724. พบเห็นขั้นที่สาม!
เขาเองก็คือเต๋า! สวรรค์และพื้นดินถูกสร้างขึ้นด้วยเต๋านับไม่ถ้วน เขาก็เต๋า!
ด้านหน้ามีลูกไฟมากมายนับไม่ถ้วนที่เปลี่ยนจากชีวิตไปสู่ความตายและจากความตายคืนสู่การมีชีวิต นี่คือเต๋าแห่งชีวิตและความตายของเขา
ในวัฏจักรแห่งเวรกรรมถ้ามีผลกรรมก็ย่อมมีสาเหตุของกรรมเช่นการค้นหาลี่มู่หวานเพื่อหาคำตอบและชีวิตธรรมดาของหวังผิง นี่คือเต๋าเวรกรรมของเขา
หวังหลินรู้สึกเหมือนเข้าใจบางอย่างได้ทันทีแต่ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่เข้าใจอะไรเลย ความสับสนนี้เป็นเหมือนคลื่นที่ซัดไปมาอยู่ในใจ มันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆและเข้มข้นเรื่อยๆจนทำให้จิตใจของเขาสั่นสะท้าน!
จึงตื่นขึ้น!
ขณะที่ได้สติกลับคืนมา พลันรู้สึกเหมือนวิญญาณดั้งเดิมของเขาถูกผลักออกไปอย่างรุนแรง เมื่อหวังหลินลืมตาขึ้นเขาก็ยังคงอยู่นอกประตู
สิ่งรอบข้างไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย เสียงฟ้าร้องยังคงดังกึกก้องและแสงสีม่วงยังคงปกคลุมพื้นที่ ราวกับว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นเลย หวังหลินยังอยู่หน้าประตูและทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่ความฝัน
มันไม่มีจริงหรือมันเกิดขึ้นจริง…
ประตูที่เพิ่งเปิดค่อยๆปิดก่อนที่แววตาของเขาจะจางหายไป แขนขนาดใหญ่ที่ถูกรัดด้วยสายฟ้าสีม่วงก็อันตรธานหายไปเช่นกัน แสงสีม่วงได้หดตัวกลับกลายมาเป็นลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า
ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างประหลาด ก่อนหน้านี้มีธาตุทั้งห้าถูกจารึกเอาไว้ แต่ในบัดนี้กลับถูกแทนที่ด้วยหยินและหยาง ซึ่งหยินนั้นคือตัวแทนของดวงจันทร์และหยางแทนด้วยดวงอาทิตย์ สัญลักษณ์หยินหยางปกคลุมบนลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าอย่างละครึ่งซีก
มันลอยไปที่หน้าผากของหวังหลินและเข้าไปในหว่างคิ้ว
หวังหลินยังคงยืนนิ่งกลางอากาศไม่ไหวติง เขาค่อยๆหลับตาลง ภาพเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ยังคงอยู่ในใจ
เขารับรู้ความรู้สึกถึงบางสิ่งที่เลือนราง…
ดูเหมือนว่าเขาลืมเวลาที่ผ่านไปอีกครั้งและจมอยู่ในความเข้าใจที่ยังคงสะท้อนในใจ หวังหลินปะติดปะต่อความฝันที่ไม่จริงขึ้นมาทีละนิด
หวังหลินรู้ดีว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในความฝันนั้นมีค่ามาก มันเป็นโอกาสจากสวรรค์!
หวังหลินไม่อาจบอกใครเรื่องความฝันนี้ได้และเขาจะไม่สามารถอธิบายมันได้อย่างชัดเจน เขาไม่กล้าที่จะบอกใคร หวังหลินคิดว่าเทียนหยุนและคนอื่นๆ เต็มใจที่จะเสียสละทุกอย่างสำหรับโอกาสนี้!
แม้ยอมสละดาวเทียนหยุน ให้สมบัติล้ำค่าและวิชาเซียนทั้งหมดของพวกเขา เทียนหยุนและพรรคพวกไม่ลังเลที่จะมีโอกาสแสวงหาเต๋าเช่นนี้!
เพราะการค้นหาเต๋าเช่นนี้คือความลึกลับของเซียนขั้นที่สาม นับว่าเป็นสิ่งที่เซียนนับหมื่นต่างใฝ่ฝันและปรารถนา!
