Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 980

Cover Renegade Immortal 1

980. จ้าวสายลมหวน 2

จังหวะที่ชายชราดึงโล่ห์ออกมา ดวงตาหวังหลินส่องประกายเจิดจ้า สัมผัสถึงกลิ่นอายเทพโบราณเจือจางออกมาจากโล่ห์เล็กใบนั้น!

‘สมบัติเทพโบราณ!’ เมื่อเห็นว่าชายชรากำลังหนี หอกสังหารเทพเจ้าก็โจมตีต่อเนื่องก่อนที่มันจะโปร่งแสงขึ้นและท้ายที่สุดก็หายไป แววตาหวังหลินกระพริบเย็นเยียบพลางก้าวเท้า ปรากฏระลอกคลื่นใต้ฝ่าเท้า เป็นครั้งแรกที่หวังหลินใช้บิดมิติภายในอิทธิพลของดาวเทียนหยุน!

เขาผสานเข้ากับโลกและหายตัวไปทันที

ความคิดจิตใจของชายชราสั่นเทาเมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ หนังศีรษะด้านชาและกำลังจะจนปัญญา เขากระอักโลหิตเพื่อใช้วิชาหลบหนีโลหิตอีกครั้ง!

เหงื่อเม็ดโป้งไหลออกมาจากหน้าผากและร่ำร้องอยู่ในใจ ‘บิดมิติ! หวังหลินรอบรู้บิดมิติ!’

วิชาบิดมิติไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะรอบรู้ การรอบรู้บิดมิตินั่นหมายความว่ามีคุณสมบัติในการหายตัวท่ามกลางเหล่าเซียนระดับเดียวกัน!

‘ระดับบ่มเพาะมันสูงกว่าข้าและยังรู้บิดมิติ การต่อสู้นี้…’ ชายชราใบหน้าซีดและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

ขณะที่ล่าถอย ระลอกคลื่นปรากฏด้านข้างและหวังหลินก้าวเดินออกมา แขนขวากำหมัดโยนออกไปโดยไม่ลังเล!

เขาอยู่ใกล้ชายชรามากเกินไป วินาทีที่เขายกหมัดขึ้นมันก็ห่างจากเขาไม่เกินเจ็ดนิ้วแล้ว! มองไกลๆดูเหมือนชายชรากำลังวิ่งเข้าหากำปั้น

กลิ่นอายเทพโบราณจากกำปั้นก่อตัวเป็นพายุและกำลังจะกลืนกินชายชรา รูม่านตาพลันหรี่แคบและรีบร้องตะโกน

“สหายเซียนโปรดเมตตา ได้โปรดฟังคำพูดข้าสักครั้ง!”

ชายชราหน้าซีด จิตใจเต้นรัวเร็ว นานมากแล้วที่เขาไม่ได้เจอเหตุการณ์วิกฤตความเป็นความตายเช่นนี้ ทั้งร่างอื้ออึงและต้องละทิ้งเกียรติเพื่อพูดออกมา

หวังหลินหยุดกำปั้นห่างจมูกชายชราเพียงหนึ่งนิ้วเท่านั้น เขาจ้องอย่างเย็นเยียบ

ขณะมองกำปั้นตรงหน้า ใบหน้าชายชราปกคลุมไปด้วยเหงื่อ เขาสัมผัสถึงพลังอำนาจภายในหมัดได้อย่างชัดเจน หากหมัดนี้ร่อนใส่เขา ร่างกายคงพังทลายอย่างแน่นอน เมื่อร่างกายถูกทำลาย ไม่แน่ว่าวิญญาณก็หนีไม่รอดด้วย

“ตั้งแต่ที่สหายเซียนกำลังจะเข้าไปถ้ำเทพในดินแดนวิญญาณปิศาจ จะต้องการความช่วยเหลืออย่างแน่นอน ข้าจะทำอย่างทีที่สุดเพื่อชดเชยเรื่องราวในวันนี้!”

ดวงตาหวังหลินเย็นเยียบมิอาจมองเห็นทะลุปรุโปร่ง ชายขราลอบก่นด่าในใจและเอ่ยขึ้น “นอกจากนี้ข้าจะมอบโล่ห์วิเศษชิ้นนี้ให้แก่สหายเซียนด้วย มันคือสมบัติป้องกันที่ทรงพลังที่สุดที่ข้ามี หากสหายเซียนมีไว้ครอบครอง มันจะช่วยท่านในถ้ำเทพได้อย่างมหาศาล!”

