871. เด็ก
หวังหลินมองทะเลสาปสายฟ้าและเจ้าวิญญาณสายฟ้าเร่ร่อน บททดสอบมนุษย์อย่างน้อยก็มีความยากอยู่จำนวนหนึ่งแต่เมื่อเห็นบททดสอบปฐพี…แววตาหวังหลินยิ่งไม่ชอบมาพากล
ซื่อจื่อเฟิงกัดริมฝีปาก มองหวังหลินสลับกับทะเลสาปสายฟ้า ความกังวลพุ่งขึ้นในใจ นางแตะกระเป๋าอยู่นานและกัดฟันแน่น ลอยขึ้นไปกลางอากาศดุจผีเสื้อ ไม่สนใจแก้มแดงระเรื่อของตัวเอง เซียนรอบด้านทั้งหมดต่างตกตะลึงเมื่อเห็นนางลอยเข้าหาผู้เข้าร่วมการแข่งขัน
นางงดงามอยู่แล้วและตอนนี้ใบหน้าแดงอมชมพูกำลังพุ่งเข้าหาหวังหลินอีก นางก้มศีรษะนำหินหยกสีเขียวออกมาให้และเอ่ยขึ้นเสียงเบา “นี่…ข้าให้ท่าน…” จากนั้นนางก็ยื่นหินหยกให้หวังหลินและลอยกลับไปอย่างรวดเร็ว
ตอนที่นางหันกลับมา นางได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นเร็วยิ่ง ก้มหน้าลงทันที ความคิดว่างเปล่า
บรรพชนตระกูลซิ่วถอนหายใจออกมาในใจเมื่อเห็นนางทำเช่นนี้ ดวงตาเผยท่าทางซับซ้อน
“จงเข้าไปในทะเลสาปสายฟ้า!” วินาทีนั้นน้ำเสียงปรมาจารย์จงเฉินดังสะท้อนระหว่างฟ้าดิน เปลี่ยนกลายเป็นสายฟ้าดังสนั่นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ในทะเลสาป พื้นที่เปิดตรงกลางเต็มไปด้วยสายฟ้าทันทีและสี่เหลี่ยมทั้งหมดกลายเป็นทะเลสาปสายฟ้าของจริง!
คลื่นสายฟ้าเคลื่อนตัวอยู่ภายในทะเลสาป ปลดปล่อยแรงกดดันจนเซียนส่วนใหญ่ศีรษะด้านชาเพียงแค่มองดู
จิตวิญญาณสายฟ้าเคลื่อนผ่านทะเลสาปดุจอสรพิษ มันก่อตัวข้างในและร้องคำรามเป็นครั้งคราว
ซิ่วถิงพ่นลมหายใจเย็น ก้าวเดินเข้าหาทะเลสาปสายฟ้า วินาทีที่เขาย่ำเท้าลงไป เส้นสายฟ้านับไม่ถ้วนโค้งระหว่างเท้าและแผ่กระจายข้ามร่างกายและถูกปกคลุมอยู่ในสายฟ้าทันที
ร่างซิ่วถิงสั่นสะท้านก่อนจะสูดหายใจลึก ก้าวไปข้างหน้าห้าก้าวและนั่งสมาธิลง
หลังจากนั้นเฉินกงฮู่ก็ก้าวเท้าออกไป การฝึกฝนของเขาคล้ายคลึงกับสายฟ้าและเขาคุ้นชินกับสถานที่แบบนี้ อีกทั้งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาก้าวเข้าสู่ทะเลสาปสายฟ้า เขาเข้าไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งและนั่งสมาธิลง
อีกไม่นานก็มีคนอื่นๆตามเข้าไปในทะเลสาปสายฟ้า ทว่าอยู่ไม่กี่คนที่ระดับบ่มเพาะไม่เพียงพอ หลังจากเข้าไปในทะเลสาปสายฟ้า ร่างกายแต่ละคนส่นเทาและรีบถอยออกทันที ใบหน้าซีดราวกับบาดเจ็บ
