Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 889

Cover Renegade Immortal 1

889. กลับมา

บนดาวรกร้างแห่งหนึ่ง ทุกสิ่งภายในระยะห้าหมื่นลี้รอบหวังหลินพลันแห้งเหี่ยวสิ้นเชิง พื้นดินแตกร้าว พลังชีวิตทั้งหมดถูกเขากลืนกิน

ร่างกายกำลังเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ขณะที่ดูดซับพลังชีวิตจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง รูปร่างเขาถูกฟื้นคืนมาดังเดิม พลังชีวิตในร่างกลับมาแล้ว

หวังหลินลืมตาขึ้น สูดหายใจลึกเต็มไปด้วยสายฟ้าและพึมพำ “การพึ่งดัชนีแห่งความตายในการฟื้นฟูพลังชีวิตมีข้อเสียอยู่”

หลังขบคิดอยู่ชั่วครู่ หวังหลินยืนขึ้น ก้าวเท้าครั้งเดียวก็ออกไปจากดาวเคราะห์ ต้าซานเคลื่อนไหวพริบตาและหายเข้าไปในเงา

‘ดาวซูซาคุ…’ ใต้ฝ่าเท้าเกิดระลอกคลื่นและผสานตัวเข้ากับโลก

ด้านนอกดาวซูซาคุ คำถามของเด็กหัวโตพึ่งเข้าไปในหูเซียนสองคน

เซียนทั้งสองระงับความตื่นตระหนกในใจ หนึ่งในนั้นรีบพูดขึ้น “เทพผู้ส่งสาส์น เราเห็นรูปปั้นหนึ่งบนดาวเคราะห์ดวงนี้…”

“ข้าบอกให้เจ้าสองคนสังหารคนบนดาวซะ ไม่ใช่ให้ไปดูรูปปั้น!” เด็กหัวโตขัดจังหวะตรงๆ สายตาเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบ แม้ยังคงยิ้มแต่กลับเต็มไปด้วยจิตสังหาร

เซียนคนเดิมกำลังจะพูดขึ้นแต่ถูกพี่น้องรั้งเอาไว้ เขามองเด็กหัวโตและกล่าวอย่างเคารพ “ท่านเทพผู้ส่งสาส์น ท่านควรจะไปเห็นรูปปั้นด้วยตัวเอง จากนั้นท่านก็จะเข้าใจว่าทำไมเราถึงกลับมา!” สิ้นคำพูดเขาก็ไม่มองเด็กหัวโตอีกและดึงพี่น้องตัวเองกลับเข้าไปในกลุ่มเซียน

เด็กหัวโตมองทั้งสองคนด้วยความมืดมน เขาก้าวเท้ามุ่งตรงเข้าหาดาวซูซาคุ เดิมทีเขาคงไม่ก้าวเท้าไปบนดาวกึ่งไร้ประโยชน์เช่นนี้ ตอนที่เขาเผชิญกับดาวเคราะห์คล้ายๆกันเขามักจะส่งลูกน้องเข้าไปเข่นฆ่าก่อนจะจากมา

ในสายตาเขา ควรจะใช้วิชาของตัวเองบนดาวเคราะห์ระดับเจ็ดเท่านั้น!

‘น่าเสียดายที่ข้าไม่เจอดาวเคราะห์ระดับเจ็ดเลยสักดวง ข้าต้องการเห็นว่าใครกันบนดาวเคราะห์นี้สามารถทำให้เซียนขั้นเทวะระดับปลายสองคนต้องวิ่งหนี!’ เด็กหัวโตพ่นลมหายใจเย็น ร่างกายไม่ได้เข้าไปบนดาวแต่สัมผัสวิญญาณส่งกระจายออกไป เขาเป็นเซียนขั้นส่องสวรรค์ระดับต้นและเลือกจะเข้าไปในสระเทพ เขาสูญเสียเขตแดนของตนเองแต่ตอนนี้ได้ต้นกำเนิดเทพอยู่ในตัวแล้ว!

เขาลอบใช้วิชาเทพก่อนหน้านี้หลายครั้ง พลังที่เห็นทำให้เขาประหลาดใจปนความสุข!

วินาทีที่ส่งสัมผัสวิญญาณออกไปนั้น พายุทรงพลังก่อตัวขึ้นมากวาดผ่านไปทั่วดาวซูซาคุ! สัมผัสวิญญาณแข็งแกร่งจนเกิดความโกลาหล

ยอดภูเขาหลายแห่งแตกสลาย แม่น้ำเดือดพล่าน คลื่นมหาศาลเข้ากระแทกกันและกัน เซียนทั้งหมดบนดาวซูซาคุรู้สึกราวกับภูเขายักษ์เข้าบดขยี้จากด้านบน

สัมผัสวิญญาณที่กระจายออกมาเปลี่ยนกลายเป็นเส้นสายฟ้านับไม่ถ้วนกระจายไปทั่วทุกมุมของดวงดาว นี่มันทำให้ซูซาคุเผชิญกับหายนะในทันที สัมผัสวิญญาณแข็งแกร่งนั้นเปลี่ยนกลายเป็นเมฆหมอกสีดำปกคลุมผืนฟ้าและกดทับลงมาอย่างโหดเหี้ยม!

