914. แผนสังหาร
หวังหลินขบคิดพลางมองสายฝนเบื้องหน้า ความรู้ความเข้าใจสืบทอดจากฉิงชุ่ยดังขึ้นในหัวสมอง ดวงตาส่องสว่างยิ่งขึ้นดุจดวงประทีปในคืนฝนพรำ
‘ข้าไม่สนใจว่าสายฝนนี้จะเป็นหรือตาย ข้าเพียงจำวันมันคือสายฝนที่ตกลงมาจากท้องฟ้า!’ หวังหลินเงยหน้าขึ้นมองก้อนเมฆ สายฝนที่ปกคลุมผืนดินกำลังออกมาจากก้อนเมฆพวกนั้น
‘ท้องฟ้ามีก้อนเมฆเท่านั้น!’
สายฝนสาดลงมาจากก้อนเมฆ!
หวังหลินขบคิดใช้สัมผัสวิญญาณแพร่กระจายออกไปแต่ไม่ได้ผสานเข้ากับสายฝนอีก สัมผัสวิญญาณพุ่งเข้าไปในท้องฟ้าและเข้าสู่ก้อนเมฆแทน ซึ่งเขาตรวจเจอพลังดั้งเดิมจำนวนมากของโลกได้!
พลังดั้งเดิมนี้ไม่เสถียรและปะทะกันเองอย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่มันปะทะกันจะเกิดสายฝนเม็ดใหญ่ตกลงสู่ผืนดิน
ดวงตาหวังหลินส่องสว่างเจิดจ้า ร่างกายวูบไหวและลอยออกไปจากภูเขา ก้าวไปบนสายฝนราวกับเดินบนบันได ตรงเข้าสู่ก้อนเมฆ
วินาทีที่เขาเข้าไปในก้อนเมฆ ประกายสายฟ้าเคลื่อนผ่านภายในสายฝน เสียงดังสนั่นกึกก้องดังออกมา ทว่าสายฟ้านี้ไม่เป็นอุปสรรคต่อหวังหลินเลยแม้แต่น้อย
หลังจากเข้าไปในก้อนเมฆ สัมผัสวิญญาณหวังหลินแพร่กระจายออกไปในก้อนเมฆอีก ความเข้าใจต่อเนื่องทำให้ยิ้ม วินาทีถัดมาหวังหลินก็เดินออกมาจากก้อนเมฆและลงมาถึงอีกด้านของดาวเคราะห์
ที่นี่มีไอน้ำจำนวนมากระเหยขึ้นไปในอากาศ ไอน้ำมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าและหวังหลินแทบจะตรวจจับด้วยสัมผัสวิญญาณไม่ได้ มันก่อตัวเป็นก้อนเมฆเบาบางพวยพุ่งขึ้นสู่อากาศแต่ยากจะมองเห็น
‘ข้าเข้าใจแล้ว!’ หวังหลินหัวเราะ อ้าแขนออกและชี้ไปที่พื้นดิน พลังดั้งเดิมผุดออกมาจากร่างกาย ไอน้ำในโลกหนาแน่นขึ้นอีก ราวกับว่าไอน้ำกำลังถูกจัดแจง มันควบแน่นอย่างรวดเร็ว พื้นที่ใกล้ฝ่ามือหวังหลินเกิดการบิดเบี้ยวและวินาทีถัดมาก็เกิดก้อนเมฆสีดำขึ้น!
ก้อนเมฆสีดำควบแน่นอย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดก็กลายเป็นกลุ่มก้อนเมฆสีดำในมือหวังหลิน!
หวังหลินส่งสัมผัสวิญญาณผ่านก้อนเมฆเข้าไป สายฟ้าจำนวนหนึ่งปรากฏในก้อนเมฆ สัมผัสวิญญาณสั่นพ้องก้อนเมฆจนทำให้มันเกิดเสียงดังกึกก้องและสายฝนจำนวนมากก็ตกลงมา
เซียนขั้นส่องสวรรค์จำเป็นต้องให้ความสนใจในกฏ เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เซียนขั้นที่สองแข็งแกร่งทรงพลังของจริง! ทว่าเหล่ากฏนั้นไร้ตัวตนและยากจะคว้าจับมาได้!
นี่คือเหตุผลว่าทำไมถึงมีเซียนขั้นสองไม่มากนัก มีเหล่าเซียนที่พอจะมีความเข้าใจกฏอยู่บ้างจะทำให้ระดับบ่มเพาะเพิ่มพูนขึ้น ทว่าท้ายที่สุดก็ยังไม่อาจก้าวหน้าและวิชาเซียนไม่ทรงพลัง เหตุผลหลักๆซึ่งเป็นหนทางในการเข้าใจกฏขึ้นมาได้คือความสามารถติดตัวมากกว่าการใช้งาน!
