998. ความเกลียดของเหยาซีเชว่ 1
พริบตานั้นท้องฟ้าเหนือดินแดนวิญญาณปิศาจเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น วังวนพายุหลายชั้นปรากฏขึ้นกลางอากาศราวกับกำลังจะฉีกกระชากสรวงสวรรค์ออกมา
การเปลี่ยนแปลงฉับพลันนี้ทำให้ประชากรที่อาศัยอยู่ในดินแดนวิญญาณปิศานถึงกับตื่นตระหนก และทุกคนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
วังวนพายุแพร่กระจายออกมาในท้องฟ้าจนกระทั่งปกคลุมเกือบทั้งดินแดน มันหมุนอย่างรวดเร็วพร้อมกับตกลงมาจากสวรรค์
ณ ทางห้วยลึกของแคว้นปิศาจพฤกษา พื้นที่แห่งนี้อยู่ห่างไกลมาก ข้างในมีหุบเขาเต็มไปด้วยต้นมอส พื้นที่ชื้นแฉะและในยามเช้าตรู่จะปกคลุมไปด้วยหมอกหนาแน่นตามปกติ
ณ ขณะนี้หมอกเจือจางยังเหลืออยู่แต่ก็ค่อยๆหายไปใต้แสงอาทิตย์
ขณะที่สายหมอกค่อยๆหายไป แอ่งน้ำด้านล่างก็ปรากฏขึ้นให้เห็น แอ่งน้ำนี้เป็นเหมือนผิวกระจก ไม่มีระลอกคลื่นเลย
ทว่าเมื่อวังวนพายุปรากฏ ระลอกคลื่นก็ปรากฏขึ้นในแอ่งน้ำนี้ มีบางอย่างค่อยๆโผล่ออกมาจากใจกลางระลอกคลื่น!
คราแรกมันบอกไม่ได้ว่าคืออะไร แต่ยิ่งมันชัดเจนขึ้นก็จะบอกได้ว่ามันคือใบหน้าคน!
มันคือใบหน้าปิศาจร้าย ความหล่อเหลานั่นไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนจะมี โดยเฉพาะแสงสีดำจากดวงตา เขามองไปบนท้องฟ้าเงียบๆและเผยรอยยิ้มชั่วร้าย
“ในที่สุดเจ้าก็มา…ข้ารอคอยมานานก็เพื่อวันนี้…”
ขณะนั้นห่างออกไปอีกด้านหนึ่งของดินแดนวิญญาณปิศาจ บนพื้นหญ้าเขียวชอุ่ม มีดอกไม้หลายอย่างบนพื้นที่ราบแห่งนี้ ผู้คนสามารถได้กลิ่นหอมหวนของต้นหญ้าก่อนจะเข้าใกล้เสียอีก
กลิ่นหอมเจือจางแต่มีผลลัพธ์ประหลาดมาก เมื่อมีคนจากดินแดนวิญญาณปิศาจได้กลิ่น พวกเขาจะรู้สึกผ่อนคลาย จึงทำให้หลายเผ่าปรากฏขึ้นที่ราบนี่หลายครั้ง
เผ่าหลอมวิญญาณขยายมาถึงที่นี่เช่นเดียวกันแต่น่าประหลาดที่ธงวิญญาณจะสูญเสียพลังอำนาจของมันที่นี่ทันที ราวกับดวงวิญญาณไม่กล้าโผล่ออกมา หากถูกบังคับให้ออกมาจะสูญสลายไปทีละดวงอย่างรวดเร็ว
ซึ่งทำให้เผ่าหลอมวิญญาณล้มเลิกพื้นที่แห่งนี้
หากมองจากเบื้องบนจะพบว่าพื้นหญ้าแห่งนี้ธรรมดามาก แต่หากมีผู้เชี่ยวชาญด้านกฏเกณฑ์ได้เห็น ศีรษะคงเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นเฉียบ
เนื่องจากที่นี่เต็มไปด้วยกฏเกณ์ขนาดใหญ่มากมายและไม่รู้จัก หากกระตุ้นขึ้นมามันถึงกับมีพลังทำลายโลกได้ทีเดียว!