ชายชรากวาดสัมผัสวิญญาณบนโล่ห์ออกไปและยื่นมันให้หวังหลิน

หวังหลินครุ่นคิดเล็กน้อยและถอนกำปั้นอย่างช้าๆ รับโล่ห์เอาไว้ หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียดก็เก็บมันไป

เมื่อชายชราเห็นหวังหลินถอนกำปั้น เขาถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะมองหวังหลินอย่างละเอียด

หวังหลินยกแขนขึ้นมาและสร้างผนึก เพียงสะบัดแขน กฏเกณฑ์หนึ่งลอยออกมา มันเป็นตราประทับสัญญาทาสแบบเดียวกับที่ใช้กับหัวโต พลางร่อนลงระหว่างคิ้วชายชรา

ชายชราไม่กล้าต่อต้านและยอมให้หวังหลินวางผนึก ผนึกกระพริบหลายครั้งระหว่างคิ้วชายชราก่อนที่มันจะเลือนหายไป

“จัดดูแลลูกน้องของเจ้าและตามข้ามา!” หวังหลินกระทั่งไม่มองชายชราก่อนจะหายตัวไป ปรากฏตัวอีกครั้งยืนอยู่บนแผ่นหลังเล่ยจีและจึงค่อยนั่งลง

ชายชุดดำเจ็ดคนถูกหัวโตสังหารไปเรียบร้อยแล้ว หัวโตเลียริมฝีปากและกลับไปด้านข้างหวังหลิน

ชายชราถอนหายใจ จากนั้นกลับไปบนเรือ เขาเรียกลูกศิษย์ของตัวเองทั้งหมดและมอบคำสั่งบางอย่าง จากนั้นปล่อยพวกเขาจากไปพร้อมกับเรือ เขามาถึงบนแผ่นหลังเล่ยจีเบื้องหน้าหวังหลินและยิ้มบิดเบี้ยว “ตามคำสั่งสหายเซียน ข้าจัดการเรื่องเล็กน้อยทั้งหมดไปแล้ว ชื่อจริงของข้าคือเฉินเฟิง ฉายาจ้าวสายลมหวน วันนี้ข้าพ่ายแพ้ให้แก่สหายเซียนและไม่เสียใจ ข้าเฉินเฟิงจะยึดมั่นทำตามสัญญาเพื่อช่วยท่านในดินแดนวิญญาณปิศาจ อย่างไรก็ตามข้าหวังหว่าหลังจากเรากลับมา สหายเซียนจะปลดปล่อยผนึกและจะไม่มีข้อบาดหมางระหว่างเรา!”

หวังหลินมองเฉินเฟิงอย่างสงบนิ่ง “ผนึกของข้าไม่ได้แข็งแกร่ง หากเจ้าอยากจะปลดปล่อยมันก็ทำได้ง่ายๆ”

เฉินเฟิงยิ้มอย่างขมขื่นและส่ายศีรษะ เขาตรวจสอบผนึกเรียบร้อยแล้วดังนั้นจึงรู้ว่ามันสามารถผนึกได้แค่เซียนขั้นส่องสวรรค์เท่านั้น หากเขาต้องการคงใช้เวลาไม่นานเพื่อทำลาย

อย่างไรเสียเขาก็ไม่กล้าเสี่ยง เขาหวาดกลัวหวังหลินมากยิ่งขึ้นก็เพราะเรื่องนี้ ในมุมมองเขามันคือกับดัก หากเขาเชื่อหวังหลินจริงและพยายามทำลาย มันคงเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่และกระตุ้นบางอย่างที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า

ถึงตอนนั้นผลลัพธ์ที่ตามมาคงเป็นสิ่งที่เขามิอาจต้านทานได้

‘หวังหลินคงไม่กล้าประมาทเกินไปหากมันไม่ได้เป็นแบบนั้น แผนการของเขาล้ำลึกยิ่ง ข้าจึงไม่สามารถประเมินเขาต่ำเกินไป! ถ้ามันเป็นผนึกขั้นชำระสวรรค์เล่า? แม้มันจะทำให้ข้ายอมจำนนชั่วคราว ข้าคงคิดหาทางทำลายมันอยู่ตลอดแน่!’

‘แต่เขากลับทำให้ผนึกดูเหมือนจะสามารถทำลายได้เพียงแค่ดีดนิ้ว ความจริงมันคือกับดักที่ซ่อนเอาไว้อีกชั้น ข้าจะไปกล้าแตะต้องผนึกนั่นได้อย่างไร?!’

ชายชรายิ้มอย่างขมขื่น

ทั้งหมดนี้คือจุดประสงค์จริงๆของหวังหลิน อีกทั้งระดับบ่มเพาะที่แท้จริงของเขาก็คือขั้นส่องสวรรค์ระดับกลางสูงสุดเท่านั้น เขาจะไปผนึกเซียนขั้นชำระสวรรค์ได้อย่างไรเล่า? ทั้งหมดจึงพึ่งแผนการเท่านั้น!