บรรดาผู้ที่แสวงหาเต๋าเข้าใจในตอนเช้าและตายในพลบค่ำ…
คนที่แสวงหาเต๋า รู้แจ้งระหว่างความตาย…
หวังหลินยังคงไม่รู้คุณค่าของลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าเพียงแค่ปลายยอดภูเขาน้ำแข็งเขาก็ตกตะลึงอย่างมากแล้ว นี่มันคือสิ่งที่เขาจะไม่มีวันลืมเลือน
การแสวงหาเต๋านั้นไม่ได้ทำให้ระดับการบ่มเพาะของเขาเพิ่มขึ้นแต่เป็นการปรับแต่งเต๋าของเขา ก่อนหน้านี้ตอนที่หวังหลินยืนอยู่หน้าประตู เขารู้สึกหวาดหวั่นลึกๆจากจิตวิญญาณ
เป็นเพราะระดับที่แตกต่างกัน เช่นเดียวกับสายตาของคนที่มองมดตัวเล็กๆ
แม้ว่าหวังหลินไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันกับตัวตนเช่นประตู หากเทียบเคียงแล้วเขายังคงเป็นมด แต่เป็นมดที่ได้เห็นขั้นที่สาม!
เขาได้เห็นขั้นที่สาม!
ในขณะที่จมอยู่ในความคิด ทะเลสาปสายฟ้าข้างล่างหวังหลินดูเหมือนจะได้รับผลกระทบบางอย่าง สายฟ้าจำนวนมากเริ่มกระจายไปทั่วทุกทิศทาง
ตอนนี้สายฟ้าหนึ่งสายลอยเข้ามาผ่านกลุ่มดาวเคราะห์น้อย ข้างสายฟ้าคือ อสูรสายฟ้าสวมเกราะสีดำ บนหลังของมันมีชายผมดำอยู่ ดวงตาความระมัดระวังพุ่งเข้าไปในส่วนลึกของกลุ่มดาวเคราะห์
เมื่อเข้าใกล้ที่หมายจึงพลันสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติ ความผันผวนของสายฟ้าที่นี่รุนแรงเกินไปแตกต่างจากครั้งสุดท้ายที่เขามาที่นี่มากนัก
สายฟ้านี้ยังมีกลิ่นอายทรงพลังอย่างเหลือเชื่อ ทำให้ชายผมดำตื่นตกใจและหวาดระแวงมาก
เขาค่อยๆผ่านพื้นที่ไปอย่างช้าๆ ซึ่งมีความคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างดี เพราะเขาเคยมาที่นี่หลายครั้งเพื่อบ่มเพาะวิชาเซียนอัสนีต้นกำเนิด แต่เขาไม่เคยต้องมาระวังแบบนี้เลย
เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว นานแค่ไหนไม่อาจคาดได้ เขาค่อยๆใกล้ถึงตรงกลาง ยิ่งเข้าใกล้มากขึ้นก็เกิดความรู้สึกน่าตกใจมากขึ้น
“เกิดอะไรขึ้นที่นี่?” ท่าทางของบุรุษผมดำก็มืดมน ระดับการบ่มเพาะของเขาคือขั้นรูปธรรมหยาง เขาต้องการความคืบหน้าเพียงเล็กน้อยเพื่อทะลวงระดับเข้าสู่ขั้นเซียนส่องสวรรค์ ด้วยระดับการบ่มเพาะของเขา มีไม่มากนักที่ทำให้เขารู้สึกเช่นนี้!
อย่างไรก็ตามในตอนนี้ ความรู้สึกเริ่มรุนแรงมากขึ้น
หลังจากที่ลังเลอยู่สักหน่อยจึงกัดฟันและให้อสูรสายฟ้าพุ่งเข้าไปในชั้นสุดท้ายของพื้นที่ ในไม่ช้าเขาก็เห็นทะเลสาปสายฟ้าที่คุ้นเคยอยู่ข้างหน้า
เขาเห็นหวังหลินอยู่เหนือทะเลสาปสายฟ้าทันที หวังหลินในสายตาชายผมดำดูแปลกประหลาดมากเกินไป หวังหลินลอยตัวอยู่ในอากาศมีสายฟ้าจำนวนมากไหลผ่านร่างและเส้นผมพริ้วไสวไร้แรงลม
ขนาดของทะเลสาปสายฟ้าทำให้ชายผมดำถึงกับอ้าปากค้าง ทะเลสาปสายฟ้าด้านหน้าทำให้รู้สึกเหมือนกับว่ามาผิดที่ ขนาดของมันมีเพียงครึ่งเดียวตอนที่เขามาถึงสถานที่แห่งนี้ครั้งล่าสุด!
