917. การตอบโต้ของเหล่าทุกชั้นฟ้า
ทรงกลมโลหิตสิบแปดลูกตกลงมา กลิ่นอายกดขี่ปกคลุมพื้นที่ ซึ่งกลิ่นอายนี้ไม่มีผลต่อเซียนทุกชั้นฟ้าและทั้งหมดเรืองแสงสีแดงตอบสนองเท่านั้น
ทว่าสำหรับเหล่าเซียนฝ่ายพันธมิตรที่พุ่งเข้ามาหา จิตใจทุกคนสั่นสะท้าน!
เซียนฝ่ายพันธมิตรทั้งหมดรู้สึกถึงแรงกดดันเหนือล้ำ ราวกับทั้งโลกกำลังถูกบดขยี้มาจากทุกทิศทาง โลหิตไหลเวียนในร่างอย่างรวดเร็วราวกับเสียงทั้งหมดยกเว้นเสียงหัวใจเต้นถูกตัดออกไป
กระทั่งภาพวิวทิวทัศน์ก็พร่ามัว
ทรงกลมโลหิตสิบแปดก้อนนี้สร้างขึ้นจากโลหิตของตระกูลเซียนยุคโบราณกว่าหมื่นปี โลหิตค่อยๆถูกปรับแต่งไปเรื่อยๆจากพิธีเสียสละตลอดหลายปีจนกลายเป็นหนึ่งในสมบัติปกป้องประจำตระกูล
ของชิ้นนี้มีชื่อเสียงโด่งดังมากในโลกแห่งเซียนโบราณ!
ชื่อของมันคือลั่วฟู่
ลั่วฟู่คือภูเขาเซียนในยุคโบราณ ทว่าคืนหนึ่งภูเขาลึกลับก็ล่มสลาย เซียนทั้งหมดในภูเขาตายอย่างทารุนด้วยการถูกสูบโลหิต
โลหิตรวมกันบนภูเขาลั่วฟู่และก่อตัวเป็นก้อนโลหิตกว้างถึงพันฟุต!
นี่คือต้นกำเนิดของลั่วฟู่ หลังจากนั้นเหล่าเซียนโบราณจำนวนมากก็เข้ามาศึกษา แม้จะไม่เข้าใจต้นเหตุ พวเขาพอจะเข้าใจก้อนโลหิตขึ้นมาบ้าง ดังนั้นวิชาเกี่ยวกับโลหิตลั่วฟู่จึงเกิดขึ้นนับตั้งแต่นั้น
อย่างไรก็ตามก้อนโลหิตนี้มีข้อบกพร่องร้ายแรงและมีอัตราก่อตัวไม่สูงนัก แม้มันจะมีพลังลึกลับแต่ก็ไม่สามารถหลอมรวมได้
พลังอำนาจของลั่วฟู่คือแรงกดดัน หนึ่งลั่วฟู่ปลดปล่อยแรงกดดันหนึ่งชั้น ดังนั้นลั่วฟู่สิบแปดก้อนจึงก่อเกิดแรงกดดันระดับเหนือจินตนาการ
อีกทั้งหากมีเซียนผสานโลหิตบางส่วนของตัวเองเข้าไปในลั่วฟู่ เมื่อนั้นไม่เพียงจะไม่ได้รับแรงกดดัน ระดับบ่มเพาะแต่ละคนยังจะเพิ่มพูนขึ้นในช่วงเวลาอันสั้นอีกด้วย
เซียนมารปิศาจทมิฬสีหน้ามืดมนและกำลังจะพุ่งตัวออกไปทำลายลั่วฟู่ทั้งสิบแปดก้อน ทว่าขณะนั้นเทพโลหิตปรากฏตัวขึ้นมาจากความว่างเปล่าและขัดขวางอีกฝ่ายไว้ด้วยเสียงหัวเราะ
ปรมาจารย์จงเฉินชี้ไปด้านหลังด้วยใบหน้านิ่งเฉย จุดที่ชี้คล้ายจะสามารถทะลุความว่างเปล่าไปได้ มันฉีกกระชากผ่านรอยแยกอวกาศที่ปกคลุมดินแดนตะวันตกและเข้าสู่อุโมงค์เชื่อมต่อดาราจักรทุกชั้นฟ้า
ในดาราจักรทุกชั้นฟ้ามีเหล่าเซียนนับหมื่นคนกระตุ้นระดับบ่มเพาะขึ้นมา ระหว่างพวกเขามีสิ่งของอยู่หนึ่งชิ้น!