เซียนขั้นเทวะหลายคนสั่นสะท้านทันที ราวกับวิญญาณดั้งเดิมแต่ละคนกำลังแตกสลาย ส่วนเซียนขั้นแปลงวิญญาณกระอักโลหิตและหมดกำลังใจ

เซียนขั้นแกนลมปราณสั่นไหวและเกิดรอยร้าวบนแกนพลังของตนเอง สีหน้าแต่ละคนซีดเผือด เผยความสิ้นหวัง

เซียนขั้นพื้นฐานลมปราณและรวบรวมลมปราณพลันเกิดหมอกโลหิตระเบิดออกมา หลายคนฟุบลงบนพื้นและอ่อนแอยิ่งนัก

หากเหล่าเซียนเป็นเช่นนี้คงไม่ต้องพูดถึงคนธรรมดา คนธรรมดาทั้งหมดบนดาวซูซาคุพลันสลบไสล สิ่งเดียวที่อยู่ในความคิดคือเสียงดังสนั่นหวั่นไหวกึกก้อง

พริบตาเดียว ดาวซูซาคุก็เงียบสงัด

แต่เพราะเซียนหัวโตไม่ต้องการเข่นฆ่าคนธรรมดา ไม่เช่นนั้นเพียงแค่กวาดสัมผัสวิญญาณ ทุกอย่างคงตายไปแล้ว!

ภายใต้การโจมตีทางสัมผัสวิญญาณ มีน้อยคนนักที่ยังดิ้นรนอยู่ได้ โจวหวู่ไท่มีสายเลือดมังกรและสืบทอดผลึกดาวเซียน ดังนั้นเขาจึงร้องคำราม แสงสีเขียวปกคลุมร่างกายเปลี่ยนกลายเป็นเกล็ด กลิ่นอายทรงพลังระเบิดออกมา มังกรเขียวยาวพันฟุตปรากฏออกมาในท้องฟ้าและร้องคำรามขึ้นเบื้องบน

หยุนเชว่จื่อคลุมร่างด้วยรอยสักทอง สีหน้าซีดเผือด เส้นเลือดบนใบหน้าปูดพอง วินาทีนั้นเขารู้สึกเหมือนกำลังเผชิญหน้ากับฟ้าดิน

กรรร!

ถึงหยุนเชว่จื่อจะแก่ชรา เขาก็ร้องคำรามออกมา ภาพเงามายาต้นไม้สูงตระหง่านปรากฏในท้องฟ้า ปลดปล่อยกลิ่นอายทรงพลังและเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ ภายใต้แรงกดดันทรงพลังนี้เขากำลังทะลวงผ่าน! ราวกับมีความคิดว่าสัมผัสวิญญาณนี้ทำให้เขายอมจำนน! ราวกับความคิดนี้ผุดออกมาจากส่วนลึกในวิญญาณ

ลมหายใจเย็นพ่นออกมาจากท้องฟ้า ก่อเกิดคลื่นกระแทกหลายแห่ง พื้นดินสั่นไหวราวกับท้องฟ้ากำลังกลับด้าน

ร่างหยุนเชว่จื่อสั่นสะท้านและกระอักโลหิตคำโต รอยสักทั้งหมดรอบตัวเองแตกสลาย เผยรอยยิ้มอนาถ มันไม่ใช่พลังของอีกฝ่ายแต่เป็นสัญชาตญาณจากภายในตัวที่ทำให้เขายอมจำนน

เด็กหัวโตสีหน้าสงบนิ่งพลางเหินลงมาเอามือไพล่หลัง สายลมพัดพริ้วไปเข้าหาเขาแต่มันก็ย้อนคืนราวกับไม่กล้าเข้าปะทะ

ในสายตาเซียนทุกคู่ของดาวซูซาคุ พลังอำนาจอันแข็งแกร่งจนนึกไม่ถึงแพร่กระจายออกมายามที่เด็กหัวโตเหินลง

“ดาวเคราะห์เซียนขยะ ทุกคนที่นี่ก็แค่กองขยะ! แล้วจะเก็บไว้ทำไม? เมื่อทั้งหมดเจอข้าแล้ว ให้ข้าส่งไปเกิดซะ!” เด็กหัวโตยกนิ้วขึ้นและชี้ใส่อย่างลวกๆ