ไม่มีใครรู้ว่ามีค่ายกลเคลื่อนย้ายโบราณอยู่ใต้พื้นหญ้าแห่งนี้ หากตามเบาะแสดั้งเดิมของมันคงต้องกลับไปก่อนดินแดนสวรรค์จะล่มสลาย
ค่ายกลแดนสวรรค์!
การผ่านค่ายกลนี้จะต้องมีกรรมวิธีพิเศษและป้ายสิทธิ์ถึงจะเข้าไปหนึ่งในห้าถ้ำเทพได้!
สี่ในห้าถ้ำของดินแดนวิญญาณปิศาจถูกค้นพบแล้ว ส่วนถ้ำที่ห้าไม่มีใครรู้ว่าอยู่ที่ไหน มีเพียงการเปิดพื้นที่ด้านในของสี่ถ้ำก่อนหน้าถึงจะทำให้ถ้ำที่ห้าเปิดขึ้น
ถ้ำเทพที่เชื่อมต่อเข้ากับค่ายกลเคลื่อนย้ายแห่งนี้มันเต็มไปด้วยพลังปราณสวรรค์ ข้างในไม่มีสิ่งใดธรรมดา
อย่างไรก็ตามแม้มันจะรู้สึกเหมือนแดนสวรรค์ มันก็ดูว่างเปล่า เพียงแค่ยืนอยู่ที่นี่คงจะหนาวเหน็บและโดดเดี่ยว
ถ้ำเทพแห่งนี้มีรูปทรงซิกแซกและเต็มไปด้วยอาราม ชายหนุ่มผู้หนึ่งกำลังนั่งอยู่ข้างในเจดีย์สูงตระหง่าน เขาหล่อเหลาและปลดปล่อยกลิ่นอายเทพ กำลังถือม้วนคัมภีร์ไม้ไผ่
ถ้วยชาวางบนโต๊ะข้างๆกัน ความร้อนจากน้ำชาเปลี่ยนเป็นดอกไม้ในอากาศก่อนจะสูญสลายไป
ชายผู้นี้ดื่มถ้วยชาเป็นครั้งราว สีหน้าเยือกเย็นยิ่ง
ทว่าในขณะที่วังวนพายุปรากฏขึ้น เขาวางม้วนคัมภีร์ลงและมองออกไปไกล ราวกับสายตาสามารถเจาะทะลุและเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นข้างนอก
“พวกเขามาแล้ว…” คนที่พูดขึ้นไม่ใช่เขาแต่เป็นหญิงสาวที่เดินอยู่ข้างใน นางสวยงดงามแต่ก็ผอมเล็กน้อย ใบหน้ารูปไข่ ดวงตาเรียวงามน่าหลงไหล สวมชุดราตรีสีฟ้าอ่อน กางเกงสีขาวปักษ์สีฟ้าเอาไว้ มองไกลๆแล้วนางมีเรียวขาที่สละสลวย แม้จะดูอ่อนแอแต่ก็ทำให้นางน่ารักขึ้นเป็นกอง
ชายคนนั้นยิ้มออกมาพลางมองหญิงสาวอย่างละเมียดละไม “เรารอมานานแล้ว ข้าหวังว่าครั้งนี้เราจะสำเร็จ”
นางนั่งลงด้านข้างพร้อมกับมองชายที่เอ่ยก่อนหน้าและหัวเราะ “เราวางแผนมานาน ตราบใดที่เราระมัดระวัง ข้าเชื่อว่าจะไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น”
ทั้งสองยิ้มให้กัน ความรู้สึกของคู่รักเต็มไปทั่วหัวใจพร้อมกับความอบอุ่น ทำให้กระทั่งถ้ำแห่งนี้จะไม่รู้สึกหนาวเย็นอีกราวกับความอบอุ่นแพร่กระจายออกมา
เซียนคู่รักเป็นคู่ที่ไม่เคยออกมาจากถ้ำเลยหลังจากเข้ามา หวังเว่ยและฮู่จวน!