แผนการนี้คือการสร้างผนึกที่มองไม่เห็น หากใช้อย่างเหมาะสมมันก็จะแข็งแกร่งยิ่งกว่าผนึกใดในโลก!

หวังหลินเอ่ยเสียงนิ่ง “หากเจ้าฟังคำสั่งข้า ข้าจะคืนอิสระให้เจ้าเมื่อเราออกมาจากดินแดนวิญญาณปิศาจ!”

เฉินเฟิงพยักหน้าและนั่งลงไปโดยไม่เสียเวลาพูดอันใดอีก ร่างกายตอนนี้ผอมบางยิ่ง หลังจากบ่มเพาะไปได้ชั่วครู่เขาก็ค่อยๆบวมขึ้นมาอีกครั้ง

‘วิถีฝึกเซียนของเขาช่างประหลาดนัก!’ หวังหลินถอนสายตา เขารู้ว่าเฉินเฟิงนั้นกำลังบ่มเพาะเพื่อแสดงเจตนาของตนเอง เฉินเฟิงกำลังบอกเป็นนัยยะว่าเขาเตรียมความพร้อมตัวเองไว้สำหรับดินแดนวิญญาณปิศาจและทำเพื่ออิสระ

‘เมื่อมีเขาช่วยเหลือ โอกาสในดินแดนวิญญาณปิศาจของข้าก็จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย…น่าเสียดายที่ข้ายังไม่มีคนเพียงพอ…’ หวังหลินถอนหายใจพลางให้เล่ยจีพุ่งผ่านดวงดาว

ระหว่างทางเงียบสงบ ในไม่ช้าดาวเคราะห์สีฟ้าก็ปรากฏเบื้องหน้าพวกเขา ดาวดวงนี้งดงามยิ่งและปลดปล่อยกลิ่นอายพลังปราณมหาศาล

‘นี่คือดาววิญญาณวารี มันเป็นของสามพี่น้องเฉิน กล่าวได้ว่าชื่อของดาวดวงนี้ถูกตั้งตามผู้น้อยของปรมาจารย์ยี่เฉิน’ เฉินเฟิงกล่าวพลางลืมตาขึ้น ในสายตามีเจตนาชั่วร้าย

เขาชื่นชมสตรีสาวที่มีร่างวิญญาณวารีคนนั้น หากไม่ใช่เพราะเขาหวาดกลัวคนที่อยู่เบื้องหลังสามพี่น้องเฉิน เขาคงเอานางมาทำเป็นเมียไปแล้ว

‘สามพี่น้องเฉิน!’ หวังหลินมองดาวสีฟ้าพลางขบคิด เขาตัดสินใจจากแม้ดาวดวงนี้จะเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับปิดด่านฝึกตน แต่มันไม่เข้าท่านักที่จะไปขโมยดวงดาวเพราะเขารู้จักพี่น้องเฉิน

ขณะที่กำลังจะจากไป สามลำแสงลอยออกมาจากดาวเคราะห์สีฟ้า สามลำแสงพุ่งออกมาพลางเหมือนมังกรสามตัวร้องคำราม

“เหล่าสหายเซียน ทำไมถึงมาเดินเตร่หน้าดาวของเรากันเล่า?!” ปรมาจารย์ยี่เฉินร้องคำราม

“เอ๋?” ภายหลังปรมาจารย์ยี่เฉินกล่าวจบ เขาก็สัมผัสบางอย่างได้ทันที

เสียงร้องคำรามหยุดลง สามคนเดินออกมาจากลำแสง กลายเป็นสามพี่น้องเฉิน!

ทั้งสามคนพึ่งกลับมา เนื่องจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันทำให้การประมูลของเมืองเนตรภูติถูกยกเลิกก่อนที่จะทันได้เริ่มขึ้น ดังนั้นทั้งสามจึงจากมา

ขณะที่พวกเขากำลังบ่มเพาะในดาวเคราะห์เซียนของตนเอง เขาสัมผัสถึงกลิ่นอายของเซียนขั้นที่สองด้านนอกดาว ดังนั้นจึงเหาะเหินออกมาโดยไม่ลังเล

ตอนที่เห็นร่างยักษ์ของเล่ยจี แม้สีหน้าท่าทางแต่ละคนจะเป็นปกติ ภายใจตกตะลึง การที่คนในพันธมิตรเซียนจะมีพาหนะเผ่ามารยักษ์ โดยพื้นฐานจะต้องเป็นเซียนเฒ่าเช่นหลิงเทียนโฮวและเทียนหยุน

จากนั้นทั้งสามคนก็เห็นคนอยู่บนหลังเล่ยจี เมื่อพวกเขาเห็นหวังหลินจึงพลันตะลึงงัน ปรมาจารย์ยี่เฉินเห็นการต่อสู้ระหว่างหวังหลินและเทียนหยุน เขามั่นใจว่าหวังหลินตาย ตอนนี้เมื่อมาเห็นหวังหลินอีกครั้งจึงรู้สึกเคารพหลังจากตกตะลึงในคราแรก

‘การสามารถทำให้หลิงเทียนโฮวและเทียนหยุนต่อสู้กันเนื่องจากตัวเองได้ จ้าวปิศาจคนนี้ไม่ธรรมดา!’