ก่อนหน้านี้มันราวกับไม่มีที่สิ้นสุด แต่ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนกับเกือบจะเห็นอีกฝั่งของทะเลสาป
การปรากฏตัวของคนคนนี้ราวกับหินที่โยนลงน้ำนิ่ง ระลอกคลื่นเกิดขึ้นมากมาย ทันใดนั้นหวังหลินค่อยๆลืมตาขึ้น
ดวงคู่นี้ไม่อาจอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ ดูเหมือนบรรจุโลกและกฎทั้งหมดเอาไว้ มันเป็นดวงตาหนึ่งคู่ที่สามารถมองทะลุฟ้าดิน!
มันแผ่ความรู้สึกอันหวาดหวั่นออกมาเช่นเดียวกับแขนยักษ์ที่ปรากฏอยู่หน้าประตู ความรู้สึกน่าขนลุกเกิดขึ้นกับทุกคนที่มองมาและทำให้รู้สึกกลัวราวกับเป็นเพียงมดปลวกเท่านั้น
ดวงตาคู่นี้มีเศษส่วนบางอย่างในความฝันของหวังหลิน ตอนนี้ราวกับเขาคือฟ้าดิน เขาคือเต๋าสวรรค์!
นี่คือกลิ่นอายของขั้นที่สาม หวังหลินมองไปที่ชายผิวดำอย่างลวกๆด้วยสายตาไม่พินิจและเต็มไปด้วยความงุนงงสับสน
สายตานี้ทำให้ชายผมดำรู้สึกเหมือนมีสายฟ้าฟาดลงมานับไม่ถ้วนจนระเบิดภายในร่าง ราวกับเขาได้ดูดกลืนสายฟ้ามากกว่าวิชาอัสนีต้นกำเนิดจะรับไหว
ร่างกายของเขาดูเหมือนจะติดอยู่ที่นี่ในชั่วขณะและสายตาของหวังหลินเป็นเพียงสิ่งเดียวที่มีอยู่ในโลก ในวินาทีนี้มีเพียงสายตานั้นที่คงอยู่ในชีวิต
เสียงสายฟ้าดังคำรามภายในหูแต่ราวกับว่ามันอยู่ห่างไกล เขาได้ยินมันอย่างชัดเจนได้แต่ไม่ได้รู้สึกถึงมัน
เขาไม่เข้าใจว่าสายตานี้หมายถึงสิ่งใด แต่มันมีพลังลึกลับเกินกว่าความเข้าใจของเขา พลังนี้ฉีกทะลุผ่านสายตาและทำให้เขาสั่นสะท้าน
หัวใจเต้นรัวถึงขีดจำกัดราวกับกำลังจะระเบิด
โลหิตทั้งหมดในร่างไหลเวียนอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับพลังงานดั้งเดิม เขาตกใจมาก ราวกับว่าตัวเขาจะแตกสลายหากไม่โคจรพลังงานดั้งเดิม!