พลังปราณสวรรค์หนาแน่นรวบรวมไว้บนนิ้วจนกระทั่งเรืองแสงสีทอง แสงสีทองบรรจุพลังเทพอันน่าหวาดกลัวอยู่ด้วย

มังกรเขียวของโจวหวู่ไท่ถูกลำแสงสีทองแทงทะลุในพริบตา มังกรีดร้องโหยหวนออกมา มังกรตัวนั้นเป็นองครักษ์ของดาวซูซาคุ พลันร้องอย่างไม่ยินยอมและแตกสลายลงไป

ร่างโจวหวู่ไท่สั่นสะท้านและกระอักโลหิต ทว่าสายตายังคงเต็มไปด้วยเจตนาต่อสู้

ขณะนั้นร่างเด็กหัวโตสั่นสะท้าน เขากระจายสัมผัสวิญญาณออกไปมองรูปปั้นหนึ่ง ตอนนี้เขาได้เห็นรูปปั้นยักษ์ในสำนักแล้ว

เมื่อเห็นรูปปั้นนี้ แม้จะมีความคิดแข็งแกร่งก็อดอ้าปากค้างไม่ได้ สายตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“นี่…นี่…”

เขาตกตะลึงจนก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว หัวใจเต้นกระดอน สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมาเจอรูปปั้นของซิ่วมู่ที่นี่!

ซิ่วมู่พาเขาให้เจอกับฝันร้าย ในช่วงหนึ่งเส้นทางสู่สวรรค์เมื่อตอนนั้น เขาถูกซิ่วมู่ฆ่าตายโดยไม่มีโอกาสให้ต่อสู้กลับไป เขายังคงหวาดกลัวสายฟ้านั่นที่ทำให้หนังศีรษะด้านชา

แม้หลังจากเข้าไปในสระเทพแล้ว เขาก็ยังไม่กล้าไปล่วงเกินซิ่วมู่

ทุกครั้งที่เขาคิดถึงวิชาที่มิอาจอธิบายได้ตอนนั้น เขายังรู้สึกหวาดหวั่น

เขาสูดหายใจลึกในเสี้ยววินาทีและหายตัววับไป ปรากฏตัวอีกครั้งในท้องฟ้าเหนือสำนักเมฆาฟ้าและจ้องรูปปั้นของหวังหลิน

ยิ่งมองเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกตกตะลึง ยิ่งตกตะลึงก็ยิ่งจิตใจสั่นเทา!

“จ้าวปิศาจซิ่วมู่!!” เด็กหัวโตใบหน้าซีด เขามั่นใจอย่างที่สุดว่ารูปปั้นนี้คือซิ่วมู่!

อีกทั้งเขายังตายด้วยน้ำมือซิ่วมู่ไปแล้ว ดังนั้นรูปลักษณ์ของซิ่วมู่จึงสลักอยู่ในจิตใจ!

เขาจ้องรูปปั้นอย่างตกตะลึง เด็กหัวโตเข้าใจแล้วว่าทำไมเซียนสองคนนั้นถึงวิ่งหนี ซิ่วมู่โด่งดังเกินไปและกระทั่งเขายังอดไม่ได้ที่จะเกิดแรงกระตุ้นให้จากไป

ไท้หยานนั่งอยู่ในลานข้างรูปปั้น เขาจ้องรูปปั้นนั้นและเผยสีหน้าเยาะเย้ย

หยุนเชว่จื่อบาดเจ็บหนักพลันดวงตาส่องสว่างขึ้นมา เขาเห็นสีหน้าท่าทางของเด็กหัวโตคนนั้นทันที เมื่อเห็นว่าเด็กหัวโตก็ตกตะลึงเบื้องหน้ารูปปั้นหวังหลิน หยุนเชว่จื่อเต็มไปด้วยความตกตะลึง

‘เซียนทุกชั้นฟ้ารู้จักเด็กหวังหลินนั่นได้อย่างไร!? ถึงอย่างนั้นมันคงไม่อาจอธิบายสีหน้านี้ได้ ยกเว้นว่า…’ ความคิดหนึ่งเกิดขึ้นมาจนหยุนเชว่จื่อคิดกับตัวเองว่ามันคงเป็นเรื่องบ้าบอคอแตกอย่างสิ้นเชิง

โจวหวู่ไท่ก็เช่นเดียวกัน เขาบาดเจ็บหนักแต่เพราะสัญญาที่เขาให้ไว้กับหวังหลิน เขาจึงยอมแพ้ไม่ได้ ตราบใดที่ซูซาคุ(ตำแหน่ง)ยังคงอยู่ ผู้คนจะต้องมีชีวิต! ถ้าซูซาคุไม่อยู่แล้ว เมื่อนั้นคนทั้งหมดก็คงตาย!