อย่างไรก็ตามวันนี้พวกเขาถูกลิขิตให้สับสนเพราะเห็นเฉินเฟิงอยู่ด้วย!

ชื่อเสียงของเฉินเฟิงโด่งดังบนดาวเทียนหยุน แม้จะเทียบไม่ได้กับบรรพชนโลหิตเมื่อก่อนหน้านี้เขาก็ยังถือว่ามีชื่อเสียงเป็นเซียนเฒ่า ผู้คนรู้กันว่าเขาใช้ชีวิตเต็มไปด้วยตัณหาและกระทั่งคิดครอบครองหลิงเอ๋อ แม้จะยอมแพ้หลังจากนั้นมันก็ยังให้สามพี่น้องเฉินกังวลมานาน

ถึงเฉินเฟิงจะผอมลงไปมาก ทั้งสามคนก็ยังจดจำได้ นอกจากความตกใจแล้วพวกเขาไม่มั่นใจว่าสถานการณ์ในปัจจุบันจะดีหรือแย่

ชั่วขณะนั้นทั้งสามคนอดไม่ได้ที่จะครุ่นคิดเงียบๆ

เฉินเฟิงเผยรอยยิ้มซุกซนและเอ่ยจึ้น “พี่น้องเฉิน เจ้ายกดาววิญญาณวารีมาให้ข้าจะว่าอย่างไร!”

สีหน้าพี่น้องตระกูลเฉินพลันเปลี่ยนไปและกำลังจะเอ่ยขึ้นมา แต่หวังหลินเอ่ยเสียงสงบนิ่งก่อน “หนวกหู!”

จิตใจเฉินเฟิงสั่นเทา แม้น้ำเสียงจะฟังดูเรียบง่ายแต่เขารู้สึกถึงความไม่พอใจอยู่ในนั้น ตอนนี้เขาไม่กล้าไปขัดใจหวังหลิน พลันยิ้มแย้มและไม่พูดอะไรอีก

ฉากเหตุการณ์นี้ทำให้สามพี่น้องเฉินตกตะลึงอีกครั้ง

“สหายเซียนยี่เฉิน เราพึ่งแยกกัน ข้าไม่คิดว่าจะมาเจอท่านอีกครั้งเร็วขนาดนี้ ข้าไม่รู้ว่าดาวดวงนี้เป็นของท่าน ข้าจะจากไปและหาดาวอื่นปิดด่านฝึกตน!” หวังหลินคำนับฝ่ามือให้กับสามพี่น้องเฉิน

ปรมาจารย์ยี่เฉินรีบคำนับฝ่ามือแต่จิตใจตกตะลึง เขาไม่คิดว่าเฉินเฟิงจะเผยสัญญาณหวาดกลัวเพียงหวังหลินเอ่ยคำพูดเดียว

“สหายเซียนหวัง ข้าไม่รู้ว่าท่านและผู้อาวุโสจ้าวสายลมหวนจะมาที่…”

“เขาคือคนรับใช้ของข้า” หวังหลินไม่พูดอีก เขาพยักหน้าให้ปรมาจารย์ยี่เฉินและกำลังจะจากไป

เขาไม่รู้ว่าคำพูดนั้นไม่ต่างอะไรกับสายฟ้านับหมื่นสายระเบิดเข้าไปในหูของพี่น้องเฉินในเวลาเดียวกัน ทั้งสามคนอ้าปากค้าง สายตาเต็มไปด้วยความตะลึงงัน!

ปรมาจารย์ยี่เฉินรีบพูดขึ้นมาอย่างไม่ลังเล “พี่หวังหลิน ไม่ต้องรีบไปไหนหรอก ดาววิญญาณวารีกว้างใหญ่ หากพี่หวังไม่คิดมาก ท่านสามารถฝึกฝนที่นี่ได้”

‘เขามีเผ่ามารยักษ์เป็นพาหนะ เป็นถึงเซียนขั้นส่องสวรรค์และทำให้จ้าวสายลมหวนเป็นคนรับใช้ ทั้งยังมีเซียนหัวโตประหลาดคนนั้นเป็นถึงขั้นส่องสวรรค์ และยังมีหุ่นเชิดที่ดูไม่อ่อนแออีก ข้าต้องเป็นสหายกับคนแบบนี้ให้ได้!’

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!