818. โลงศพเลี่ยงสวรรค์ 2
ตอนที่หวังหลินส่งตัดสวรรค์ลอยออกไป เขาก็ยกกระบี่สวรรค์ขึ้นมาและใช้ตัดสวรรค์อีกสิบครั้งไล่ตามสิบครั้งแรกไปอีก
ม่านสวรรค์สั่นเทาเกิดเสียงดังปังและเกิดรอยแตกร้าว หลังจากนั้นตัดสวรรค์ลูกที่สองก็มาถึงจนม่านสวรรค์แตกสลาย หวังหลินโยนกระบี่สวรรค์ออกไปและร้องตะโกน “หยุด!”
กระบี่สวรรค์พุ่งออกไปเร็วมากดุจสายฟ้าฟาด ชายชุดดำขมวดคิ้วพลางมาถึงด้านบนประทับตราผนึกเทพแล้ว เขายกแขนขวาขึ้นมากำลังจะคว้าจับกระบี่สวรรค์
ทว่าขณะนั้นวิชายับยั้งของหวังหลินก็ดังกึกก้องดุจสายฟ้า
ศีรษะชายชุดดำยังคงปกติแต่กระดูกแขนหยุดชะงัก ชั่ววินาทีนั้นกระบี่สวรรค์กระพริบวูบวาบและตัดแขนขวาทั้งท่อนทันที!
เมื่อแขนขวาถูกแยกออกจากร่างกาย มันกลายเป็นฝุ่นและหายไปในความว่างเปล่าทันที
หวังหลินกะจังหวะได้แม่นยำมาก ถ้าไม่ใช่ว่ากระบี่สวรรค์อยู่ใกล้มาก เช่นนั้นแม้จะมีวิชายับยั้งคงไม่ส่งผลกระทบอะไรเพราะวิชาไม่ได้หยุดชายชุดดำไว้นานเกิน
ทว่าตอนนี้มันกลับต่างกันยิ่ง!
ชายชุดดำตกตะลึงและมองแขนขวาที่ขาดหายไป แววตาโกรธเกรี้ยวมิอาจจินตนาการถึง ความโกรธทำให้เขาปลดปล่อยจิตสังหารทรงพลังออกมารุนแรงมาก
“ข้าปกป้องที่นี่มานานหลายพันหลายหมื่นปีจนในที่สุดก็ฟื้นฟูโครงกระดูกของข้าได้ เจ้ากล้าทำลายแขนขวาข้าได้อย่างไร!?!” ชายชุดดำดูเหมือนจะบ้าคลั่งไปแล้ว เขายกเลิกเรื่องประทับตราผนึกเทพและพุ่งเข้าหาหวังหลิน
ขณะเหาะเหิน สีหน้าก็ยิ่งน่าเกลียดน่ากลัว ยกแขนซ้ายข้างที่เหลือขึ้นมา ใช้นิ้วเป็นกระบี่หั่นใส่หวังหลิน พลันเกิดเสียงแตกร้าวจากความว่างเปล่าและเกิดรอยแตกขึ้นมา
หวังหลินเผยสายตาเย้นชาพลางยกแขนขึ้นกลางอากาศและร้องตะโกน “เรียกขานสายลม!”
พลังดั้งเดิมในร่างกายพรั่งพรูอย่างรวดเร็วแต่เขาไม่มีเวลาให้ต้องกังวลเรื่องการใช้พลังเกินตัว สายลมทมิฬปรากฏขึ้นในฝ่ามือพลางแพร่กระจายอย่างรวดเร็วก่อตัวเป็นสายลมทมิฬกรรโชกรุนแรง
คลื่นเย็นเฉียบแพร่กระจายเข้าหาชายชุดดำ
ดวงตาอีก่ายเต็มไปด้วยความตกใจ ครั้งนี้ตกตะลึงมากกว่าตอนที่เห็นหวังหลินใช้สมบัติของนายเหนือหัวหลายเท่า
“วิชาของจักรพรรดิเทพ เรียกขานสายลม!!! เจ้า…เจ้าเป็นใครกัน?” สีหน้าชายชุดดำเปลี่ยนไปมหาศาล เขาเข้าใจอย่างแจ่มชัดว่าวิชาเรียกขานสายลมนั้นทรงพลังขนาดไหนเพราะมันคือวิชาแห่งฝันร้ายสำหรับเขาเมื่อตอนนั้น!