หวังหลินมองดูหินหยกที่ซื่อจื่อเฟิงให้เขา จากนั้นก็มองซื่อจื่อเฟิงผู้ใบหน้าเขินอายไปแล้วจนไม่กล้าแม้จะมองมาหาหวังหลิน หวังหลินถอนหายใจ กวาดสัมผัสวิญญาณออกไปจึงรู้ได้ว่าหินหยกก้อนนี้สามารถป้องกันสายฟ้าทรงพลังได้ แน่ชัดแล้วว่านี่คือสมบัติป้องกันตัวที่สำคัญที่นางมีไว้ครอบครอง
หวังหลินขบคิดเล็กน้อยพลางเก็บหินหยกไว้ในเสื้อคลุมและเดินเข้าไปในทะเลสาปสายฟ้า
แม้ซื่อจื่อเฟิงจะก้มศีรษะลงนางก็ยังเห็นว่าหวังหลินทำอะไร เมื่อนางเห็นหวังหลินเก็บหินหยกไว้ในเสื้อคลุม หัวใจก็เริ่มเต้นเร็วยิ่งขึ้นไปอีก
ทว่าวินาทีนั้นนางไม่ได้เห็นว่าญาติพี่น้องของนางซึ่งเป็นชายหล่อเหลาในชุดคลุมสีฟ้ากำลังมองหวังหลินเข้าไปในทะเลสาป เขาซ่อนแววตาไม่เป็นมิตรไว้อย่างดีเยี่ยม
หวังหลินเข้าไปในทะเลสาปสายฟ้า วินาทีที่เท้าขวาสัมผัสทะเลสาป เขารู้สึกถึงพลังอำนาจของสายฟ้าพรั่งพรูเข้าไปในร่างกายจากเท้าขวา
ความรู้สึกสะดวกสบายแล่นไปทั่วร่างกายทันทีราวกับเขาอยู่ในบ้าน ทว่าหวังหลินไม่ได้แสดงอาการอะไรออกทางสีหน้า ขณะที่เดินเข้าไปสายฟ้าก็เคลื่อนผ่านร่างกายอย่างต่อเนื่องและส่งเสียงสนั่นไม่มีที่สิ้นสุด
หลังจากหาสถานที่โล่งๆ หวังหลินก็นั่งสมาธิลง
“ตอนนี้บททดสอบที่สองเริ่มต้นขึ้นแล้ว เสียงกลองจะเป็นตัววัดเวลา!” สิ้นเสียงตะโกนของปรมาจารย์จงเฉิน ผู้ส่งสาส์นสองคนเข้ามาถึงทันที จากนั้นแสงสีดำกระพริบวาบระหว่างสองคนปรากฏกลองยักษ์ขึ้น
ตึง! เสียงกลองดังยาวสะท้อนไปทั่วฟ้าดิน ดูเหมือนจะแทนที่เสียงคำรามสายฟ้าไป หนึ่งเสียงกลองคือหนึ่งลมหายใจ!
ภายในทะเลสาปสายฟ้ามีเซียนเกือบสองร้อยคนนั่งบ่มเพาะ ขณะที่เสียงกลองแรกดังกึกก้อง สายฟ้าภายในทะเลสาปดูเหมือนสั่นไหวและพุ่งขึ้นจากพื้นดินสามนิ้ว สายฟ้าคำราม ประกายกระพริบวูบวาบก่อตัวเป็นพายุสายฟ้า
ภายในพายุสายฟ้ามีจิตวิญญาณสายฟ้าเคลื่อนตัวอยู่และปลดปล่อยอำนาจสายฟ้าออกมาด้วย ทำให้เกิดเหตุการณ์น่าตกตะลึงข้างในทะเลสาป
สายฟ้าจำนวนมากเข้าไปในร่างเซียนหลายคนอย่างบ้าคลั่ง บางคนเพ่งสมาธิตัวเองเพื่อเผชิญหน้าหรือไม่ก็นำสมบัติป้องกันของตัวเองออกมา วินาทีนี้ทะเลสาปสายฟ้าก็ส่องประกายเจิดจ้า!