หวังหลินสัมผัสปลายขอบของกฏอย่างเลือนลาง เขาเผยรอยยิ้มออกมาพลางสะบัดแขน ก้อนเมฆค่อยๆโปร่งใสและหายไปในที่สุด
หวังหลินกลับมาบนยอดภูเขา ยืนทอดสายตามองไปหมู่มวลก้อนเมฆในท้องฟ้า ตอนนี้ฝนยังคงตกอยู่เนืองๆ แต่เมื่อมันเปลี่ยนกลายเป็นหยดน้ำจึงหยุดห่างจากหวังหลินเพียงแค่สามนิ้ว ในไม่นานพลันเกิดชั้นก้อนเมฆขึ้นรอบตัวหวังหลิน
ฉากเหตุการณ์เหมือนกันกับตอนที่ปรมาจารย์จงเฉินมาถึง ทว่าก้อนเมฆรอบตัวหวังหลินเบาบางยิ่ง ก้อนเมฆของปรมาจารย์จงเฉินดูเหมือนจะทำให้โลกแตกสลายได้เพียงแค่เขาออกคำสั่ง
ทว่าหากสัมผัสวิญญาณของปรมาจารย์จงเฉินตกลงไปบนดาวเคราะห์และเห็นสิ่งตรงหน้านี้ เขาคงตกตะลึง นั่นเพราะก้อนเมฆนี้ไม่ได้สร้างขึ้นจากวิชาพลังดั้งเดิม แต่เป็นสัญญาณของกฏ
มันคือพลังอำนาจของกฏ ไม่ได้จงใจทำขึ้นมา มันเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงมิติรอบตัวมันเองซึ่งทำให้เม็ดฝนเปลี่ยนกลายเป็นก้อนเมฆ และก้อนเมฆนี้เองคือวิชาที่มีพลังไร้ขีดจำกัด!
‘จักรพรรดิเทพป๋ายฟ่านเป็นคนที่เก่งสมชื่อจริงๆ!’ หวังหลินถอนหายใจ เขาสืบทอดอัญเชิญสายฝนมาจากฉิงชุ่ย วิชาเทพนี้ตกทอดมาจากจักรพรรดิเทพป๋ายฟ่าน เพียงแค่กำลังทำความเข้าใจวิชานี้ เขาก็สามารถแตะต้องกฏได้แล้ว
ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่วิชาเทพธรรมดาจะสามารถทำได้ มีวิชาเทพน้อยมากที่สามารถทำให้เกิดผลพวงแบบนี้ได้!
‘สายฝนจากก้อนเมฆ ก้อนเมฆก็มาจากน้ำ แต่เมื่อไร้สายลม ก้อนเมฆไม่สามารถก่อตัวขึ้นมาได้!’ ความเข้าใจครั้งนี้มาจากฉิงชุ่ยและถึงแม้มันอาจจะทำให้หวังหลินไม่เข้าใจ แต่ก็ยังมอบภูมิปัญญาด้านกฏกับเขา หวังหลินจึงขอบคุณฉิงชุ่ยเป็นอย่างยิ่ง
‘ไม่คิดว่าตอนนั้นซือถูก็ควบคุมกฏได้ด้วย…’ ฉากที่ซือถูหนานผสานเข้ากับลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าปรากฏขึ้นในใจหวังหลิน ตอนฝนตกซือถูหนานร้องตะโกนว่า “ไปซะ!”
ในชั่วเวลานั้นสายฝนเปลี่ยนกลับเป็นก้อนเมฆและสลายอย่างรวดเร็ว ก้อนเมฆทั้งหมดในท้องฟ้าแตกสลาย เผยเป็นท้องฟ้ากระจ่าง!
ตอนนั้นก็หลายปีมากแล้ว เขารู้สึกเพียงแค่ผลกระทบที่มิอาจอธิบายออกมาได้จากร่างของซือถูหนานและมันทำให้ท้องฟ้าสั่นเทา ราวกับสิ่งมีชีวิตทั้งหมดต้องก้าวถอยหลังและยอมจำนน
มันแค่ความรู้สึกคลุมเครือ อีกทั้งตอนนั้นระดับบ่มเพาะของหวังหลินก็ต่ำเตี้ยเรี่ยดินซึ่งไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ!
แต่พอคิดถึงตอนนี้แล้ว ซือถูหนานใช้อำนาจกฏได้อย่างกระจ่างชัด หวังหลินคิดเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วนจึงมองทุกสิ่งทุกอย่างออกได้ในความทรงจำ
‘ปรากฏว่าทุกอย่างเป็นแบบนี้…’ หวังหลินขบคิดถึงตอนที่เขาได้รับลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าเมื่อพันปีก่อน มีก้อนเมฆหนึ่งอยู่บนลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า!