ของชิ้นนี้คือเศษไม้ ทว่าเศษไม้กลับกว้างถึงหมื่นฟุตและยาวแสนฟุต!
ไม้ทะลวงสวรรค์! มันถูกอารามเทพอัสนีค้นพบเมื่อสามหมื่นปีก่อน ข่าวลือว่ามันคือต้นไม้สวรรค์ที่ค้ำจุนแดนสวรรค์โบราณ มีเพียงแดนสวรรค์อัสนีเท่านั้นที่เหลืออยู่โดยไม่บุบสลาย ส่วนแดนสวรรค์อีกสามแห่งสูญหายไปเนื่องจากการล่มสลาย
พลังปราณสวรรค์อันทรงพลังพรั่งพรูออกมา ภายหลังอารามเทพอัสนีค้นพบมัน พวกเขาจึงซ่อนเอาไว้ ตอนนี้ถึงเวลานำมันออกมาเพื่อเป็นวิธีโจมตีฝ่ายพันธมิตรอย่างทรงพลัง
เซียนนับหมื่นที่ล้อมรอบเศษไม้ยักษ์ต่างร้องตะโกนพร้อมเพรียงกัน เหล่าเซียนนับหมื่นผลักดันเศษไม้ยักษ์ไปข้างหน้า! แม้กระทั่งเซียนเฒ่าเช่นบรรพชนตระกูลเซี่ยงและชายวัยกลางคนจากตระกูลกงซุนยังเข้าช่วยด้วย เศษไม้ยักษ์มุ่งเข้าหาอุโมงค์ด้วยเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
เศษไม้ยักษ์ค่อยๆเพิ่มความเร็วขึ้นมาจนกระทั่งก่อตัวเป็นพายุ ผ่านอุโมงค์เข้าไปและปรากฏตัวในดินแดนตะวันตกของดาราจักรพันธมิตรเซียน
มันเร็วมากจนเกิดเสียงหวีดหวิวสั่นความคิดผู้คน พลังอำนาจภายในเหนือล้ำเกินจินตนาการ ม่านกำแพงที่รอยแยกอวกาศสร้างขึ้นมาไม่สามารถทนรับพลังรุนแรงนี้ได้เลย ระลอกคลื่นจำนวนมากแพร่กระจายออกไปทุกทิศทาง ใจกลางระลอกคลื่นเป็นเศษไม้ยักษ์พุ่งผ่านเข้ามาและเปิดเป็นเส้นทาง
เหล่าเซียนฝ่ายทุกชั้นฟ้าจำนวนมากติดตามไปทั้งรอบด้านและด้านหลังเศษไม้ พุ่งเข้าสู่ฝั่งพันธมิตรเซียนด้วยจิตสังหารเต็มเปี่ยม!
สีหน้าท่าทางของเหล่าเซียนฝ่ายพันธมิตรซึ่งผ่านค่ายกลเคลื่อนย้ายเข้ามาจึงต้องเปลี่ยนไป พวกเขาต้องการหลบเลี่ยงแต่เนื่องจากเศษไม้มีขนาดใหญ่และเกิดผลกระทบมหาศาล จึงไม่สามารถหลบมันไปได้เลย แม้แต่คนที่อยู่ไกลๆยังถูกพายุจากกิ่งไม้นี้ดูดเข้าไป
เซียนบางส่วนถูกเศษไม้กระแทกใส่ตรงๆ ร่างกายและวิญญาณดั้งเดิมแตกสลาย เหลือทิ้งไว้แต่หมอกโลหิต แต่เมื่อเทียบกับขนาดของกิ่งไม้ โลหิตนี้เล็กน้อยไปเลย
ลั่วฟู่คือสมบัติชิ้นแรกที่เหล่าเซียนทุกชั้นฟ้าเตรียมการเอาไว้ และเศษไม้ยักษ์นี้คือชิ้นที่สอง แต่มันยังไม่จบ!
