Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 911

Cover Renegade Immortal 1

911. ดินแดนสังหาร

ยู่เฟยเผยสายตาหวาดกลัว เห็นได้ว่าระดับบ่มเพาะของซิ่วมู่ประหลาดยิ่ง แม้จะเป็นขั้นส่องสวรรค์ระดับต้นแต่ร่างกายหยาบแข็งแกร่งจนเอาชนะสมบัติที่เขาหลอมขึ้นมาด้วยร่างอวตารได้!

จึงทำให้ความคิดสั่นสะท้าน

สิ่งที่ทำให้เขาจนปัญญาก็คือเสียงคำรามเมื่อครู่พึ่งสั่นพ้องร่างอวตารทั้งสี่จนตาย กระทั่งเขาเองยังรู้สึกถึงความหวาดกลัวมิอาจต่อต้านได้

วินาทีนั้นเขาไม่กล้าต่อสู้อีกแล้ว ร่างกายกระพริบไหวและกระแอมโลหิตคำโตออกมาเข้าไปข้างในโลหิตและเหาะเหินออกไปไกล

ขณะหลบหนี ก้อนหินที่เขายืนอยู่พลันแตกสลาย จิตสังหารจำนวนมากรั่วไหลออกมาเพื่อหยุดทุกคนไม่ให้ไล่ล่ายู่เฟย

หวังหลินสร้างผนึกและชี้ขึ้นไปด้วยสีหน้าเยือกเย็น สายลมกรรโชคพัดปลิวก้อนหินไป จากนั้นก้าวเท้าไล่ล่ายู่เฟย

ยู่เฟยเร็วมาก วิชาหลบหนีโลหิตคือวิชาเอาตัวรอดสำหรับคนที่กำลังบาดเจ็บ เขาตื่นตระหนกและไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ต้องการหนีให้เร็วที่สดเท่านั้น

ทว่าเมื่อห่างออกมาได้หมื่นลี้ ระลอกคลื่นปรากฏอยู่เบื้องหน้า หวังหลินก้าวออกมาโยนกำปั้นเข้าใส่ใบหน้าอย่างจัง!

กำปั้นกระทบความว่างเปล่าทำให้มิติรอบๆแตกสลาย พลังดั้งเดิมในโลกโกลาหลขึ้นมา ร่างยู่เฟยสั่นสะท้านและกระอักโลหิต แสงโลหิตรอบตัวเขาหายไปและถูกบังคับให้ออกมาจากวิชาหลบหนี

ยู่เฟยสร้างผนึกยิงลำแสงสีโลหิตออกมาจากหน้าผาก ลำแสงสีแดงส่องสว่างและปลดปล่อยกลิ่นอายชั่วร้ายรุนแรง ยู่เฟยร้องตะโกน มันเปลี่ยนกลายเป็นปราณกระบี่ยาวร้อยฟุตพุ่งใส่หวังหลิน

นี่คือสมบัติชีวิตของยู่เฟย เขาถูกบังคับจนถึงขีดจำกัดจึงใช้ออกมาโดยไม่ลังเล หลังจากโยนสมบัติชีวิตออกไป ฝ่ามือสร้างผนึกอีกแห่ง โลหิตเบื้องหน้าเขาสั่นเทาและเปลี่ยนกลายเป็นอสรพิษยาวพันฟุต อสรพิษอ้าปากและพยายามกลืนกินหวังหลินเข้าไป

ทว่ายังไม่รู้สึกสบายใจ ดังนั้นจึงตบกระเป๋านำสมบัติจำนวนมากออกมา ลำแสงหลายเส้นกระพริบวูบวาบออกมาจากเหล่าสมบัติ เขาพ่นแกนโลหิตร่อนลงไปบนสมบัติทั้งหมดและร้องตะโกน “ฆ่า!”