ก้อนเมฆนี้สามารถดูดซับไอน้ำจากในโลกจนทำให้ก้อนเมฆเพิ่มจำนวนขึ้นมาได้ พอคิดถึงตอนนี้หวังหลินจึงเข้าใจและยิ้มอย่างขมขื่น
ความจริงแล้วบางสิ่งบางอย่างคงอยู่รอบตัวเขามาเสมอ เขาไม่รับรู้ถึงมันเว้นแต่จะมีระดับบ่มเพาะขึ้นมาจำนวนนึง และถึงแม้จะมองเห็นก็ยังไม่เข้าใจ
ตอนนี้หวังหลินเข้าใจอย่างถี่ถ้วน
‘ในที่สุดข้าก็เข้าใจถึงเศษเสี้ยวกฏวารีของลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าหลังจากผ่านมาได้พันปี…ส่วนนี้เป็นด่านแรกของลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า…ถึงตอนนี้ข้าก็ยังไม่เข้าใจมันอย่างถ่องแท้และเพียงเข้าใจมันเท่านั้น’ หวังหลินแตะจุดระหว่างคิ้วและรู้สึกรำลึก
เขามองสายฝนที่กำลังตกลงมาจากท้องฟ้า สะบัดแขนเบาๆพร้อมกับพึมพำ “กระจาย!”
แรงโบกทำให้ก้อนเมฆลอยออกไปพร้อมกับฝ่ามือ สายฝนทั้งหมดในโลกสั่นสะท้านและก้อนเมฆจำนวนมากปรากฏขึ้นมาราวกับมีสายลมรุนแรงผลักก้อนเมฆทั้งหมดถอยกลับไป
ด้วยผลกระทบของสายลมนี้ ก้อนเมฆทั้งหมดในท้องฟ้าเริ่มแตกสลาย ตามมาด้วยเสียงคำรามสั่นราวกับฝ่ามือยักษ์กวาดผ่านท้องฟ้า ก้อนเมฆทั้งหมดสลายหายไปอย่างสมบูรณ์!
ท้องฟ้าอันสดใสปรากฏขึ้นเหนือดาวเคราะห์!
แสงอาทิตย์สาดส่องนำพาความอบอุ่นเข้ามา พื้นดินปลดปล่อยกลิ่นดินโคลน หลังสายฝนยังคงมีหยดน้ำไหลรินจากต้นไม้
สายรุ้งปรากฏขึ้นเหนือเส้นขอบฟ้า ราวกับฉากเหตุการณ์หนึ่งในแดนสวรรค์
ในบรรยากาศเช่นนี้ กระทั่งอสูรดุร้ายยังไม่ร้องคำราม มันร้องเสียงต่ำใส่ท้องฟ้าแทน
วิหคหลายตัวบินออกมาพร้อมกับลูกน้อยเหนือเส้นขอบฟ้า ชัดเจนว่าพวกมันไม่ได้บินมานานเนื่องจากฤดูฝน
หวังหลินสายตาสงบนิ่ง แขนขวาสร้างผนึก สายลมทมิฬปรากฏห่างหวังหลินไปสิบฟุต สายลมทมิฬเปลี่ยนกลายเป็นมังกรดำสองตัวพ่นลมหายเย็นเยียบ อากาศเย็นผสานเข้ากับสายหมอกก่อตัวเป็นก้อนเมฆ จากนั้นหยดน้ำก็กลั่นตัว พลังดั้งเดิมใกล้เคียงพรั่งพรูเข้าหาก้อนเมฆ
เพียงแค่หวังหลินออกคำสั่ง สายฝนก็กระจายตัวปกคลุมโลก ปรากฏเป็นเรียกขานสายลม!
หวังหลินสะบัดแขนขวา หมู่มวลก้อนเมฆหายไป มังกรดำหายไปด้วยเช่นกันและทุกสิ่งทุกอย่างกลับคืนสู่ปกติ
เมื่อเด็กหัวโตมองทั้งหมดนี้ รูม่านตาหดเล็กลง ขบคิดเงียบๆและความเคารพต่อหวังหลินเพิ่มพูนขึ้นไปอีก
เล่ยจีตื่นจากการทำความเข้าใจ ดวงตากระพริบวาบ ระลอกคลื่นก่อตัวขึ้นในใจและคิดขึ้นมา ‘นี่มันพลังอำนาจของกฏ เห็นได้เฉพาะในวิชาของเซียนที่ทรงพลังยิ่งเท่านั้น’
ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากติดตามหวังหลิน
ส่วนต้าซานนั้นราวกับตาบอด เขาหลับตาบ่มเพาะต่อไป
หวังหลินนั่งลงบนพื้น สายตาสงบนิ่ง เขาเข้าใจอัญเชิญสายฝนขึ้นมาแล้ว ดังนั้นวิชาต่อไปคือวิชาที่เขาสนใจที่สุด ไสยเวทย์!