“เขาเป็นอย่างไรบ้าง?” หวังเว่ยหยิบคัมภีร์ไม้ไผ่ขึ้นมา เขาหล่อเหลาและไม่ดูแก่ไปเลยราวกับเป็นชายหนุ่มจริงๆ ทว่าความภูมิใจที่ซ่อนไว้ส่วนลึกได้เผยความรุ่งโรจน์ที่เขามีมาเมื่อหลายพันหลายหมื่นปีก่อน
ฮู่จวนหัวเราะและเอ่ยเสียงอ่อนโยน “วิญญาณกระบี่นี้หนักแน่นมาก เขาบรรลุวิถีวิญญาณอมตะที่เจ้าให้เขาถึงขั้นแปดแล้วและกำลังจะเข้าสู่ขั้นเก้า หากไม่มีอะไรเกิดขึ้นเขาน่าจะทะลวงผ่านได้อีกไม่นาน”
หวังเว่ยเต็มไปด้วยดวงตาชื่นชมพลางพยักหน้า “เป็นแบบนั้นหรือ? เช่นนั้นข้าก็ไม่ได้ช่วยเขาอย่างเปล่าประโยชน์…” พอพูดขึ้นเขาก็เยือกเย็นเล็กน้อยและส่ายศีรษะ “แต่ข้ายังสงสัย ฉิงซวงไม่ตายใช่ไหม? ไม่เช่นนั้นนางคืนรูปกระบี่สวรรค์พิรุณและทำให้เขากลายเป็นวิญญาณกระบี่ได้อย่างไร…โชคร้ายที่เขาไม่ยอมพูดคุยและข้าไม่อยากทำให้ความรู้สึกของฉิงซวง จึงไม่ได้ค้นความทรงจำเขา”
ฮู่จวนเอ่ยเสียงอ่อน “บางทีน้องสาวฉิงซวงยังมีชีวิตรอด…”
ตอนที่วังวนพายุปรากฏขึ้น แอ่งน้ำในหุบเขาและคู่รักเซียนเทพเมฆาไม่ใช่กลุ่มเดียวที่ตอบสนอง มีการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่เกิดขึ้นภายใต้ตำหนักของแคว้นปิศาจวายุด้วย
ที่นี่คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของแคว้นปิศาจวายุ มีถ้ำขยายตัวออกไปมากมายคล้ายรังผึ้งอยู่ใต้พื้นดินโดยมีเมืองหลวงของแคว้นปิศาจวายุเป็นใจกลาง
ทุกถ้ำมีอุโมงค์ที่เชื่อมเข้าด้วยกัน ท้ายที่สุดทั้งหมดนี้ก็นำทางไปสู่ถ้ำใหญ่แห่งหนึ่งใต้ตำหนักกษัตริย์ ถ้ำแห่งนี้เต็มไปด้วยโครงกระดูกสีม่วงดำและส่งกลิ่นอายแห่งความตายออกมา
เมื่อกลิ่นอายแห่งความตายปรากฏขึ้นมันจะถูกอุโมงค์ที่เชื่อมกับถ้ำดูดออกไป
กลิ่นอายทั้งหมดในถ้ำมากมายลอดผ่านแคว้นปิศาจวายุนำทางไปสู่ถ้ำใต้ตำหนักกษัตริย์ ถ้ำแห่งนี้ใหญ่มาก อย่างน้อยก็กว้างหมื่นฟุต ใจกลางถ้ำคือเสาสูงตระหง่านมีสตรีนางหนึ่งนั่งอยู่บนยอดเสา
รูปลักษณ์นางน่าหวาดกลัวยิ่ง บนใบหน้ามีบาดแผลนับไม่ถ้วน เพียงแค่ชำเลืองก็นับไม่ได้แล้วว่ามีกี่แผล
แม้บาดแผลพวกนี้จะสมานตัวแต่ตอนที่นางฝึกฝนจะมีโลหิตวิ่งไหลเข้าไปจนมันแดงระเรื่อ ราวกับมีตะขาบนับร้อยพันกำลังข่วนอยู่บนใบหน้า
ไม่เพียงแค่ใบหน้าเท่านั้นแม้แต่แขนขาก็ยังมีรอยแผลน่าเกลียดพวกนี้
ใต้เสาที่นั่งกำลังนั่งอยู่มีทะเลกลิ่นอายแห่งความตาย กลิ่นอายบางส่วนลอยขึ้นมารอบตัวนางและเข้าสู่รอยแผลเป็น
