Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 916

Cover Renegade Immortal 1

916. สไตล์ของพันธมิตรเซียน

ในธงวิญญาณพันล้านดวงมีวิญญาณอยู่จำนวนมาก ทั้งหมดพุ่งเข้าไปในนรกสิบแปดชั้น แรงอาฆาตในนรกสิบแปดชั้นเพิ่มพูนขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อมีวิญญาณพุ่งเข้าใส่ข้างใน เสียงกรีดร้องบ้าคลั่งแต่ละดวงสามารถทำให้คนธรรมดาต้องสลบ

แม้แต่จิตใจของเซียนก็คงสั่นเทาเบื้องหน้าเสียงกรีดร้องพวกนี้ พวกเขาคือผลพวงของดวงวิญญาณนับไม่ถ้วนที่หวังหลินสังหาร!

มีทั้งบรรพชนโลหิต เหล่าเทพ คนตระกูลเหยาและเซียนทรงพลังอื่นๆอีกหลายคน แต่เพราะพวกเขาเป็นแค่เศษเสี้ยวดวงวิญญาณ จึงไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนก่อนหน้า แต่พลังอำนาจของแต่ละดวงก็ไม่ใช่สิ่งที่เซียนธรรมดาจะต่อต้านได้!

ยังมีวิญญาณนับไม่ถ้วนในธงวิญญาณพันล้านดวงอีก ด้วยสิ่งนี้นรกสิบแปดชั้นจึงคู่ควรสมชื่อ!

ในธงวิญญาณพันล้านดวง มีวิญญาณหลักเหลืออยู่หนึ่งดวงเท่านั้นและหวังหลินก็เก็บกลับไป หากไม่ใช่เพราะธงผืนนี้คือของขวัญที่ตุ้นเทียนมอบให้ เขาคงเก็บธงไว้ในตราประทับผนึกเทพแล้ว

แววตาหวังหลินกระพริบร่องรอยความเย็นเยียบและร้องตะโกนขึ้นมา “นี่คือวัฏจักรแห่งการเกิดใหม่ นรกสิบแปดชั้นของข้า!”

ขณะเสียงส่งออกไป เสียงร้องของนรกสิบแปดชั้นยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น เสียงกรีดร้องดังระงมไปทั่วทั้งดาวเคราะห์

กลุ่มแรกที่ไม่สามารถทนไหวคืออสูรร้ายในดาว พวกมันกระจายตัวอย่างรวดเร็ว หากไม่ใช่เพราะหวังหลินควบคุมเสียงกรีดร้องเอาไว้ อสูรทั้งหมดพวกนี้คงตายทันที

เซียนหลายคนที่ตั้งฐานอยู่ที่นี่ต่างหน้าซีด ความคิดสั่นสะท้านจนรีบหนีออกจากห้องตัวเอง พวกเขาไม่ต้องการอยู่ที่นี่นานกว่านี้แล้ว

เด็กหัวโตอ้าปากค้าง จ้องมองตราประทับผนึกเทพนรกสิบแปดชั้นอย่างตกตะลึง เนื่องด้วยระดับบ่มเพาะของเขาจึงมองออกว่าสมบัติชิ้นนี้ไม่ใช่ของธรรมดา

เล่ยจีรูม่านตาหดเล็ก การเผชิญหน้ากับนรกสิบแปดชั้นนี่เขารู้สึกกลัวจากก้นบึ้งจิตใจ

หวังหลินตบกระเป๋า สองดวงแสงปรากฏในมือ ทั้งสองคือวิญญาณดั้งเดิม หนึ่งนั้นเป็นวิญญาณดั้งเดิมของรองจ้าวตำหนักสำนักซากศพและอีกหนึ่งคือวิญญาณที่รองจ้าวตำหนักแลกชีวิตตัวเองกับหวังหลิน

หวังหลินขบคิดเล็กน้อยแต่ไม่ได้ใส่พวกเขาไว้ในนรกสิบแปดชั้นและเก็บมันกลับในกระเป๋า วิญญาณขั้นส่องสวรรค์ระดับต้นทั้งสองดวงนี้สำคัญต่อการฟื้นฟูระดับบ่มเพาะของเขาเป็นอย่างยิ่ง หวังหลินเก็บเอาไว้เพื่อใช้ยามจำเป็นในอนาคต