“นี่มันพลังอะไรกัน?!?!” ชายผมดำไม่อาจขยับร่างกายแม้แต่เพียงนิ้วเดียว พลังงานดั้งเดิมโคจรหมุนเวียนอย่างบ้าคลั่ง แม้ว่าพลังงานดั้งเดิมจะหายไปหรือถูกใช้จนหมดเขาก็ไม่กังวลอีกแล้ว ตอนนี้ปากแห้งผาก ทั่วร่างก็ชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น อย่างไรนั้นเขาไม่อาจเลื่อนสายตาออกไปจากสายตาตรงหน้าที่บ้าคลั่งนี้ได้
ด้วยระดับการบ่มเพาะของเขา นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่รู้สึกถึงความหวาดกลัว แม้แต่ตอนที่เจอกับผู้สูงศักดิ์แห่งอารามเทพอัสนีก็ยังไม่น่าหวาดกลัว
หวังหลินมองไปยังชายผมดำอย่างเย็นชา มีร่องรอยเต๋าของหวังหลินในสายตาอีกฝ่าย เขาเห็นเพียงแค่หนึ่งคนเท่านั้นตอนนี้มันไม่สำคัญแล้วว่าพวกเขาเป็นเซียนหรือคนทั่วไป ในสายตาหวังหลินเป็นแค่มดปลวกเท่านั้น
ขณะในฝันแห่งการค้นหาเต๋า สายตาเขาคือเต๋าได้ทำให้ลูกไฟแสงสว่างท่องผ่านวัฏจักรหนึ่งรอบไปอย่างรวดเร็ว เขาใช้สายตาแบบนั้นในความฝันตอนที่มองไปยังชายผมดำ
คนผู้นี้เหมือนลูกไฟแสงในความฝัน แต่ว่าแทนที่จะขยายตัวเร็วขึ้นกลับเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว
คนผู้นี้หายตัวไปทีละชั้นและไม่มีหยุด
ความหวาดกลัวในสายตาของชายผมดำพุ่งขึ้นถึงขีดจำกัด เขาไม่เคยประสบวิกฤตความเป็นความตาย ตั้งแต่ที่ถูกจ้องมองเขาก็รู้สึกว่าวิญญาณดั้งเดิมถูกเผาไหม้ พลังงานดั้งเดิมในร่างดูเหมือนจะสูญเสียการควบคุมและกลายเป็นเปลวเพลิงที่มองไม่เห็น!
สายตาของอีกฝ่ายมีพลังอันน่ากลัวที่เขาไม่อาจต้านทานได้ ราวกับสวรรค์กำลังสั่งให้เขาตาย…ตาย..ราวกับเขาเป็นเพียงมดปลวกและเกิดหวาดกลัวเต็มไปทั่วร่าง
ไม่ใช่เพียงแต่เขาคนเดียวเท่านั้น อสูรสายฟ้าด้านล่างยังรู้สึกรุนแรงขึ้น มันร้องโหยหวนออกมาและร่างกายเริ่มสลายไปด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ ดุจฝุ่นผงกลับคืนสู่พื้นดิน…
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเสี้ยววินาที ความมืดมนในสายตาหวังหลินหายไปจากนั้นสูดหายใจเข้าลึกๆและหลับตาลง
ร่างของชายผมดำแทบจะพังทลายเมื่อตื่นขึ้นจากพลังน่าหวาดกลัว ร่างชุ่มไปด้วยเหงื่อ พลังดั้งเดิมมากกว่าครึ่งในร่างกายถูกใช้ไป วิญญาณดั้งเดิมของเขาหดเล็กลงและอ่อนแอมาก ขณะที่จ้องมองหวังหลิน ความหวาดกลัวเต็มไปทั่วจิตใจ
“น่ากลัวเกินไปแล้ว!!! นี่…สายตานั่นมันคืออะไร? ระดับการบ่มเพาะของเขาถึงขั้นไหนกันแน่?” ชายผมดำอ้าปากค้าง ร่างกายสั่นสะท้านและใบหน้าซีดจางลง เขาเสียใจที่มาที่นี่ ถ้าเขาไม่ได้มาคงจะไม่ได้สัมผัสกับความกลัวเช่นนี้
เขาไม่สงสัยเลยหากคนลึกลับคนนั้นจะมองเขานานกว่านี้อีกสักสองสามลมหายใจ เขาคงจะสลายไปแล้ว หลังจากที่เขาแยกตัวออกมา ร่องรอยทั้งหมดของอีกฝ่ายถูกทำลายหายไป
เขาคงไม่สามารถหลบหนีไปได้พร้อมกับวิญญาณดั้งเดิม
อสูรสายฟ้าข้างล่างยิ่งแย่ลงและมองหวังหลินด้วยสายตาหวาดกลัว ความหยิ่งยโสของอสูรสายฟ้าทำให้มันยอมตายดีกว่ายอมสยบ อย่างไรก็ตามการถูกจ้องมองนั้นไม่ง่ายดายเหมือนความตาย มันเป็นการสะกดข่มด้วยระดับที่สูงกว่า!