีระดับของบรรพชนตระกูลฮวนคือขั้นส่องสวรรค์ระดับต้น แม้ว่าระดับบ่มเพาะของเขาจะตกลงมาก็ยังทรงพลังมากกว่าเซียนขั้นหยินหยางมากมายนัก
เมื่อสัมผัสถึงช่วงเวลาวิกฤต ดัชนีจึงชี้ระหว่างคิ้ว ดวงตาปลดปล่อยแสงสีขาวอ่อนโยนออกมา มันบรรจุเศษเสี้ยวพลังงานดั้งเดิมเอาไว้ ในวินาทีนั้นเสี้ยวพลังดั้งเดิมก็ออกมาจากร่างผู้ส่งสาส์นและพุ่งออกมาจากศีรษะ
ทั้งดาวเคราะห์สั่นสะท้าน มีกลิ่นอายจางๆที่มองเห็นได้เต็มไปทั่วดวงดาว ใบหน้าผู้ส่งสาส์นซีดอย่างยิ่ง เห็นได้ชัดว่าการใช้วิชาพลังดั้งเดิมเป็นภาระอย่างยิ่งต่อเขามาก
ผู้ส่งสาส์นร้องตะโกน “เตาหลอมสายฟ้าพลังดั้งเดิม!” พลังดั้งเดิมออกมาจากศีรษะเขามากขึ้นและจากนั้นโลกก็เปลี่ยนไป!
นี่คือการเปลี่ยนแปลงของจริง ไม่ใช่เพียงแค่ภาพมายา ท้องฟ้าค่อยๆตกลงมาและทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มต่ำลง
พื้นดินเริ่มยืดขึ้น เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นขณะที่พื้นใต้ผู้ส่งสาส์นสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง
ฟ้าดินเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงในเสี้ยววินาที ตอนนี้ไม่มีท้องฟ้าหรือพื้นดินอีกแล้ว มีเพียงเตาหลอมสีฟ้าขนาดใหญ่!
ท้องฟ้าและผืนดินเปลี่ยนกลายเป็นเตาหลอมยักษ์! ท้องฟ้าคือฝาครอบขณะที่พื้นดินเป็นลำตัว! นี่คือวิชาพลังดั้งเดิม!
อสูรสายฟ้าจากอารามเทพอัสนีส่งเสียงร้องคำราม มันลากร่างกายที่บาดเจ็บเปลี่ยนกลายเป็นลำแสงสายฟ้าร่อนลงไปบนเตาหลอม ในไม่นานนักสัญลักษณ์นับไม่ถ้วนพลันค่อยๆปรากฏบนเตาหลอมที่เดิมทีว่างเปล่า
พวกมันเป็นสัญลักษณ์รูปอสูรสายฟ้า!
“ซิ่วมู่ นี่คือวิชาพลังดั้งเดิมของข้า! มาดูกันว่าวิชาไหนของเราจะอยู่รอด!” เมื่อโลกได้เปลี่ยนเป็นเตาหลอม ขณะนั้นน้ำเสียงของผู้ส่งสาส์นก็เหมือนกับอำนาจแห่งสวรรค์
สายฟ้าดังสนั่นอยู่ข้างในเตาหลอมยักษ์และเกิดลำแสงสายฟ้านับไม่ถ้วนปรากฏอยู่ทุกแห่งหนในโลกไร้ขอบเขต เตาหลอมที่สร้างขึ้นจากดาวดวงนี้เสมือนกับเตาอบและเริ่มหล่อหลอมทุกอย่างข้างในพร้อมกับลำแสงสายฟ้าปรากฏมากขึ้น
กระบี่ในแขนหวังหลินสับลงอย่างเรียบง่าย กลิ่นอายประหลาดได้บรรจุกฏเกณฑ์ของโลกที่เต็มไปทั่วทั้งเตาหลอม สิ่งที่มันกำลังตัดไม่ใช่วัตถุรูปธรรมแต่เป็นกฏของโลกใบนี้!
ลำแสงสายฟ้าตกลงบนหวังหลินอย่างต่อเนื่อง สายฟ้าไม่ได้เกิดขึ้นจากสวรรค์แต่มาจากวิชาของผู้ส่งสาส์น นอกจากสายฟ้าแล้วยังมีเต๋าของเขารวมอยู่ด้วย!
เมื่อตัดสวรรค์ร่อนลงไป เตาหลอมเปลี่ยนกลายเป็นภาพมายาต่อสายตาหวังหลิน เส้นแสงสีฟ้าจำนวนมากล้อมรอบไปทั่วบริเวณและเส้นสายพวกนี้ได้สร้างเตาหลอมขึ้นมา!
กระบี่ตัดลงไป เส้นแสงสีฟ้าพลันพังทลายอย่างรวดเร็ว ผู้ส่งสาส์นส่งเสียงร้องอู้อี้ออกมาและในขณะเดียวกันพลังดั้งเดิมก็พุ่งออกมาจากร่างกายเขามากขึ้นเพื่อประคองสภาพเตาหลอม
ไม่นานนัก เต๋าสายฟ้าตกลงมามากขึ้น สายฟ้าทุกเส้นที่ตกลงไปบนหวังหลินทำให้ร่างกายเขาสั่นเทา หากไม่ใช่ว่าวิญญาณดั้งเดิมเขากำลังเปลี่ยนแปลง เต๋าสายฟ้าที่มากมายขนาดนี้คงทำให้ร่างเขาอันตรธานหายไปโดยไร้ร่องรอยเสียแล้ว
แววตาหวังหลินเย็นเยียบมากขึ้น หุ่นเชิดองครักษ์เทพซึ่งอยู่ในเตาหลอมเช่นกันได้เริ่มชกกำปั้นอย่างบ้าคลั่ง อาละวาดไปทั่วบริเวณ ดูเหมือนทำให้ทั้งโลกสั่นไหว
แม้ว่าสายฟ้าที่นี่จะแข็งแกร่ง แต่ร่างกายหุ่นเชิดแข็งแกร่งกว่า ดังนั้นสายฟ้าจึงไม่ได้ทำให้มันบาดเจ็บเลย ทุกกำปั้นจากหุ่นเชิดเทียบเท่ากับการโจมตีของเซียนขั้นมายาหยินที่ตกกระทบลงบนเตาหลอม ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดต่อผู้ส่งสาส์น!
เจ้าอสูรสายฟ้าร้องคำรามเช่นเดียวกับการตอบสนองต่อองครักษ์เทพ ร่างกายของมันปลดปล่อยลำแสงเป็นประกาย จากนั้นเสี้ยวสีทองออกมาจากเขาสีเงิน สายฟ้านับไม่ถ้วนลอยออกมาจากร่างกายและกระจายไปทั่วบริเวณ สายฟ้าทำให้ดังสนั่นนับไม่ถ้วนและทำให้เตาหลอมสั่นไหวรุนแรงขึ้น
ผู้ส่งสาส์นร้องอู้อี้ขึ้นอีกครั้ง พลังดั้งเดิมจำนวนมากไหลออกจากร่างกายเข้าไปในเตาหลอมยักษ์
“จงหลอมให้ข้าซะ!!!”