ทุกครั้งที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น ร่างกายนางจะสั่นเทาราวกับกำลังเผชิยความเจ็บปวดมิอาจทนไหวแต่นางก็กัดฟันและอดทนอยู่ตลอดเวลา
“หวังหลิน!!! ข้าเหยาซีเชว่ต้องอดทนต่อความเจ็บปวดทั้งหมดนี้ก็เพราะเจ้า! ข้าเกลียดที่ข้าไม่สามารถกินเลือดเนื้อเจ้าเพื่อแก้แค้นให้้ท่านพ่อได้! ตราบใดที่ข้าสามารถสังหารเจ้าได้ ความเจ็บปวดนี่จะนับเป็นสิ่งใดได้? หากข้าสามารถสังหารเจ้าได้ รูปลักษณ์ข้าจะนับเป็นสิ่งใด?” ดวงตานางเต็มไปด้วยความเคียดแค้นมหาศาล
ยามที่นางตื่นขึ้นมาในดินแดนวิญญาณปิศาจ นางไม่เคยลืมเลือนความรู้สึกไร้ประโยชน์ตอนที่พ่อเจอกับวิกฤติ จากนั้นนางก็รู้สึกเจ็บปวดในใจ ทำให้นางรู้ผ่านการเชื่อมต่อทางสายเลือดว่าพ่อนางไม่รอดชีวิต ณ ตอนนั้นความเกลียดที่มีต่อหวังหลินพุ่งพรวดทบทวี
การแก้แค้นได้นางต้องล้มเลิกทุกสิ่งอย่าง นางรู้ว่าการจะเพิ่มระดับบ่มเพาะของตัวเองได้จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากปิศาจโบราณที่นี่ นางทำงานอย่างหนัก พบเจอความยากลำบากและความอัปยศที่เหมือนฝันร้าย
ท้ายที่สุดนางก็ได้การยอมรับจากปิศาจโบราณแห่งแคว้นปิศาจวายุ นางเข้ามาที่นี่และเริ่มการสืบทอด
นางไม่เคยลืมเลือนวินาทีที่รับการสืบทอดของปิศาจวายุ เสียงชั่วร้ายนั่งดังก้องในใจนาง
“ข้าสามารถมอบความแข็งแกร่งให้เจ้าได้เพียงพอที่จะให้เจ้าแก้แค้น อย่างไรเสียราคาของมันคือเมื่อเจ้ากลายเป็นร่างกายข้า สัมผัสวิญญาณและดวงวิญญาณเจ้าถูกลบล้าง”
“ข้าต้องการ ตราบใดที่ข้าสามารถแก้แค้นได้!”
เหยาซีเชว่สูดหายใจลึกและเริ่มดูดซับกลิ่นอายแห่งความตาย มันเจ็บปวดแสนสาหัสจนนางแทบอยากตาย ขณะที่ดูดซับมันนางยกแขนขวาซึ่งกลายเป็นสีฟ้าล้วน เล็บมือแววเย็นยะเยือก หลังจากสูดหายใจลึกนางก็ตัดเปิดแผลบนแขนซ้าย
ความเจ็บปวดรุนแรงออกมาจากแขนทำให้ร่างกายนางต้องสั่นเทา แต่สีหน้าไม่แยแสราวกับคุ้นเคยกับความเจ็บปวดมานาน ณ เวลานี้กลิ่นอายแห่งความตายจำนวนมากเข้าสู่แผลที่เปิดขึ้น
กลิ่นอายแห่งความตายไร้ที่สิ้นสุดเข้าไปในแผลอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งมันค่อยๆสมานตัวกลายเป็นแผลเป็น
“หวังหลิน ข้าจะไม่ยอมปล่อยเจ้าไปแน่นอน!” เสียงร้องจากวิญญาณดุจพายุโหมกระหน่ำเต็มไปผืนสวรรค์