เขาจำได้ชัดเจนตอนที่ละเมิดกฎเทพ แม้เจ้านายจะอ้อนวอนขอความเมตตาให้ จักรพรรดิเทพป๋ายฟ่านก็ยังร่ายใส่เขาหนึ่งวิชา จักรพรรดิกล่าวได้ถ้าเขาสามารถรอดชีวิตได้เขาก็จะเมตตา
ตอนนั้นวิชาที่จักรพรรดิเทพป๋ายฟ่านใช้คือเรียกขานสายลม!
ภายใต้วิชาเรียกขานสายลม ร่างกายทั้งร่างของเขาแตกสลายแม้แต่กระดูกก็ไม่เหลือรอด ถ้าไม่ใช่ว่าเจ้านายเขา ปรมาจารย์อิสระได้ลงมือช่วย แม้แต่กระโหลกศีรษะก็ไม่มีเหลือ
หลังจากนั้นเขาก็ถูกปรมาจารย์อิสระส่งมาอารักขาโลงศพนี้ เขาใช้ค่ายกลแห่งนี้และบ่มเพาะมานานหลายพันหลายหมื่นปีจนในที่สุดก็สามารถขับไล่วิชาเรียกขานสายลมจนสร้างโครงกระดูกขึ้นมาใหม่ได้
ตอนนี้พอเขามาเห็นวิชานี้อีกครั้งจึงหวาดกลัวสุดขีด เขารีบล่าถอย อ้าปากพ่นของสิ่งหนึ่งออกมาโดยไม่ลังเล มันคือแกนสีฟ้าหนึ่งชิ้น จากนั้นมันก็ย้อมทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นสีฟ้า
ชายชุดดำกระโกนออกมาอีกครั้ง “เจ้ามีความสัมพันธ์อะไรกับจักรพรรดิเทพป๋ายฟ่าน!?” แกนผลึกเบื้องหน้าเรืองแสงอ่อนๆทำให้เขาไม่บาดเจ็บจากสายลมทมิฬ
แววตาหวังหลินเต็มไปด้วยจิตสังหาร ก้าวไปข้างหน้าและสายลมทมิฬคำรามออกมา ตอนนี้ราวกับหวังหลินกลายเป็นหนึ่งเดียวกับสายลมทมิฬ เขามาถึงด้านข้างชายชุดดำและสายลมทมิฬก็เคลื่อนไหวไปพร้อมกับแขนหวังหลิน
ใบหน้าชายชุดดำซีดเผือดและถอยร่นอีกครั้ง แสงสีฟ้ารอบตัวหมัวหมองแต่แววตาหรี่แคบ เขาร้องคำรามออกมา ฝ่ามือสองข้างผลักไปข้างหน้า
แกนสีฟ้าเริ่มหมุนเป็นวงกลมปลดปล่อยลำแสงสีฟ้าระเบิดออกมาราวกับวังวนที่ดูดสายลมทมิฬเข้าไป
‘วิชาเรียกขานสายลมของเขาไม่แข็งแกร่งนักแต่ข้าไม่สามารถปล่อยให้ร่องรอยใดมาสัมผัสข้าได้ ไม่เช่นนั้นมันจะกระตุ้นเศษเสี้ยวกฏวิชาเรียกขานสายลมในร่างกายข้าได้!’
วิชาเรียกขานสายลมโหดเหี้ยมเกินไป เมื่อมันเข้าไปในร่างกายแล้วแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะขับมันออกมา หากเขาปล่อยให้เข้ามาอีกครั้ง คงทำให้อาการบาดเจ็บเมื่อตอนนั้นปะทุขึ้น!