ซิ่วถิงถูกหมอกสีดำล้อมรอบซึ่งกำลังปกป้องสายฟ้าไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย เซียนคนอื่นๆทั้งหมดมีวิธีต่อต้านเป็นของตัวเอง
หวังหลินเพียงแค่นั่งอยู่เดิมโดยมีสายฟ้าหวีดหวิวผ่านเขาไป สายฟ้าจำนวนมากเข้าไปในร่างกายเพื่อหล่อเลี่ยงวิญญาณดั้งเดิม อาการบาดเจ็บที่เขาได้รับมาจากการต่อสู้กับหลัวซู่ฟื้นฟูขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
นี่มันเป็นความรู้สึกสบายเป็นอย่างยิ่ง หวังหลินหลับตาและไม่สนใจมองดูคนอื่นๆอีก
ตึง! เสียงกลองครั้งที่สองดังกึกก้อง จากนั้นสายฟ้าในทะเลสาปก็รุนแรงยิ่งขึ้น จิตวิญญาณสายฟ้าร้องคำรามและเริ่มหวดแส้สายฟ้า ทุกครั้งที่แส้ตกกระทบบนร่างเซียน จะทำให้อีกฝ่ายสั่นเทา!
เสียงกลองดังกึกก้อง ครั้งที่สาม…ครั้งที่สี่…จนกระทั่งครั้งที่สิบ เมื่อสายฟ้าภายในทะเลสาปพุ่งระดับขึ้นจนน่าตกตะลึง สายฟ้านับไม่ถ้วนก็สูงกว่าสามสิบฟุต ครอบคลุมทุกสิ่งอย่างข้างใน
เซียนจากแดนใต้คนหนึ่งใบหน้าซีดทันทีและกระอักโลหิต ราวกับถูกพลังรุนแรงตีเข้าใส่ ร่างกายลอยออกไปพร้อมกับสายฟ้าจำนวนมาก โลหิตไหลรินออกจากร่าง เขาได้รับบาดเจ็บหนัก
หมอกรอบซิ่วถิงรุนแรงขึ้นราวกับสามารถแยกสายฟ้าออกมาได้ ใบหน้าสงบนิ่งจ้องไปยังหวังหลิน เขาสังเกตหวังหลินตั้งแต่ที่อีกฝ่ายเดินเข้ามา การกระทำของหวังหลินค่อนข้างน่าประหลาดเกินไป
‘ซิ่วมู่ไม่ได้ต่อต้านหรือใช้สมบัติวิเศษอันใด เขาแค่เพียงนั่งสงบนิ่งอยู่ตรงนั้นราวกับที่นี่เป็นสถานที่ฝึกฝน น่าประหลาดที่สายฟ้าทรงพลังขนาดนั้นเข้าไปในร่างเขา ความจริงแล้ว…มันหายไป?’ ยิ่งซิ่วถิงคิดก็ยิ่งตกตะลึง อดไม่ได้ที่จะคาดเดาไปต่างๆนาๆ แต่ไม่ว่าจะคิดหนักแค่ไหนก็ไม่มีคำตอบจริงๆ
บนท้องฟ้า ผู้ส่งสาส์นคนหนึ่งหวดแขนและตีใส่กลองยักษ์สีดำ เสียงกลองครั้งที่สิบเอ็ดพลันเริ่มดังสะท้อนภายในสายฟ้า
สายฟ้าทั้งหมดในทะเลสาปสั่นไหวและเริ่มรวมกันเป็นจุดเดียว วินาทีหลังจากนั้นอสรพิษยาวพันฟุตก่อตัวขึ้นมา มันคืออสรพิษแต่ก็เหมือนมังกรไปด้วยและก่อตัวขึ้นจากสายฟ้า ทั้งร่างกายตั้งแต่บนลงล่างปลดปล่อยแรงกดดันแห่งสายฟ้า!
มันคือจิตวิญญาณสายฟ้า!
กรรรร! จิตวิญญาณสายฟ้าก่อตัวและร้องคำราม เสียงคำรามกึกก้องและเปลี่ยนกลายเป็นสายฟ้าคล้ายโผล่ออกมาจากยุคโบราณ สั่นสะเทือนสวรรค์และความคิดเซียนทุกคน
แม้กระทั่งหมอกดำรอบตัวซิ่วถิงยังเกือบสลายไป แววตาแฝงความตกใจพร้อมกับมีหมอกออกมาจากระหว่างคิ้วมากขึ้น
หากแค่ซิ่วถิงเป็นเช่นนี้คงไม่จำเป็นต้องพูดถึงเซียนคนอื่นๆ ภายใต้เสียงร้องคำรามสั่นสะเทือนสวรรค์ มีเซียนมากกว่าสิบคนกระอักโลหิตและถูกโยนออกไป
เมื่อเสียงกลองครั้งที่สิบสอง สิบสามและสิบสี่ดังขึ้นมา จิตวิญญาณสายฟ้าร้องคำรามหนักแน่นกว่าเดิม ท้ายที่สุดเมื่อเสียงกลองที่สิบห้าดังขึ้น จิตวิญญาณสายฟ้าพุ่งออกไป อ้าปากและพ่นสายฟ้าออกมาจำนวนมาก
ท้องฟ้าเปลี่ยนสีและสนั่นหวั่นไหว สีหน้าเซียนรอบด้านเปลี่ยนไป แม้พวกเขาจะอยู่ข้างนอกยังสัมผัสถึงพลังอำนาจแห่งสวรรค์ภายในสายฟ้าที่มิอาจต่อต้านได้!