เศษไม้ยักษ์เปิดเส้นทางผ่านม่านพลังที่รอยแยกอวกาศสร้างขึ้น ระลอกคลื่นแพร่กระจายไปทั่วม่านพลัง เสียงคำรามสั่นไหวไปทั้งดินแดนตะวันตกโผล่ออกมาจากอุโมงค์ไปดาราจักรทุกชั้นฟ้า
เสียงคำรามฉีกผ่านดินแดนตะวันตก ทำให้ฝ่ายพันธมิตรเซียนต้องสั่นสะท้านรุนแรง บางคนถึงกับโลหิตไหลออกมาจากรูขุมขนเนื่องจากแรงสั่นมากเกินไป
สัมผัสรุนแรงออกมาจากอุโมงค์ ดาวเคราะห์ยักษ์ปรากฏอยู่ข้างในระหว่างสองดาราจักร ห่อหุ้มด้วยควันสีขาวและประหลาดเป็นอย่างยิ่ง
วินาทีที่มันโผล่ออกมา หมอกรอบดวงดาวหดลงอย่างรวดเร็วจนหายไปในที่สุด จากนั้นใจกลางดวงดาวเกิดรอยร้าวขึ้น หนวดนับไม่ถ้วนยืดยาวออกไป มันคืออสรพิษพิฆาตจันทร์!
สายตาอสรพิษแดงฉานและเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวมหาศาล มีมากพอที่จะบ้าคลั่งได้แล้ว หนวดของมันโบกพริ้วไหวพุ่งออกไป
กรรร!
อสรพิษอ้าปากขึ้นมาพร้อมกับส่งเสียงคำราม เกิดแรงกระทบรุนแรงพุ่งออกไป เสียงคำรามเปลี่ยนเป็นพายุและพุ่งออกไปในพริบตา รอยแยกอวกาศจำนวนมากถูกผลักออกไปเหมือนเศษกระดาษ!
อย่างไรก็ตามขณะที่เสียงคำรามเข้าไปใกล้กับเศษไม้ยักษ์ ม่านสีเหลืองปรากฏขึ้นมาราวกับเปลือกไข่ ยอมให้เสียงคำรามผ่านไหลไปด้านข้างโดยไม่มีการต่อต้าน
เสียงคำรามของอสรพิษพิฆาตจันทร์หนักแน่นจนทำให้อวกาศบุบสลาย อวกาศเบื้องหน้าเศษไม้บิดเบี้ยว ชายชราผมขาวถูกบังคับให้ออกมาด้วยสภาวะย่ำแย่
ใบหน้าเขามืดมนยิ่ง ดวงตาคล้ายกับมองทะลุผ่านเข้าไปได้ เมื่อเขาเป็นอสรพิษพิฆาตจันทร์ตัวยักษ์โผล่ออกมาจากอุโมงค์ จึงล่าถอยโดยไม่ลังเล แต่ในจังหวะนั้นเศษไม้ยักษ์ก็เข้ามาถึง
ชายชราคือหนึ่งในสี่เซียน ฉายาเซียนต้นกำเนิดเต๋าสวรรค์ เขาถอนหายใจพลางส่ายศีรษะและล่าถอยเร็วยิ่งขึ้น
ทว่าขณะกำลังล่าถอย บรรพชนตระกูลเซี่ยงและชายวัยกลางคนตระกูลกงซุนก็พุ่งออกมาจากเศษไม้ยักษ์เข้าหาชายชรา
“สหายเซียนพันธมิตร ทำไมถึงรีบเร่งหนีไปขนาดนั้นเล่า?” บรรพชนตระกูลเซี่ยงหัวเราะพลางสะบัดแขน สายลมสีแดงปรากฏขึ้นมาห้อมล้อมพื้นที่ห้าพันลี้
การต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่เริ่มต้นขึ้นในเขตตะวันตกและเขตเหนือ ทั้งยังแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว การต่อสู้รุนแรงและมีสมบัติวิเศษมากมายห้ำหั่นกันไปทั่วสนามรบ!
ระลอกวิชามากมายแผ่กระจายและส่งผลกระทบไปทั่วดินแดน!