สมบัติวิเศษเบื้องหน้าเขาพุ่งเข้าใส่หวังหลินทันที

ยู่เฟยหน้าซีดเล็กน้อยแต่ก็ถอยร่นโดยไม่ลังเล

หวังหลินสีหน้าท่าทางไม่แยแส ยามเผชิญกระบี่ยักษ์จากสมบัติชีวิตของยู่เฟย พลังปราณมหาศาลผุดออกมาจากร่างกายหวังหลิน จากนั้นร่างกายขยายเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นร่างยักษ์สูงหลายร้อยฟุต!

ร่างขนาดยักษ์ปลดปล่อยกลิ่นอายทรงพลังโบราณ เขาไม่ได้หลบเลี่ยงและยอมให้ปราณกระบี่ตบตีเข้าใส่ กระบี่นั่นแตกสลายไปเองโดยที่หวังหลินไม่หยุดชะงักเลย!

หากหวังหลินไม่ได้ผสานร่าง เขาคงไม่กล้าเผชิญหน้ากับสมบัติของเซียนขั้นส่องสวรรค์ระดับกลาง ทว่าตอนนี้เขาผสานเข้ากับร่างดั้งเดิมไปแล้วจึงสามารถต่อต้านสมบัติของอีกฝ่ายได้อย่างสิ้นเชิง อีกทั้งพลังดั้งเดิมแข็งแกร่งที่ออกมาจากร่างกายเขายังผลักดันสมบัติทั้งหมดไปได้ด้วย

ส่วนเจ้าอสรพิษที่ตามหลังมาติดๆนั้น มันยังพยายามกลืนกินหวังหลินอยู่อีก หวังหลินคว้าศีรษะเจ้าอสรพิษอย่างไม่แยแสและบีบหัวมันตรงๆ

ขณะที่หวังหลินกำลังโยนมันออกไปก็ต้องประหลาดใจที่พบว่าอสรพิษมีวิญญาณอยู่ หวังหลินนำแม่น้ำอเวจีออกมาโดยไม่ลังเล ความอาฆาตจึงเต็มไปทั่วบริเวณ

หลังโยนอสรพิษเข้าไปในแม่น้ำอเวจี พลันสะบัดแขน สมบัติที่กำลังกระหน่ำเข้ามาทั้งหมดแตกสลายทันที

เมื่อสมบัติชีวิตถูกทำลาย ยู่เฟยที่กำลังหลบหนีจึงกระอักโลหิต ใบหน้าซีดเซียวมากกว่าเดิม เขากัดฟันแน่น สายตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นทั้งยังอดทนต่อความเจ็บปวด เขาตัดแขนซ้ายตัวเองออก โลหิตสาดกระเด็นจำนวนมาก พึมพำวิชาซับซ้อนด้วยใบหน้าใกล้ตาย จากนั้นแขนซ้ายแตกสลาย ก่อตัวเป็นประตูวังวน

ยู่เฟยก้าวเข้าไปในวังวนตรงๆ

“ซิ่วมู่ คู่หูล่าวิญญาณยังมีอีกคนนึง แม้ร่างเจ้าจะแข็งแกร่ง ภายใต้วิชาของนักฆ่าวิญญาณ เจ้าจะต้องตายแน่นอน!” ยู่เฟยก้าวเดินเข้าไปในวังวนด้วยสายตาอาฆาตพยาบาท

เมื่อเห็นว่ายู่เฟยกำลังหลบหนี สายตาหวังหลินเต็มไปด้วยจิตสังหาร เขามีประโยคนึงบอกกับตัวเองมาเสมอว่า “หากไม่ล่วงเกินข้า ข้าก็จะไม่ก้าวก่าย แต่หากมาล่วงเกินข้า ข้าก็จะฆ่าพวกมันซะ!”

วินาทีที่ร่างยู่เฟยเข้าไปในวังวนไปแล้ว วังวนจึงหมุนอย่างรวดเร็วและเล็กลงเรื่อยๆ มันกำลังหายไปในที่สุด

หวังหลินสายตาเย็นเยียบ ภาพมายาของเตาหลอมขนาดหลายร้อยฟุตปรากฏเบื้องหน้าหวังหลิน!