ตอนที่จิตวิญญาณสายฟ้าพ่นออกไป แรงกดดันรวมตัวกันและพุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุด คราวนี้เซียนสิบกว่าคนกระอักโลหิตและถูกโยนออกไป แววตาแต่ละคนหวาดกลัวสุดขีด
เฉินกงฮู่ดิ้นรนอย่างเจ็บปวด ขีดจำกัดของเขาเมื่อตอนนั้นคือสิบห้าลมหายใจ ตอนนี้จิตใจเขามีความเชื่อบางอย่างว่าตัวเองจะทนต่อไปได้
จางกงเล่ยสูดหายใจลึก กัดฟันแน่นพลางต้านรับสายฟ้า
แม้กระทั่งเซียนหกนิ้วและเด็กหัวโตก็เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้ใช้พลังของตัวเองเต็มที่และผ่อนคลายขึ้น อย่างไรระดับความผ่อนคลายก็เทียบไม่ได้กับหวังหลิน
ขณะที่หวังหลินนั่งอยู่ตรงนี้ สายฟ้าจำนวนมากแทรกซึมเข้าไปในร่างและหล่อเลี้ยงวิญญาณดั้งเดิม อาการบาดเจ็บที่เจอก่อนหน้านี้สมานตัวอย่างสมบูรณ์ ไม่เพียงแค่นั้นแม้กระทั่งอาการบาดเจ็บที่เขาซ่อนเอาไว้ตอนที่สู้กับเหยาปิงหยุนก็ยังหายไปหมด
ขณะที่จิตวิญญาณสายฟ้าร้องคำรามเต็มไปด้วยอำนาจแห่งสายฟ้า เมื่อมันลงเข้าไปในหูหวังหลินราวกับเป็นเด็กร้องคำรามใส่เขา แม้จะรู้สึกประหลาดเล็กน้อยแต่มันก็เป็นสิ่งที่เขารู้สึกได้จริงๆ
แม้เด็กคนนี้จะแข็งแกร่งยิ่งในสายตาคนอื่นๆ ในสายตาหวังหลินมันก็ยังเป็นเด็ก กล่าวให้ชัดคือมันเป็นเด็กที่กำลังพัฒนาเพื่อเป็นมังกรสายฟ้า!
หวังหลินสงบนิ่งเมินเฉยทุกอย่างรอบตัว หลับตาลงและเพ่งสมาธิดูดซับสายฟ้า ซึ่งทำให้วิญญาณดั้งเดิมมังกรสายฟ้าโบราณของหวังหลินค่อยๆแข็งแกร่งขึ้น
หลังเสียงกลองสิบห้าครั้งผ่านไป กฏเกณฑ์บนจิตวิญญาณสายฟ้าก็ถูกปลดปล่อย มันร้องคำราม ร่างกายกวาดผ่านบริเวณเกิดเป็นคลื่นสายฟ้า เซียนมากกว่าสิบคนโดนตีเข้าใส่ ใบหน้าซีดขาวและสลบเหมือด
จิตวิญญาณสายฟ้าคล้ายมีความสุขยิ่งพลางร้องคำรามและกวาดผ่านไปอีกครั้ง คราวนี้หวังหลินรวมอยู่ในกลุ่มที่โดนกวาดไปด้วย!
วินาทีที่จิตวิญญาณสายฟ้ากวาดผ่านไป หวังหลินพลันลืมตาขึ้นมาจ้องมัน สายตาดุจผู้ใหญ่กำลังเฝ้ามองเด็กโอหังที่กำลังเล่นรอบสนาม!