ช่วงระยะการสังหารอันโหดเหี้ยมนี้ หากเซียนฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดประมาทแม้เพียงนิดเดียวก็จะตายทันที อสรพิษพิฆาตจันทร์ดูเหมือนจะแยกความแตกต่างจากเหล่าเซียนทั้งสองฝั่งได้ มันสังหารเซียนฝ่ายพันธมิตรอยู่บ่อยครั้ง แต่นานๆทีถึงจะโดนฝั่งตัวเอง
ด้วยเหตุนี้เหล่าเซียนฝ่ายพันธมิตรจึงเสียเปรียบทันที!
ตอนนี้หวังหลินอยู่ในเขตตะวันตก ร่างเล่ยจีหดลงไปมากจนเหลือเพียงสามสิบฟุตกำลังเปิดเส้นทางอยู่ เด็กหัวโตติดตามมาด้านหลัง ส่วนต้าซานยังคงสังเกตการณ์โดยรอบด้วยสีหน้าเยือกเย็น
ระหว่างทางพวกเขาพบเจอเซียนฝ่ายพันธมิตรหลายพวก เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาเห็นหวังหลิน สีหน้าแต่ละคนจะเปลี่ยนไปเนื่องจากระดับบ่มเพาะของกลุ่มหวังหลิน พวกเขาหันตัวกลับและวิ่งหนีโดยไม่ลังเล
แต่มีอยู่หลายคนคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งเพียงพอหรือคิดว่ามีคนมากเข้าสู้ พวกเขาโจมตีกลุ่มของหวังหลิน แต่ทั้งหมดก็ถูกหวังหลินฆ่าโดยไม่มีข้อยกเว้น
กลิ่นคาวเลือดปกคลุมเส้นทางผ่านเขตตะวันตก ยิ่งเขาไปไกลมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเจอพวกเซียนฝ่ายพันธมิตรมากเท่านั้น แต่มีไม่มากนักที่พวกเขาจะลงมาสู้ด้วย
หวังหลินไม่ได้ปลดปล่อยจิตสังหารอันใด แต่กลับเป็นเล่ยจี เด็กหัวโตและต้าซานที่เต็มไปด้วยจิตสังหารเข้มข้น พวกเขาพุ่งนำทางออกไปข้างหน้าดุจกระบี่แหลมคม
ขณะอยู่ระหว่างทาง หวังหลินเฝ้ามองรอบด้านไปด้วย รอบด้านอันคุ้นเคยทั้งหมดล่มสลาย รอยแยกอวกาศหวีดหวิว ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าเขตตะวันตกตอนนี้ดุจทะเลทรายอ้างว้าง ทว่ารอยแยกเบื้องหน้าหวังหลินเคลื่อนไปด้านข้างด้วยพลังลึกลับบางอย่าง
หากเซียนเฒ่าในขั้นที่สองระดับชำระสวรรค์ได้เห็นสิ่งนี้พวกเขาคงตกตะลึง นี่มันคือสัญญาณของการเริ่มควบคุมกฏ แม้พวกเซียนส่องสวรรค์จะเข้าใจกฏ แต่การเข้าใจและควบคุมเป็นสิ่งที่แตกต่างกันอย่างมาก การควบคุมกฏเป็นสิ่งที่มีเพียงเซียนขั้นชำระสวรรค์เท่านั้นที่จะทำได้ หวังหลินไม่ได้บรรลุขั้นชำระสวรรค์ แต่ด้วยการช่วยเหลือของลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า เข้าจึงมีเศษเสี้ยวกลิ่นอายคล้ายกับเซียนขั้นชำระสวรรค์ ถึงแม้จะเจือจางอยู่มาก
ขณะนั้นเอง สตรีสุดสวยนางหนึ่งสวมชุดสีม่วงเหาะเหินท่ามกลางดวงดาวด้วยรอยยิ้มเจ็บปวด แสงกระบี่ของนางเจือจางราวกับจะฟุบลงได้ทุกขณะ ด้านหลังเป็นกลุ่มเซียนฝ่ายพันธมิตรอยู่หนึ่งกลุ่ม ท่ามกลางพวกเขามีชายวัยกลางคนรอยยิ้มเย้ยหยันกำลังไล่ตามนางอย่างรวดเร็ว
‘นั่นนาง…’ หวังหลินสามารถมองเห็นนางจากระยะไกลด้วยสัมผัสวิญญาณได้ทันที