เตาหลอมเทพโบราณ ตอนที่ร่างอวตารของหวังหลินใช้มันเขาจะต้องใช้ผนึกที่กรีดทิ้งเอาไว้ ทว่าหลังจากผสานเข้ากับร่างดั้งเดิม การควบคุมมันจึงแข็งแกร่งยิ่งกว่า!

“สลับตำแหน่ง!” พริบตานั้นเสียงดังก้องโผล่ออกมาจากในเตาหลอมเทพโบราณ วังวนที่กำลังหดตัวคล้ายกับถูกมือยักษ์ที่มองไม่เห็นหนึ่งคู่ดึงเข้าหาหวังหลิน ขณะเดียวกันร่างหวังหลินก็เคลื่อนไปข้างหน้าด้วยลักษณะอันลึกลับ

วินาทีที่ทั้งสองตัดขวางกัน สองดัชนีหวังหลินก่อเป็นรูปกระบี่แฝงตัดสวรรค์ สายฟ้าสวรรค์และปลาหยินหยางเอาไว้ ขณะเดียวกันร่างอันแข็งแกร่งของเทพโบราณและวิชาที่สามารถตัดสลายได้ทุกสิ่งก็ถูกบรรจุเข้าไปในสองดัชนีนี้ด้วย หวังหลินแทงสองดัชนีผ่านวังวนไปตรงๆ!

ณ ดินแดนสังหารซึ่งเป็นหนึ่งในแปดดินแดนของดาราจักรพันธมิตรเซียน!

วังวนรูไข่ปรากฏขึ้นข้างๆกับสิ่งก่อสร้างที่ดูคล้ายกระบี่แทงเข้าไปในพื้นดิน พลังลึกลับโผล่ออกมาจากวังวนและทำให้เซียนในดินแดนสังหารให้ความสนใจ

ยู่เฟยก้าวร่างออกมาจากวังวน ใบหน้าซีดเซียวใกล้ตาย โลหิตไหลรินออกมาจากแขนซ้าย หลังจากเขาออกมา วังวนด้านหลังเขาก็หดลงอย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นว่าเขากลับมาดินแดนสังหารอันคุ้นเคยจึงผ่อนคลายลง แต่ยังหวาดกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขามองดูหอคอยและกำลังจะเอ่ยปากพูด

ทว่าในจังหวะนั้นมีกลิ่นอายทรงพลังยิ่งออกมาจากหอคอยพร้อมๆกับเสียงคำรามโกรธเกรี้ยว

“ยู่เฟย ออกไปจากตรงนั้น!”

ในเวลาเดียวกัน ลำแสงสีแดงเส้นหนึ่งออกมาจากหอคอยสูง พุ่งเข้าใกล้ยู่เฟยแต่นั่นเป็นวินาทีที่สายเกินไปแล้ว!

วินาทีที่ได้ยินเสียงนั้น ยู่เฟยไม่หยุดชะงักและพุ่งตัวต่อไป ทว่าพลังแข็งแกร่งโผล่ออกมาจากวังวนที่กำลังหดลงเบื้องหน้าในเสี้ยววินาที มันฉีกผ่านวังวนเข้ามา สองดัชนีโผล่ออกมาจากวังวน แฝงจิตสังหารเข้มข้นและประทับใส่แผ่นหลังของยู่เฟย

“ซิ่วมู่!” ยู่เฟยกระอักโลหิต ร่างลอยละลิ่วอย่างรุนแรงเนื่องจากพลังอันแข็งแกร่ง เสียงดังป๊อป หมอกโลหิตจำนวนมากผุดออกมาจากรูขุมขน พริบตานั้นทั้งร่างก็แตกสลาย!

แม้แต่วิญญาณที่กำลังหลบหนีออกมาจากร่างกายยังถูกทำลายไปด้วยไม่เหลือซาก!