‘บัดซบ มันไปรู้จักวิชาเรียกขานสายลมได้อย่างไร!? ข้าต้องพึ่งสมบัติที่นายท่านให้ข้าเสียแล้ว!’ ชายชุดดำใบหน้ามืดมนยิ่ง ขณะที่แกนสีฟ้าต่อต้านสายลมทมิฬ เขาก็รีบล่าถอย
หวังหลินจ้องชายชุดดำด้วยสายตาจิตสังหาร นำราชรถสังหารเทพออกมาโดยไม่ลังเล แสงห้าสีกระพริบวูบวาบและผีเสื้อห้าสีปรากฏขึ้นมา
หลังจากมันปรากฏ ปีกของมันพัดกระพือเล็กน้อย ผงห้าสีกระจัดกระจายไปทุกที่ดูสวยงามยิ่งนัก!
หวังหลินใช้ฝ่ามือสร้างผนึกและชี้เข้าใส่ชายชุดดำที่กำลังถอยร่น
ผีเสื้อบินเข้าหาและกระพือปีกทันที
ชั่วขณะนี้เองร่างชายชุดดำที่กำลังล่าถอยพลันสั่นเทา ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แขนซ้ายระเบิดกลายเป็นฝุ่นผงสีเทาและก่อตัวเป็นผีเสื้อสีเทา
หลังจากผีเสื้อตัวนี้ปรากฏขึ้นมันก็กระพือปีกทันที
ใบหน้าชายชุดดำซีดเผือดอย่างสุดขีด รีบล่าถอยอย่างรวดเร็ว กระดูกเท้าแตกสลายทันที สายตาเต็มไปด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าผีเสื้อตัวนั้นกำลังกระพือปีกอีกครั้ง เขาก็ระเบิดช่วงล่างของร่างกาย ใช้พลังการระเบิดนั้นผลักตัวเองออกไปไกลและอยู่เหนือโลงศพที่อยู่ใจกลางค่ายกล
เมื่อร่างท่อนบนเข้าไปในค่ายกล ควันสีดำจำนวนมากโผล่ออกมาจากค่ายกลสีแดงโลหิตซึ่งทำให้ท่อนร่างปรากฏขึ้นมาอีกครั้งในสภาพลวงตา
ครานี้ผีเสื้อกระพือปีกอีกครั้งและครึ่งท่อนล่างที่พึ่งก่อตัวขึ้นมาพลันแตกสลายไป ทว่าวินาทีถัดมาควันสีดำก็โผล่ออกมาอีกทำให้เขาคืนท่อนล่างมาได้อีก
วงโคจรดำเนินต่อไปเรื่อยๆจนควันสีดำจากค่ายกลไม่เข้าไปในโลงศพอีกแต่เข้าไปในครึ่งท่อนล่างของเขาแทน
ดวงตาหวังหลินสว่างวาบขึ้นพร้อมกับพุ่งยกแขนไปข้างหน้าใช้เรียกขานสายลมอีกครั้ง พลังดั้งเดิมขาดหายไปสองครั้งในคราเดียว แม้ใบหน้าจะซีดเผือดเล็กน้อยแต่ยังเต็มไปด้วยจิตสังหาร
เห็นได้ชัดว่าถ้าเขาไม่ได้ฆ่าอีกฝ่าย หวังหลินก็คงไม่สามารถออกไปได้!