วินาทีนั้นเขายืนขึ้นจ้องมองท้องฟ้า ฝ่ามือสร้างผนึกชี้ไปที่ตราประทับผนึกเทพ มันหดตัวลงและถูกหวังหลินกลืนกินเข้าไป

“ไปกันเถอะ!” หวังหลินก้าวเท้าและออกไปจากดาวเคราะห์ เล่ยจีและพรรคพวกคนอื่นติดตามเขาไปอย่างรวดเร็ว

ตอนนี้ฝั่งตะวันตกทั้งหมดถูกเหล่าเซียนทุกชั้นฟ้าครอบงำไว้หมดแล้ว เหล่าเซียนทุกชั้นฟ้าจำนวนมากผ่านอุโมงค์ระหว่างสองดาราจักร พวกเขาครอบครองดาวเคราะห์เหล่านี้คนละดวง ถือได้ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของดาราจักรทุกชั้นฟ้าแล้ว!

ขณะที่ฝั่งตะวันตกทั้งหมดถูกครอบครองแล้ว เงาของเหล่าเซียนทรงพลังในฝั่งทุกชั้นฟ้ายิ่งแข็งแกร่งขึ้น ฝั่งตะวันตกไม่มีดาวเคราะห์ระดับเจ็ดเลยสักดวง มีแต่เพียงดาวเคราะห์ระดับหกเท่านั้น ซึ่งน่าประหลาดเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตามมันไม่มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นมาเป็นเวลานานแล้ว และยังมีข้อสงสัยอยู่ในใจแต่ละคน พวกเขาเริ่มโจมตีระลอกที่สองภายใต้คำสั่งของอารามเทพอัสนี เป้าหมายในครั้งนี้คือดินแดนฝั่งเหนือ

กลุ่มเซียนทุกชั้นฟ้าเหาะเหินไปแดนฝั่งเหนือ ขับขี่ปราณกระบี่อย่างรวดเร็ว!

ขณะผ่านไป พวกเขาทำให้เกิดเสียงราวกับอวกาศกำลังล่มสลาย ปราณกระบี่ที่เซียนนับหมื่นปลดปล่อยออกมาทำให้โลกเปลี่ยนสี

เหล่ากระบี่เหินเผยความสูงดุจสวรรค์และเกือบทำให้โลกแตกสลาย พวกเขาทำให้เกิดความรู้สึกราวกับสามารถย้อนเวลาและแบ่งสวรรค์ได้เลยทีเดียว

เหล่าเซียนทุกชั้นฟ้าเต็มไปด้วยจิตสังหาร พวกเขาเข้าไปในดาวเคราะห์เซียนแต่ละดวงและเคลื่อนที่ไปข้างหน้าต่อไป

ปรมาจารย์จงเฉินมีทรงกลมเพลิงใต้ฝ่าเท้า กลุ่มเซียนจำนวนหนึ่งล้อมรอบเขาเอาไว้ สีหน้าท่าทางมืดมน ตอนที่พวกเขาเข่นฆ่าระหว่างทางในดาราจักรทุกชั้นฟ้า เขาสัมผัสถึงหายนะได้ เมื่อพยายามคาดเดาสิ่งที่กำลังจะเกิด เขาก็เห็นเพียงแสงสีเลือดหนาๆป้องกันไม่ให้เขาเห็นทุกอย่างชัดเจน

พวกเขาบังคับให้โจมตีไปบนเขตเหนืออย่างต่อเนื่องเพราะอยู่ในเขตตะวันตกมานานเกินไปแล้ว พวกเขาไม่สามารถล่าถอยโดยไม่เกิดการต่อสู้ได้ ดังนั้นถึงแม้จะรู้ว่าทางฝั่งพันธมิตรเซียนวางแผนอะไรบางอย่าง เขาจะต้องใช้กำลังบังคับกันต่อไป!