ขณะนี้ร่างมายาหนึ่งเคลื่อนผ่านระหว่างดินแดนเขตเหนือและตะวันตกของดาราจักรพันธมิตรเซียนอย่างรวดเร็ว ร่างนั้นเร็วมาก หายตัวไปในพริบตาอยู่บ่อยครั้ง
ทว่าไม่ได้มีแค่หนึ่งคน ร่างจำนวนมากเคลื่อนผ่านดวงดาว รอบๆพวกเขาเกิดระลอกคลื่นแพร่กระจายอย่างต่อเนื่องซึ่งทำให้พวกเขาเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น
หลังจากพวกเขาเข้าไปในดินแดนฝั่งตะวันตก ไม่นานนักก็เผชิญหน้ากับกลุ่มของเซียนทุกชั้นฟ้า คนที่กำลังนำกลุ่มคือเซียนหกนิ้ว เขาพากลุ่มมาและมุ่งหน้าไปในเขตเหนือ ดินแดนฝั่งตะวันตกอยู่ใต้การควบคุมของฝั่งทุกชั้นฟ้าแล้ว เขาที่เป็นเทพจึงต้องไปเขตเหนือและเปิดเส้นทาง
ระหว่างทางมาที่นี่เขาระมัดระวังอย่างยิ่ง แผ่กระจายสัมผัสวิญญาณออกไปตลอดเวลา ซึ่งหากพบเจอสัญญาณอะไรเขาก็จะรับรู้ได้ทันที
จังหวะที่ร่างพวกนั้นเห็นเซียนหกนิ้วและเซียนนับร้อยด้านหลัง ทั้งหมดหันหน้าและตรงไปหาพวกเขาทันที
เซียนหกนิ้วที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่พลันรู้สึกถึงอันตราย รู้สึกเจ็บปวดออกมาจากนิ้วที่หกและหวาดหวั่นจึงต้องหยุดชะงักลงทันที ทว่าในจังหวะนี้เขาได้เห็นร่างจำนวนมากมายพุ่งเข้ามาหาแล้ว
ภาพนี้ทำให้รูม่านตาต้องหรี่แคบ เขาตบกระเป๋านำอักขระรูนข้อความออกมาบดขยี้ แทนที่จะล่าถอยกลับพุ่งตัวออกไป ทว่าในจังหวะนั้นร่างมายาเกือบครึ่งนึงได้ล้อมรอบเซียนหกนิ้ว ที่เหลือพุ่งเข้าหาเซียนด้านหลัง
คลื่นเสียงกรีดร้องดังระงมออกมา วิชามากมายผุดโผล่ วินาทีตามาเซียนหกนิ้วก็ล่าถอยด้วยความตื่นตระหนก ขณะที่เขาพุ่งออกไป เงาสีดำจำนวนมากเข้าไปในร่างกายเขา
ทุกครั้งที่ร่างมายาพวกนั้นเข้าไปในร่าง ร่างเขาจะสั่นสะท้าน หลังจากพุ่งออกไปได้เพียงสิบฟุตเขาก็หยุดชะงักลง เผยสายตาแปลกประหลาด แต่ไม่กี่ลมหายใจต่อมาก็กลับคืนสู่ปกติ
เซียนหกนิ้วเผยรอยยิ้มแปลกประหลาด มองร่างตัวเองและพึมพำ “ร่างนี้ใช้งานได้!”
เซียนฝั่งทุกชั้นฟ้าด้านหลังเดินออกมาทีละคน ทั้งหมดมีรอยยิ้มแปลกประหลาด
‘แผนของอารามลึกลับเพื่อทำลายล้างพวกเซียนทุกชั้นฟ้ากำลังจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า…หลังจากเกิดการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่นี้ขึ้นมา งานของเราไม่ใช่แค่ซิ่วมู่เท่านั้น พวกเซียนทุกชั้นฟ้าต้องถูกกำจัดให้สิ้นซาก! ครั้งนี้กลุ่มสี่เซียน เซียนมารปิศาจทมิฬและเซียนต้นกำเนิดเต๋าสวรรค์ก็มา พวกเซียนทุกชั้นฟ้าจะต้องรู้ว่าประตูสู่ดาราจักรพันธมิตรเซียนไม่ใช่ของง่าย!’