สายลมทมิฬพุ่งเข้าหาค่ายกล ใบหน้าท่าทางชายชุดดำเปลี่ยนไปมหาศาลและกำลังจะหลบหนี ทว่าขณะนี้เองผีเสื้อกระพือแค่ปีกซ้าย
ร่างมายาของชายชุดดำพลันแตกสลายทันที แม้แต่เสื้อคลุมก็ยังสลายไปอย่างสิ้นเชิง
สิ่งเดียวที่เหลืออยู่คือศีรษะเขากลางอากาศ แววตาหวาดกลัวเพิ่มขึ้นถึงขีดสุด
‘แหกกฏ! สมบัติชิ้นนี้สามารถแหกกฏได้!!’ ชายชุดดำหมดสิ้นความคิดและล่าถอยโดยไม่ลังเล ทว่าขณะนั้นเองสายลมทมิฬก็เข้ามากลืนกินเขา
ดวงตาชายชุดดำเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ถ้าเขามีระดับบ่มเพาะสูงสุดของตัวเองคงมั่นใจว่าจะต่อต้านมันได้ แม้ศัตรูจะมีสมบัติที่สามารถแหกกฎได้ ถ้าเขามีร่างกายก็มั่นใจว่าสามารถฆ่าหวังหลินได้ในทันทีโดยไม่ปล่อยให้ได้ใช้สมบัติสักชิ้น
“ถ้าไม่ใช่ว่าข้าบาดเจ็บจากวิชาเรียกขานสายลมของป๋ายฟ่าน ข้าคงไม่ต้องหวาดกลัวเรียกขานสายลมที่ไม่สมบูรณ์แบบนี้! ข้าจะไม่ยอมให้มันจบลงแบบนี้!” แววตาชายชุดดำเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ขณะที่สายลมทมิฬกำลังกลืนกินเขา เขาก็เป่าอากาศออกมา
นี่คือแกนพลังดั้งเดิมของเขา เขาเป่ามันออกมาโดยไม่ลังเลและปะทะเข้ากับสายลมทมิฬ หยิบยืมพลังสายนี้ยอมให้กระโหลกตัวเองถอยออกมาอย่างรวดเร็ว
สายตาเผยความมุ่งมั่น กัดฟันแน่นและถอยมาใกล้โลงศพพร้อมกับพึมพำ “อาจารย์ ไม่ใช่ว่าศิษย์ไม่รักษาสัญญา แต่หากข้าไม่เปิดโลงศพนี้ ศิษย์จะต้องตายแน่นอน!”
ขณะพูดขึ้นมา ศีรษะกระแทกใส่โลงศพและฝาโลงถูกเปิดขึ้น เลือดเนื้อชายหนุ่มข้างในโลงเริ่มแตกสลายราวกับมันออกมาเผชิญกับโลกภายนอก วินาทีต่อมันมันก็แตกสลายอย่างสิ้นเชิงและไม่มีสิ่งใดหลงเหลืออยู่ข้างในโลง!
‘หลงต้าวซื่อ เจ้าทำลายกฏเทพและถูกจักรพรรดิเทพลงโทษ แม้อาจารย์จะช่วยเจ้าได้ก็สามารถช่วยได้แค่กระโหลกของเจ้าเท่านั้นและผนึกวิญญาณดั้งเดิมของเจ้าไว้ข้างในเพื่ออารักขาโลงศพนี้ อาจารย์รู้ล่วงหน้าถึงหายนะอันใหญ่หลวงของแดนสวรรค์ ดังนั้นการออกไปจากที่นี่อาจเป็นเรื่องดี’
‘โลงศพนี้คือสมบัติจากแดนสวรรค์โบราณ อาจารย์ได้รับมาจากการผ่านอันตรายมากมาย มันเรียกกันว่าโลงศพเลี่ยงสวรรค์
เจ้าควรรู้ไว้ว่าก่อนที่อาจารย์จะกลายเป็นเทพ ข้ามีลูกชายอยู่คนหนึ่ง อาจารย์เจ้าเป็นหนี้บุญคุณเขามากมายและทำได้เพียงแค่แกะรอยวิญญาณเท่านั้น เมื่อข้าได้กลายเป็นเทพข้าจึงล้มเลิกการบ่มเพาะฝึกฝนและใช้โอกาสนี้ค้นหาโลงศพเลี่ยงสวรรค์ ข้าวางเศษเสี้ยววิญญาณของเขาไว้ข้างในเพื่อวันใดวันหนึ่งเขาจะสามารถก่อกำเนิดร่างกายขึ้นมาใหม่และตื่นขึ้นมาได้
‘เมื่อเขาตื่นขึ้นมาเจ้าจะจดจำได้ว่าเขาคือนายของเจ้าและเจ้าจะไม่มีวันทรยศเขาไปตลอดกาล ในเวลาเดียวกันเจ้าก็สามารถหยิบยืมโลงศพนี้เพื่อสร้างร่างกายตัวเองขึ้นมาใหม่และฟื้นฟูระดับบ่มเพาะได้!’
ยามที่เขาเข้าไปในโลงศพ น้ำเสียงของอาจารย์เมื่อตอนนั้นดังกึกก้องอยู่ข้างในกะโหลก
‘อาจารย์ อย่ากล่าวหาข้าเลยนะ…’