ส่วนเด็กหัวโตนั้น จ้องรูปปั้นหวังหลินด้วยความคิดสั่นเทา เขาหวาดกลัวหวังหลินอย่างสิ้นเชิง ขณะยืนอยู่ที่นี่และจ้องรูปปั้น เส้นขนเส้นขนทั้งหมดบนร่างตั้งชูชัน ราวกับเขากำลังเผชิญหน้าหวังหลินจริงๆ! ก้าวถอยไปอีกหลายสิบก้าวโดยไม่รู้ตัว สีหน้ามืดมน

‘ข้าไม่อาจล่วงเกินซิ่วมู่เพื่อดาวเคราะห์ร้างดวงเดียว ถึงกระนั้นรูปปั้นซิ่วมู่นี้ดูเหมือนจะอยู่มานานหลายร้อยปี…’

‘ซิ่วมู่ไม่ใช่คนจากดาราจักรทุกชั้นฟ้า!! เขาเป็นเซียนจากดาราจักรพันธมิตรเซียน ต้องเป็นเช่นนั้นแน่!’ เด็กหัวโตจิตใจเต้นกระดอนอย่างบ้าคลั่ง เขารู้สึกได้กุมความลับยิ่งใหญ่ ด้วยความลับนี้เขาสามารถทำลายซิ่วมู่และอาจกระทั่งทำให้ซิ่วมู่ต้องสูญเสียชีวิต!

เด็กหัวโตหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นดวงตาส่องสว่างขึ้นและก้าวเท้าไปข้างหน้า เข้าไปใกล้รูปปั้นและยกแขนขึ้นมา จากนั้นสะบัดลงไปอย่างโหดร้ายพร้อมเสียงตะโกน “ทำลายลงไปซะ!” เขาไม่กล้าไปล่วงเกินซิ่วมู่และทำได้เพียงระบายความโกรธของตัวเองเท่านั้น

ช่วงจังหวะที่ยกแขนขึ้นมา ไท้หยานซึ่งกำลังนั่งใต้รูปปั้นและยังคงสีมีโลหิตไหลออกมาจากปาก พลันมองขึ้นไปยังเด็กหัวโต เอ่ยขึ้นอย่างเย็นเยียบ ในสายตาไม่มีความหวาดกลัว “หากเจ้าทำลายรูปปั้นของผู้มีพระคุณ เจ้าจะตายโดยไม่ต้องสงสัย!”

ฝ่ามือเด็กหัวโตหยุดชะงัก สายตาร่อนลงบนไท้หยาน เขาเห็นว่าอายุขัยของไท้หยานกำลังจะหมดลงแล้วพลันเยาะเย้ยขึ้น “ไม่ต้องพูดถึงการทำลายรูปปั้นเลย แม้ซิ่วมู่จะมาด้วยตัวเอง ข้าก็ไม่สน!”

เขายกแขนขวาขึ้นและกำลังจะกระแทกลงมา ทว่าน้ำเสียงเย็นเยียบกว่าสายลมหนาวพลันดังกึกก้องไปทั่วซูซาคุ!

“พูดคำนั้นอีกครั้งสิ!” เสียงนี้เพียงพอจะแช่แข็งโลกทั้งใบ!

“ซิ่วมู่!” ราวกับมีคนตีแสกหน้าใส่เด็กหัวโต สีหน้าอาการพลันซีดขาวและก้าวถอยโดยไม่ลังเล ความคิดสั่นเทาอย่างรุนแรง

‘ข้าสู้ไม่ได้ ต้องถอย!’ ขณะถอยตัวเขาก็กระอักโลหิตออกมา ใช้วิชาหลบหนีโลหิตซึ่งเป็นอันตรายต่อระดับบ่มเพาะโดยไม่ลังเลใดๆ หลังจากการแข่งขันหนึ่งเส้นทางสู่สวรรค์ เขาหวาดกลัวซิ่วมู่จากก้นบึ้งหัวใจ

“ผู้มีพระคุณ!” ดวงตาไท้หยานเต็มไปด้วยความตื่นเต้นนับร้อยปี สองหยาดน้ำตาไหลออกมาเมื่อเห็นร่างหนึ่งเดินออกมาจากระลอกคลื่นใกล้รูปปั้น

หยุนเซว่จื่ออ้าปากค้าง “หวังหลิน!!”

“หวังหลิน!” โจวหวู่ไท่เผยแววตาตกตะลึงและปลื้มปิติ

“หวังหลิน!!” วินาทีนั้นเซียนทั้งหมดได้รับการกระตุ้นและสังเกตว่านี่มันตกตะลึงยิ่งกว่า!

หวังหลิน บรรพชนที่แท้จริงแห่งดาวซูซาคุ!

“เจ้าจะหนีไปไหนไม่ได้!” หวังหลินเผยสายตาจิตสังหารเข้มข้น ก้าวเท้าออกไป!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!