กระทั่งกระเป๋าก็ถูกทำลาย ทุกสิ่งทุกอย่างข้างในลอยออกมา สิ่งของเหล่านี้มีกิ่งไม้หนึ่งลอยกลับและถูกสองดัชนีจากวังวนจับเอาไว้

ฉากเหตุการณ์นี้ทำให้เกิดความโกลาหลในดินแดนสังหาร แสงสีแดงที่พุ่งออกมาจากหอคอยพลันยิงใส่สองดัชนีทันที ทว่าในไม่นานนักสองดัชนีก็หดลง ถอยกลับเข้าไปในวังวน จากนั้นวังวนก็เลือนหายไป

เสียงคำรามโกรธเกรี้ยวโผล่ออกมาจากแสงสีแดง พริบตานั้นแขนขวาแห้งเหี่ยวพลันยิงแสงสีแดงเข้าไปในวังวนที่กำลังสลายตัวจนเกิดเสียงปะทุขึ้น แขนขวาแห้งเหี่ยวสามารถดึงกิ่งไม้ออกมาจากวังวนได้ครึ่งส่วน

“ซิ่วมู่!!!” แสงสีแดงกระพริบวาบและเผยเป็นคนผู้หนึ่ง เขาแก่ชรายิ่ง ศีรษะสีแดงระเรื่อ วินาทีนั้นเขาก็ปลดปล่อยความโกรธออกมา

นับตั้งแต่อดีตกาล ดินแดนสังหารไม่เคยพบเจอคนของตัวเองถูกสังหารในที่ของตัวเองมาก่อน ทั้งยังไร้หนทางช่วยเหลือด้วย ความน่าละอายนี้เทียบเท่ากับศัตรูเข้ามาสังหารพวกเขาในฐานเลย!

เสียงคำรามโผล่ออกมาจากหอคอยแห่งอื่น เหล่าเซียนเต็มไปด้วยจิตสังหารผุดออกมา แต่ละคนจ้องไปยังตำแหน่งที่ยู่เฟยตายและขบคิดอย่างเงียบๆ

ความเงียบก่อตัวเป็นจิตสังหารเหนือจินตนาการที่กำลังถูกระงับเอาไว้และรอคอยการระเบิด

ชายชราผมแดงสูดหายใจลึกและเผยใบหน้าโหดเหี้ยม โบกสะบัดแขนและกลับเข้าไปในหอคอย หลังจากนั้นอีกสักพักน้ำเสียงเย็นเยียบดังออกมา

“ไล่ล่าซิ่วมู่!”

ส่วนหวังหลิน เขาถอนนิ้วมือกลับมา ร่างกายค่อยๆหดลงจนกลับสู่ปกติในเวลาไม่กี่ลมหายใจ หากเขาต้องการฆ่า ก็ต้องทำให้หมดจด การปล่อยไปคงไม่ได้หยุดคนอื่นมาฆ่าเขา ดังนั้นเขาจึงต้องเป็นฝ่ายสังหารก่อน

หวังหลินมองเศษกิ่งไม้ในมือและเก็บมันกลับไป การได้มาขณะที่กำลังสังหารยู่เฟยคือความเสี่ยงครั้งใหญ่และเขาก็ได้ประโยชน์มาอย่างมาก

‘ด้วยของสิ่งนี้ จะทำให้ข้าอยู่ในฝั่งตะวันตกได้อย่างสงบ!’ ร่างหวังหลินกระพริบวูบวาบและหายตัวไป

เขาปรากฏตัวอีกครั้งบนแผ่นหลังเล่ยจี เด็กหัวโตกระวนกระวายใจแต่เมื่อเห็นว่าหวังหลินกลับมาเขาจึงผ่อนคลายและเผยท่าทางเคารพ

ต้าซานบาดเจ็บไปในการต่อสู้กับร่างอวตารยู่เฟยเล็กน้อยและกำลังนั่งฟื้นฟูตัวเองอยู่ หวังหลินนั่งอยู่บนหลังเล่ยจีและเอ่ยเสียงสงบนิ่ง “เล่ยจี หาดาวเคราะห์ซ่อนตัวไม่มีใครอยู่ให้ด้วย ข้าต้องการปิดด่านฝึกตน!”

เล่ยจีร้องเสียงดังพร้อมกับเหาะเหินออกไปไกล

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!