‘แม้จะวางแผนอะไรกัน ข้าก็ไม่กลัว ยิ่งกว่านั้นฝั่งพันธมิตรไม่ใช่กลุ่มเดียวที่มีไพ่ลับ ข้าก็วางแผนตอบโต้แผนการที่อาจจะเกิดขึ้นของพวกมันไว้เช่นกัน!’ ปรมาจารย์จงเฉินกระพริบแววตาเย็นเยียบ พรรคพวกเต็มไปด้วยจิตสังหาร

เหล่าเซียนจำนวนมาของฝั่งทุกชั้นฟ้าเดินทางด้วยปราณกระบี่ เหาะเหินผ่านฝั่งตะวันตกและไปถึงฝั่งเหนือ

ขณะที่พวกเขาพุ่งเข้าไปในแดนเหนือ กลิ่นอายโบราณระเบิดออกมาจากดาวเคราะห์หนึ่งในฝั่งตกวันตกที่พวกเขาครอบครองก่อนหน้านี้ กลิ่นอายระเบิดอย่างบ้าคลั่งและพริบตานั้นส่งผลกระทบทำลายล้างบนดาวเคราะห์เซียนแห่งนี้

เซียนหลายร้อยอาศัยอยู่บนดาวหลบหนีอย่างตื่นตระหนกและนั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่พวกเขาเห็น

ทั้งดาวเคราะห์สั่นสะท้านอย่างรุนแรง ราวกับมันจบวงจรชีวิตของตัวเองและเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายทันที สิ่งน่าเหลือเชื่อก็คือดาวเคราะห์ดวงนี้กำลังหดตัวลง

มันหดตัวอย่างบ้าคลั่งราวกับมีพลังรุนแรงบีบรัดเอาไว้จนเหลือขนาดเพียงแค่หนึ่งในสิบส่วนจากของเดิม!

กลิ่นอายทำลายล้างผุดออกมาอย่างบ้าคลั่งและดาวเคราะห์แตกสลายทันที! การแตกสลายส่งผลให้เกิดคลื่นทำลายล้างอันแข็งแกร่งแพร่กระจายมหึมา

เหล่าเซียนหลายร้อยที่ไม่มีเวลาหลบหนีพลันถูกคลื่นทำลายล้างทำลายในทันที กระทั่งดวงวิญญาณก็ไม่มีเหลือ

แผ่นดินไหวส่งเสียงดังกึกก้อง ดาวเคราะห์เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด ทุกชีวิตดับสูญ นี่มันไม่ใช่สิ่งที่เซียนทั่วไปจะทำ มีแต่เพียงเซียนผิดมนุษย์และโหดเหี้ยมที่สุดเท่านั้นที่จะทำลายดาวเคราะห์แบบนี้!

เสียงระเบิดดังกึกก้อง คลื่นทำลายล้างแพร่กระจาย รอยแยกอวกาศจำนวนมากปรากฏขึ้นมา

ขณะเดียวกันเกิดรอยแยกจำนวนมากก็เชื่อมต่อเข้าด้วยกันทั้งหมด

เซียนทุกชั้นฟ้าทั้งหมดภายในระยะหมื่นลี้ได้รับผลกระทบจากคลื่นกระแทกไปด้วย ร่างกายพวกเขาแตกสลาย ดวงวิญญาณถูกทำลายทันที

ขณะนี้ไม่ใช่มีแค่ดาวดวงเดียวที่ระเบิดออกมา แต่กลับเกิดขึ้นทั้งหมด

ดาวเคราะห์เซียนทั้งหมดในดินแดนทิศตะวันตกระเบิดขึ้น ก่อตัวเป็นคลื่นกระแทกรุนแรงเต็มไปทั่ว!

การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่รูปแบบนี้เป็นสิ่งที่ฝั่งพันธมิตรเซียนลงมือเท่านั้น เมื่อเซียนทุกชั้นฟ้าทั้งหมดเข้ามา เช่นนั้นก็จงตายไปพร้อมกับฝั่งตะวันตกซะเถิด!

พวกเขาวางแผนเข่นฆ่าเซียนทุกชั้นฟ้าโดยไม่สนใจทุกชีวิตที่อาศัยอยู่ในดินแดนตะวันตก!

