Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 723

Cover Renegade Immortal 1

723. ผู้แสวงหาเต๋า รู้แจ้งระหว่างความตาย

“นี่มัน…สถานที่แห่งนี้คือ…มิติของลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า!” แววตาหวังหลินหดแคบลงทันทีที่จำที่นี่ได้

เขาคุ้นเคยกับที่นี่ มันเต็มไปด้วยความโกลาหลและบางครั้งก็จะมีทรงกลมเรืองแสงสว่างออกมา

ทรงกลมเรืองแสงเริ่มเปลี่ยนไปราวกับว่าสายตาเขาเป็นตัวกระตุ้น ขณะที่เขามองมันก็เริ่มพองตัว

มันพองตัวเร็วมาก ในพริบตาเดียวลูกไฟก็มีขนาดมหึมา หวังหลินตกตะลึงเมื่อลูกไฟแสงตอนนี้ใหญ่เทียบเท่ากับดาวเคราะห์ไปแล้ว

กลิ่นอายทรงพลังทะลักออกมาจากดวงไฟ กลิ่นอายนี้เต็มไปด้วยพลังชีวิต มันบริสุทธิ์มากราวกับเป็นทารกแรกเกิด

ไม่นานหลังจากนั้น ฝุ่นละอองปรากฏขึ้นและถูกแสงดูดดูดกลืนไป ในไม่ช้า มันก็เริ่มกลั่นตัวและสร้างมวลพื้นดินขึ้นมา

ฝุ่นบางส่วนกลายเป็นแม่น้ำและมหาสมุทร…

หวังลินอ้าปากค้าง นี่มันดาวเคราะห์! พลังปราณที่แผ่ออกมาจากมันมากมายมหาศาลมาก นี่มันก็ไม่ต่างจากดาวเซียนดวงอื่นๆเลย เพียงแค่ไม่มีคนอาศัยอยู่เท่านั้น!

ขณะที่เขาตกตะลึงอยู่นั้น มันก็เริ่มทรุดโทรมเหมือนกำลังกลับสู่สภาพเดิม ในพริบตาเดียวมันก็กลับมาเป็นลูกไฟแสงขนาดเล็กและเล็กจนเป็นเพียงแค่แสงริบหรี่เท่านั้น

ขณะที่ลูกไฟแสงเปลี่ยนไปจิตใจหวังหลินก็ค่อยๆสูญสิ้นสติ เขาจมดิ่งอย่างสิ้นเชิงในอวกาศต่างแดนอันแสนคุ้นเคยแห่งนี้

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆราวกับไม่มีจุดสิ้นสุด ดูเหมือนหวังหลินจะลืมทุกสิ่งทุกอย่าง เขาอยู่ในสภาพแวดล้อมประหลาด ล่องลอยอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีที่สิ้นสุด

เขามักจะเห็นเหตุการณ์แปลกประหลาดในลูกบอลแสงอยู่เสมอๆ ขณะที่เฝ้ามองเหตุการณ์นี้อย่างต่อเนื่อง หวังหลินกลับค่อยๆสัมผัสพลังลึกลับที่กำลังก่อตัวขึ้นมา

พลังนี้มีอยู่ทุกหนทุกแห่งและจิตสำนึกหวังหลินก็ต้องการค้นหาแหล่งที่มาของมัน

เขาไม่เข้าใจเหตุการณ์นี้ว่าคล้ายคลึงกับตอนที่เขากำลังรู้แจ้งสวรรค์และค้นหาต้นกำเนิดของเขตแดนแห่งชีวิตและความตาย…

ขณะที่จิตใต้สำนึกค้นหาต้นตอของพลังงานี้ เวลาก็ผ่านเลยไปแต่หวังหลินไม่สนใจ เวลาผ่านไปชั่วกาลนานเขาก็ไม่หยุด ราวกับเขากลายเป็นวิญญาณเร่ร่อน แสวงหาอยู่ร่ำไป

หวังหลินกำลังค้นหาเต๋า!! ก้าวตามขั้นตอนแห่งเต๋าและค้นหาจุดสิ้นสุดของเต๋า

ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกกลายเป็นอดีตที่ผ่านไปแล้ว ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างแตกสลายไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่ ราวกับหัวใจไม่เต้นอีกต่อไป

บรรดาผู้ที่แสวงหาเต๋า เข้าใจในตอนเช้าและตายยามพลบค่ำ น่าเสียดาย…

ผู้ที่แสวงหาเต๋า รู้แจ้งในระหว่างความตาย ช่างน่าสงสาร…

มันเป็นการค้นหาที่ไร้ที่จุดจบ หวังหลินได้เห็นลูกไฟแสงนับไม่ถ้วนที่กลายเป็นดาวเซียนและจากนั้นก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม ทุกครั้งที่มันเกิดขึ้น เขาต้องการจะไขว่คว้าร่องรอยของเต๋า

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่อาจสัมผัสสิ่งใดได้เลย แต่ก็รู้สึกว่าได้เข้าใกล้ขึ้นและใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ใกล้ร่องรอยแห่งเต๋า…

เต๋าปรากฏขึ้นเพียงชั่วขณะก่อนที่มันจะเลือนหายไปอีกครั้ง หวังหลินดูเหมือนจะพบเงื่อนงำระหว่างการค้นหาอันแสนงุนงงนี้แล้ว

พลังลึกลับที่เขาตามหาดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือจากการดำรงอยู่ของกฎเกณฑ์ มันเบาบางมากแต่ก็ทำให้เขาประทับใจอยู่ลึกๆเพราะมันอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว

เต๋าคลับคล้ายว่าจะคงอยู่ตำแหน่งระยะสายตา แต่ขณะที่เลื่อนสายตา เต๋าก็ดูเหมือนหายไป