การล่มสลายยิ่งรุนแรงเข้มข้นมากขึ้นในดินแดนตะวันตก ขณะที่ดาวเคราะห์แตกสลายจึงเกิดเป็นพายุพัดไปทั่วดินแดน รอยแยกอวกาศจำนวนมากปรากฏขึ้นมาเนื่องจากพายุนี้ ท้ายที่สุดทั้งหมดก็เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน

ทั้งดินแดนตะวันตกราวกับวันสิ้นโลก! การล่มสลายขนาดใหญ่ได้ทำให้เกิดรอยแยกอวกาศขึ้นจำนวนมาก ก้อนหินมากมายพุ่งออกมาอย่างรุนแรงพร้อมกับพลังทำลายล้างไปด้วย

มันคือการสังหารหมู่ เซียนทุกชั้นฟ้าส่วนใหญ่ไม่สามารถตอบโตได้และถูกพายุนี้สังหารไป

ขณะที่รอยแยกอวกาศเพิ่มขนาดขึ้น ยิ่งมีสายลมเย็นยะเยือกโผล่ออกมาและผสานเข้ากับพายุจนเกิดเป็นวังวนยักษ์ วังวนขนาดใหญ่นี้ปกคลุมเกือบทั้งดินแดนตะวันตก ตัดขาดเซียนทุกชั้นฟ้าที่เข้าไปในแดนเหนือ

เมื่อพายุกำลังสลายตัว ร่างนับไม่ถ้วนปรากฏตัวขึ้น ค่ายกลเคลื่อนย้ายปรากฏขึ้นมาทีละแห่ง เหล่าเซียนจากพันธมิตรเซียนก้าวออกมาจากค่ายกลเคลื่อนย้าย

“ฆ่า!” เสียงคำรามสั่นสะเทือนปฐพีดังก้องไปทั่วดวงดารา!

ปรมาจารย์จงเฉินดวงตาแดงฉาน เขาคิดไว้หลายอย่างแต่ไม่คิดว่าฝั่งพันธมิตรจะทำลายดินแดนตะวันตกและส่งสร้างผลกระทบรูปแบบนี้

ขณะเดียวกันเหล่าปราณกระบี่เหาะผ่านแดนเหนือตอนที่เซียนฝั่งพันธมิตรมาถึง พวกเขาพุ่งใส่เหล่าเซียนทุกชั้นฟ้าซึ่งกำลังตื่นตระหนกและพยายามหลบหนี

ในแดนเหนือ ปรากฏระลอกคลื่นหนึ่งขึ้นในกองทัพพันธมิตร ชายชราชุดคลุมสีดำก้าวออกมา ส่งเสียงหัวเราะดังสะท้อนไปทั่ว

“ปรมาจารย์จงเฉิน ไม่เจอกันนาน เจ้ายังจำเซียนมารปิศาจทมิฬได้อยู่หรือไม่?”

ปรมาจารย์จงเฉินดวงตาสีแดงสว่างจ้า สีหน้าไม่เผยปฏิกิริยาอันใด เอ่ยขึ้นอย่างเรียบๆ “เช่นนั้นนี่คือแผนของเจ้าหรือ? เยี่ยมมาก! มาให้ข้าแสดงให้เจ้าเห็นถึงวิชาของเซียนทุกชั้นฟ้า!”

ปรมาจารย์จงเฉินยกแขนและชี้ขึ้นไป รอยแยกขนาดใหญ่เปิดขึ้นอย่างเงียบๆ มันมีขนาดใหญ่มากเสมือนแม่น้ำที่ปกคลุมผืนฟ้า

ขณะเดียวกันแรงกดดันอันทรงพลังก็โผล่ออกมา ทรงกลมโลหิตสิบแปดลูก กว้างมากกว่าร้อยฟุตตกลงมา!

“ดาราจักรพันธมิตรเซียนของเจ้ากล้าทำลายฝั่งตะวันตก เช่นนั้นดาราจักรทุกชั้นฟ้าของข้าจะไม่ตอบสนองได้อย่างไร? เมื่อเจ้าสังหารคนจากฝั่งข้า ข้าก็จะสังหารคนจากฝั่งเจ้าบ้าง!” ปรมาจารย์จงเฉินเอ่ยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความมั่นใจ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version