มันเป็นความรู้สึกที่เลือนลางมากแต่มันก็ไหลลงสู่ร่างของหวังหลินอย่างช้าๆ เขาค่อยๆรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังไล่ตามรอยเท้าแห่งเต๋า และกำลังจะเข้าใจแหล่งที่มาของพลังลึกลับ

ในระหว่างกระบวนการนี้เมื่อไม่มีเวลามาเกี่ยวข้องหวังหลินได้เห็นดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง ดาวดวงนี้ไม่ได้เกิดจากลูกไฟแสงแต่มันมีอยู่ตามธรรมชาติ พลังชีวิตจากดาวดวงนี้อ่อนแอมาก แต่ก็เต็มไปด้วยความอบอุ่นและอ่อนโยน

ด้านข้างของมันมีดาวขนาดเล็กกว่าสองดวง พวกมันอยู่ใกล้กันมากและแต่ละดวงก็แผ่ความรู้สึกผูกพันกัน

ในขณะที่หวังหลินขยับเข้าใกล้ ดาวดวงเล็กดวงหนึ่งก็ส่งระลอกคลื่นพลังออกมา เปี่ยมไปด้วยความสุข เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา

ในขณะที่หวังหลินมองดาวทั้งสามดวง ความคิดจิตใจพลันสั่นสะท้านราวกับได้ค้นพบบางอย่าง จิตสำนึกต้องการยกมือขึ้น แต่เขาไม่ได้สังเกตเลยว่าตอนนี้เขาไม่ได้มีกระทั่งร่างกาย

อย่างไรก็ตาม ฝ่ามือของเขายังปรากฎอยู่ ราวกับที่ทำเขาต้องทำเพียงแค่คิดและมันจะกลายเป็นจริง

มือของเขาค่อยๆขยับและเกิดคลื่นกระเพื่อมขึ้นจากความว่างเปล่า ภายใต้ระลอกคลื่นนี้ ดวงดาวทั้งสามกลายเป็นลำแสงสามเส้นพุ่งเข้าสู่ฝ่ามือหวังหลิน

หวังหลินหยุดการค้นหาเต๋าในสภาพที่มึนงง เขารู้สึกราวกับว่าตอนนี้เขาคือเต๋า…ขณะที่เขาหยุดลง จิตใจก็ค่อยๆสงบ จากนั้นทั้งร่างกายก็เปลี่ยนเป็นลูกไฟแสงสว่างหนึ่งดวง

เมื่อเวลาผ่านไป ลูกไฟแสงค่อยๆขยายขนาดขึ้น เขาดูดซับฝุ่นผงรอบตัวและในที่สุดดวงดาวก็ปรากฏตัว…

ภูเขาบนดาวดวงนี้ดูน่าตื่นตาตื่นใจและแม่น้ำสวยงามยิ่ง พื้นดินเต็มไปด้วยพลังงานและแม้แต่ทะเลก็มีครามดั่งท้องฟ้าราวกับสามารถรองรับโลกได้ทั้งใบ

ในด้านเหนือของดาวมีเพียงตระกูลเดียว หนึ่งชายหนึ่งหญิงผู้ที่อาศัยอยู่ด้วยชีวิตเรียบง่ายและสงบสุข

ราวกับพวกเขามีทุกสิ่งที่ต้องการ รวมไปถึงผู้คนนับไม่ถ้วนรอบๆหมู่บ้าน…

ในวันนี้ มีลำแสงหนึ่งสายพุ่งผ่านไปทางใต้ของดาวเคราะห์ ภายในลำแสงเป็นหญิงสาวสวมชุดสีขาว นางสวยสง่าและอ่อนโยนดั่งสายน้ำ ผมสีดำปลิวไสวไปในอากาศ บางครั้งอาจมีเส้นผมบางส่วนพัดไปด้านหน้า นางก็จะรวบไว้หลังหูด้วยมือที่งดงามราวกับหยกละเอียด

ขณะที่นางลอยอยู่นั้นแววตาเต็มไปด้วยความสับสน นางมองลงไปยังพื้นพลันกัดริมฝีปากเล็กน้อยและพึมพำ “ทำไมข้าถึงคุ้นเคยกับโลกใบนี้…”

นางขบคิดอยู่นานก่อนที่จะส่ายศีรษะ ร่างเคลื่อนไหวดุจลำแสงและหายไปเหนือเส้นขอบฟ้า

“ข้าต้องหาคำตอบ!” เสียงมุ่งมั่นของนางพัดพาไปในสายลม

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆราวกับว่ามันคงอยู่ตลอดกาล หลายปีผ่านและทุกอย่างค่อยๆเปลี่ยนไป สิ่งเดียวที่ไม่เคยเปลี่ยนคือทั้งสามคน

สองคนยังคงมีชีวิตที่เงียบสงบและคนสุดท้ายยังคงค้นหาหาคำตอบ…

จวบจนกว่าเต๋าจะมาเยือน!

พื้นดินอันตรธานหายไปและไม่มีดวงดาวคงอยู่อีกแล้ว ทั้งสามคนกลับกลายมาเป็นลูกไฟแสงสามดวง จากนั้นก็ถูกจับเข้าไปในฝ่ามือยักษ์แล้วก็ลอยไปไกล ขณะที่ฝ่ามือหายไป สติของหวังหลินก็กลับคืนมา

“เช่นนั้นนี่ก็คือเต๋า…” เสียงของหวังหลินดังสะท้อนในความว่างเปล่า ทุกสิ่งที่เขาค้นหาสิ้นสุดลงด้วยตัวมันเอง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!